arar

Advertisement   Advertisement ใครไม่เคยเคยเจอปัญหาแอร์รถมีกลิ่น "เหม็นอับ" ก็นับว่าโชคดีอย่างยิ่ง แต่วันนี้เรามีวิธีดีในการกำจัดกลิ่นเหม็นอับมาบอก [ads] ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า กลิ่นเหม็นอับนั้นเกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่ง ซึ่งจะเกิดได้ก็ต่อเมื่อคอยด์เย็นมีความชื้นและแห้งไม่สนิทนั่นเอง ซึ่งความชื้นนี้เองที่ทำให้ดึงดูดสารพัดสิ่งสกปรกเข้าไปเกาะติด รวมทั้งน้ำหอมติดรถยนต์ก็ด้วย ด้วยระบบหมุนเวียนอากาศ ทำให้ของเหลวจากน้ำหอมไปเกาะบริเวณคอยด์เย็น มันน่าจะหอมสิ แต่ทำไมมันกลับไม่หอมหละ? ก็เพราะมันไปหมักหมมอยู่ตรงนั้นจนทำให้เกิดความชื้นนั่นไง Advertisement วิธีป้องกันที่ง่ายมากๆก็คือ ก่อนจะจอดรถสัก 5-10 นาที ควรตัดระบบทำความเย็น เหลือไว้แต่พัดลม อาจจะเร่งพัดลมให้แรงที่สุดเพื่อไล่ความชื้นออกให้หมด หรือถ้าว่างๆไม่ได้ไหน ก็เอารถออกมาเปิดประตูตากแดดดูบ้างก็จะช่วยได้เยอะ นี่แหละ เรื่องง่ายๆที่หลายๆคนมองข้าม     [ads=center] ข้อมูลจาก Sanook เรียบเรียงโดย ThaiJobsGov.com

  มาดูกันดีกว่าจะมีที่ไหนกันบ้างที่ติดโผสนามบินที่อันตรายและน่ากลัวที่สุดในโลก มาเริ่มกันเลย   อันดับที่ 8 สนามบิน Juancho E. Yrausquin บนเกาะ Saba ในประเทศ Netherlands Antilles (เนเธอร์แลนด์แอนทิลลิส) ด้านหนึ่งคือภูเขา อีกฝั่งคือหน้าผา แต่ถ้าพลาดขึ้นมาก็คือร่วงลงทะเล นี่คือสนามบินที่นักบินต้องเจอกับสภาพลมกรรโชกแรงตลอดเวลาตอนจะนำเครื่องลงจอด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสนามบินที่มีความยาวรันเวย์แค่ 400 เมตรนี้ ก็ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงสักที  สนามบินแห่งนี้มีเพียงสายการบินเดียวเท่านั้นที่ให้บริการ และเพียงแค่วันละ 1 เที่ยวบินเท่านั้น   อันดับที่ 7 สนามบิน Madeira ประเทศโปรตุเกส แรกเริ่มให้บริการ สนามบินแห่งนี้มีรันเวย์ยาวแค่ 1.6 กิโลเมตรเท่านั้น แถมรอบข้างยังเต็มไปด้วยภูเขาและทะเล ทำให้การลงจอดนั้นต้องอาศัยนักบินที่ประสบการณ์สูงเท่านั้นถึงจะลงจอดได้ แต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเมื่อปี 1977 ที่คร่าชีวิตผู้โดยสารสายการบิน TAP Portugal ไปกว่า 100 คน สนามบินแห่งนี้จึงทุ่มงบประมาณขยายรันเวย์ให้ยาวขึ้นเป็นสองเท่า โดยทำส่วนต่อขยายให้ยื่นออกไปในทะเล มีเสา 180 ต้นรองรับน้ำหนัก   อันดับที่ 6 สนามบิน John F. Kennedy สหรัฐอเมริกา สนามบินแห่งนี้น่ากลัวตรงที่นักบินจะต้องคอยระวังตัวจากเครื่องบินที่กำลังขึ้นลงที่สนามบินรอบข้างอยู่ตลอดเวลา นั่นก็คือสนามบิน  LaGuardia และสนามบิน Newark […]

  ใครที่กำลังมองหาวิธีคุมกำเนิดให้กับเจ้าตูบที่บ้านอยู่ละก็ อ่านตรงนี้!   "เมื่อวานได้มีโอกาสผ่าชันสูตรสุนัขที่เสียชีวิต ซึ่งเข้ามาทำการรักษา แต่กำลัง Plan การรักษา น้องก็เสียชีวิตก่อน ด้วยอาการที่อ่อนล้ามานาน ประวัติของสุนัขตัวนี้ชื่อแดง อายุ 10 ปี น้ำหนัก 30 kg. ได้รับอนุญาตจากเจ้าของให้ผ่าชันสูตรซากและนำมาเป็นกรณีศึกษา น้องได้รับการฉีดยาคุมกำเนิดมาต่อเนื่องยาวนาน 3-4 ปี และเคยแท้งลูกจากการฉีดยาคุมกำเนิดเมื่อ 1 ปีที่แล้ว แต่ไม่ได้ผ่าตัดทำหมันและยังมีการใช้ยาคุมกำเนิดอย่างเนื่อง ส่งผลให้ท้องเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนวาระสุดท้ายจึงนำมาพบหมอ" "ผมได้ทำการ x-ray ในเบื้องต้นพบก้อนเนื้อขนาดใหญ่มากในช่องท้อง ตรวจเลือดเช็คสุขภาพดู ต้องบอกว่ามีภาวะแทรกซ้อนหลายอย่าง จึงผ่าชันสูตรซาก ได้พบมะเร็งในรังไข่และมดลูกขนาดใหญ่ในช่องท้อง น้ำหนักของมดลูกที่เป็นมะเร็ง 5 kg และมะเร็งรังไข่น้ำหนัก 1 kg และมะเร็งได้กระจายไปสู่ม้ามและอวัยวะภายใน จึงนำมาเป็นกรณีศึกษาให้กับตัวผมเอง การใช้ยาคุมกำเนิดแบบฉีดผมมองว่ามีผลเสียมากกว่าผลดี เพราะจะทำให้สุนัขมีโอกาสเป็นมดลูกอักเสบขังหนองและมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ ผมจะแนะนำเจ้าของสัตว์เสมอว่าให้เลือกใช้การคุมกำเนิดแบบถาวร นั่นคือการผ่าตัดทำหมัน ผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิดเองก็ต้องตระหนักและมีความรู้ในการใช้ มิเช่นนั้นจะเกิดผลร้ายมากกว่าผลดีครับ นี่เป็นทัศนะของผม" รู้อย่างนี้แล้ว ใครที่เลี้ยงน้องหมาน้องแมวอยู่ ก่อนคุมกำเนิดก็ควรจะคิดถึงผลกระทบให้รอบคอบก่อนนะครับ ส่วนใครที่คิดจะเลี้ยง ทางที่ดีให้ถามตัวเองก่อนดีกว่าว่าพร้อมจะเลี้ยงมั้ย? เพราะถ้าไม่พร้อม […]