ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ

Advertisement   Advertisement 7 ก.พ.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมืองเรื่อง การเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ ลงวันที่ 12 ธ.ค. 2561 ระบุว่าตามที่นายทะเบียนพรรคการเมืองได้มีประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรคไทยรักษาชาติและคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ ลงวันที่ 6 ธ.ค. 2561 โดยมีคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ จํานวน 7 คน นั้น บัดนี้ พรรคไทยรักษาชาติได้มีหนังสือแจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ตามมาตรา 38 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 กรณี นายกมล วิจิตรโสภาพันธ์ ลาออกจากตําแหน่งหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ ตามข้อบังคับพรรคไทยรักษาชาติ พ.ศ. 2561 ข้อ 31 วรรคหนึ่ง (2) และข้อ 30 นายทะเบียนพรรคการเมืองได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว ตามมาตรา 38 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 Advertisement ดังนั้น จึงทําให้คณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติพ้นจากตําแหน่งทั้งคณะ จํานวน 6 คนประกอบด้วย […]

สำนักงาน ก.พ.ฟันธง ปลายปีนี้ ขยายอายุราชการเกษียณจาก60เป็น63ปี-ปรับกฎหมายบำเหน็จบำนาญ

  ก.พ. เผยความคืบหน้าขยายอายุราชการ 2 ปี จากเกษียณ 60 เป็น 63 ปี คาดไม่เกินปลายปีนี้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน โดยวิธีการอาจเป็น เพิ่มอายุเกษียณ 1 ปี ในทุก ๆ 2 ปี วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ข่าวเวิร์คพอยท์ รายงานว่า นางเมธินี เทพมณี เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน กล่าวว่า หลังการหารือจากหลายภาคส่วน ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการขยายอายุเกษียณราชการ ซึ่งทางสำนักงาน ก.พ. ต้องศึกษาประเด็นต่าง ๆ เพิ่มเติม ทั้งเรื่องงบประมาณ ค่าใช้จ่ายในการขยายอายุเกษียณ การจำแนกตำแหน่งตามลักษณะงาน และเตรียมความพร้อมรองรับหากมีการขยายอายุเกษียณ โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ จะมีข้อสรุปที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม หากมีการขยายอายุเกษียณจริงจะต้องแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญของข้าราชการ กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการประเภทต่าง ๆ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย ทั้งนี้ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่องการประกาศแผนการปฏิรูปประเทศ โดยมีเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับแผนการปฏิรูปประเทศด้านสังคม เรื่องกลุ่มผู้เสียเปรียบในสังคม หัวข้อการเสริมสร้างศักยภาพผู้สูงอายุในการทำงาน […]

มติคุรุสภาออกแล้ว! เลิกให้ ‘ตั๋วครู’ อัตโนมัติ ต้องสอบเท่านั้น เริ่มใช้กับนักศึกษาครูปีการศึกษา62

  นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ตามที่คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) เสนอดังนี้ ให้ผู้สำเร็จการศึกษาที่ได้รับปริญญา หรือประกาศนียบัตรที่คุรุสภาให้การรับรองตามประกาศคุรุสภา เรื่องการรับรองปริญญา หรือประกาศนียบัตรทางการศึกษา เพื่อการประกอบวิชาชีพ พ.ศ.2557 ไม่ต้องผ่านการทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู แต่ต้องผ่านการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาตามหลักสูตรปริญญาทางการศึกษาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปีและผ่านเกณฑ์การประเมินปฏิบัติการสอน ให้ดำเนินการทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูกับผู้เข้ารับการศึกษาในหลักสูตรปริญญาทางการศึกษา และประกาศนียบัตรบัณฑิตทางการศึกษาตั้งแต่ปีการศึกษา 2562 เป็นต้นไป โดยมอบให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาไปดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อบังคับว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เรื่องการสอบรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และประกาศที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอบอร์ดคุรุสภาพิจารณาต่อไป “จากนี้ไปผู้ที่จะมาเป็นครูจะไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพโดยอัตโนมัติอีกต่อไป แต่จะต้องสอบเพื่อขอรับใบอนุญาต ทั้งผู้ที่เรียนหลักสูตรครู 4 ปีและ 5 ปี อย่างไรก็ตาม มติดังกล่าวจะไม่มีผลย้อนหลัง แต่จะเริ่มกับผู้ที่เข้าเรียนหลักสูตรครูในปีการศึกษา 2562 เป็นต้นไป ทั้งนี้ เพื่อให้วิชาชีพครูเกิดมาตรฐานอย่างเป็นระบบ เนื่องจากปัจจุบันมีสถาบัน ผลิตนักศึกษาครูเป็นจำนวนมาก” รมว.ศึกษาธิการกล่าว ด้านนายบูรพาทิศ พลอยสุวรรณ์ รองเลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า สำหรับการจัดสอบนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยเบื้องต้นจะให้สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เข้ามาเป็นหน่วยงานกลางในการจัดสอบ. ข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์

ผบ.ตร.ตั้งผบก.-ผบ.หมู่ รับบก.ใหม่ มีชื่อ ‘ร.ต.อ.สงกรานต์ เตชะณรงค์’

  พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ลงนามคำสั่ง ตร.ที่ 52/2562 ให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทน ในกองบังคับการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 ที่ตั้งขึ้น โดยแก้ไขชื่อหน่วยงานเดิม กองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ(ถปพ.) มื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) มีรายงานว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ลงนามคำสั่ง ตร.ที่ 52/2562 ให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทน ในกองบังคับการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 ที่ตั้งขึ้น โดยแก้ไขชื่อหน่วยงานเดิม กองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ(ถปพ.) โดยให้ข้าราชการตำรวจตั้งแต่ตำแหน่งผู้บังคับการ ถึงผู้บังคับหมู่ 432 ราย รักษาราชการแทนในตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม เป็นต้นไป อาทิ พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บังคับการถปพ.รักษาราชการแทน ผบก.ตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 ทั้งนี้มีชื่อ ร.ต.อ.สงกรานต์ เตชะณรงค์ รองสารวัตรฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการปราบปราม รักษาราชการแทนรองสารวัตรฝ่ายอำนวยการบก.ตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 อยู่ในลำดับที่ 88 […]

กรมบัญชีกลางเร่งปรับระบบจ่ายเงินบำเหน็จดำรงชีพขรก.บำนาญเพิ่มอีก1แสนบาท

  น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับบำนาญ (ช.ค.บ.) และการจ่ายบำเหน็จดำรงชีพ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยกรมบัญชีกลางได้ร่างหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการขอรับบำเหน็จดำรงชีพที่ได้ขยายเพดานของวงเงินบำเหน็จดำรงชีพให้แก่ผู้รับบำนาญซึ่งมีอายุตั้งแต่ 70 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป เพิ่มอีก 100,000 บาท จากเดิมที่ให้ขอรับได้ ในอัตรา 15 เท่าของบำนาญรายเดือนที่ได้รับ แต่ไม่เกิน 400,000 บาท เป็นให้ขอรับได้ในอัตรา 15 เท่าของบำนาญรายเดือนที่ได้รับ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท น.ส.สุทธิรัตน์กล่าวว่า ผู้รับบำนาญที่มีสิทธิขอรับบำเหน็จดำรงชีพเพิ่มให้ติดต่อส่วนราชการต้นสังกัด เพื่อกรอกแบบฟอร์มการขอรับเงินและยินยอมให้หักเงินชำระหนี้ จากนั้นกรมบัญชีกลางจะประสานความร่วมมือกับธนาคารทุกแห่ง ขอให้ธนาคารตรวจสอบข้อมูลผู้รับบำนาญที่ได้ยื่นใช้สิทธิบำเหน็จค้ำประกันในการกู้เงินกับสถาบันการเงินว่าผู้มีสิทธิ แต่ละรายที่ยื่นความประสงค์ มียอดเงินกู้คงเหลือจำนวนเท่าใด และส่งข้อมูลกลับมายังกรมบัญชีกลาง เพื่อนำข้อมูลหนี้คงเหลือมาหักกลบลบกันกับบำเหน็จดำรงชีพที่มีสิทธิได้รับ เพื่อชำระหนี้บำเหน็จค้ำประกันคืนให้กับธนาคารก่อน เช่น ในกรณียอดหนี้เกินกว่าจำนวนเงินบำเหน็จดำรงชีพที่ได้รับเพิ่ม เงินจำนวนดังกล่าวจะถูกนำมาหักชำระหนี้ที่คงเหลือทั้งหมด แต่ถ้ายอดหนี้ไม่เกินจำนวนเงินบำเหน็จดำรงชีพที่ได้รับเพิ่ม จะนำเงินดังกล่าวไปชำระหนี้ให้กับธนาคารก่อนแล้วจึงจะได้รับเงินส่วนที่เหลือ และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้รับบำนาญ กรมบัญชีกลางได้ขอให้ธนาคารเปิดบัญชีให้กับผู้รับบำนาญตามข้อมูลที่กรมส่งให้ โดยไม่ต้องไปติดต่อกับธนาคารด้วยตนเอง ในเรื่องของการเปิดบัญชีธนาคาร กรมบัญชีกลางจะหารือกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ดำเนินการผ่อนคลายเงื่อนไขนี้เช่นเดียวกับการเปิดบัญชีให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เคยดำเนินการไปก่อนหน้านี้ น.ส.สุทธิรัตน์กล่าวว่า ในส่วนของผู้รับบำนาญที่ประสงค์ขอรับบำเหน็จดำรงชีพเพิ่ม ขอให้ไปติดต่อส่วนราชการต้นสังกัดของผู้รับบำนาญและกรอกแบบฟอร์มการขอรับเงินบำเหน็จดำรงชีพ เมื่อตรวจสอบข้อมูลแล้ว […]

มีผลแล้ว! นายกสภามหาวิทยาลัยรัฐ-บอร์ด ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน!

