สูตรเร่งด่วน “สิวยุบ” ได้ภายใน 30 นาที

Advertisement วันนี้มีสูตรเด็ดที่ทำให้สิวยุบภายใน 30 นาที มาให้ทุกท่านได้ลองใช้กันดู   Advertisement   ของที่ต้องเตรียม 1. มะนาว 1 ช้อนชา 2. ไข่ขาว 1 ช้อนชา Advertisement ขั้นตอนการทำ 1. ตีส่วนผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน 2. นำมาทาบริเวณจุดที่เป็นสิว ทิ้งไว้ 30 นาที 3. หลังจากนั้นล้างออก เพียงเท่านี้ สิวจะค่อยๆ หายไปไม่เหลือร่องรอย      [ads=center]   ขอบคุณที่มา sporkdark.tv

“เมาแล้วขับ” เพิ่มโทษปรับ สูงสุด 2 หมื่นบาท !

  พรบ.จราจรฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ เพิ่มอำนาจเจ้าพนักงานจราจรสามารถสั่งให้ผู้ขับขี่หยุดรถ เมื่อเห็นสภาพรถไม่ถูกต้องตามกฎหมายและสั่งให้ผู้ขับไขกระจกรถลง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ยื่นอุปกรณ์เข้าไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ได้ พระราชบัญญัติจราจรทางบกฉบับใหม่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยเพิ่มอำนาจให้เจ้าพนักงานจราจร สั่งให้ผู้ขับขี่หยุดรถ เมื่อเห็นว่ารถนั้นมีสภาพไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และสามารถสั่งให้ผู้ขับขี่ขับรถไขกระจก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ยื่นอุปกรณ์เข้าไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ได้ หากไม่ยอมทดสอบให้เจ้าหน้าที่สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้นั้นเมาสุรา เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินคดีฐานขับรถขณะเมาสุราได้ พร้อมเพิ่มโทษปรับกรณีเมาสุราขณะขับรถเป็นสองเท่า เป็นจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000 -20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบขับขี่  [ads=center]   ที่มา voicetv.co.th

เทคนิค “ดื่มขั้นเทพ” เมาช้ากว่าเดิม !

ไปสังสรรค์ทีไร ต้องหมดสติกลับบ้านมาทุกครั้ง หรือไม่ก็ต้องอาเจียนแตกเป็นประจำ เทคนิคเล็กๆ ที่จะทำให้คุณคอแข็งขึ้น ยืนระยะการกินได้นาน สามารถอยู่ดื่มกับเพื่อนได้นาน และที่สำคัญ ยังดูดีในสายตาของสาวๆ ด้วย 1.กินข้าวรองท้องก่อน ข้อแรกที่ทุกคนทราบดี แต่มีอีกหลายคนที่ไม่ยอมทำตาม คงคิดว่ามันไม่เกี่ยวอะไร เพราะการกินอาหารรองท้อง เมื่อเราดื่มเครื่องดื่มประเภทที่เป็นโซดา หรือ เบียร์ ย่อมเกิดกรดในกระเพาะอยู่แล้ว จนนำมาถึงอาการปวดท้อง อาหารสามารถช่วยในเรื่องตรงนี้ได้ หรือ ไม่อย่างน้อยๆ เวลาอาเจียนออกมา ถ้าไม่มีอาหาร มันทรมานสุดๆ 2.เช็คให้ชัวร์ว่าเราสามารถดื่มเครื่องดื่มประเภทไหนได้ บางคนกินเบียร์ บางคนกินไวน์ บางคนกินเหล้าวิสกี้ แม้มันจะเป็นเครื่องแอลกอฮอลเหมือนกัน แต่มันกับออกฤทธิ์กับคนกินได้ต่างกัน เพราะแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะไม่ถูกกับเหล้า ดื่มเบียร์ได้ทีเป็นลังๆ แต่กับเหล้า 2 แก้วก็เมาแล้ว หาตัวตนของตัวเองให้เจอ 3.เมื่อเริ่มกรึ่มๆ ต้องเบาแรง พอรู้สึกว่าตัวเองเริ่มใจหวิวๆ ต้องเริ่มเจือจางเครื่องดื่มแล้วละครับ วิธีการที่ดีที่สุด คือการใส่น้ำแข็งเพิ่มลงไปเล็กน้อย ไม่ต้องทำมาเป็นพูดว่ามันจืด!! หรือ ใส่เหล้าน้อยลง คุณเริ่มที่จะเมาแล้ว ต้องค่อยๆ ลดปริมาณแอลกอฮอลลง แต่ปริมาณน้ำในแก้วต้องเท่าเดิม เพราะมือคุณเริ่มควบคุมไม่ได้ จ้องจะหมดแก้วลูกเดียว 4.ชนเข้าไป การตั้งวงดื่ม ประเพณีที่สืบทอดกันมาแบบไม่ได้นัดหมายกัน แต่มีกันทุกวง […]

วิธี “สอบ TOEIC ให้เกิน 800” โดยไม่ต้องเข้าคอร์สเสียตัง !!

*บทความนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ เกิดเมืองไทย เรียนแต่โรงเรียนไทย เรียนแต่มหาวิทยาลัยไทย ทำงานแต่บริษัทไทย รู้จักแต่คนไทย ไม่ค่อยมีตังไปเข้าคอร์ส แต่ต้องการคะแนน TOEIC สูงพอที่จะเป็นประโยชน์แก่การสมัครงาน แต่บทความนี้ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการผลคะแนนภายในเวลาสั้นๆ เช่น เคยสอบได้ 500 แต่อยากได้ 800 ภายในเดือนเดียว ขอเกริ่นก่อนว่า ตัวผมเองไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษอะไรมากมาย และก็มีคุณสมบัติข้างต้นเกือบหมด และที่เขียนว่า 800 เพราะเป็นคะแนนที่ผมคิดว่ามากพอในการช่วยให้หลายๆ คนบรรลุจุดมุ่งหมายของตัวเองได้ ตั้งแต่เด็กผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ชอบวิชาภาษาอังกฤษเท่าไหร่ โดยเฉพาะ Grammar เกลียดมาก คะแนนอังกฤษตอนเอ็นทรานซ์ก็ไม่สู้ดีนัก แต่จุดเปลี่ยนคือได้เจอ อ.ฝรั่ง สมัยเรียน ป.ตรี บวกกับตัวเองเป็นคนไม่กลัวที่จะพูดกับฝรั่ง (ถึงแม้จะพูดผิดพูดถูกไปเรื่อยก็ตาม) เลยรู้สึกตั้งแต่นั้นว่าภาษาอังกฤษไม่ใช่อะไรที่น่าเบื่อเหมือนเมื่อก่อน เพราะ อ. แกจะสอนแบบง่ายๆ Grammar หลวมๆ เน้นเจอบ่อยๆ แล้วฝังเข้าหัวเอง ไม่ใช่มานั่งท่อง ต่อมาพอจะต้องเรียนภาษาอังกฤษ ผมก็มักจะเลือกเรียนกับ อ.ฝรั่ง เท่านั้น (คงเพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาเจอแต่ อ.ไทย บ้า Grammar) ทัศนคติเลยเปลี่ยนไปนับตั้งแต่ตอนนั้น แต่การเรียนในห้องอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ นึกดูว่า 3 หน่วยกิต หนึ่งสัปดาห์ […]

วิธีแก้ “เท้าเหม็น” !!

