สาระน่ารู้

Advertisement อาจารย์ใหญ่ คือ ชื่อเรียก ของผู้อุทิศร่าง (ศพ)เพื่อใช้ในการศึกษาค้นคว้า  สภาพร่างกายและอวัยวะยังคงมีความอ่อนนุ่มเว้นแต่เพียงสีผิวของศพที่อาจมีสีคล้ำลงกว่าคนธรรมดาเล็กน้อยเท่านั้น Advertisement   อาจารย์ใหญ่ในปัจจุบันมี 3 รูปแบบคือแบบเก่า แบบแช่แข็ง และแบบนุ่ม อาจารย์ใหญ่เเบบเก่า  โดยอาจารย์ใหญ่แบบเก่านั้นมีการผลิตและใช้มานานกว่า 20 ปีแล้ว ขั้นตอนในการผลิตอาจารย์ใหญ่แบบเก่าคือ เมื่อผู้แสดงความจำนงบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่เสียชีวิตลง เจ้าหน้าที่จะรีบไปรับศพมาทันที เมื่อรับศพมาแล้วก็จะนำมาฉีดน้ำยาซึ่งมีส่วนผสมของฟอร์มาลีนมากถึง 10% จากนั้นจึงนำมาลงบ่อดองไว้นานประมาณ 2 ปี จึงจะนำไปใช้ได้        ข้อดีของอาจารย์ใหญ่แบบเดิมคือ ค่าใช้จ่ายต่อร่างต่ำที่สุด  เก็บร่างไว้ใช้ได้นานตลอดปีการศึกษาหรืออาจใช้ได้นานถึงปีกว่า แต่มีข้อเสียคือ ร่างจะแข็ง ผิวหนัง ข้อต่อ เส้นเอ็น กล้ามเนื้อจะไม่มีความยิดหยุ่นเหมือนคนจริงๆ นอกจากนี้ การใช้ฟอร์มาลินจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อจมูก และอาจเป็นสารก่อมะเร็ง   อาจารย์ใหญ่แบบแช่แข็ง จะต้องตรวจเลือดร่างกาย เมื่อผลตรวจเป็นลบคือไม่มีเชื้อ จะนำไปแช่แข็งในตู้แช่ที่อุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ร่างกายและเลือดแข็งตัว สามารถแช่เก็บไว้ได้นานจนกว่าจะมีการนำร่างออกมาใช้ ซึ่งเมื่อจะนำร่างออกมาใช้จะต้องนำออกมาละลายเป็นเวลา 3 วัน ร่างและเลือดที่แข็งจากความเย็นก็จะกลับมาเป็นเช่นเดิมเหมือนเมื่อครั้งยังมีชีวิต เป็นอาจารย์ใหญ่ที่มีลักษณะเหมือนมนุษย์มากที่สุด ยังคงมีน้ำเลือดอยู่ในร่างกาย […]

ประเทศไทยเป็นสวรรค์สำหรับคนรักผลไม้และมีชื่อเสียงเกี่ยวกับผลไม้เมืองร้อนและเมืองหนาว ผลไม้ไทยมีทั้งรสหวาน รสเปรี้ยว หาทานได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง”ทุเรียน”   สำหรับคนรักทุเรียนแล้ว นับเป็นเวลาที่เฝ้ารอ เพราะเมื่อใกล้หน้าผลไม้เข้ามา ก็จะมีมหกรรมและโปรโมชั่นต่างๆ ที่ล่าสุดมีกิจกรรม กับ  "บุฟเฟ่ต์ทุเรียนหมอนทองที่สวนละไม"  อ.วังจันทร์ จ.ระยอง   [ads]   และยังมีผลไม้อีกหลายชนิดอาทิ บุฟเฟ่ต์ทุเรียน เงาะ มังคุด ส้มโอ ชมพู่ ลำไย สละแก้วมังกร ลองกอง มะเฟือง มะยงชิด องุ่น ฯลฯ และมีเจ้าหน้าที่ให้ความรู้และข้อมูลตลอดการชมสวน โดยเปิดบริการให้ลูกค้าและนักท่องเที่ยวทุกท่านเข้ามาสัมผัสบรรยากาศความสุข และลิ้มลองรสชาติทุเรียนและผลไม้ต่างๆ ทุกวันตั้งแต่เวลา 8:00-17.00 น. เพื่อสนับสนุนผลไม้ไทยและอุดหนุนคนไทยด้วยกันน่ะค่ะ   [ads=center]   Illustration & Reference by: [online] www.khaomai.com [online] www.serichon.us  

ปัญหากลิ่นตัวแรง มาจากหลายสาเหตุ แต่ทราบกันหรือไม่ว่า? ยังมีอาหารอีกหลายประเภทที่คาดไม่ถึง  อาจเป็นต้นเหตุของปัญหากลิ่นตัวแรงเช่นเดียวกัน  อาหารเหล่านี้ได้แก่   เนื้อแดง ทั้งเนื้อหมู เนื้อวัว หรือแม้แต่ ตับ ทั้งนี้ก็เพราะกรดอะมิโนในเนื้อแดง เมื่อถูกย่อยจะก่อให้เกิดสารชนิดหนึ่งซึ่งมีผลต่อการเกิดกลิ่นตัว โดยจะถูกขับออกมาทางต่อมเหงื่อของร่างกาย และทำปฏิกิริยากับแบคทีเรียที่หมักหมมอยู่บนผิวหนัง ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ อาหารฟาสต์ฟู๊ด มีนักวิจัยยืนยันว่าปริมาณน้ำตาลจำนวนมากที่มีในอาหารเหล่านี้  นอกจากจะทำให้คุณเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและภาวะน้ำตาลในเลือดสูงหลังการรับประทานอาหารขยะทั้งหลายแล้ว อาจทำให้ร่างกายของคุณผลิตเหงื่อออกมามากขึ้น และเมื่อเหงื่อมาเจอกับแบคทีเรียบนผิวของคุณ ก็อาจกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้เช่นเดียวกัน   [ads]   อาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ (Low-carb diets) เมื่อคุณรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ ร่างกายก็จะเผาผลาญไขมันแทนการเบิร์นแป้งได้ แต่ก็อาจจะได้กลิ่นตัวมาเป็นของแถมได้อีกเช่นเดียวกัน ก็เพราะกระบวนการเผาผลาญไขมันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณขับเหงื่อที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมาได้   ชีส เนย และ นม ต่างๆ อาหารประเภทชีส และ นม เนย ต่างๆ ซึ่งนอกจากจะย่อยยากแล้ว ยังเป็นตัวการอันก่อให้เกิดสารไฮโดรเจน ซัลไฟด์ หรือแก๊สไข่เน่าในร่างกาย ดังนั้นจึงต้องจำกัดปริมาณการบริโภคนมเนยแต่พอเหมาะ   ทราบถึงอาหารต้นเหตุกลิ่นตัวแรงกันไปแล้ว ก็พยายามหลีกเลี่ยงหรือจำกัดปริมาณการบริโภคให้พอดีกับความต้องการของร่างกาย นอกจากนี้ก็ใส่ใจในสุขภาพความสะอาดของร่างกาย เพียงเท่านี้คุณก็จะหมดความกังวลกับปัญหากลิ่นตัวอันไม่พึงประสงค์แล้วค่ะ   [ads=center] Illustration […]

ส่วนผสม 1.กุ้ง ตัดหนวด ล้างให้สะอาด 2.วุ้นเส้น แช่น้ำให้นิ่ม ตัดลดความยาว ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ 3.น้ำปรุงรสวุ้นเส้น ผสม ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว ซีอิ็วดำ พริกไทยป่น และน้ำซุุป คนให้เข้ากันดี 4.มันหมู หั่นเป็นแผ่นบางๆ 5.ขิง ปอกเปลือก ล้างสะอาด หั่นเป็นแว่น 6.รากผักชี/กระเทียม/พริกไทยเม็ด บุบพอแหลก 7.ต้นหอม/คื่นช่าย หั่นเป็นท่อนยาว [ads] วิธีทำ 1.ผสมน้ำปรุงรสกับวุ้นเส้น คลุกเคล้าให้เข้ากัน 2.รองพื้นภาชนะที่จะใช้อบด้วยมันหมู ขิง รากผักชี กระเทียม พริกไทย 3.เรียงกุ้ง และใส่วุ้นเส้นลงไปชั้นบนสุด ปิดฝาภาชนะและอบด้วยไฟแรงสักครู่ พอกุ้งและวุ้นเส้นสุกทั่วถึงกันดีแล้วก็โรยหน้าด้วยต้นหอมและใบคื่นช่ายเป็นลำดับสุดท้าย *** กินคู่กับน้ำจิ้มจิ๊กโฉว่ หรือจะทำน้ำจิ้มซีฟู้ดแซบๆ ไว้สำหรับจิ้มกุ้งด้วยก็อร่อยเข้ากันดีจ้า   ขอขอบคุณเจ้าของสูตรโดย : Usa-Sa Tabtim   [ads=center]