  ราชกิจจานุเบกษา ประกาศระเบียบ ป.ป.ช. กำหนดผู้ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินใหม่ “นายกสภามหาวิทยาลัย – บอร์ดต่าง” ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่อง กำหนดตำแหน่งของผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ตามมาตรา 102 (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2561  ลงวันที่ วันที่ 25 ม.ค. 2562 สรุปสาระสำคัญ คือ ยกเลิกตำแหน่งที่ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.  คือ นายกสภาและกรรมการสภาในสถาบันอุดมศึกษาในสังกัดของรัฐ ได้แก่ นายกสภาและกรรมการสภามหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ มหาวิทยาลัยนครพนม มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏทุกแห่ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลทุกแห่ง และสภาสถาบันการพลศึกษา พร้อมกันนี้ ได้กำหนดตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานอื่นของรัฐ และกำหนดตำแหน่งผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงที่มีหน้าที่ต้องยื่นและเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน ได้แก่ อธิการบดีในสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ รวมถึงผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ […]

พระเทพฯ ทรงร่วมประชุมคณะกรรมการจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ ทำเนียบรัฐบาล

  วันที่ 26 ม.ค. เวลา 17.30 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์ประธานที่ปรึกษาการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เสด็จพระราชดำเนินทรงร่วมการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ครั้งที่ 1/2562 ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. และคณะรัฐมนตรี เฝ้าฯ รับเสด็จ   ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์

สมาคมครูแห่งประเทศไทยคัดค้าน ปม ศธ.ขยายเวลาเกษียณจาก ต.ค.เป็นมี.ค.เพื่อแก้ปัญหาครูขาดแคลน ชี้ไม่มีประโยชน์ ทำระบบใหญ่เสีย!!

  เมื่อวันที่ 22 มกราคม นายสนอง ทาหอม ประธานสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) เปิดเผยว่า ตามที่นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) มีแนวคิดขยายเวลาเกษียณอายุราชการของครูจากเดือนตุลาคม ไปเป็นเดือนมีนาคม เพื่อให้ครูอยู่สอนเด็กจนจบภาคการศึกษา โดยสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เตรียมหารือสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพื่อเสนอขอแก้ไขพ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2551 นั้น ตนไม่เห็นด้วย เพราะ ไม่มีประโยชน์  ระบบราชการของเรามีความเป็นเอกภาพดีอยู่แล้ว การทำแบบนี้มีแต่จะสร้างปัญหาให้มากขึ้น  การขาดแคลนครูในช่วงที่มีการเกษียณฯ  ถือเป็นการบริหารงานที่ขาดประสิทธิภาพของศธ. อัตราเกษียณฯในแต่ละปีเรารู้ล่วงหน้าอยู่แล้ว ว่ามีข้าราชการครูเกษียณฯ จำนวนเท่าไร สาขาวิชาเอกใดบ้าง ทางแก้ไขที่ถูกต้องคือ จะต้องเร่งดำเนินการบรรจุข้าราชการครูให้ได้ภายในวันที่ 1 ตุลาคม ของทุกปี เช่นเดียวกับระบบการบริหารงานบุคคลของทหาร ซึ่งมีการบรรจุไว้ล่วงหน้า จึงจะถือเป็นการแก้ไขที่ถูกต้อง ไม่ใช่ไปทำให้ระบบใหญ่เสีย ส่วนที่มองว่า การขยายเวลาเกษียณฯให้ครู จะทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็กดีขึ้น  ก็ไม่น่าจะใช่เพราะครูที่สอนก็เป็นคนเดิม จึงไม่น่าจะส่งผลต่อผลการเรียนของเด็ก นายอดิศร เนาวนนท์ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏ(มรภ.)นครราชสีมา กล่าวว่า  โดยหลักการตนเห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว  เพราะจะช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนครู และไม่ให้สถานศึกษาต้องไปจ้างครูมาสอนหรือให้ครูชั้นอื่นมาสอนแทน […]

กกต.เคาะแล้ว 24 มีนาคม 2562 เป็นวันเลือกตั้ง

  ภายหลังที่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้นัดประชุมด่วนเพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง ล่าสุด นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ได้แถลงกำหนด วันเลือกตั้ง ส.ส. ในวันที่ 24 มีนาคม 2562 พร้อมกับมีกำหนดเปิดรับสมัครผู้สมัคร ส.ส. ระหว่างวันที่ 4-8 กุมภาพันธ์นี้ ประกาศรายชื่อผู้สมัครในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ โดยจะมีเวลาให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองหาเสียงได้ทั้งสิ้น 52 วัน ข่าวจาก : sanook.com, ไทยรัฐออนไลน์

ด่วน! พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งประกาศแล้ว

  เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ.๒๕๖๒ มีรายละเอียดระบุว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นการเลือกตั้งทั่วไป อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๗๕ และมาตรา ๒๖๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ.๒๕๖๒” มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นการเลือกตั้งทั่วไป มาตรา ๔ ให้ประธานกรรมการการเลือกตั้งรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ สำหรับ เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา 268 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้ดำเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญนี้ให้แล้วเสร็จ ภายในหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญตามมาตรา 267 (1) (2) (3) และ (4) มีผลใช้บังคับแล้ว […]

1 951 952 953 1,012
error: