บทความทั่วไป

Advertisement กลายเป็นประเด็นลุกลามไปกันใหญ่แล้ว สำหรับดราม่าเวทีขาอ่อน หลังจากนักแสดงสาวเจ้าของตำแหน่งมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2551 อย่าง "แก้ม กวินตรา โพธิจักร" ได้ออกมาโพสต์ข้อความเหน็บแรงจัดหนักที่ระบุว่า "ตายแล้วว งดธาตุหวาน เพราะน้ำตาลปลอมมากกกก" จนถูกนำไปโยงว่าเป็นข้อความที่สาวแก้มเขียนขึ้นมาเพื่อแขวะนางงามรุ่นน้อง อย่าง "น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์" มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ปีล่าสุด และแม้จะตามมาด้วยคำวิจารณ์จากทีมสาวน้ำตาล ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นตำหนิต่อพฤติกรรมของสาวแก้มอย่างหนัก Advertisement     แต่เจ้าตัวก็ยังคงไม่มีการออกมาโพสต์ตอบโต้แต่อย่างใด หนำซ้ำยังตอบคำถามสื่อด้วยการยืดอกยอมรับแบบชัดเจนว่าข้อความที่โพสต์ไว้ดังกล่าว หมายถึงนางงามรุ่นน้องจริง เนื่องจากรู้สึกผิดหวังที่เป็นคนที่เชียร์และช่วยผลักดันน้องมาตลอด ออกหน้าแทนจนตอนนี้เหมือนกลายเป็นหมา หลังได้รู้เรื่องราวเบื้องลึกบางอย่างของนางงามรุ่นน้อง และผู้จัดการของเค้า Advertisement     อย่างไรก็ตาม จากประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้น ล่าสุดได้กลายเป็นเรื่องลุกลามบานปลายออกไป เมื่อทางด้านของ รชต ธนภรณ์มงคล หนุ่มดีกรีนักฟุตบอลหัวหอกวัย 29 ปี ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของสาวแก้ม ได้ออกมาเคลื่อนไหวตอบโต้เรื่องราวดราม่าแทนแฟนสาว ปกป้องคนรักด้วยการโพสต์ข้อความเดือดผ่านเฟซบุ๊กของเอง ในลักษณะรุนแรงถึงขั้นขู่ยิงเรียงตัว ผู้ที่ด่าว่าแฟนของตน ที่ทำกลายเป็นเรื่องโดนถล่มกลับอย่างหนัก จนทำให้หนุ่มรชต ต้องลบโพสต์ทิ้งไปในที่สุด         […]

ไม่ดูไม่ได้แล้ว คลิปฮอตในนาทีนี้ เมื่อเฟซบุ๊กฟรีม อวบ อ้วน ได้โพสต์คลิปเรียนขับรถเกียร์ธรรมดา (เกียร์กระปุก) ความยาวประมาณ 22 นาที อย่าพลาด! ดูกันให้จบ งานนี้มีฮา ใครที่เคยเรียนขับรถหรือเป็นมือใหม่หัดขับจะเข้าใจดีเลย ยิ่งเป็นคนในภาคเหนือ "อู้กำเมืองได้" ยิ่งเข้าถึงอรรถรสในคลิปนี้มากๆ!     นี่แค่ตัวอย่างความฮาของคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น คลิกที่นี่ หากต้องการอ่านความคิดเห็นอื่นๆ เพิ่มเติม     ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ฟรีม อวบ อ้วน 

