บทความทั่วไป

Advertisement   Advertisement แม้จะเป็นเรื่องราวที่โพสต์ไว้ตั้ง 3 เดือนกว่าแล้ว แต่ก็ยังมีการแชร์กันต่อเนื่องสำหรับกรณีสาวสวยคนหนึ่งตัดสินใจบริจาคไตให้พ่อของเธอ เพราะสงสารที่พ่อต้องไปล้างไตบ่อยๆ หวังว่าการบริจาคไตให้ครั้งนี้จะทำให้พ่อของเธอแข็งแรงกว่าเดิม โดยเรื่องราวดังกล่าวนี้ ได้โพสต์โดยเฟซบุ๊ก Praewpailin Thongrugchart เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ความว่า .. One year ago ผ่านไปแล้วปีหนึ่ง ฟ้าตัดสินใจบอกป๊าว่า อยากบริจาคไตให้ป๊า ปะป๊าดีใจน้ำตาไหลฟ้าเห็นป๊าดีใจมีความสุขฟ้าก็มีความสุขไปด้วย เพราะฟ้าไม่อยากให้ป๊าต้องเจ็บต้องเหนื่อยคอยล้างไตทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละ3วัน ทุกครั้งที่ฟ้ากลับไทยแล้วไปนั่งเฝ้าป๊าล้างไต ฟ้าสงสารป๊ามากอยากให้ป๊ามีสุขภาพแข็งแรงมากกว่านี้ ก่อนผ่าตัดก็ต้องตรวจร่างกายฉีดสีเข้าเส้นตอนนั้นฟ้ากลัวมากแต่ฟ้าก็ผ่านมาได้จากกำลังใจครอบครัว ก่อนผ่านตัดฟ้าก็เป็นกำลังใจให้ปะป๊าและตัวเองว่าเราต้องผ่านไปให้ได้นะ เราต้องสู้ด้วยกัน ตอนที่เตียงเข็นเราสองเตียงไว้ข้างกันเราจับมือกันให้กำลังใจกันตลอด ฟ้าเริ่มผ่าตัดก่อน Advertisement เข้าไปในห้องผ่าตัดหมอทุกคนก็บอกไม่ต้องกลัวนะตอนนั้นฟ้าตัวสั่นไปหมดกัดฟันน้ำตาไหล หมอบล็อคหลังแล้วให้ยาสลบ แล้วฟ้าก็หลับไปตื่นมาก็มีสายโยงไปหมดยังคงมึนยาอยู่ในห้องผ่าตัด คำพูดแรกฟ้าพูดกับหมอว่า ป๊าหนูเป็นยังไงบ้างค่ะ หมอบอกกำลังผ่าตัดอยู่ครับ ไตหนูดูดีมากเป็นไม่ต้องเป็นห่วง แล้วฟ้าก็ออกมามีแม่ เจ๊ฝน พี่ซุง น้า ค่อยให้กำลังใจ เมื่อการผ่าตัดของป๊าเสร็จสิ้นผ่านไปด้วยดีฟ้าก็เหมือนยกภูเขาออกจากอกสบายใจ มีคนหลายคนถามฟ้าเจ็บไหม ไม่กลัวหรอ เจ็บแล้วกลัวมากค่ะ แต่เป็นความเจ็บความกลัวที่มีความสุขที่สุดในโลกที่ไม่สามารถอธิบายได้ ความสุขที่ทำให้พ่อตัวเองสุขภาพแข็งแรง เป็นแผลเป็นที่ภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต ขอบคุณป๊า แม่ เจ๊ฝน […]

