สาระน่ารู้

เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้รายงานอิทธิพลพายุ “เตี้ยนหมู่” ส่งผลให้เกิดอุทกภัย น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 14 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย พิจิตร ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา อุบลราชธานี นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี และพระนครศรีอยุธยา ทำให้มีประชาชนได้รับผลกระทบ 13,930 ครัวเรือน ล่าสุด ทางเพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี – PMOC ก็ได้ออกมาเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนติดตามอัปเดทสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดด้วยตนเอง ผ่าน ‘แอพพลิเคชัน’ ของหน่วยงานภาครัฐ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อแจ้งเตือน ให้คำแนะนำ รับแจ้งเหตุ พร้อมทั้งเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำได้ อย่างทันท่วงที มีทั้งหมด 4 แอพพลิเคชัน ที่สามารถดาวน์โหลดได้ในระบบปฏิบัติการ iOS และ Andriod 1. ThaiWater แอพพลิเคชั่นรายงานสถานการณ์น้ำและอากาศของประเทศไทย […]

เอพี รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นแถลงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ประชาชน ว่าขณะนี้ฉีดครบโดสได้เกินร้อยละ 50 ของประชากรทั้งประเทศแล้ว นับจากเริ่มฉีดเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ ญี่ปุ่นเริ่มต้นกระบวนการฉีดวัคซีนให้ประชาชนล่าช้ากว่าประเทศร่ำรวยอื่นๆ เนื่องจากมีระเบียบตรวจสอบและอนุมัติที่ใช้เวลานานกว่า และยังเพิ่งมาเริ่มฉีดให้กลุ่มผู้สูงอายุเดือนเมษายน เพราะขาดแคลนวัคซีนนำเข้า อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เปลี่ยนไปดีขึ้นในเดือนพฤษภาคม ญี่ปุ่นเริ่มฉีดวัคซีนได้ทั่วถึงและต่อเนื่อง เฉลี่ยวันละ 1 ล้านโดส แต่เดือนสิงหาคม สถานการณ์พลิกผันอีก เชื้อกลายพันธุ์เริ่มกลับมาระบาดวงกว้างในกลุ่มคนหนุ่มสาวที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน จนกระทบการรองรับของระบบสาธารณสุข ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นขยายเวลาประกาศภาวะฉุกเฉินที่กรุงโตเกียวและอีก 18 พื้นที่ไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. จากเดิมที่จะสิ้นสุดวันที่ 12 ก.ย.นี้ มีผลให้การกินดื่มในร้านอาหารต้องปิดเร็ว และห้ามเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นายยาสึโตชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีเศรษฐกิจ ผู้กำกับงานด้านมาตรการควบคุมโควิด เผยกับเอ็นเอชเค ว่า เมื่อถึงปลายเดือนกันยายน จำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบโดสของญี่ปุ่นจะแตะร้อยละ 60 ของประชากร ซึ่งเป็นระดับเดียวกับชาติยุโรป รัฐบาลยังพิจารณาโรดแม็ปสำหรับการคลายมาตรการต่างๆ ช่วงเดือนพฤศจิกายน เพราะตอนนั้นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศจะได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว และคนที่มีผลการตรวจเป็นลบจะได้รับอนุญาตให้เดินทางท่องเที่ยวได้ เช่นเดียวกับการจัดงานที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก ญี่ป่่นเป็นประเทศที่รับมือกับโรคระบาดโควิด-19 ได้ดีกว่าประเทศในกลุ่มพัฒนาแล้วด้วยกัน ทั้งด้านผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต โดยไม่มีการล็อกดาวน์ ตัวเลขผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 1.65 ล้านคน […]

