20 สาระพัดประโยชน์จาก “มะนาวลูกเล็กๆ” !!

Advertisement 20 สาระพัดประโยชน์จาก "มะนาวลูกเล็กๆ" !!   Advertisement   มะนาวเป็นสิ่งที่ทุกบ้านมักจะมีติดตู้เย็นไว้เสมอเอาไว้ทำอาหารหรือจะเอามาทำเป็นเครื่องดื่มแก้อาการเจ็บคอ นอกจากมะนาวจะมีประโยชน์ในด้านโภชนาการแล้วมะนาวยังมีสรรพคุณเป็นยาอีกด้วย วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับประโยชน์มากมายของมะนาวกันค่ะ     1. เอาฟองน้ำจุ่มน้ำมะนาวแล้วเอาไปใส่ในตู้เย็น จะสามารถขจัดกลิ่นเหม็นของตู้เย็นได้ 2. น้ำมะนาวสามารถควบคุมความดันโลหิต บรรเทาอาการเวียนศีรษะและคลื่นไส้ได้ 3. มะนาวสามารถช่วยให้เราหายจากความเครียดและอารมณ์ดีขึ้น ช่วยให้เราหายจากความเมื่อยล้าและสดชื่นได้ 4. เขียงมีกลิ่น เอามะนาวมาถูสามารถขจัดกลิ่นออกจากเขียงได้ 5. มะนาวสามารถช่วยแก้ปัญหาการหายใจได้ เช่นขับเสมหะบรรเทาอาการหอบหืด 6. มะนาวเป็นยาขับปัสสาวะระหว่างการถ่ายปัสสาวะสามารถล้างสารพิษออกและช่วยลดการอักเสบได้ 7. มะนาวเป็นสารต้านอนุมูลอิสระธรรมชาติ ช่วยลดริ้วรอยได้ 8. เอาน้ำมะนาวหนึ่งช้อนฉีดพ่นบนผักและผลไม้สามารถล้างยาฆ่าแมลงออกได้ 9. น้ำมะนาวสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้เวลาเจ็บคออมน้ำเกลือแล้วแต่ยังไม่หาย ลองอมน้ำมะนาวดูสิ 10. ถังขยะมักจะมีกลิ่นเหม็นเน่า เอาชิ้นมะนาวที่เหลือหรือเปลือกมะนาวโยนลงไปด้านล่างของถังขยะ จะสามารถช่วยให้กลิ่นนั้นหายได้ Advertisement 11. แอปเปิ้ลที่หั่นแล้วจะกลายเป็นสีเหลือง แค่บีบน้ำมะนาวลงไปนิดเดียวแอปเปิ้ลก็จะไม่เปลี่ยนเป็นสีเหลือง 12. อาหารที่เรากินทุกวันมักจะมีสารกันบูดและรสเทียมค้างไว้ในร่างกายและเลือดของเรา มะนาวสามารถล้างสารต่างๆที่ตกค้างในร่างกายออกได้อย่างดี ทำให้เลือดของเรามีความบริสุทธิ์มากขึ้น 13. มะนาวสามารถช่วยลดอาการเลือดออกที่เหงือกหรือตามไรฟันและลดฟันผุได้ 14. ทาน้ำมะนาวบนฝ้ากระ หลังจากนั้น15 […]