หลังจากนักแสดงสาวเกาหลี จียอน เจอมรสุมดราม่าหนัก โดนโยงเป็นนางเอกเรื่องเยอะ เกิดมาจากตลก แต่บอกเกลียดตลกคาเฟ่ ลืมกำพืดตัวเอง ตามที่ผู้กำกับดัง พชร์ อานนท์ โพสต์ถึง ล่าสุด (7 มีนาคม 2560) ตลกสาวคนสนิท ชมพู่ ก่อนบ่าย ที่โดนโยงเข้ามาในข่าวด้วย ก็ได้มาเปิดใจถึงเรื่องนี้แล้ว ทั้งนี้ ชมพู่ ก่อนบ่าย เผยว่า ได้มีการคุยเรื่องข่าวที่เกิดขึ้นกับจียอนมาตลอด ขออยู่ตรงกลาง แต่ละคนเวลาทำงานก็มีความคิดและมุมมองของใครของมัน จริง ๆ เรื่องมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น ก็จะบอกให้น้องอยู่นิ่ง ๆ เป็นเด็กก็ขอโทษ และทำงานของเราต่อไป   กับเรื่องที่เกิดขึ้น จียอนก็เครียด เพิ่งจะแอดมิทเข้าโรงพยาบาลไปแต่ไม่ได้เป็นข่าว น้องเครียดถึงขั้นชัก สาเหตุก็เพราะเรื่องข่าวและเรื่องสุขภาพส่วนตัว ด้วยความที่ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ เจอคอมเมนต์ว่าเยอะ เขาก็จะงงว่าเกิดอะไรขึ้น เราก็พยายามอยู่ข้าง ๆ น้อง ให้กำลังใจ กับกระแสข่าวที่ว่าจียอนโดนแคนเซิลงานก็ไม่จริง น้องงานเยอะมาก ที่ในโพสต์มีกล่าวถึงตนเองนั้น ชมพู่ ก่อนบ่าย ก็บอกว่า เป็นเรื่องที่ลำบากใจ คือรู้จักทั้งคู่ เป็นเรื่องที่เราอยู่ตรงกลาง คุยกับทั้ง 2 ฝ่าย และให้กำลังใจ แต่คงไม่ถึงกับไปเป็นตัวกลางเรื่องนี้  […]

จากกรณีธรรมกายที่เป็นข่าวในทุกวันนี้ แม้ว่าจะมีคำสั่งให้ปลด "ธัมมชโย" ออกจากสมณศักดิ์และจับสึกได้ทันทีหากพบตัว แต่บรรกาศที่วัดธรรมกายก็ยังเต็มไปด้วยลูกศิษย์และพระลูกวัดเป็นจำนวนมากป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหารบุกเข้าไปได้ง่าย และในสถานการณ์เช่นนี้เอง ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” ร่วมกับคณะนิติศาสตร์ และคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “พระสงฆ์กับกรณีวัดพระธรรมกาย” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 2 – 3 มี.ค. ที่ผ่านมา จากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,250 หน่วยตัวอย่าง โดยเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชน ว่า มีพระสงฆ์ปลอมที่เข้ามาสร้างสถานการณ์ในวัดพระธรรมกายหรือไม่ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 71.28 เชื่อว่ามีพระสงฆ์ปลอม ขณะที่ ร้อยละ 15.28 เชื่อว่าไม่มีพระสงฆ์ปลอม ด้านความคิดเห็นของประชาชน ว่าควรมีการตรวจสอบใบสุทธิของพระสงฆ์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) หรือไม่ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 93.76 ระบุว่า ควรมีการตรวจสอบใบสุทธิ และร้อยละ 4.80 ระบุว่า ไม่ควรมีการตรวจสอบใบสุทธิ ทั้งนี้ ด้านความคิดเห็นของประชาชนว่า วัดพระธรรมกาย ขาดแคลนอาหารและยาตามที่ปรากฏเป็นข่าวหรือไม่ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ […]

