สาระน่ารู้

8 วิธีจัดห้องนอนให้หลับสบาย จนถึงเช้า   วิธีจัดห้องนอนให้มีบรรยากาศสบาย เสมือนเป็นสวรรค์ของการนอนหลับอย่างแท้จริง ใครที่ยังมึนตึ้บกับการจัดห้องนอนสวย ๆ ลองเก็บเคล็ดลับจัดห้องนอนให้หลับสบายไปทำตามกันค่ะ แม้จะเป็นคนนอนดึก ใช้ชีวิตอยู่ในห้องนอนแค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่ช่วงเวลาของการพักผ่อนในห้องนอนก็ควรต้องสบายอย่างที่สุดเหมือนกันนะคะ ยิ่งถ้าได้นอนในห้องนอนสวย ๆ เตียงนอนนุ่มนิ่ม มีบรรยากาศอุ่นสบาย โอ๊ย…แค่นี้ก็แสนจะฟิน ! แต่การจัดห้องนอนให้เป็นยิ่งกว่าสวรรค์ของการพักผ่อนต้องทำอย่างไร ใครไม่รู้เรามีเคล็ดลับมาบอกต่อตรงนี้แล้วจ้า 1. ฟูกนอนต้องใช่เลย ฟูกนอนที่นอนหลับสบายที่สุดต้องเป็นฟูกที่มีความนุ่มในแบบที่พอดีกับความต้องการของเรา ขนาดเตียงก็ต้องกว้างพอให้เรานอนเกลือกกลิ้งได้อย่างอิสระ นอกจากนี้เพื่อคุณภาพที่ดีเยี่ยมของฟูกนอน เราควรต้องเปลี่ยนฟูกนอนใหม่ทุก ๆ 5 ปีด้วยนะคะ 2. หนุนหมอนให้ตรงกับตำแหน่งกระดูกสันหลัง สำหรับคนที่ชอบนอนตกหมอนบ่อย ๆ เคล็ดลับการหนุนหมอนให้ตรงกับตำแหน่งกระดูกสันหลังน่าจะช่วยแก้ปัญหานอนตกหมอน หรือตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดคอได้ เพราะหากเราโฟกัสตำแหน่งกระดูกสันหลังให้อยู่ตรงกึ่งกลางของหมอน ไม่ว่าจะนอนด้วยท่าไหนก็หมดปัญหาปวดเมื่อยอีกต่อไป แต่ทั้งนี้ควรเปลี่ยนหมอนใบใหม่ทุก 12-18 เดือน เพื่อประสิทธิภาพที่ดีของหมอนหนุนนะคะ 3. จัดมุมเขียนไดอารี่ หลายคนอาจนึกไม่ถึงว่า แค่เราจดบันทึกเหตุการณ์ที่ได้เจอมาในแต่ละวันลงในไดอารี่ ก็เปรียบเสมือนได้บรรยายความรู้สึกเครียด ความกดดัน และทุกสิ่งที่อัดอั้นไว้บนหน้ากระดาษ คราวนี้ก็หัวเบาพร้อมนอนหลับอย่างสบายสุด ๆ 4. เปิดเสียงเพลงกล่อมข้างเตียง สำหรับห้องนอนที่แวดล้อมไปด้วยแหล่งกำเนิดเสียงดังยามค่ำคืน คงดีกว่าหากคุณจะกลบเสียงเหล่านั้นไปพร้อม ๆ […]

เตือน ! 5 อาหารอันตรายสำหรับโรค “ไมเกรน”   สำหรับคนที่มีโรคประจำตัวอย่าง “ปวดหัวไมเกรน” เป็นเรื่องที่บางครั้งก็น่ารำคาญและสร้างความไม่สะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันไปเลย   นอกจากนี้อาการปวดหัวของบางคนจะกำเริบทันทีถ้าทานอาหารที่มีสารไทรามีน (Tyramines) และ นิไทรต์ (Nitrite) เข้าไป เพราะร่างกายของคนๆ นั้นมีความไวต่อสาร 2 ตัวนี้ พอได้รับปุ๊บก็จะทำให้ระบบประสาทและหลอดเลือดหดตัวทันที อาหารที่มีสาร 2 ชนิดนี้อยู่มากก็คือ 1. ช็อกโกแลต โดยเฉพาะคนที่เป็นไมเกรน ทานเมื่อไรเป็นได้เรื่องทุกที ยกเว้นช็อกโกแลตขาวซึ่งมีนมเป็นส่วนประกอบหลักมากกว่า 2. กุนเชียงและเนื้อแดดเดียว เพราะสีแดงของอาหาร 2 ชนิดนี้ มาจากการเติมดินประสิวลงไป โดยไม่รู้ว่าดินประสิวนี่ละมีสาร Nitrite ระดับตัวแม่เลย 3. ลูกชิ้นเด้ง ไม่ใช่ทุกร้าน แต่ก็เป็นส่วนใหญ่ที่คนทำลูกชิ้นจะใส่สารบอแร็กซ์ลงไปด้วยเพื่อช่วยให้ลูกชิ้นเด้งดึ๋งได้ดีขึ้น ทั้งๆ ที่บอแร็กซ์เป็นสารก่อมะเร็ง กระทรวงสาธารณสุขก็เตือนอยู่โครมๆ ว่าไม่ให้ใส่ 4. สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ผลการวิจัยว่าคนที่เป็นไมเกรนจะปวดหัวเมื่อกินสารชนิดนี้ 5. ไวน์แดง ในไวน์ก็มีไทรามีน กับนิไทรต์ ไม่น้อยนหน้าใครเหมือนกัน ฉะนั้นไม่ดื่มได้ล่ะดี [ads=center] […]