ใครที่กำลังคิดว่า ชีวิตนี้คงหนีไม่พ้น “ต้องขึ้นคาน” และต้องดูแลตัวเองได้ด้วย “ตัวเอง” วันนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับการวางแผนการเงินยามเกษียณ(แบบโสดๆ) จาก เวปไซด์เพื่อการออมเงิน คอลัมน์ อภินิหารเงินออม มาเป็นแนวทางเพื่อวางแผนชีวิตยามแก่ชรา แบบไร้คนดูแลมาฝากค่ะ   [ads]   ต้องรู้ว่าตัวเองควรมีเงินไหร่ ให้คุณลองนึกคร่าวๆว่าต้องการใช้เงินต่อเดือนกี่บาท เมื่อต้องอายุ 60 ปีขึ้นไป(อายุจนถึง 80 ปี) ในตารางนี้จะแสดงจำนวนเงินใช้จ่ายให้ตั้งแต่ 10,000-50,000 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว   อย่าเพิ่งตกใจ!!  เมื่อคุณรู้จำนวนเงินที่ควรจะมีใช้ในช่วงแก่ชรา  จึงต้องเริ่มต้นออมเงินได้แล้ว โดยเลือกการออมเงินในรูปแบบต่างๆ เช่น การออมทรัพย์ หรือการลงทุนต่างๆเพื่อให้เงินจำนวนหนึ่งที่เก็บออมไว้ งอกเงยและเพิ่มพูนได้ทันเวลา(เริ่มออมเงินเร็ว ยิ่งมีเงินมาก)   หากอนาคตเราไม่คาดหวังให้ใครมาดูแล จงเป็นคนโสดที่มีเงิน แล้วทุกอย่างจะเข้ามาเอง น่ะค่ะ    [ads=center] Illustration & Reference by: [online] www.wisebread.com [online] www.howtomintmoney.com

ขณะนี้คนไทยนิยมบริโภคเกลือเพิ่มขึ้น เช่นอาหารรสจัด ที่จะมีเกลือมากกว่าอาหารทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ผลไม้จิ้มเกลือ”     ผลไม้ต่างๆ เช่น ฝรั่ง องุ่น มะม่วง นำมาคลุกจิ้มกินกับเกลือที่มีสารอันตรายอย่างโซเดียม คือ เกลือแกง หรือ โซเดียมครอไรต์ และที่ไม่แสดงรสเค็มแต่มีโซเดียม เช่น ผงชูรส  หรือ โมโนโซเดียมกลูตาเมท อีก   [ads]   ผู้ที่ชอบกินเค็มจึงมักพบว่าเสี่ยงต่อการเกิดภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนได้ง่าย โดยสัญญาณที่บอกว่าจะติดรสเค็ม คือ 1.กินอาหารแปรรูปเป็นประจำ 2.บวม สังเกตจากท้องป่อง หน้าบวม แขนบวม กดแล้วคืนตัว 3.ชอบอาหารรสจัด เช่น กินเผ็ดจัดก็จะกินเค็มตามมา 4.ชอบขนมกรุบกรอบ จำพวกมันฝรั่งทอด ถั่วทอด 5.ชอบเติมเครื่องปรุงหรือซอส และ 6.ตรวจพบภาวะโซเดียมในเลือดสูง คอแห้ง กระหายน้ำ ปวดศีรษะ หงุดหงิด ความดันสูง ฯลฯ   วิธีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดกินเค็ม คือ เลือกกินอาหารสดจากธรรมชาติ เน้นผัก ผลไม้สด ลดกินอาหารแปรรูป […]

เมื่อออกไปข้างนอก ก็มักจะพบเห็นผู้คนนั่งก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือือ โดยไม่มีปฎิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง การใช้โซเซียลมากเกินไป ย่อมส่งผลเสียในหลายด้านหากแบ่งเวลาไม่เหมาะสม   งานวิจัยของ ดร.อันเดร อัสเซน จากมหาวิทยาลัยเอบร์เกน ประเทศนอร์เวย์ พบว่า การติดโซเซียลเน็ตเวิร์คคล้ายกับอาการของผู้ที่เสพติดยาเสพติดและแอลกอฮอล์อย่างมาก       โดยใช้เกณฑ์พื้นฐานในการวัดดังนี้ (1)แทบจะไม่ (2)นานๆครั้ง (3)บางครั้ง (4)บ่อยครั้ง (5)บ่อยมาก   [ads]   ลองอ่านข้อความด้านล่างแล้วบันทึกคำตอบไว้…… ใช้เวลาส่วนใหญ่คิดถึงหรือเอาแต่วางแผนการใช้โซเซียลเน็ตเวิร์ค ใช้โซเซียลเน็ตเวิร์คเพื่อที่จะลืมปัญหาส่วนตัว มีความพยายามที่จะลดการใช้โซเซียลเน็ตเวิร์ค แต่ไม่สำเร็จ รู้สึกกระสับกระสายหรือร้อนอกร้อนใจ ไม่ได้ใช้โซเซียลเน็ตเวิร์ค ใช้โซเซียลเน็ตเวิร์คมากจนกระทบต่อการงาน หรือ การเรียน   หากตอบว่า บ่อยครั้ง หรือบ่อยมาก อย่างน้อย 3 ข้อขึ้นไป ถือว่าติดโลกออนไลน์แล้วค่ะ ดังนั้นควรใช้โซเซียลเน็ตเวิร์คแต่พอดี เพราะการใช้มากเกินไป นอกจากทำให้เสียเวลาแล้ว ยังทำให้เสียสุขภาพด้วยน่ะค่ะ   [ads=center]   Illustration & Reference by: [online] www.redorbit.com […]