สุดสะเทือนใจ คนหาเช้ากินค่ำอย่างสุจริตโดนบิ๊กไบค์ชนแล้วหนี ลูกสาวสุดช้ำไปแจ้งความหวังพึ่งพาตำรวจ กลับถูกไล่ให้ไปหาหลักฐานเอง ส่งเรื่องถึงโซเชียลให้ชาวเน็ตช่วยดำเนินการด่วน!! แฟนเพจเฟสบุ๊ค แหม่มโพธิ์ดำ โพสต์เรื่องราวแม่ค้าถูกบิ๊กไบค์ชนแล้วหนีรอดหวุดหวิด ลูกสาวนำทะเบียนรถไปแจ้งความ ตำรวจบอกกล้องวงจรปิดเสียตรวจสอบไม่ได้ ให้ไปหาพยานมายืนยันเอง ไม่มีพยานก็ช่วยอะไรไม่ได้ โดยเนื้อหาทั้งหมดระบุว่า… "#บิ๊กไบค์ชั่วชนแม่ค้าหวิดดับแล้วหนี #ลูกสาววอนโซเชียลช่วยแม่ด้วยทางเราได้นำทะเบียนไปแจ้งความ กับ สถานีตำรวจ ต.บ้านเดื่อ จ.หนองคาย ตำตรวจไเปิดกล้องไห้ดู แต่กล้องน่าจะใช้งานไม่ได้ มันมืด เป็นภาพดำๆ แล้วตำรวจได้แนะนำไห้เร่ไปติดต่อตามตัวคนที่จดป้ายทะเบียนให้ พอเราไปเค้าไม่ยอม แล้วบอกไม่ได้จด เราก็ไปหาตำรวจอีกครั้ง..เค้าเลยบอกก็ไม่รู้จะทำไง ในเมื่อไม่มีพยาน เค้าเลยให้เราไปขอทาง ร.พ ให้ช่วนเหลือ กองทุนสงเคราะห์ ได้ช่วยเหลือ30000บาทค่ะหลังจากนั้นเราก็ติดต่อตำรวจอีกครั้ง เค้าก็บอก ไห้ไปตามตัว ตามพยานมา ถ้าเป็นแบบนี้ไม่มีพยาน ก็ช่วยไม่ได้ค่ะ แต่ทางเราแค่อยากรู้ว่า..ทำไมตำรวจไม่ดำเนินการ จัดการช่วยเหลือเราบ้าง ทั่งๆๆที่เค้ามีอำนาจกว่าพวกเรา เราแค่อยากขอความยุติธรรมให้แก่แม่บ้างค่ะ แม่แก ก็อยู่ตัวคนเดียว หาเช้ากินค่ำ ลูกมี2คน ก็ต้องหากินเลี้ยงครอบครัวของเรา นานๆจะกลับไปหาแก และอีกอย่างแม่แก ก็พึ่งโดน พ่อทิ้งค่ะ แกไม่เหลือใครเลย ขอความเมตตา…หน่อยนะค่ะ ช่วยให้จับคนร้ายมารับผิดกับสิ่งที่เค้าก่อค่ะ"   […]

สุดสะเทือนใจ คนหาเช้ากินค่ำอย่างสุจริตโดนบิ๊กไบค์ชนแล้วหนี ลูกสาวสุดช้ำไปแจ้งความหวังพึ่งพาตำรวจ กลับถูกไล่ให้ไปหาหลักฐานเอง ส่งเรื่องถึงโซเชียลให้ชาวเน็ตช่วยดำเนินการด่วน!! แฟนเพจเฟสบุ๊ค แหม่มโพธิ์ดำ โพสต์เรื่องราวแม่ค้าถูกบิ๊กไบค์ชนแล้วหนีรอดหวุดหวิด ลูกสาวนำทะเบียนรถไปแจ้งความ ตำรวจบอกกล้องวงจรปิดเสียตรวจสอบไม่ได้ ให้ไปหาพยานมายืนยันเอง ไม่มีพยานก็ช่วยอะไรไม่ได้ โดยเนื้อหาทั้งหมดระบุว่า… "#บิ๊กไบค์ชั่วชนแม่ค้าหวิดดับแล้วหนี #ลูกสาววอนโซเชียลช่วยแม่ด้วยทางเราได้นำทะเบียนไปแจ้งความ กับ สถานีตำรวจ ต.บ้านเดื่อ จ.หนองคาย ตำตรวจไเปิดกล้องไห้ดู แต่กล้องน่าจะใช้งานไม่ได้ มันมืด เป็นภาพดำๆ แล้วตำรวจได้แนะนำไห้เร่ไปติดต่อตามตัวคนที่จดป้ายทะเบียนให้ พอเราไปเค้าไม่ยอม แล้วบอกไม่ได้จด เราก็ไปหาตำรวจอีกครั้ง..เค้าเลยบอกก็ไม่รู้จะทำไง ในเมื่อไม่มีพยาน เค้าเลยให้เราไปขอทาง ร.พ ให้ช่วนเหลือ กองทุนสงเคราะห์ ได้ช่วยเหลือ30000บาทค่ะหลังจากนั้นเราก็ติดต่อตำรวจอีกครั้ง เค้าก็บอก ไห้ไปตามตัว ตามพยานมา ถ้าเป็นแบบนี้ไม่มีพยาน ก็ช่วยไม่ได้ค่ะ แต่ทางเราแค่อยากรู้ว่า..ทำไมตำรวจไม่ดำเนินการ จัดการช่วยเหลือเราบ้าง ทั่งๆๆที่เค้ามีอำนาจกว่าพวกเรา เราแค่อยากขอความยุติธรรมให้แก่แม่บ้างค่ะ แม่แก ก็อยู่ตัวคนเดียว หาเช้ากินค่ำ ลูกมี2คน ก็ต้องหากินเลี้ยงครอบครัวของเรา นานๆจะกลับไปหาแก และอีกอย่างแม่แก ก็พึ่งโดน พ่อทิ้งค่ะ แกไม่เหลือใครเลย ขอความเมตตา…หน่อยนะค่ะ ช่วยให้จับคนร้ายมารับผิดกับสิ่งที่เค้าก่อค่ะ"   […]

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องกำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารและค่าบริการอื่น สำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI-METER) ที่จดทะเบียนในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานคร ระบุว่า ตามที่ได้มีประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องกำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารสำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI-METER) โดยมาตรค่าโดยสารในจังหวัดอื่น นอกจากกรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 12 กันยายน พ.ศ.2537 ไว้แล้วนั้น โดยที่อัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารตามประกาศดังกล่าวได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานานแล้ว ไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลง และไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพของผู้ประกอบอาชีพขับรถยนต์รับจ้าง ดังนั้น เพื่อให้อัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารสำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI-METER) ที่จดทะเบียนในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานครมีความเหมาะสมกับภาวะค่าครองชีพและต้นทุนการเดินรถ รวมทั้งเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพขับรถยนต์รับจ้างให้มีรายได้เพียงพอแก่การดำรงชีพ สมควรแก้ไขปรับปรุงประกาศกระทรวงคมนาคมดังกล่าวเสียใหม่ อาศัยอำนาจตามความในข้อ 14 แห่งกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน เจ็ดคนที่จดทะเบียนในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2558 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้ยกเลิก (1) ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องกำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารสำหรับรถยนต์ รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI-METER) โดยมาตรค่าโดยสารในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 12 กันยายน พ.ศ.2537 (2) ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องกำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารและค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นจากค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารสำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI-METER) ที่จดทะเบียนในจังหวัดขอนแก่น ลงวันที่ […]

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เล็งเห็นถึงความสำคัญของนักเรียนนายร้อยตำรวจ เมื่อสำเร็จการศึกษา เป็นตำรวจผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ทำงานบริการประชาชน สังคม และประเทศชาติ ซึ่งในการปฏิบัติงานนั้นจะต้องมีอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ที่พร้อม สามารถปฏิบัติงานได้ทันที จึงได้ของบประมาณจากรัฐบาลในการจัดหาอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค และอาวุธปืนสั้นประจำกาย เพื่อใช้ปฏิบัติงานในพื้นที่สถานีตำรวจ ซึ่งรัฐบาลอนุมัติงบประมาณแล้วพลตำรวจโท ปิยะ อุทาโย ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ จึงเตรียมแจกจ่ายอุปกรณ์ดังกล่าวให้กับนักเรียนนายร้อยตำรวจจบใหม่ ซึ่งนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 70 เป็นรุ่นแรกที่กำลังอบรมงานสอบสวนอยู่ที่สถาบันส่งเสริมงานสอบสวนจะได้รับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ASUSPRO รุ่น P2530UA และอาวุธปืนสั้นประจำกาย GLOCK 19 โดยเมื่ออบรมงานสอบสวนเสร็จ นายตำรวจใหม่เหล่านี้ก็จะสามารถปฏิบัติงานได้ทันที ข่าวจาก : Nation TV