วิธีกำจัดสิวที่หลังและหน้าอก ให้ได้ผลทันใจ !     ไม่เพียงแต่ปัญหาสิวบนหน้าเท่านั้นที่กวนใจและทำให้สาว ๆ หมดสวย แต่สิวที่หลังและหน้าอกก็เป็นปัญหาใหญ่ไม่น้อยไปกว่ากัน เพราะเวลาอยากจะใส่เสื้อผ้าเซ็กซี่ ๆ เว้าหลังเว้าหน้าอกบ้าง ก็ต้องเสียความมั่นใจทุกครั้งเพราะสิวเจ้ากรรมที่ขึ้นมาเป็นจุดเด่นให้ใคร ๆ ต่างก็ต้องทัก วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอนำวิธีกำจัดสิวที่หลังและหน้าอกให้ได้ผลชะงัดมาฝากสาว ๆ ลองทำตามนี้รับรองผิวสวยใสเกลี้ยงเกลา ไม่ว่าจะเปิดเว้าโชว์ตรงไหน ก็สะกดทุกสายตาชัวร์ เลือกครีมกันแดดออยล์ฟรี รู้หรือไม่ว่า สิวมักจะเกิดขึ้นในหน้าร้อนมากกว่าช่วงอื่น ๆ เพราะในหน้าร้อนรูขุมขนบนผิวหนังจะเปิดกว้างและเหงื่อออกมาก หากคุณยิ่งใช้ครีมกันแดดแบบที่มีน้ำมันทาลงบนผิวหนัง เมื่อมันเข้าไปผสมกับเหงื่อก็จะก่อเกิดให้มีสิวที่แสนจะน่ารำคาญใจบนผิวหนัง ทางที่ดีควรเลือกใช้ครีมกันแดดแบบออยล์ฟรีในช่วงหน้าร้อน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำมันมาผสมกับเหงื่อไว้จะดีกว่า ใช้สบู่ที่มีกรดซาลิไซลิก เมื่อกลับมาจากยิมหรือทะเลที่ทำให้คุณเหงื่อออกเยอะ ให้รีบอาบน้ำอย่างเร่งด่วน เพื่อชะล้างเอาน้ำมัน เหงื่อ และครีมกันแดดออกไป แล้วใช้สบู่อาบน้ำสูตรอ่อนโยนที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ที่จะช่วยรักษาสิวได้เป็นอย่างดี ถ้าหากใช้เป็นประจำทุกวัน กรดซาลิไซลิกในสบู่อาบน้ำตัวนี้จะช่วยลดการอักเสบและลดการอุดตันของสิวได้อย่างดีเลยทีเดียวเชียว ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่หน้ามาช่วยเคลียร์ หากคุณมีผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่หน้าที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก คุณก็สามารถใช้กับหน้าอกและหลังได้ แต่ต้องไม่มีส่วนผสมของเบนซอยล์ เปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) จริงอยู่ที่เบนซอยล์ เปอร์ออกไซด์ช่วยรักษาสิวบนหน้าได้ดี แต่มันอาจจะกัดสีเสื้อผ้าที่สวมใส่จนกลายเป็นด่างขาว ๆ ได้หากนำมารักษาสิวที่หน้าอกและหลัง เอาเป็นว่าก่อนนำมาใช้ลองเช็กส่วนผสมให้ดี ๆ […]