  เรื่องเล็กๆ แต่ก็มีความสำคัญไม่น้อย    คุณเคยได้กลิ่นเหม็นอบอวน ชวนอาเจียนโชยมาในห้องเรียน,ออฟฟิศ หรือที่ต่างๆบ้างไหม แล้วคุณคิดว่ากลิ่นมันมาจากไหน เจ้าของกลิ่นจะรู้ตัวหรือไม่ ว่ากำลังทำร้ายคนรอบข้างอยู่ แน่นอนเข้าคงไม่รู้ตัวหรอก เพราะถ้าเขารู้เขาคงไม่ถอดรองเท้าออกปล่อยกลิ่นขนาดนั้น หรือไม่กลิ่นอาจจะมาจากเท้าของคุณเองก็ได้ ไม่เชื่อลองแอบยกมาดมดูสิ "กลิ่นเท้า" เกิดจากการหมักหมมของแบคทีเรียของรองเท้า ทำให้เกิดกลิ่นมักจะเกิดกับคนที่มีเหงื่อออกเท้ามาก แต่ถ้าคุณไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้กับตัวเอง เพียงรักษาความสะอาดซักนิดนอกจากเท้าของคุณจะปราศจากกลิ่นแล้วเท้าของคุณก็จะไม่หยาบกร้าน ส้นเท้าแตก แก่ก่อนวัย [ads] วิธีดูแลรักษา 1. ทำความสะอาดเท้าด้วยการล้างน้ำอุณภูมิปกติ 2. ผสมน้ำอุ่นกับสบู่ แช่เท้าลงไปประมาณ 5 นาที เพื่อให้รูขุมขนเปิดและทำให้สิ่งสกปรกหลุดออกไปได้ง่าย 3. จากนั้นขัดเท้าและซอกนิ้วด้วยที่ขัดเท้า ขัดเป็นวงกลมนวดไปให้ทั่วโดยเน้นเฉพาะส่วนที่หยาบ หนากว่าส่วนอื่น 4. ล้างออกด้วยน้ำอุ่นอุณหภูมิปรกติเพื่อปิดรูขุมขน แล้วเช็ดออกด้วยผ้า 5. ทาครีมบำรุงให้ทั่วเท้าโดยเฉพาะส้นเท้าและซอกนิ้ว ทำสัปดาห์ละครั้ง นอกจากจะได้เท้าสะอาดไร้กลิ่นยังเป็นการผ่อนคลายความเครียดได้อีกทางด้วย   ขอบคุณที่มาจาก ความรู้รอบตัว.com   [ads=center]

10 เคล็ดลับง่ายๆ ให้ห่างไกลจาก “ไข้หวัด”… ในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย

ลมหนาวโชยเข้ามาปะทะผิวเบาๆ ให้สั่นสะท้านกันแล้ว โดยเฉพาะในตอนเช้าที่หลายคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า 'ไม่ไหวจะเคลียร์!' และหากใครที่รู้ตัวว่าเป็นคนขี้หนาว ปรับตัวไม่ทัน และแพ้อากาศได้ง่าย ช่วงนี้ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ อาจจะต้องรักษาสุขภาพตัวเองให้ดีหน่อย เพราะไข้หวัดอาจถามหาเอาได้ง่ายๆ เพื่อป้องกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ หรือใครที่คิดว่าตัวเองเริ่มจะเป็นไข้หวัด ไทยรัฐออนไลน์มี 10 สูตรสู้หวัดมาแชร์บอกต่อกัน รับประกันว่าจะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นเยอะจนหายเป็นปลิดทิ้ง … สูตรที่ 1 : ทำให้ร่างกายอบอุ่นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเมื่อมีเชื้อโรค หรือแบคทีเรียมาคุกคามจะส่งผลให้อุณหภูมิในร่างกายจะปรับสูงขึ้น แต่คุณอย่าได้กังวลใจไปเวลาคุณตัวร้อนขึ้นเหมือนจะเป็นไข้ เพราะนั่นแสดงว่า ภูมิคุ้มกันในร่างกายกำลังทำงานหนัก เพื่อจัดการกับเชื้อโรคอย่างขันแข็ง! สูตรที่ 2 : 'น้ำอุ่น' ช่วยบรรเทาอาการหวัด เราแนะนำให้คุณเริ่มใช้น้ำอุ่นตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า โดยเริ่มจากลองแปรงฟัน-บ้วนปากด้วยน้ำอุ่น มันจะช่วยขับเสมหะและลดอาการไอได้ดีเลยล่ะ ต่อด้วยอาบน้ำด้วยน้ำอุ่น ซึ่งจะช่วยปรับสภาพ และควบคุมอุณหภูมิภายในร่างกายให้คงที่ … ไม่เย็นจนเกินไปจนเป็นเหตุนำพาให้คุณไม่สบาย สูตรที่ 3 : 'ฟ้าทะลายโจร' ด้วยสรรพคุณสำคัญในต้นและใบของพืช สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อ และการอักเสบได้ นำมากินจะช่วยระงับอาการหวัด (ที่ติดเชื้อ) ได้ทีเดียว ยาฟ้าทะลายโจรไม่นิยมแต่เฉพาะคนไทยเท่านั้น ชาวจีน, อินเดีย หรือแม้แต่ชวาก็นิยมใช้ยาตัวนี้เช่นกัน   สูตรที่ […]