หลังจากเป็นข่าวกระจายไปรวดเร็วกรณี "น้องเต้ย" ด.ช.ศราวุธ เจนคง วัย 9 ขวบถูกทิ้งให้อยู่ลำพังในบ้านโทรมๆ มีเพียงรูปถ่ายวันแต่งงานของพ่อแม่ไว้ดูต่างหน้า แต่ไม่รู้ว่าพ่อแม่หายไปไหน ล่าสุด 7 มี.ค.60 ที่ผ่านมานั้น ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สัมภาษณ์เพิ่มเติม พบว่าน้องเต้ย เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่โรงเรียนบ้านหนองสองห้อง  จากการพูดคุยกับ นางนลินญา ภาโนชิต ครูประจำชั้น ทราบว่า น้องเต้ยเป็นเด็กที่มีผลการเรียนอยู่ในระดับปานกลาง เป็นเด็กเรียบร้อย มีนิสัยเงียบขรึม ไม่ชอบยุ่งกับใคร ทางด้านชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัว น้องเต้ยอาศัยอยู่ที่กระต๊อบ ลักษณะเป็นเพิงชั่วคราว ในหมู่บ้านทุ่งวิจิตร อยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณ 3 กิโลเมตร บิดาและมารดาแยกกันอยู่ โดยมารดาได้ย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านเกิดที่บุรีรัมย์ นำลูกสาวคนเล็กไปอยู่ด้วย ส่วนบิดาได้กลับไปอยู่บ้านเดิมที่บ้านเลขที่ 155 หมู่ 10 ต.สะพานหิน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี โดยชวนน้องเต้ยไปอยู่ด้วย แต่เจ้าตัวไม่ยอมไป เนื่องจากยังผูกพันกับที่พักแห่งนี้ ซึ่งเคยอยู่มาตั้งแต่เล็กๆ นานๆ ครั้งบิดาจะมาเยี่ยมสักครั้งหนึ่ง ด้านน.ส.อรัญญา อุ่นทอง ผอ.โรงเรียนบ้านหนองสองห้อง กล่าวว่า “ปกติน้องเต้ยอาศัยอยู่ในบ้านคนเดียว […]

บี้ภาษีแม่ค้าออนไลน์ สรรพากรผุดโปรแกรมล่อซื้อ เตรียมเสนอแผนเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ให้กับกระทรวงการคลังพิจารณา เล็งตรวจเข้มสถานประกอบการร้านอาหารกลางคืนมากขึ้น นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมได้พัฒนาโปรแกรมสำหรับตรวจผู้ประกอบการที่ค้าขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ หรืออีคอมเมิร์ซ โดยจะเข้าตรวจผู้ประกอบการ หรือร้านค้าที่มีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก เนื่องจากที่ผ่านมา ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีร้านค้าในธุรกิจอีคอมเมิร์ซระดับหมื่นร้านค้า รวมไปถึงผู้ที่ขายสินค้าผ่านไลฟ์โซเชียล เช่น การขายเสื้อผ้าผ่านการถ่ายทอดสดในเฟสบุ๊ก เพราะถือว่าเป็นผู้มีรายได้ หากถึงเกณฑ์ที่กำหนดก็ต้องเสียภาษี สำหรับโปรแกรมจับตรวจธุรกิจอีคอมเมิร์ซเริ่มใช้งานแล้วหลักการ คือ กรมจะต้องตรวจสอบว่า ผู้ประกอบการ หรือร้านค้าเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ และจะมีการเข้าสุ่มสั่งซื้อสินค้า เพื่อตรวจสอบว่า มีการออกใบกำกับภาษีหรือไม่ การเสียภาษีของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ หากเป็นประเภทบุคคลธรรมดาก็ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หากรายได้ถึงเกณฑ์ตามที่กำหนด เช่นเดียวกับผู้ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลก็ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล รวมถึงต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ด้วย นอกจากนี้กรมได้เสนอแผนเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ให้กับกระทรวงการคลังพิจารณา สาระสำคัญ คือ จะตรวจเข้มสถานประกอบการร้านอาหารกลางคืนมากขึ้น ซึ่งกรมจะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจร้านค้ากลางคืน ทั้งร้านอาหาร ผับบาร์ โดยหลักการเดียวกันกับอีคอมเมิร์ซ คือ จะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปสั่งอาหาร และขอใบกำกับภาษีจากร้านค้าต่างๆ ว่ามีและถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกต้องก็จะเข้าตรวจสอบการเสียภาษี ทั้งนี้ คาดว่าจากการตรวจจับที่เข้มข้นมากขึ้นทั้งธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และธุรกิจร้านอาหารกลางคืน จะทำให้การจัดเก็บรายได้ของกรมเป็นไปตามเป้าหมายในงบประมาณ 2560 ที่ 1.86 ล้านล้านบาท […]