โทรศัพท์ในท้อง? เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ทีมแพทย์ได้รับแจ้งว่าชายหนึ่ง ‘จงใจกลืน’ โทรศัพท์เข้าไป สุดท้ายทนไม่ไหวปวดท้องต้องให้แพทย์ช่วยเอาออก จากภาพการส่องกล้องในท้องของชายคนหนึ่ง ในโคโซโว แสดงให้เห็นว่าทีมแพทย์ได้พบกับ ‘โทรศัพท์’ โนเกีย รุ่นตำนาน 3310 ในท้อง หลังจากที่เขาตั้งใจกลืนมันลงไป และเขาไม่ประสงค์ที่จะแจ้งว่าทำไมเขาถึงทำเช่นนั้น โดยในคลิปที่ถูกบันทึกเอาไว้ ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในพริสตินา เมืองหลวงของโคโซโว ทีมแพทย์ได้เอกซ์เรย์และส่องกล้องขนาดเล็ก เข้าไปในระบบย่อยอาหารของผู้ชายผ่านทางปากของเขา ก่อนจะเจอเข้ากับ โทรศัพท์ที่ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนอยู่ภายในร่างกายของเขา และต้องใช้เวลากว่าสองชั่วโมงในการพยายามเอาชิ้นส่วนโทรศัพท์ออกมาอย่างปลอดภัย จนในที่สุดทีมแพทย์ก็สามารถเอาโทรศัพท์ออกมาจากท้องของชายคนนี้ได้สำเร็จ แลพยังไม่พบภาวะแทรกซ้อนใด ๆ โดยผู้ป่วยชายวัย 33 ปี รายนี้ได้เดินทางมาโรงพยาบาล จากที่เขาต้องทนกับความเจ็บปวดมาถึง 4 วันหลังเขากลืนโทรศัพท์เข้าไป ก่อนที่เขาจะตัดสินใจรับการรักษาพยาบาลในที่สุด หัวหน้าทีมแพทย์ ดร.สเกนเดอร์ เตลาคู กล่าวว่าเขาได้ดำเนินการหนึ่งในการผ่าตัดที่แปลกประหลาดที่สุดในอาชีพของเขา หลังจากที่ผลการเอกซ์เรย์ได้ยืนยันว่าผู้ป่วยชายรายนี้ ได้ใช้เวลาหลายวันไปกับโทรศัพท์มือถือที่ติดอยู่ในร่างกาย โดย ดร.เตลาคู ได้กล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า “ฉันได้รับโทรศัพท์เกี่ยวกับผู้ป่วยที่กลืนวัตถุเข้าไป และหลังจากการเอกซ์เรย์ เราสังเกตเห็นว่ามีโทรศัพท์ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน” ซึ่งคุณหมอก็ทราบในทันทีว่าคนไข้รายนี้ ‘จงใจกลืน’ โทรศัพท์เข้าไปเอง เพราะมันมีขนาดใหญ่เกินกว่าจะกลืนเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ดร.เตลาคูกล่าวว่า ผู้ป่วยปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่าเหตุใดเขาจึงกลืนโทรศัพท์ และกล่าวเสริมว่า “จากชิ้นส่วนทั้งหมด ‘แบตเตอรี’ เป็นส่วนที่น่ากังวลมากที่สุด เพราะมันอาจระเบิดในท้องของชายคนนั้นได้” เพราะแบตเตอรีโทรศัพท์มือถือ มีสารเคมีที่เป็นพิษมากมาย รวมทั้งสารหน่วงการติดไฟ โลหะหนัก เช่น ตะกั่วและดีบุก และรุ่นเก่าบางรุ่นอาจมีสารปรอทประกอบด้วย แต่โชคดีที่คนไข้รายนี้ยังไม่ได้รับสารพิษ ที่อาจรั่วไหลออกมาได้ และด้วยเหตุผลทางกฎหมาย […]

ฮือฮา! เด็กไทย ‘อชิตพล คีรีรมย์’ เซ็นสัญญาค้าแข้ง ‘เอาก์สบวร์ก’ ในบุนเดสลีก้า เมื่อวันที่ 6 กันยายน “ไม้” อชิตพล คีรีรมย์ กองหน้า “ช้างศึก” ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ย้ายจากทีเอสวี โรเซนไฮม์ ทีมในศึก บุนเดนสลีก้า 4 เยอรมนี ไปร่วมทีมดัง เอาก์สบวร์ก ในบุนเดสลีก้า ลีกสูงสุดของประเทศเยอรมนี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายหลังจากที่ผ่านการทดสอบฝีเท้า ซึ่งเป็นที่น่าพอใจสำหรับทีมสตาฟฟ์โค้ชของสโมสรแห่งใหม่ อย่างไรก็ตาม อชิตพล คีรีรมย์ จะยังไม่ได้ก้าวขึ้นสู่ทีมใหญ่ของ เอาก์สบวร์ก ในการวาดลวดลายโชว์เพลงแข้งในศึก บุนเดสลีก้า เยอรมนี ในทันที แต่ทว่าตัวเขาต้องปรับความคุ้นเคยให้ชินกับทีมเอาก์สบวร์ก 2 ในเรกิโอนาลลีก้า เสียก่อน ถ้าหากผลงานเป็นที่น่าพอใจก็จะได้เลื่อนขั้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ต่อไป อนึ่ง อชิตพล คีรีรมย์ เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังที่ประเทศเยอรมนีด้วยการเข้าสู่ระบบอคาเดมีของ ทีเอสวี โรเซนไฮม์ ก่อนขยับขึ้นไปเล่นในทีมชุด รุ่นอายุไม่เกิน 19 […]

เปิดขั้นตอนรับ ATK ฟรี คนละ 2 ชุด ห่างกันครั้งละ 5 วัน จาก สปสช. คัดกรองผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” สามารถรับได้ที่คลินิก-ร้านขายยา วันที่ 1 กันยายน 2564 กรณี องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ได้ลงนามจัดซื้อชุดตรวจโควิด-19 แบบ Antigen Test Kit (ATK) จำนวน 8.5 ล้านชุดแล้ว ต่อมา นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ระบุว่า สปสช.ได้หารือเตรียมความพร้อมในการกระจายชุดตรวจ ATK ไว้แล้ว พื้นที่สีแดง คนละ 2 ชุด เบื้องต้นจะกำหนดให้กระจายในพื้นที่สีแดงก่อน โดยกระจายให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงในชุมชนแออัด และประชาชนกลุ่มเสี่ยงทั่วไป ผ่านหน่วยบริการและร้านยา ซึ่งจะได้รับชุดตรวจ ATK คนละ 2 ชุด เว้นระยะตรวจห่างกัน 5 วัน […]