กินผลไม้อย่างไรให้ได้รับประโยชน์สูงสุดต่อร่างกาย !!

ผลไม้ เป็นสิ่งจำเป็นที่คนเราควรรับประทาน เพราะในผลไม้มีกากใยอาหาร และวิตามิน เกลือแร่ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอยู่มากมาย อีกทั้งน้ำและกากใยในผลไม้ช่วยในการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย จึงช่วยลดน้ำหนักได้ และร่างกายจะใช้ประโยชน์จากผลไม้สูงสุดต่อเมื่อคนนั้นต้องกินผลไม้อย่างถูกวิธี คือ การกินผลไม้ขณะที่ท้องว่าง ไม่ควรกินผลไม้พร้อมกับหรือหลังอาหารอื่นๆ หรือหากกินผลไม้แล้วจะกินอาหารอื่นตาม ก็ควรรอเวลาอย่างน้อย 20-30 นาทีเพื่อให้ผลไม้ที่กินเข้าไปตกสู่ลำไส้เล็กและดูดซึมสารอาหารจากผลไม้เข้าสู่ร่างกายได้อย่างเต็มที่ เหตุผลที่ห้ามกินผลไม้หลังอาหาร เมื่ออาหารตกถึงกระเพาะจะใช้เวลาย่อยประมาณ 4 ชั่วโมง หากกินผลไม้ตามลงไปแทนที่จะผ่านไปยังลำไส้เล็กได้เลยก็จะต้องถูกขัดขวางจากอาหารที่รอการย่อยเหล่านั้น ระหว่างนี้ทั้งอาหารและผลไม้ที่ผสมกันในกระเพาะจึงอาจทำให้เกิดการหมักบูด เกิดแก๊ส ซึ่งมีผลให้เกิดอาการแน่น จุก หรือไม่สบายท้องได้ คุณค่าของผลไม้จะให้ประโยชน์กับเราเต็มที่เมื่อกินขณะท้องว่าง แต่หากใครที่กินผลไม้ไม่ถูกวิธี แต่ไม่รู้สึกแย่อะไร ก็แสดงว่าร่างกายคุณปรับตัวได้ดีแต่คุณอาจไม่ได้รับคุณค่าของผลไม้เต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้นหากใครที่กินอาหารแล้วต้องการกินผลไม้ตาม ควรรอเวลาให้อาหารที่กินเข้าไปก่อนหน้านั้นย่อยหมดก่อน แล้วจึงค่อยกินผลไม้   [ads=center] คำแนะนำการกินผลไม้ -หากเป็นอาหารเบาๆ เช่น สลัดผักสด ใช้เวลารอประมาณ 2 ชั่วโมง -หากคุณเพิ่งกินอาหารหนักอย่างเช่น ข้าว หรือเนื้อสัตว์ ที่ใช้เวลาย่อยนานขึ้น ก็อาจต้องรออย่างน้อย 4 ชั่วโมง -หากกินอาหารหลายๆ อย่างรวมกัน มีกากใยน้อย ย่อยยากขึ้น ก็อาจใช้เวลามากถึง 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งไม่แนะนำให้กินผลไม้ตามไปในช่วงเวลานั้นเลย […]