  กลายเป็นประเด็นถกเถียงในสังคมออนไลน์อีกครั้ง หลังมีการเผยแพร่ภาพพยาบาลที่ต้องปฏิบัติงานทั้งที่ไม่สบาย ถึงขั้นต้องใส่สายน้ำเกลือระหว่างนั่งทำงาน     ภาพดังกล่าวสะท้อนถึงปัญหาการขาดแคลนพยาบาล ทำให้พยาบาลส่วนใหญ่ที่แม้จะมีอาการเจ็บไข้ไม่สบาย แต่หากอาการไม่รุนแรงถึงขั้นทำงานไม่ไหวจริงๆ ก็จะไม่สามารถลาป่วยได้ เพราะจะส่งผลกระทบต่อเพื่อนร่วมงานเป็นทอดๆ เนื่องจากพยาบาลทุกคนต่างต้องเข้าเวร ตามตารางงานที่แน่นเอี๊ยดจนแทบไม่มีวันหยุด ปัญหาพยาบาลขาดแคลนและความไม่ก้าวหน้าในวิชาชีพ ถือเป็นเรื่องที่มีการเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) ปรับปรุงกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้อนบุคลากรเข้าสู่ระบบได้เพียงพอกับความต้องการ รวมทั้งเพิ่มโอกาสความเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ เพื่อผลักดันในผู้ปฏิบัติงานมีกำลังใจในการทำงาน และป้องกันพยาบาลวิชาชีพไหลออกนอกระบบ ปัจจุบันประเทศไทยมีพยาบาลวิชาชีพ ที่ปฏิบัติงานในระบบสาธารณสุข  132,362 คน แบ่งเป็น ปฏิบัติงานอยู่ในโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป 40,326 คน ทั้งที่มีความต้องการ 54,474 คน ปฏิบัติงานอยู่ในโรงพยาบาลชุมชน 46,181 คน ทั้งที่มีความต้องการ 56,627 คน รวมแล้วในระบบขาดแคลนพยาบาลถึง 24,594 คน ไม่นับรวมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล กว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ ที่มีความต้องการพยาบาลเช่นกัน ดร.กฤษดา แสวงดี อุปนายกสภาพยาบาล กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา ความต้องการพยาบาลในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการดำเนินนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า […]

  ขอแชร์ประสบการณ์บ้างนะครับ จากคนที่ไม่ได้เรียนจบครู 5 ปี แล้วมาเป็นครู ชีวิตจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง ผมเอง จบปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ 1 ด้วยคะแนนสูงสุดในภาควิชาชีววิทยาของมหาวิทยาลัยในปีนั้น ทำให้ผมทะนงตนเองนิดนึงว่า ผมเป็นคนเก่ง นี่คือผม ในช่วงที่จบมหาวิทยาลัยใหม่ๆ ด้วยความที่เสียดายความรู้จึงสอบเข้าศึกษาต่อปริญญาโท ในสาขาวิชาพฤกษศาสตร์ จนกระทั่งจบปริญญาโท วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่ออายุ 26 ปี จากโปรไฟล์ของผม การศึกษาระดับนี้ ณ ตอนนั้น ผมคิดว่ามันมากเกินพอแล้วที่จะมาเป็นครู ผมสอนหนังสือได้สบายมาก ผมคิดเช่นนั้น จึงมาสมัครเป็นครูในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งที่เน้นการจัดการเรียนการสอนทางด้านวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ ด้วยความทะนงตนเองว่าผมเก่ง แต่…..ผมคิดผิด สิ่งที่ผมพบเมื่อมาเป็นครู มันแทบจะทำให้ผมล้มเลิกความคิดที่อยากจะเป็นครูไปโดยสิ้นเชิง ผมยอมรับว่าผมแม่นในเนื้อหา แต่…สิ่งที่ผมขาดคือ ทักษะทางด้านการสอน การควบคุมชั้นเรียน การออกแบบการจัดการเรียนรู้ จิตวิทยาครู จรรยาบรรณวิชาชีพครู และที่สำคัญที่สุด "จิตวิญญาณความเป็นครู" ผมไม่มี ในตอนนั้น ผมแทบจะยื่นใบลาออกแล้วเปลี่ยนอาชีพเลยก็ว่าได้ แต่….ผมถามตัวเอง ผมมาที่นี่เพื่อลาออกอย่างนั้นเหรอ ผมจะยอมแพ้เหรอ ผมเคยเชื่อว่าตัวเองเก่งไม่ใช่เหรอ ผมจึงคิดใหม่ ผมเปิดใจ […]

  เมื่อ 43 ปีที่แล้ว Nick Ut ช่างภาพชาวเวียดนามที่เป็นผู้สื่อข่าวในสำนักข่าวของสหรัฐอย่าง AP ได้ถ่ายรูปในสงครามเวียดนาม เป็นรูปของเด็กกลุ่มหนึ่งที่ร้องไห้จ้าวิ่งหนีระเบิดอย่างน่าเวทนา มีเด็กหญิงที่เนื้อตัวไม่เหลือแม้กระทั่งเสื้อผ้าเพราะถูกไฟจากระเบิดนาปาล์มแผดเผา ภาพที่เห็นช่างน่าสะเทือนใจ หลายคนอาจจะสงสัยว่า เด็กคนนี้ปัจจุบันเธอยังอยู่ดีหรือไม่?     Phan Thi Kim Phuc เด็กหญิงวัย 9 ขวบในรูป ปัจจุบันมีอายุ 52 ปีแล้ว ชีวิตของเธอในตอนนี้ก็อยู่อย่างสงบสุข แต่เธอไม่มีวันลืมเลือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้น บาดแผลทั้งทางกายและทางใจยังคงอยู่ไม่เลือนหาย ภาพที่ Phan Thi Kim Phuc ร้องไห้วิ่งหนีระเบิดด้วยร่างอันเปลือยเปล่าได้รับรางวัล Pulitzer ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงเกียรติของนักหนังสือพิมพ์ คนช่วยกันใช้น้ำบรรเทาความปวดร้อนจากบาดแผลของเธอ     หลังจากที่ถ่ายภาพเสร็จ Nick Ut ก็รีบพา Phan Thi Kim Phuc และคนอื่นๆที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลในเมืองไซง่อนทันที ร่องรอยของบาดแผลไฟไหม้จากระเบิดในสงครามยังคงอยู่กับเธอ และความทรงจำเหล่านั้นจะไม่มีวันหายไป     ทุกวันนี้ Phan Thi […]