20 ข้อคิด ที่ควรรู้และปฏิบัติก่อนอายุ 40 ปี ! (ถ้าทำได้)   1. ไม่ต้องตั้งใจเรียนมากไป เอาแค่พอใช้ได้ก็พอเพราะโลกแห่งความเป็นจริง วัดกันที่ผลงาน ไม่ใช่ที่เกรด… 2. การทำกิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัยนั้นสำคัญมาก พอๆ กับการคร่ำเคร่งหน้าตำราเรียน 3. เลือกงานที่เราชอบนั้นใช่ แต่อย่าลืมด้วยว่า อาชีพนั้น.. สามารถเลี้ยงดูตัวเราได้จริงหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ก็อย่าหลอกตัวเอง 4. เมื่อถึงวัยทำงาน ใครเก็บเงินก่อน รวยเร็วกว่าและสิ่งสำคัญ ที่ต้องจำไว้ คือ “ชีวิตที่ไม่มีหนี้ คือชีวิตที่ประเสริฐที่สุด” 5. หาเป้าหมายในชีวิตให้เจอโดยเร็วที่สุด เพราะมัน จะเป็นเครื่องนำทางของคุณ ในชาตินี้ตลอดไป 6. ซื้อบ้านก่อน ที่จะซื้อรถ เพราะบ้านมีแต่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น รถมีแต่มูลค่าลดลง ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า รถ=ลด 7. ดอกเบี้ยบ้านนั้นมหาโหดมาก รีบใช้ให้หมด โดยเร็วพลัน ก่อนที่จะแก่ แล้วผ่อนไม่ไหว 8. การเก็บเงินเป็นแค่บันไดขั้นแรก สู่ความร่ำรวย แต่ขั้นต่อมา คือ ต้องรู้จักลงทุน […]

4 โรคหัวใจ มหันตภัยเงียบที่คุณควรระวัง !   ถ้าหากพูดถึงอวัยวะของคนเราที่มีขนาดเทียบเคียงกับกำปั้น แน่นอนเราต้องนึกถึง “หัวใจ” และเป็นที่ทราบกันดีว่า เจ้าอวัยวะนี้อยู่ในบริเวณส่วนกลางของหน้าอกเยื้องไปทางซ้ายเล็กน้อย ทำหน้าที่สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยมีการหดและคลายตัวเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ท่านทราบหรือไม่ว่า ถ้าหากวันใดวันหนึ่งการทำงานของหัวใจเกิดข้อผิดพลาดอย่างกระทันหัน หัวใจหยุดทำงานชั่วขณะ หรือเกิดการอุดตันในหลอดเลือด นี่คือเครื่องบ่งบอกท่านว่าเรากำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายจากภัยเงียบที่ไม่มีสัญญาณเตือน และด้วยอาการเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคหัวใจตามมาจำนวนมาก ทางทีมงาน Hospital Healthcare จึงนำสาระดีมีประโยชน์มาบอกเล่าต่อ เพื่อให้รู้ทันโรคยอดฮิตของกลุ่มโรคหัวใจมากขึ้น หลอดเลือดหัวใจตีบ โดยปกติแล้วผนังภายในหลอดเลือดหัวใจมีลักษณะเรียบเมื่อคนเรามีอายุที่มากขึ้น เนื้อเยื่อไขมันจะเริ่มเกาะและจับตัวกับพังผืดกันเป็นแผ่นนูน ทำให้ช่วงรูตรงกลางของหลอดเลือดมีขนาดลดน้อยลง ส่งผลให้โลหิตไม่สามารถไหลผ่านไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้อย่างเพียงพอ จึงเป็นที่มาของเกิดอาการแน่น เจ็บหน้าอก จุกแน่นลิ้นปี่ เหนื่อย เหงื่อออก หายใจไม่สะดวก โดยเฉพาะเวลาที่มีการออกกำลัง และถ้าปล่อยให้เส้นเลือดหัวใจตีบตลอดเวลานานเกินไปโดยที่ไม่ได้รับการรักษา จะทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดหัวใจอุดตันฉับพลัน แม้จะมีอาการเตือนเพียงแค่ระยะสั้น แต่ก็สามารถทำให้เสียชีวิตทันทีทันใดได้ ดังนั้นผู้ป่วยด้วยโรคนี้จึงต้องได้รับการรักษาด้วยการทำบอลลูนและใส่ขดลวดขยายหลอดเลือดในตำแหน่งที่ตีบ หรือรักษาผ่าตัดโดยการนำเส้นเลือดที่บริเวณขาด้านในมาต่อใช้เข้ากับเส้นเลือดแดงใหญ่ เพื่อให้สามารถนำเลือดแดงไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจส่วนในนั้นได้ อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการมีพฤติกรรมที่ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ไม่เหมาะสม อาทิ ดื่มสุรา สูบบุหรี่ กินอาหารที่มีไขมันสูง อยู่ในภาวะตึงเครียด ขาดการออกกำลังกาย นอนหลับไม่เพียงพอ […]