ต้องระวัง !! โทษจากการกินเค็ม มหันตภัยเงียบที่ควรหลีกเลี่ยง

การกินอาหารหลายคนย่อมใส่ใจเรื่องรสชาติและนำมาด้วยการปรุงแต่งรสต่างๆ ด้วยเครื่องปรุงหลากหลายเพื่อให้ได้รสเปรี้ยว เค็ม หวานและเผ็ดตามที่ต้องการ และเราก็รู้กันดีใช่มั้ยคะว่าการกินอาหารรสจัดนั้นไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างยิ่ง ซึ่งวันนี้เราก็จะมาบอกเล่าถึงโทษจากการกินเค็มให้ได้ทราบกัน สำหรับการกินเค็มนั้น โดยปกติแล้วร่างกายของคนเราต้องการโซเดียมต่อวันเพียงแค่ 1 ช้อนชาหรือประมาณ 2,400 มิลลิกรัมเท่านั้นค่ะ ในขณะที่หลายคนหันมากินเค็มมากเป็น 3 เท่าตัว ซึ่งหากยังไม่หยุดพฤติกรรมการกินเค็มดังกล่าว ก็ย่อมนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพในภายหลังได้ เช่น โรคความดันโลหิตสูง เนื่องจากร่างกายของเราจะมีไตซึ่งคอยทำหน้าที่ช่วยปรับระดับโซเดียมและน้ำภายในร่างกายให้คงความเหมาะสม  แต่หากร่างกายของเรามีปริมาณโซเดียมสูง การทำงานของไตก็จะหนักขึ้น เพราะไม่สามารถปรับระดับของโซเดียมให้เหมาะสมกับน้ำได้ ปริมาณของน้ำและโซเดียมจึงเพิ่มระดับสูงขึ้น ส่งผลให้เลือดซึ่งมีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่ด้วยพลอยสูงขึ้นตามยิ่งขึ้น และหากเลือดไหลผ่านไปยังเส้นเลือดมากก็ย่อมก่อให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูงตามมาได้ในที่สุดนั่นเอง โรคหัวใจ  การที่เรามีปริมาณเลือดในร่างกายสูงจนนำมาสู่ความดันโลหิตสูงนั้น ย่อมทำให้หัวใจเกิดการสูบฉีดเลือดที่หนักและมีภาวะหัวใจเร็วมากกว่าเดิม ไม่เพียงแค่ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตแต่เพียงเท่านั้น เพราะปริมาณของโซเดียมยังทำให้เกิดภาวะร่างกายบวมน้ำและมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด ซึ่งหากเป็นมากๆ ก็อาจจะหนักถึงขั้นหัวใจวายได้   โรคไต หากเป็นโรคความดันโลหิตสูง ไตก็ย่อมทำงานหนักสูงตามมากขึ้นเช่นกัน ส่งผลให้ไตทำงานเสื่อมประสิทธิภาพลง ไม่สามารถขับเอาของเสียออกไปจากร่างกายได้ กระทั่งก่อให้เกิดโรคไตเสื่อมและไตวายในที่สุด อัมพฤกษ์ อัมพาต  หากผู้ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงนานและไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องจนอาการเบาบางลง ผนังหลอดเลือดก็จะได้รับการถูกทำลายจนนำมาสู่การทำลายอวัยวะในส่วนอื่นๆ ที่มีความสำคัญต่อมา โดยเฉพาะสมองที่มีโอกาสเสี่ยงในการเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาตมากที่สุด เพราะจะเกิดจากโรคหลอดเลือดในสมองแตก ตีบและตันนั่นเอง   นอกเหนือจากนี้แล้ว โทษจากการกินเค็มมากยังทำให้เกิดโรคหอบหืดชนิดรุนแรงขึ้นได้ และยังเป็นสาเหตุของอาการปวดศีรษะไมเกรน ทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนและโรคมะเร็งในกระเพาะอาหารได้มากขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ดี […]

ดึกแค่ไหนหน้าก็ไม่โทรม ด้วย 4 เคล็ดลับ สำหรับคนนอนดึก !!