7 วิธี !! ดูแล “ตับ” สุดที่รักของคุณให้แข็งแรง

7 วิธี !! ดูแล "ตับ" สุดที่รักของคุณให้แข็งแรง   หากดูแลไม่ดี อวัยวะส่วนนี้ก็จะเกิดโรคภัย ซึ่งสามารถคร่าชีวิตของคุณได้ เรามาดูกันว่า เราจะดูแลตับของเราได้อย่างไรบ้าง   หลักการการล้างพิษของตับ: ในกระบวนการเผาผลาญ อาหารและยาที่เรากินเข้าไปหรืออากาศที่มีสารพิษที่เราหายใจเข้าไปในร่างกาย และอุจจาระที่ค้างอยู่ในร่างกาย ทั้งหมดนี้ก็จะถูกการล้างพิษและขับออกโดยตับ หากตับมีปัญหา ร่างกายของเราก็จะมีอาการดังต่อไปนี้: 1. รู้สึกเหนื่อยมากโดยไร้เหตุผล 2. รู้สึกหงุดหงิดวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าโดยไร้เหตุผล 3. ตาแห้ง 4. ช่วงเอวมีไขมันเพิ่มขึ้น 5. ตัวมีกลิ่นเหม็น 6. การนอนไม่หลับบ่อย 7. ปากแห้ง 8. ไมเกรน 9. หน้าอกหลังจะมีจุดแดงขึ้นมา 10. เล็บมีลายเส้นขึ้นมา 11. ผมมักจะมันมาก 12. อารมณ์ไม่ดี   หากคุณมีอาการข้างบนสามข้อหรือมากกว่าสามข้อ แสดงว่าคุณก็มีปัญหาทางตับแล้ว คุณต้องเริ่มดูแลตับของคุณให้ดีๆด้วย 7 วิธีที่จะนำเสนอด้านล่าง   1 . มีอารมณ์ที่ดีและมีความสนุกสนานจะสำคัญที่สุด เมื่อตับไม่มีปัญหา […]

แจกฟรี !! 9 สูตรเด็ดการ “ชงกาแฟ” จากทั่วโลก ด้วยตนเองใน 3 นาที

แจกฟรี!! 9 สูตรเด็ดการ "ชงกาแฟ" จากทั่วโลก ด้วยตนเองใน 3 นาที   คอกาแฟห้ามพลาด…..ชมคลิปวิดิโอสาธิตการชงกาแฟสูตรดังของชาติต่างๆ จากประเทศโปรตุเกส, เยอรมนี, เวียดนาม, ฝรั่งเศส, กรีซ, ฮ่องกง, อิตาลี, ออสเตรีย และไอร์แลนด์ ภายในสามนาที ง่ายๆ ด้วยตนเองที่บ้าน   [ads]     [ads=center]   ขอบคุณที่มาจาก buzzfeed.com

5 วิธี ! ช่วยทำให้ “ฟันขาว” วิ๊ง

บางทีการแปลงฟันก็ไม่ใช่วิธีการทำความสะอาดฟันได้จนหมดจด ถ้าฟันมีคราบเหลืองหรือคราบดำ เวลาคุยกับเพื่อนก็จะรู้สึกไม่มั่นใจ ลองดูวิธีเหล่านี้ที่จะทำให้ฟันสะอาดหมดจด   1. กำจัดรอบคราบที่เคลือบฟันอยู่ใน 5 นาที     วัสดุ : สตอเบอรี่  1 ลูก ผงฟู ½ ช้อน วิธีทำ : บดสตอเบอรี่ให้เละที่สุด ผสมผงฟูลงไป ใช้แปรงสีำฟันขนนุ่มชุบสิ่งที่เราผสมไว้แล้วถูให้ทั่วฟันทุกซี่ ผ่านไป 5 นาทีแปรงฟันด้วยยาสีฟันตามปกติ แล้วบ้วนปาก อาจจะมีเม็ดของสตอเบอรี่ไปติดตามซอกฟัน ก็สามารถเอาออกง่ายๆโดยใช้ไม้จิ้มฟัน อีกอย่างที่ต้องเตือนสำหรับคนที่ชอบใช้วิธีนี้คือ ไม่ควรทำบ่อยเกินไปเพราะกรดในสตอเบอรี่สามารถทำลายเคลือบฟันได้ สัปดาห์ละครั้งเป็นตัวเลขที่เหมาะสมที่สุด   2. เอาเปลือกส้มไปตากแห้ง บดให้เป็นผง แล้วใช้แปรงฟันพร้อมยาสีฟัน ไม่นานฟันก็จะขาวจั๊วะ   3. กลั้วปากด้วยน้ำส้มสายชู 1-3 นาที แล้วบ้วนออก หลังจากนั้นแปรงฟัน ผลลัพธ์ดีเว่อ แต่คุณจะรู้สึกว่าฟันเปรี้ยวๆชาๆ (ความรู้สึกจะค้างอยู่ในปากประมาณ 2 นาที) หลังจากนั้นก็จะหายไป ควรทำแค่สัก 1-2 เดืิอนครั้งก็พอ แถมยังกำจัดกลิ่นปากได้ด้วย […]