  หากคุณพบสุนัขจรจัดตามท้องถนนคุณเคยคิดจะช่วยเหลือพวกมันสักครั้งมั้ย !? แล้วถ้าเป็นหมาโดนทิ้งโดยถูกมัดไว้ล่ะ คุณจะทำอย่างไรกับพวกมัน      สองหนุ่มทดสอบความมีน้ำใจระหว่างคนและสัตว์ร่วมโลกที่แสนน่ารักอย่างเจ้าสุนัขสองตัวนี้ โดยเขาจับมันผูกติดไว้กับประตูกรงเหล็กของบ้านหลังหนึ่ง แล้วปล่อยมันไว้ให้เจอกับความเหน็บหนาว อ้างว้างและเดียวดาย และเฝ้าดูผลที่เกิดขึ้น      แต่คิดไม่ถึงเลยว่าทุกคนต่างเดินผ่านไปเฉยๆโดยไม่แยแสเจ้าสุนัข 2 ตัวนี้เลยสักนิด      บางคนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพแล้วเดินจากไป     แต่ที่หนักกว่านั้นคือเขาเข้าไปลูบหัวมัน แต่พบว่ามันกลิ่นตัวเหม็นมาก เลยถุยน้ำลายใส่มันซะเลย     ทุกคนเดินผ่านไปมา โดยไม่ดูดำดูดีพวกมันเลย แต่แล้วฮีโร่ตัวจริงก็ปรากฏตัวขึ้น คนที่มาช่วยเหลือน้องหมาก็คือคนไม่ใกล้ไม่ไกลที่ไหน คนจรจัดที่นอนอยู่ข้างๆ มันนั่นเอง      เขาค่อยๆวางถาดอาหารให้พวกมันอย่างช้าๆ       หลังจากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ได้มีคนออกมาแสดงความเห็นกันเป็นจำนวนมากบ้างก็ว่า "ผมแอบเห็นน้ำตาอยู่นะ"、"คนบ้วนน้ำลาย นี่เลวเกินไปจริงๆ"、"ซึ้งจัง ตัวเองยังไม่มีแม้แต่จะกินยังมีน้ำใจต่อสัตว์ได้อีก" ขอบคุณข้อมูลจาก : liekr.com

  มีปัญหากับ "เตารีด" กันบ้างรึเปล่าคะ เตารีดเครื่องประจำ งานเรียบร้อยของของเสื้อผ้า เมื่อใช้ไปได้สักระยะหนึ่งก็มักจะเกิดคราบ เกิดรอยไหม้ติดที่พื้นเตารีด หรือปัญหาเตารีดไอน้ำเกิดอุดตันได้ เวลารีดผ้าก็จะเรียบได้ไม่ดีพอบ้าง เสียเวลาเกินควรบ้าง อย่าเพิ่งอารมณ์เสียไปคะ วันนี้เรามีเคล็ดลับง่าย ๆ ใช้ของใช้ในบ้านมาเป็นผู้ช่วยในการทำความสะอาดและยืดอายุการใช้งานเตารีดกันได้ง่าย ๆ ค่ะ 1) สำหรับรอยไหม้ – เปิดความร้อนของเตารีดให้ร้อนจัด รีดบนใบตอง คราบไหม้จะหลุดออกมาพร้อมไอน้ำ – ยาสีฟันทาพื้นเตารีดที่มีรอยดำแล้วเปิดเตารีดให้ร้อน รอจนยาสีฟันไหม้ ปิดเตารีด ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช็ดออก – เทียนไขทาพื้นเตารีดขณะที่กำลังร้อน เทียนไขจะละลาย ให้นำเศษผ้ามาเช็ดคราบออก – โรยเกลือบนกระดาษเตรียมไว้ เปิดเตารีดระดับความร้อนสูงสุด ปิดระบบไอน้ำไว้ นำเตารีดมาวางบนกระดาษที่โรยเกลือทิ้งไว้ 5 นาที เกลือจะดูดคราบสกปรกออกมา จึงใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำบิดหมาดเช็ดเกลือออก 2) สำหรับรอยสนิม เตรียมผ้า 2 ผืน ผืนแรกห่อด้วยเทียนไข ผืนที่ 2 ห่อด้วยเกลือ รีดเตารีดที่ร้อนบนผ้าห่อเทียนไขประมาณ 5 นาที แล้วจึงนำมารีดบนผ้าห่อเกลืออีก 5 นาที จะทำให้คราบสนิมหลุดออกมา […]

  ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‎LadieSs Ist ได้เผยแพร่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในร้านอาหารในห้าง โดยระบุว่า เรื่องของเรื่องคือเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ได้ไปทานอาหารกันที่ร้าน บาร์บีคิวพลาซ่า สาขาโรบินสันศรีสมาน     ขณะที่ต่อคิวนั้นเหลือบไปเห็นคุณลุงท่านนึง กำลังรับบัตรคิว ตอนแรกตนก็ไม่ได้สังเกตุและสงสัยอะไรทั้งนั้น จนกระทั่งคุณลุงหันหลังกลับไปนั่งเก้าอี้ จึงได้เห็นว่าคุณลุงท่านนี้ตาบอด จะบอกว่านี่เป็นเหตุการแรกในชีวิต คุณลุงมาคนเดียว ตนก็ยังคิดอยู่ว่าท่านจะทานยังไง จะมองอะไรเห็น จะสั่งอาหารยังไง ในขณะที่ตนเดินผ่านโต๊ะคุณลุงท่านนี้..บอกได้เลยว่าเป็นอะไรที่ประทับใจมาก ขอชื่นชมเธอผู้นี้จริง ๆๆๆ #พนักงานดีเด่นบริการดี หลังเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ไปในโลกโซเชี่ยล พามีคนเข้ามาชื่นชมพนักงานหญิงคนดังกล่าวจำนวนมาก ที่มา : YouLike (คลิปเด็ด)

  นายหวัง ชายประเทศจีน อายุ 53 ปี เมื่อไม่นานมานี้ขณะกำลังเงยหัวดื่มโค้กเกิดเป็นอัมพาตกระทันหัน แขนขาไม่มีเรี่ยวแรง หลังรับการผ่าตัดหมอให้พักผ่อนครึ่งปี ถึงจะสามารถเดินได้ปกติ คุณหมอระบุว่าเป็น “โรคเส้นประสาทไขสันหลังส่วนคอเสื่อม” เป็นโรคที่ร้ายแรงชนิดหนึ่ง สาเหตุที่แท้จริงคือ นายหวังได้ดื่มเครื่องดื่มอัดลมแทนน้ำ ทำให้เป็นโรคกระดูกพรุนรุนแรง นายหวังเป็นคนชอบดื่มเครื่องดื่มอัดลมมาก โดยเฉพาะโค้กที่ดื่ม 2 กระป๋องมาตลอด 20 ปี นายหวังได้กล่าวว่า “วันนั้นนั่งคุยกับเพื่อน หลังจากนั้นก็ยกโค้กเงยหัวขึ้นดื่ม หลังจากนั้นก็รู้สึกผิดปกติ” เมื่อดื่มเข้าไปแล้ว นายหวังรู้สึกแน่นหน้าอกอยากอาเจียน และร่างกายไม่สามารถควบคุมได้ล้มลงกับพื้น และไม่รู้สึกอะไรแล้วหลังจากนั้น การดื่มเครื่องดื่มอัดลมจำนวนมาก จะทำให้มีผลกระทบไม่ดีต่อร่างกายอย่างมาก ส่งผลให้เป็นโรคกระดูกพรุน     นายหวังถูกเพื่อนนำส่งโรงพยาบาลโดยทันที หลังจากตรวจเช็คแล้วพบว่า กระดูกสันหลังบริเวณคอสั่น ทำให้สมองมีเลือดออก หมอกระดูกยังบอกอีกว่า “เมื่อกี้ตรวจเช็คแล้วขาทั้งสองข้างไม่สามารถขยับได้ มีเพียงแค่แขนสองข้างที่สามารถยกขึ้นมาได้นิดหน่อย” หลังเอ็กซเรย์พบว่า กระดูกที่คอบางจุดหัก มีความเสี่ยงที่จะเป็นอัมพาตทั้งตัวสูงมาก ต้องผ่าตัดโดยด่วน     คุณหมอยังกล่าวอีกว่า การเงยหัวบ่อยๆไม่ได้ทำให้มีอาการเหล่านี้ได้ แต่เนื่องจากนายหวังดื่มน้ำอัดลมบ่อยๆ จึงทำให้กระดูกและเส้นเอ็นค่อยๆชา และคลายออกจากแกนกลาง จนทำให้เป็น “โรคเส้นประสาทไขสันหลังส่วนคอเสื่อม” […]