ยอมรับเถอะว่าในชีวิตจริงมีไม่กี่คนที่จะนอนเต็มอิ่ม 8 ชั่วโมงขึ้นไปตามคู่มือรักษาสุขภาพที่เราเคยรับรู้กันมา บางทีคุณอาจจะได้นอนแค่ 5-6 ชั่วโมง หรือบางครั้งถ้าคุณต้องไปปาร์ตี้แล้วต้องมีประชุมในเช้าวันรุ่งขึ้นคุณอาจจะได้นอนเพียงแค่ 3 ชั่วโมงหรือน้อยกว่านั้น!! และถ้าปล่อยให้ต้องเจอกับการพักผ่อนไม่เพียงพอระดับนั้นสิ่งที่จะเห็นได้ชัดทันทีก็คือใบหน้าอันทรุดโทรมของคุณในรุ่งเช้า แต่ไม่ต้องกังวล Sanook Men มีเคล็ดลับที่ง่ายและรวดเร็วเพื่อช่วยฟื้นฟู และทำให้ใบหน้าของคุณกลับมาสดชื่นเหมือนเด็กอนามัยที่เข้านอนตั้งแต่สามทุ่ม! 1. ‘น้ำ’ ต้นกำเนิดของความชุ่มชื่น เหตุผลเบสิกที่ทุกคนรู้ว่าการขาดน้ำเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ใบหน้าคุณโทรม โดยเฉพาะถ้าคืนก่อนคุณดื่มอย่างเต็มที่เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้ผิวของคุณแห้งอย่างรวดเร็ว ดังนั้นสิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรกเมื่อคุณกระเด้งตัวตื่นขึ้นมาในตอนเช้าคือดื่มน้ำให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ โดยเราแนะนำว่าก่อนคุณก้าวขาออกจากบ้านพยายามดื่มน้ำให้ได้ 500-600 ซีซี แล้วพยายามให้แก้วน้ำบนโต๊ะทำงานของคุณมีน้ำเพื่อให้คุณจิบได้ตลอดเวลา และถ้าเกิดคืนนั้นคุณต้องไปปาร์ตี้อีกรอบล่ะก็ ก่อนที่จะออกไปเมามันเราก็แนะนำให้คุณดื่มน้ำไปก่อนเลยสองถึงสามแก้ว [ads] 2. ครีม ‘สครับ’ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียน สภาพผิวจากการนอนดึกมากๆ ไม่ต่างอะไรจาก ซอมบี้ในวอล์กกิ้งเดด การใช้สครับเพิ่มเข้าไปในขั้นตอนของการล้างหน้านั้นควาบหยาบของเนื้อครีมจะไปกระตุ้นเซลล์ผิวให้ตื่นตัว พร้อมกับช่วยทำให้การไหลเวียนของโลหิตบริเวณใบหน้านั้นดีขึ้นเช่นเดียวกับผู้ชายที่นอนมาเต็มอิ่ม 3. มอยส์เจอไรเซอร์ที่ดีคือคำคอบ แน่นอนน้ำเปล่าจะช่วยให้เซลล์ผิวคุณกลับมาชุ่มชื่นตามธรรมชาติ แต่ธรรมชาติมักใช้เวลาเยียวยานานหลายชั่วโมง ก่อนที่จะถึงเวลานั้นผลิตภัณฑ์ มอยส์เจอไรเซอร์คือทางออกที่ดีที่สุด แต่เราขอให้คุณรอบคอบเพราะ ส่วนประกอบที่ดีในมอยส์เจอไรเซอร์ก็สำคัญ พยายามเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสสของน้ำมันเปบเปอร์มินต์ หรือ สารสกัดจากโสม จะเป็นสารประกอบที่ช่วยวคุณได้มากที่สุด   4. รอบดวงตาต้องการตัวช่วย คล้ายกับผู้หญิงนั่นแหละ พอนอนดึกตื่นเช้า ขอบตาคุณก็คล้ำ ถุงใต้ตาก็เด่นชัด มองหาเจลทารอบดวงตาที่มีสารสกัดของวิตามินซี […]

22 วิธีลดน่องใหญ่ กล้ามเนื้อน่องโต ให้ได้ผลเร็วที่สุด !!