ต้องลอง !! 11 ท่าบริหาร “ลดพุง” เพื่อหน้าท้องแบนราบใน 2 สัปดาห์

ต้องลอง !! 11 ท่าบริหาร "ลดพุง" เพื่อหน้าท้องแบนราบใน 2 สัปดาห์   ท่าการออกกำลังกายทั้งหมดนี้ คุณเพียงแค่เลือกทำหนึ่งท่าเป็นเวลาสิบนาทีต่อวัน ประมาณสองสัปดาห์ต่อมากล้ามเนื้อที่อยู่หน้าท้องของคุณก็จะค่อยๆแข็งแรง และโค้งเอวก็จะเห็นได้ชัดเลยทีเดียว แต่การออกกำลังกายแอโรบิกเหล่านี้ควรค่อยๆทำ ไม่งั้นจะทำให้คุณเป็นบาดเจ็บได้ ถ้าเพิ่งเริ่มทำเป็นครั้งแรกเราแนะนำให้ทำยี่สิบครั้งก็พอ หลังจากนั้นค่อยๆเพิ่มขึ้นตามสภาพร่างกายของคุณเอง ไม่ต้องทำเกินตัวแต่ต้องทำทุกวันเพื่อจะได้หน้าท้องที่สวยงาม   1. ช่วยบริหารหน้าท้องและลดไขมัน (คำแนะนำ: เวลาย่อหัวเข่าลงไม่ควรต่ำเกินไป)   2.เสริมสร้างกล้ามเนื้อของหน้าท้องและด้านหลัง   3. บริหารด้วยการหันลำตัวช่วงบนสลับซ้ายและขวา     4.บริหารเส้นหลังและการป้องกันกระดูกปากมดลูก   [ads]   5.ใช้มือและเท้ามาช่วยจะสามารถทำให้ร่างกายทั้งด้านซ้ายและขวาสมดุล   6.ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลของแขน   7.กระชับกล้ามเนื้อหน้าท้อง   8.ลดหน้าท้องของคุณ     9.เพิ่มความยืดหยุ่นให้ต้นขาและช่วยให้แขนแข็งแรง     10.วิธีการที่หนึ่งที่ใช้ลดไขมันของสะโพกและฝึกให้กล้ามเนื้อของต้นขาแข็งแรง   11.วิธีการที่สองที่ลดไขมันของสะโพกและฝึกให้กล้ามเนื้อของต้นขาแข็งแรง       [ads=center]   ขอบคุณที่มาจาก http://www.liekr.com/post_133472.html

ต้องระวัง !! “ซอสเย็นตาโฟ” อันตราย มากกว่าที่คุณคิด

ต้องระวัง !! "ซอสเย็นตาโฟ" อันตราย มากกว่าที่คุณคิด    ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ นับเป็นอีกหนึ่งอาหารที่คนไทยรู้จักและนิยมเลือกรับประทาน ยิ่งสีซอสเย็นตาโฟแดงมากเท่าไหร่ยิ่งกระตุ้นความอร่อยให้กับคนกินมากเท่านัน แต่คุณควรรู้ไว้เลยตั้งแต่ตอนนี้ว่า ซอสเย็นตาโฟ นั้นอันตรายมากกว่าที่คุณคิด        สาเหตุที่ซอสเย็นตาโฟ อันตรายกว่าที่คิด เป็นเพราะ ซอสเย็นตาโฟที่เรารับประทานเข้าไปส่วนใหญ่ เป็นสีที่ผู้ผลิตซอสนำมาจาก สีปองโซ 4 อาร์ ซึ่งสีชนิดนี้เป็นสีผสมอาหารที่สังเคราะห์ขึ้นมา ถ้าใช้หรือรับประทานสีชนิดนี้มากเกินไป อาจเป็นอันตรายต่อคนรับประทานได้       เนื่องจากสีปองโซ 4 อาร์ ในซอสเย็นตาโฟ เป็นสีสังเคราะห์ที่มีโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว สารหนู โครเมียม สังกะสี เป็นส่วนผสม สารหนูมีผลทำให้ร่างกาย อ่อนเพลีย กล้ามเนื้ออ่อนแรง ระบบทางเดินอาหารบกพร่อง และทำให้โลหิตจาง   [ads]         ส่วนสารตะกั่วที่อยู่ในสีซอสเย็นตาโฟ เป็นพิษต่อระบบประสาท ทำให้เกิดรอยสีม่วงคล้ำที่เหงือก มือตก […]

5 วิธีลด..สะโพกใหญ่

  สำหรับผู้หญิงสะโพกใหญ่ มาดูกันว่าเราสามารถลดสะโพกด้วยวิธีไหนได้บ้าง   1.การควบคุมอาหาร      การควบคุมอาหารจะต้องคุมทั้งปริมาณและเลือกชนิดของอาหาร เลือกแป้งที่มาจากธัญพืช(แป้งเชิงซ้อน) เช่นข้าวกล้อง ผัก ผลไม้ แทนน้ำตาล ลดอาหารที่ให้ความหวานและไขมันสูงเเละทานในปริมาณพอเหมาะ 2.หมั่นออกกำลังกาย      โดยการออกกลังกายแบบคาร์ดิโอหรือแบบแอโรบิก วันละ 30- 45 นาที เน้นท่าบริหารลดสะโพก หรือเลือกโยคะเพื่อเสริมสะโพกและต้นขาให้กระชับขึ้น อีกทั้งคุณควรหาโอกาสลุกเดินให้บ่อยเท่าที่จะทำได้ เพราะการนั่งแช่อยู่กับที่เป็นเวลานานๆ ทำให้มีไขมันมาสะสมสะโพกจึงดูใหญ่ขึ้น   [ads]   3.การนวดสะโพก    การนวดจะช่วยสลายไขมัน ผลักกล้ามเนื้อให้กระชับและเข้าที่ขึ้น การนวดด้วยวิธีธรรมดา ทำได้ด้วยการใช้น้ำมัน เจลนวด หรือครีมนวดสลายไขมันต่างๆ ขัดนวดวนบริเวณสะโพกประมาณ 20-30 นาทีอย่างเป็นประจำ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต รวมทั้งขจัดสลายเซลลูไลท์และไขมันที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง ทำให้สะโพกกระชับและและผิวเนียนขึ้น อีกวิธีหนึ่งคือการนวดด้วยคลื่นไฟฟ้าอ่อนๆหรือ RF (Radio Frequency) เป็นการรักษาทางการแพทย์ที่ปลอดภัยสูง แต่อาจจะต้องทำหลายครั้งกว่าจะเห็นผลที่ชัดเจน 4.การฉีดสะโพก      เป็นวิธีการขจัดเซลลูไลท์หรือลดไขมันเฉพาะส่วนบริเวณสะโพก ซึ่งวิธีที่นิยมกันส่วนใหญ่คือ การฉีดคาร์บ็อกซี่ (Carboxy Therapy) ที่ใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปสลายไขมันในชั้นผิวหนังให้แตกตัว […]

5 อาหารลดอาการปวดหัว

ปวดหัว หรือ ปวดศีรษะ (Headache) เป็นอาการ ไม่ใช่โรค เป็นอาการที่พบบ่อยมาก ทั้งในเด็กและในผู้ใหญ่ โดยผู้หญิงและผู้ชายมีโอกาสเกิดอาการนี้ได้เท่าๆกัน แต่มีอาหารบางอย่างที่สามารถบรรเทาอาการปวดหัวที่มาจากความเครียดลงได้ ได้แก่ 1.กล้วย(ฺBanana)        กล้วย เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยเส้นใยและกากอาหาร และยังวิตามินและแร่ธาตุนาๆชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ธาตุเหล็ก ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุโพแทสเซียม ธาตุแมกนีเซียม คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี6 วิตามินบี12 และ วิตามินซี เป็นต้น อีกทั้งมีสารทำให้สมองเกิดสมาธิ ในกล้วยมีโพแทสเซียมที่ช่วยปรับสมดุลแร่ธาตุในร่างกาย จากการศึกษาพบว่ากล้วยช่วยลดความเครียด แก้อารมณ์หงุดหงิดและทำให้เกิดความสุขด้วย   2.ขิง (Ginger)     ขิงเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายๆด้าน  รสชาติที่เผ็ดร้อนของขิงจะช่วยให้เลือดลมหมุนเวียนดี  หากรับประทานน้ำขิงอุ่นๆช่วยรักษาอาการปวดศีรษะและไมเกรนได้   3.ธัญพืชธรรมชาติไม่ขัดสี(Organic Cereal) เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ลูกเดือย ถั่วแดง งา  ธัญพืชในกลุ่มนี้จะมีวิตามินบีสูง ซึ่งเป็นตัวช่วยให้พลังงานแก่ประสาทและสมองให้ทำงานได้ปกติ ลดอาการมึนงงสับสนลงได้   4.ปลาทะเล(Fish) เช่น ปลาทู […]

5 สูตรขจัด..ข้อศอกดำด้าน

  ปัญหาข้อศอกดำมักจะเกิดจากการเสียดสีกับวัตถุอื่นๆ โดยเฉพาะกับผู้ที่ชอบนั่งเท้าคางหรือเท้าโต๊ะบ่อย ทำให้ผิวหนังบริเวณข้อศอกเกิดการเสียดสีกับโต๊ะ ส่งผลให้ผิวบริเวณข้อศอกดำคล้ำและสาก   หากเกิดการเสียดสีบ่อยครั้งจนด้าน ก็อาจกลายเป็นแผลเรื้อรังที่ก่อให้เกิดเป็นโรคผิวหนังชนิดเรื้อนกวางได้ ที่นี้ มีสูตรแก้ข้อศอกดำแบบง่ายๆมาฝากกัน… สูตร 1 เบคกิ้งโซดา + นมจืด  ใช้เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะผสมกับนมจืด ขัดถูเป็นวงกลมให้ทั่ว ประมาณ 1-2 วัน ผิวจะสะอาดและใสขึ้น นมจืดจะช่วยขจัดความหมองคล้ำได้     สูตร 2 ผงขมิ้น + นม + น้ำผึ้ง  ใช้ ผงขมิ้น นม และน้ำผึ้ง ผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำไปทาทิ้งไว้ประมาณ 2 นาที สารในขมิ้น มีฤทธิ์ในการยังยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราหลายชนิด ส่วนน้ำผึ้งจะช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นและนุ่มขึ้น   สูตร 3 มะนาวผ่าซีก ใช้มะนาวผ่าซีกและถูที่บริเวณข้อศอก ประมาณ 15-20 นาที และเช็ดออกผ้าชุบน้ำอุ่น กรดมะนาวจะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออก […]

สูตร ครีมล้างหน้ามะขาม ทำได้เอง!

      ราคาเครื่องสำอางค์สมัยนี้มีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ ลองนำสมุนไพรมาใช้เป็นเวชสำอางเพราะเป็นตัวช่วยทำให้สวยได้โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุน ซึ่งสมุนไพรที่ตอบโจทย์ได้ดีเรื่องทำให้หน้าขาวและลดรอยจุดด่างดำได้คือ ครีมล้างหน้ามะขาม     โดยสามารถทำครีมมะขามล้างหน้าใช้เอง ด้วยส่วนผสมดังนี้คือ เนื้อมะขามเปียก ขมิ้นชัน นมสด และน้ำผึ้ง นำมาผสมเข้าด้วยกัน สัดส่วนนั้นแล้วแต่สภาพผิวหน้าของแต่ละคน ถ้าผิวมันควรเพิ่มผงขมิ้นชันลงไป หากผิวแห้งก็ควรเพิ่มนมสดลงไป เมื่อทำเสร็จแล้วก็ควรแช่ตู้เย็น เมื่อจะใช้จึงนำออกมา          วิธีใช้: ชโลมผิวหน้าให้เปียก ควรล้างเครื่องสำอางออกให้หมด ทาครีมมะขามทิ้งไว้ 1-3 นาทีแล้วล้างออก หากเริ่มใช้ใหม่ๆอาจรู้สึกแสบผิวหน้า ไม่ต้องตกใจ และไม่ต้องทิ้งไว้นานจากนั้นล้างออกด้วยสบู่หรือโฟมล้างหน้า  ผิวหน้าก็จะค่อยๆขาวขึ้น ข้อควรระวังหากเกิดการระคายเคืองควรหยุดใช้และหลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดด   มะขามจะช่วยกระตุ้นการผลัดผิวใหม่ ลดรอยเหี่ยวย่น จุดด่างดำ ทำให้หน้าดูอ่อนวัย อีกทั้งผิวขาวเนียนยิ่งขึ้นด้วย   [ads=center]

1 651 652 653 702
error: