26 ก.พ.ที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก Chulcherm Yugala (ม.จ.จุลเจิม ยุคล) เผยแบบวาดพระโกศทองใหญ่อัญเชิญพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ร.๙ โดยราชรถรางปืน "งดงามแต่เศร้า เมื่อได้เห็นภาพแล้วประชาชนชาวไทยคงจะรู้สึกใจสลายไม่แพ้กัน"
และในวันที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา ท่านก็ได้โพสต์คลิปแสดงแบบจำลองพระเมรุมาศ จากกรมศิลปากร "งดงามมาก แต่เมื่อเป็นพระเมรุมาศที่สำเร็จ คนไทยทั้งประเทศคงหัวใจสลายอีกครั้ง"
สำหรับกำหนดการถวายพระเพลิง รัชกาลที่ ๙ มีดังนี้
สมเด็จพระเทพฯ ทรงรับสั่งหมายกำหนดการถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 25 ถึงวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2560 นี้ และทรงนำความขึ้นกราบบังคมทูลขอพระราชวินิจฉัย จาก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ต่อไป
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 1 มีนาคม 25560 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงร่วมการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ครั้งที่ 1/2560
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับเป็นที่ปรึกษาการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และทรงรับเชิญเสด็จพระราชดำเนินในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ในการนี้ ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้รัฐบาลจัดสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เช่น หน่วยแพทย์ อาหาร น้ำดื่ม รถสุขา และถังขยะให้มีความพร้อมพอเพียงสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกตลอดเวลา
ทั้งนี้ สำนักนายกรัฐมนตรี ได้เผยแพร่เอกสารการประชุม ร่างหมายกำหนดการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ว่า
วันที่ 1 พระราชกุศลออกพระเมรุ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
วันที่ 2 พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ณ พระเมรุมาศ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
วันที่ 3 เก็บพระบรมอัฐิ ณ พระเมรุมาศ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
วันที่ 4 งานพระราชกุศลพระบรมอัฐิ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง
วันที่ 5 เลี้ยงพระ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และเชิญพระโกศพระบรมอัฐิขึ้นประดิษฐานพระวิมานบนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
สำหรับการจัดขบวนพระบรมราชอิสริยยศ เพื่ออัญเชิญพระบรมศพ พระโกศพระบรมอัฐิ และพระบรมราชสรีรางคาร กำหนดไว้ 6 ขบวน โดยจะมีการฝึกซ้อมย่อยและฝึกซ้อมใหญ่ในสถานที่จริงเพื่อให้มีความพร้อมเพรียงและสง่างามสมพระเกียรติยศ การจัดแสดงมหรสพสมโภช ประกอบด้วย การจัดแสดงโขนหน้าไฟหน้าพระเมรุมาศ เรื่อง รามเกียรติ์ ชุดพระรามข้ามสมุทร ยกรบ รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ การแสดงมหรสพสมโภชบริเวณท้องสนามหลวงด้านทิศเหนือ ประกอบด้วย การแสดงหนังใหญ่และโขนพระราชทาน ตอน รามาวตาร การแสดงละคร หุ่นหลวงและหุ่นกระบอก และการบรรเลงดนตรีสากล “ธ คือ ดวงใจไทยทั่วหล้า” การจัดนิทรรศการเย็นศิระเพราะพระบริบาล รวมไปถึงการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจการทรงงานในแต่ละพื้นที่ของจังหวัด นิทรรศการด้านการพระราชไมตรีที่เกี่ยวกับประเทศต่างๆ ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
การจัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ของภาคประชาชน โดยจะดำเนินการทั้งในกรุงเทพมหานคร จังหวัด และอำเภอทั่วประเทศ ตลอดจนในต่างประเทศด้วย ซึ่งในกรุงเทพมหานครจะจัดตั้งซุ้มถวายดอกไม้จันทน์บริเวณใกล้ท้องสนามหลวง 11 ซุ้ม และตามมุมเมือง 4 ซุ้ม ซุ้มขนาดกลางตามแนวถนนราชดำเนินและถนนอรุณอมรินทร์ 19 ซุ้ม และซุ้มขนาดเล็กตามวัดต่างๆ 67 ซุ้ม ส่วนภูมิภาคมีซุ้มขนาดใหญ่ 76 ซุ้ม (อำเภอร่วมกับจังหวัด) และซุ้มขนาดกลางทุกอำเภอ/วัดต่างๆ 802 ซุ้ม ส่วนในต่างประเทศจะมีซุ้มขนาดกลาง ณ สถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานกงสุล 96 ซุ้ม และซุ้มขนาดเล็กตามวัดไทย 539 ซุ้ม รวมทั้งยังได้เชิญชวนจิตอาสาร่วมกันทำดอกไม้จันทน์เพื่อใช้สำหรับประชาชนที่ไปร่วมงานสามารถนำดอกไม้จันทน์ไปถวายได้
นอกจากนี้ ยังได้จัดนิทรรศการภายหลังงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เพื่อให้ประชาชนได้ศึกษาเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมเครื่องประกอบพระเมรุมาศด้านช่างสิบหมู่และความงดงามของสิ่งปลูกสร้างและส่วนประกอบทั้งหลายที่ใช้ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็นระยะเวลา 30 วัน และจัดทำหนังสือที่ระลึกและจดหมายเหตุ ให้มีการจัดทำหนังสือจดหมายเหตุฉบับหลักและฉบับรอง และหนังสือที่ระลึกอื่นๆ ตามความเหมาะสม
ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้มีพระราชดำริเรื่องพระราชรถปืนใหญ่ที่ได้ทรงให้จัดสร้างขึ้นแทนของเดิมที่ชำรุด รวมทั้งเรื่องดุริยางค์ ที่ได้ทรงมีรับสั่งให้เพิ่มขึ้นอีก 1 วง จากเดิมที่มี 2 วง ตลอดจนตู้ปาฏิโมกข์สำหรับทำเครื่องสังเค็ด
โอกาสนี้ได้มีพระราชดำรัสเรื่องหมายกำหนดการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซึ่งกำหนดไว้วันที่ 25 – 29 ธันวาคม 2560 โดยให้นำความขึ้นกราบบังคมทูล สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอพระราชทานพระราชวินิจฉัยต่อไป และทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้รัฐบาลจัดสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เช่น หน่วยแพทย์ อาหาร น้ำดื่ม รถสุขา และถังขยะให้มีความพร้อมพอเพียงสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกตลอดเวลา
ขอบคุณข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์, เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร, เฟซบุ๊กChulcherm Yugala, กรมศิลปากร
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