  น่องใหญ่ คงเป็นปัญหาสำหรับสาวๆหลายคน ซึ่งมากกว่า 80% ก็เจอกับปัญหานี้ทั้งนั้น การที่เรามีขาใหญ่ราวกับโต๊ะสนุก หรือมีน่องเหลวเป็นคลื่นเซลลูไลท์ ก็อาจทำให้หลายๆคนต่างขาดความมั่นใจในตัวเอง บั่นทอนความเชื่อมั่น จะออกไปไหนทีไรก็ลำบากใจเหลือเกิน จะคว้าแต่กางเกงขายาวมาใส่ กระโปรงสุดสวยที่เคยซื้อมาก็ไม่ได้หยิบมาใส่ซักที เฮ้ออ… แต่อย่าเพิ่งท้อใจ เพราะวันนี้เรามีเทคนิคดีๆที่จะช่วยให้คุณน่องสวยเรียวเล็กลงกว่าเดิมแบบเห็นผลแน่นอนมาฝาก วิธีลดน่อง อย่างแรกเลยเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าน่องโตมันคืออะไร? เริ่มกันเลย น่องใหญ่หรือน่องโตนั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 2 กรณีนั่นก็คือ น่องใหญ่เพราะไขมัน(อ้วนนั่นเอง) และน่องใหญ่เพราะกล้ามเนื้อ โดยในการรักษานั่นเราก็ต้องทราบก่อนว่าน่องของเราที่ใหญ่โตนั้นเป็นน่องใหญ่เพราะสาเหตุอะไร เพราะจะได้รักษาได้อย่างถูกวิธี สำหรับวิธีการสังเกตถ้าน้องโตเพราะไขมันจะเห็นว่าน่องด้านล่างเหนือข้อเท้าเราจะดูอวบๆ แต่ถ้าเป็นน่องโตเพราะเกิดจากกล้ามเนื้อ ให้เราสังเกตง่ายๆว่าหากการเขย่งเท้า แล้วลองสังเกตดูก็จะมีกล้ามขึ้นเป็นลูกๆ เมื่อจับที่น่องก็จะเป็นมัดแข็งๆ นั่นก็แสดงว่าคุณน่องโตจากกล้ามเนื้อ ซึ่งโดยส่วนมากแล้วผู้หญิงจะน่องโตเพราะกล้ามเนื้อเป็นส่วนมาก มากกว่าเกิน 90% (ส่วนน่องโตเพราะไขมันมีน้อย) โดยสาเหตุส่วนใหญ่ก็จะมาจากกรรมพันธุ์เป็นหลัก (แต่ถ้าใครเกิดมาขาเรียวสวยด้วยกรรมพันธุ์ก็โชคดีไป) แต่มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน บางคนไม่ค่อยได้ทำอะไรกล้ามก็ขึ้น น่องก็ปูดเอาๆ ในขณะที่อีกคนออกกำลังกายให้ตายยังไงกล้ามเนื้อบริเวณนี้ก็ไม่ขึ้น เนี่ยแหละที่เรียกว่ากรรมพันธุ์ และอีกสาเหตุสำคัญนั่นก็คือเกิดจากการใช้แรงงานขามากๆ หรือเกิดจากการออกกำลังกายแบบผิดวิธีหรือแบบบ้าพลัง เป็นต้น คราวนี้มาดูวิธีลดน่องกันดีกว่า วิธีลดน่องกล้ามเนื้อ รู้จักเลือกรับประทานอาหารพร้อมกับการควบคุมอาหารไปด้วย เน้นรับประทาน ไฟเบอร์ ให้มาก ลดการรับประทาน โปรตีน และ คาร์โบไฮเดรต […]

1 658 659 660 704
error: