บทความทั่วไป

Advertisement ห้องฉุกเฉินไม่เพียงแต่เป็นห้องที่หวาดเสียวน่ากลัวไปกับความเจ็บป่วยสารพัดโรคของคนไข้ทั้งหลาย หรือเป็นด่านต้อนรับผู้บาดเจ็บปางตายจากอุบัติเหตุเท่านั้น พักหลังมานี้เราพอจะเห็นกันบ้างว่ามีคนไข้เลือดร้อนยกพวกมาตีกันถึงโรงพยาบาลบ้าง หรือแม้กระทั่งญาติคนไข้เองที่มีเรื่องชกต่อย คุกคามเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ โดยไร้ความเกรงกลัวใดๆ โรงพยาบาลชลบุรีตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้ตั้ง "เครื่องสแกนอาวุธ" ขึ้นหน้าห้องฉุกเฉิน เพื่อป้องกันเหตุดังกล่าวนี้ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่รวมถึงคนไข้คนอื่นๆ ด้วย Advertisement โดยเฟซบุ๊ก Ittaporn Kanacharoen ได้เปิดเผยภาพและข้อมูลดังนี้     "สแกนอาวุธ ก่อนเข้า ER(ห้องฉุกเฉิน)" ใครไปใช้บริการที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลชลบุรีจะพบเครื่องมือนี้ คือ 1.เครื่องสแกนโลหะป้องกันการนำอาวุธเข้าห้องฉุกเฉิน แบบสนามบิน (กันอาวุธ) 2.ประตูอัตโนมัติที่เปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า จาก Key Card แบบไร้สายระยะไกล(กันญาติและคู่อริ) Advertisement 3.ไม้กระดกกั้นประตู ยกอัตโนมัติ แบบ ทางด่วนเลยครับ (กันคนไปออหน้าประตูและบังคับให้ผ่านที่ตรวจอาวุธ) อาจารย์ Chutidej Tabongkarakha ท่านผู้อำนวยการ เล่าให้ฟังว่าเพื่อจัดระเบียบคนที่เข้าออกห้องฉุกเฉิน และป้องกันเวลาวัยรุ่นตีกัน คู่อริอยู่ด้านในแล้วจะเข้าไปทำร้ายไม่ได้ หรือจะเอาอาวุธติดตัวเข้าไปไม่ได้เพื่อความปลอดภัยของหมอและพยาบาลหลังจากที่มีข่าวทำร้ายบุคลากรทางการแพทย์บ่อยๆ เรื่องนี้ช่วยให้คุณหมอ-พยาบาลฉุกเฉินอุ่นใจมากขึ้นนะครับ ที่อื่นจะนำไปใช้ก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์นะครับ ถามได้โดยตรงเลยที่ ผอ.รพ.ชลบุรี ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : เฟซบุ๊ก Ittaporn Kanacharoen   "สแกนอาวุธ ก่อนเข้า ER(ห้องฉุกเฉิน)" […]

โพลเผย ผู้ปกครองส่วนใหญ่มองว่าการเข้มงวดกวดขันถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมของกลุ่มวัยรุ่นเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญไม่ช่วยแก้ปัญหาในระยะยาว ขณะที่ส่วนมาดมอง ห้ามแต่งชุดนักเรียนไปห้าง เกินกว่าเหตุและละเมิดสิทธิส่วนบุคคล วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2560 สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (ระดับอุดมศึกษา) เผยการสำรวจความคิดเห็นของพ่อแม่ผู้ปกครองในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลต่อการกำหนดมาตรการสอดส่องดูแลควบคุมป้องกันพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักเรียน นักศึกษา ซึ่งได้ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 18-24 กุมภาพันธ์ จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,145 คน สรุปผลได้ดังนี้ ผู้ปกครองส่วนใหญ่ร้อยละ 65.59 เห็นด้วยที่มีหน่วยงานเฉพาะจัดเจ้าหน้าที่ช่วยสอดส่องดูแลควบคุมป้องกันพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักเรียน นักศึกษา ภายนอกสถานศึกษาและสถานที่พักอาศัย รวมถึงร้อยละ 62.18 ที่มองว่าควรจัดเจ้าหน้าที่ช่วยสอดส่องดูแลตลอด 24 ชั่วโมงเลย  ทั้งนี้ในส่วนของการเข้มงวดกวดขันในการสอดส่องดูแลควบคุมป้องกันพฤติกรรมไม่เหมาะสมของกลุ่มวัยรุ่นในช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น เทศกาลปีใหม่ วันวาเลนไทน์ เทศกาลสงกรานต์ วันลอยกระทง เป็นต้น ให้มากกว่าปกตินั้น ร้อยละ 73.62 ชี้ว่าไม่มีส่วนช่วยแก้ปัญหาการแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักเรียนนักศึกษาในระยะยาวได้จริง และร้อยละ 76.16 อยากให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดกวดขันในการสอดส่องดูแลทั้งช่วงเทศกาลสำคัญและช่วงเวลาปกติทั่วไปอย่างเท่าเทียมกัน นอกจากนี้ ยังมีความคิดเห็นต่อการแต่งชุดนักเรียน นักศึกษาไปยังสถานที่สาธารณะหลังเวลาเลิกเรียนและแนวทางการปฏิบัติในการสอดส่องดูแลควบคุมป้องกันพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักเรียนนักศึกษานั้น  – ร้อยละ 71.79 มองว่าการขอความร่วมมือให้นักเรียนนักศึกษาแต่งชุดลำลองไปใช้บริการห้างสรรพสินค้าหลังเลิกเรียนแทนการแต่งชุดนักเรียนนักศึกษาเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล  – ร้อยละ 74.24 มองว่าถือเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล  – […]

ยังคงยืดเยื้อต่อไปสำหรับกรณี "วัดพระธรรมกาย" ที่ถูก คสช. วางคำสั่งให้ใช้ ม.44 กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุม จนกระทั่ง ณ บัดนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่า "พระธัมมชโย" อดีตเจ้าอาวาสจะออกมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ยังคงมีแต่พระลูกวัดและศิษยานุศิษย์ออกมาปกป้องเป็นระยะ       ล่าสุด "พระราชธรรมนิเทศ" หรือ "พระพยอม กลฺยาโณ" เจ้าอาวาสวัดสวนแก้วและพระนักเทศน์ชื่อดัง ก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวบ้างในรายการ "ต่างคนต่างคิด" ช่องอัมรินทร์ทีวี ท่านออกปากเลยว่า "ปล่อยให้เณรตากแดด ญาติโยมมานั่งร้อน นั่งหิว ถ้าเป็นอาตมาจะบอกให้ญาติโยมกลับ อาตมาจะแอ่นอกรับเอง แก้ปัญหาเอง"   ส่วนคลิปรายการเต็มๆ กดรับชมได้ในด้านล่างนี้     ข้อมูลจาก : อัมรินทร์ทีวี

25 ก.พ.60 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 12/2560 เรื่อง การกําหนดตําแหน่งและแต่งตั้งข้าราชการให้ดํารงตําแหน่ง ความว่า โดยที่มีความจําเป็นต้องปรับปรุงการบริหารงานบุคคลในบางหน่วยงานของรัฐให้เป็นไปอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจําเป็นต้องแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วนเพื่อประโยชน์แก่การปฏิรูปและไม่อาจดําเนินการโดยวิธีการปกติได้ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้ นายพนม ศรศิลป์ พ้นจากตําแหน่ง ผู้อํานวยการสํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และให้ดํารงตําแหน่ง ผู้ตรวจราชการพิเศษประจําสํานักนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ตรวจราชการ หรือปฏิบัติหน้าที่อื่นใดตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ข้อ 2 ให้ พันตํารวจโท พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้บัญชาการสํานักคดีภาษีอากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ้นจากตําแหน่ง และให้ดํารงตําแหน่ง ผู้อํานวยการสํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ข้อ 3 ให้ข้าราชการผู้มีรายชื่อตามข้อ 1 และข้อ 2 พ้นจากตําแหน่งเดิมและไปปฏิบัติหน้าที่ในตําแหน่งใหม่ตั้งแต่วันที่คําสั่งนี้มีผลใช้บังคับการเปลี่ยนแปลงตําแหน่งภายหลังวันที่คําสั่งนี้ใช้บังคับ ให้เป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีพิจารณา ข้อ 4 ให้สํานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สํานักงบประมาณ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดําเนินการเกี่ยวกับตําแหน่งและอัตราเงินเดือนของข้าราชการดังกล่าว […]

ว่ากันว่าภาพ 1 ภาพมักซ่อนเรื่องราวได้หลายเรื่อง หลายความหมาย ภาพต่อไปนี้ก็เช่นกัน นอกจากจะเรียกเสียงฮาได้แล้ว บางทีคุณอาจต้องอึ้งว่า "เห้ย! อะไรกันนี่! เป็นไปได้ไง!"                                  

วันที่ 24 ก.พ. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จไปยังโรงเรียนฝายกวางวิทยาคม ต.ฝายกวาง อ.เชียงคำ จ.พะเยา ทรงติดตามการดำเนินงานของหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จ.แม่ฮ่องสอน และหน่วยแพทย์พระราชทานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ที่ออกให้บริการตรวจรักษาโรคแก่ราษฎร จ.พะเยา โอกาสนี้ ทรงซักถามถึงสภาพความเป็นอยู่ของผู้ป่วยที่มาเฝ้าขอรับพระราชทานความช่วยเหลือ 3 คน ทรงมีพระวินิจฉัยร่วมกับแพทย์ผู้รักษาอาการผู้ป่วย และมีพระดำรัสรับบุตรของผู้ป่วยนำเฝ้า เป็นลูกบุญธรรม ยังความปลาบปลื้มในพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้     สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี มีพระดำรัสรับบุตรของผู้ป่วยนำเฝ้า เป็นลูกบุญธรรม ยังความปลาบปลื้มในพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ในโอกาสเสด็จไปทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์ พอ.สว. ณ โรงเรียนฝายกวางวิทยาคม อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 โพสต์โดย เรารักราชวงศ์จักรี "We love Chakri Dynasty" บน 24 กุมภาพันธ์ 2017   ข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก เรารักราชวงศ์จักรี […]

เป็นที่โด่งดังในโลกโซเชียลเป็นอย่างมากสำหรับร้าน "เจ๊บุ๋ม กะเพราถาดยักษ์" ที่จังหวัดชลบุรี ที่หลายคนเห็นแล้วต้องอึ้งและกลืนน้ำลายไปตามๆ กัน เพราะอาหารตามสั่งร้านนี้มีความแปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร ยกเมนูที่คนไทยแสนคุ้นเคยอย่างผัดกะเพรามาเสริฟใส่ถาด แถมอัดแน่นทั้งปริมาณและเด็ดทั้งรสชาติ ไม่แปลกที่จะมีลูกค้าอยากมาลิ้มลองให้จุกกันไปข้าง ผู้สื่อข่าวไม่รอช้า เดินทางไปที่ร้านอาหารตามสั่ง เจ๊บุ๋ม กะเพราถาดยักษ์ เมื่อไปถึงก็ได้กลิ่นผัดกะเพราหอมคละคลุ้งไปทั่วทั้งร้าน และพบกับลูกค้าที่แน่นขนัดรอลิ้มรสความอร่อยจนเต็มร้าน ถึงขั้นมีลูกค้าบางส่วนยืนต่อคิวเพื่อรอทานเลยทีเดียว     น.ส.สุพิศ เทาศิริ หรือเจ๊บุ๋ม อายุ 28 ปี เจ้าของร้าน เล่าว่า ร้านกะเพราถาดยักษ์เปิดมาได้เพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น เดิมตนเป็นสาวโรงงาน แต่ด้วยความใจรักในการทำอาหารเลยมาเปิดร้านอาหารตามสั่ง ที่เน้นเรื่องรสชาติและปริมาณ แต่อยากหาจุดเด่นให้ลูกค้าสนใจ แว๊บแรกคิดได้ขึ้นมาว่าเมื่อตอนตนเป็นเด็กใช้จานข้าวสังกะสีเป็นภาชนะในการทาน เลยยกความคิดนี้ขึ้นมา นำถาดสังกะสีมาเป็นภาชนะแทนจานพลาสติก และเอาใบตองมารองถาด พร้อมเพิ่มปริมาณอาหารให้มากขึ้นตามขนาดของถาด     เจ๊บุ๋มยังเล่าให้ฟังต่อว่า บวกกับไอเดียที่เกิดจากลูกค้าประจำที่ทานข้าวเยอะๆ จนใส่จานปกติแล้วล้นออกมา เลยคิดแก้ปัญหาด้วย เมื่อไอเดียถาดเข้าท่า สามารถดึงดูดใจของลูกค้าได้ จึงถ่ายรูปลงเฟสบุ๊ก ทำให้มีลูกค้าสนใจและเกิดเป็นกระแสขึ้นในโลกโซเชียล ลูกค้าเดินทางมาอุดหนุนกันจนแน่นร้านทุกวัน จนทำให้ยอดขายพุ่งขึ้นมากกว่า 300 ถาดต่อวัน     ในส่วนของบรรยากาศภายในร้านก็ง่ายๆ สบายๆ เน้นความโล่ง โปร่ง […]

เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 24 ก.พ. บริเวณถนนบางขันธ์-หนองเสือหน้าโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 69 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ยังมีเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน ตั้งด่านตรวจรถและคัดกรองบุคคลที่ผ่านถนนเส้นนี้ ส่วนประตู 7 ของวัดพระธรรมกาย เจ้าหน้าที่สับเปลี่ยนกำลังเฝ้าอยู่หน้าประตูวัด โดยไม่ให้รถผ่านเข้า-ออกภายในบ้านช่วงกลางคืนโดยเด็ดขาด ส่วนถนนเลียบคลองแอล2-3 ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ควบคุมฝูงชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนตั้งด่านไม่ให้รถและบุคคลเข้าไปในพื้นที่ของวัดพระธรรมกายโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนนั่งและนอนพักผ่อน และมีการสับเปลี่ยนกำลังกันทุกๆ 6 ชั่วโมง โดยมีเจ้าของร้านเสริมสวย นำอาหารและเครื่องดื่มมาจำหน่ายเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง     เจ้าของร้านเสริมสวยระบุว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ใช้มาตรา 44 ปิดล้อมวัดพระธรรมกาย ก็ไม่มีลูกค้ามาใช้บริการ จึงนำอาหารและเครื่องดื่มมาจำหน่ายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนและประชาชนทั่วไปในราคาย่อมเยา     ส่วนบริเวณตลาดกลางคลองหลวงยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนและเจ้าหน้าที่ทหารยืนเฝ้าอยู่ที่แผงเหล็ก ซึ่งตั้งอยู่ริมฟุตปาธเพื่อป้องกันบุคคลที่สาม พร้อมป้องกันเหตุแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ส่วนพระภิกษุสงฆ์และลูกศิษย์ของวัดพระธรรมกายได้หลับนอนกันไปบางส่วนแล้ว แต่ยังมีเจ้าหน้าที่ของวัดบางคนยืนสอดส่องดูแลความเรียบร้อยตลอด 24 ชั่วโมงเช่นกัน   ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์

หลังจาก พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าของฉายา เทพเจ้าแห่งด่านขุนทด ได้ละสังขารไปเมื่อ วันที่ 16 พฤษภาคม 2558 และถึงตอนนี้ ก็มีข่าวแย่งสรีระระหว่างญาติกับทางมหาวิทยาลัยขอนแก่น  "พินัยกรรม" ที่หลวงพ่อคุณทำไว้ล่วงหน้า 2 ฉบับ จึงเป็นหลักฐานชั้นดีที่จะชี้ได้ว่าควรปฏิบัติเยี่ยงไรกับสังขารท่าน โดยฉบับแรกทำไว้เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2536 ส่วนฉบับที่สอง ทำไว้เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2543 ซึ่งหลวงพ่อคูณ ที่พูดผ่านสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ถึงการทำพินัยกรรมว่า "กูเองไม่อยากเป็นภาระกับคนอื่น เมื่อตายไปแล้วก็อยากให้ทุกคนได้ดำเนินการทุกอย่างตามที่ได้ระบุเอาไว้ในพินัยกรรม โดยกูเองก็ได้ให้ลูกศิษย์ทั้งสี่คนเป็นผู้ดูแลทุกอย่าง หลังที่กูตายไปแล้ว ส่วนเหตุผลที่กูให้เผาศพกู ก็เพราะกูไม่อยากให้เป็นภาระ ไม่อยากให้เกิดการแสวงหาประโยชน์ใดๆ จากตัวกู กูไม่ต้องการให้ศิษยานุศิษย์เดือดร้อน หรือเกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อยามที่ล่วงลับไปแล้ว     และเพื่อไม่ต้องการให้เกิดเป็นปัญหาระหว่างลูกศิษย์ด้วยกัน อย่างน้อยก็เป็นการลดภาระลงไปได้ เพราะเมื่อได้ทำพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้นมาลูกศิษย์จะได้ไม่ต้องเกิดความขัดแย้งกันเอง"โดยพินัยกรรมที่ทำขึ้นเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2543 ซึ่งมีพยานรับรอง 4 คน คือ     1. […]

เว็บไซต์ข่าวเมโทร์เผยแพร่เรื่องราว คู่รักข้ามรุ่นที่อายุห่างกันถึง 54 ปี!!! หลังฝ่ายชายอายุ 28 ปี ตกหลุมรักฝ่ายหญิงทางโทรศัพท์ แต่มารู้ความจริงที่หลังว่าเธอเป็นคุณยายอายุ 84 ปี!! Sofian Loho Dandel  หนุ่มช่างยนต์อายุ 28 ปีจากอินโดนีเซียได้รับโทรศัพท์จากนาง Martha Potu หญิงผู้ที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่เขากลับตกหลุมรักเสียงของเธอเป็นอย่างมาก พวกเขาคุยโทรศัพท์กันนานถึงชั่วโมงทั้งที่ยังไม่รู้จักกัน ก่อนที่นาย Sofian จะตัดสินใจว่าเขาต้องเจอเธอให้ได้!! แต่หลังจากที่เขาไปถึงหน้าบ้านของนาง Martha เขาแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเสียงจากปลายสายที่เขาลุ่มหลงจะเป็นหญิงม่ายอายุ 84 ปี     นาง  Martha ไม่ได้บอกอายุของเธอให้นาย  Sofian ตั้งแต่ที่ได้คุยโทรศัพท์กัน แต่เขาก็ตกหลุมรักเธอไปแล้ว และความรู้สึกของเขาจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง หลังเห็นความจริงและช็อกอยู่ไม่น้อย เขาตัดสินใจเข้าไปในบ้านเธอ และใช้เวลาอยู่กับเธอ 2 ชั่วโมง ทำให้พวกเขาได้พูดเปิดใจกัน และรู้ความจริงว่าเธออาศัยอยุ่ลำพังหลังจากสามีของเธอเสียชีวิตไปเมื่อ 10 ปีก่อน     และเธอก็มีลูกแล้ว 2 คน แต่ก็จากเธอไปทำงานอยู่ในต่างประเทศ ทางด้านนาย Sofian ผู้ไม่เคยเดทกับใครมาก่อนได้ให้สัญญากับเธอว่าเขาจะอยู่กับเธอตลอดไป และเขาหมายความแบบนั้นจริงๆ ก่อนจะกุมมือเธอแล้วขอแต่งงาน  นาง Martha […]