  จากกรณีข่าว เมื่อเวลา 08.49 น.วันที่ 30 มี.ค.60 คนร้ายประมาณ 5-6 คน ขับขี่รถบรรทุกขนาดเล็ก ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่(ยกสูง) แต่งกายคล้ายกรรมกร ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ สภ.ระแงะ ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จว.นราธิวาส ขณะเจ้าหน้าที่กำลังตั้งแถวเคารพธงชาติ ทำให้ตำรวจบาดเจ็บ 4 นาย คือ ดต.ธีระพงศ์ แก้วชำนาญ อายุ 46 ปี,ส.ต.ต.ศุภัษร สยุคงทน อายุ อายุ 30 ปี,ส.ต.ต.พงศธร อายุ 23 ปี และ ส.ต.ต.พิชิต ทองรส อายุ 31 ปี โดยหลังจากก่อเหตุได้มุ่งหน้าไปยังพื้นที่อำเภอเมืองนราธิวาส     ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการข่าวทหารและเจ้าหน้าที่ทหารพรานกรมทหารพรานที่ 46 ได้เกิดปะทะกับคนร้ายบนถนนเขตรอยต่อระหว่างบ้านไอร์จือนะห์ ม.5 กับบ้านธรรมเจริญ ม.6ต.โคกสะตอ […]

  เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผู้ช่วยผบ.ตร. กล่าวถึงมาตรการดำเนินการตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ออกตามมาตรา 44 เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎจราจร ว่า กรณีรถกระบะที่จะใช้ช่วงสงกรานต์มีการพูดคุยกันว่า อนุโลมให้รถบรรทุกน้ำและมีผู้โดยสารอยู่ที่กระบะท้ายได้ในกรณีที่อยู่ในพื้นที่โซนที่อนุญาตให้เล่นน้ำและรถเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ แต่ถ้าจะนั่งกระบะท้ายตั้งแต่ออกจากบ้านผ่านถนนหลวงไม่อนุญาต เนื่องจากอันนี้เป็นกฎหมายประชาชนต้องเข้าใจด้วย โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ประชาชนที่จะสัญจรไปไหนมาไหน และชอบนั่งกระบะท้าย รวมถึงกรณีที่ผู้โดยสารจำนวนเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด หรือเกินกว่าจำนวนเข็มขัดนิรภัยที่มีในรถ อันนี้ไม่อนุญาตจริงๆ แนะนำให้ไปใช้รถโดยสารสาธารณะ โดยในช่วงนั้นอาจมีการวางแผนว่าตามจุดตรวจต่างๆอาจมีการเตรียมรถโดยสารสาธารณะไว้เผื่อเพื่อจัดส่งบุคคลที่โดยสารเกินมา ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ขอย้ำว่าตำรวจจะใช้ดุลพินิจตามกฎหมาย อย่างกังวล หรือตั้งแง่ หรือมองว่าตำรวจอาจกลั่นแกล้ง จะกำชับให้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ อย่างไรก็ตามการบังคับใช้กฎหมายก็เข้าใจวิถีชีวิตของประชาชน หากแค่นั่งกระบะท้ายเพื่อไปซื้อกับข้าวในหมู่บ้าน หรือในตรอก ซอกซอย ก็ทำได้ ก็เข้าใจ แต่ขออย่าออกมาบนถนนหลวงที่เสี่ยงต่ออันตราย เพราะที่ผ่านมาอุบัติเหตุแบบเทกระจาดเกิดขึ้นบ่อยครั้งนำมาสู่ความสูญเสีย” พล.ต.ท.วิทยากล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่า รถปิกอัพของตำรวจเวลาจับกุมผู้ต้องหามักจะให้นั่งท้ายรถ ต่อไปจะทำได้หรือไม่ พล.ต.ท.วิทยา กล่าวว่า ประเด็นนี้จะคุยกันในที่ประชุมบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าตำรวจต้องทำให้ดูเป็นตัวอย่าง รถขนผู้ต้องหาก็มีอยู่แล้ว ในเมื่อกฎหมายห้ามเด็ดขาด ตำรวจก็ทำไม่ได้ ต่อไปต้องยกเลิกการนำผู้ต้องหาไว้ที่กระบะท้าย ข่าวจาก : มติชนออนไลน์