ประโยชน์ใหม่ของการนำสมาร์ทโฟนมาประยุกต์ใช้ดูแลสุขภาพ ทราบแล้วต้องยกนิ้วให้เลย       หนุ่มเดเนียล อีโวค ลี,แดเนียล ซินน์ และแดเนียล เชชอง ลี นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งเมืองแคลิฟอเนีย รัฐแซนดีเอโก ประเทศสหรัฐอเมริกา คิดค้นที่อุดหูไร้สายที่ชื่อว่า “hash earplugs” ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เพื่อเพิ่มเสียงธรรมชาติหรือเสียงสังเคราะห์ เพื่อลดทอนเสียงรบกวนที่ไม่ต้องการ โดยเล่นต่อเนื่องได้ 10 ชั่วโมง ช่วยให้นอนหลับสบายยิ่งขึ้น [ads]   โดยที่อุดหูนี้จะมีประโยชน์ต่อ ผู้ที่ต้องเดินทางบ่อยๆ ผู้ที่ต้องนอนข้างๆคนที่มีปัญหานนอนกรน หรือผู้ที่ต้องการความสงบในชีวิตประจำวัน และในอนาคตยังจะมีการพัฒนาอุปกรณ์ชิ้นนี้ ให้เชื่อมกับอุปกรณ์อื่นๆได้หลากหลายยิ่งขึ้น [ads=center]   Illustration & Reference by: [online] www.gizmag.com [online] www.huffingtonpost.com

วันนี้จะมานำเสนอการออกกำลังกายรูปแบบใหม่ ใช้เวลาเพียงแค่ 8 นาทีเท่านั้น!!! เวลาแค่ 8 นาที แต่เบิร์นไขมันทั่วร่างกายเลยนะ!! มาดูกันเลยจ้าว่ามีท่าไหนกันบ้าง 1. เต้น เปิดเพลงแดนซ์มันๆเลยจ้า แล้วออกสเต็ปให้เต็มที่ไปเลย ยิ่งขยับมากเท่าไหร่ แคลอรี่ก็ยิ่งเบิร์นมากขึ้นเท่านั้นนะจ๊ะ   2. กระโดดตบ ไม่สำคัญว่าจะกระโดดสูง หรือกางขากว้างแค่ไหน ขอแค่เกร็งกล้ามเนื้อขาด้านในตอนที่ขาอยู่ชิดกันก็พอแล้ว [ads] 3. Plank เปลี่ยนการรับน้ำหนักจากมือมาเป็นข้อศอกแทน ขึ้นลงๆไปเลยจ้า   4. ยกขาไปด้านข้าง หาที่จับแล้วยกขาไปด้านข้าง ขึ้นลงข้างละ 30 ครั้ง ตอนยกขึ้นให้กดเท้าลง ตอนเอาขาลงให้ดันเท้าขึ้น    5. Burpee กระโดดขึ้นไปให้ตัวท่อนบนหันไปทางซ้าย ท่อนล่างหันไปทางขวา เท้าชิดกัน พอลงมาแล้วเอนตัวไปด้านหน้าเพื่อดันพื้น ดันเสร็จแล้วกระโดดขึ้นมาท่าเดิม ทำแบบนี้ซ้ำไปเรื่อยๆจ้า ท่านี้เหนื่อยมากแต่เรียกเหงื่อได้สุดๆ   6. กระโดด กระโดดไปทางซ้าย-ขวา หน้า-หลัง สลับกันโดยให้ปลายเท้าชิดกัน   7. ต่อยมวย ยืนท่านักมวย ขาซ้ายอยู่หน้า […]

ส่วนผสม 1.ขนมจีน 2.ปลาทู 3.ต้นหอม/ผักชี 4.มะนาว 5.น้ำปลา 6.น้ำตาล 7.พริกป่น [ads] วิธีทำ – นำปลาทูไปทอดเสร็จแล้วแกะเนื้อปลาทูเตรียมไว้ – ผสมมะนาว น้ำปลา น้ำตาล พริกป่น ปรุงรสตามชอบ คลุกเคล้าให้เข้ากัน – ใส่ขนมจีน ต้นหอมผักชี ปลาทู คลุกให้เข้ากัน – สุดท้ายตักใส่จาน..พร้อมเสริฟ   ขอบคุณสูตรโดยคุณ : Aungsumalin Fakkaelek [ads=center]