สาระน่ารู้

Advertisement 10 เรื่องหลอกลวง ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก Advertisement      ในแต่ละปีหลายคนทั่วโลกมักถูกหลอกลวง มีหลายเรื่องที่เผยแพร่ไปในอินเตอร์เน็ตหรือหนังสือพิมพ์ที่ทำให้เราหลงเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงและต่อไปนี้ก็คือ 10 อันดับเรื่องหลอกลวงในประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด แม้ว่าจะมีการยืนยันว่าเป็นเรื่องหลอกลวงแล้วก็ตามแต่บางคนก็ยังเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงอยู่ดี   10. The Cardiff Giant 1869    ยักษ์แห่งคาร์ดิฟฟ์เป็นหนึ่งในเรื่องหลอกลวงที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน โดยเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ. 1869 ที่คาร์ดิฟฟ์ นิวยอร์ก คนงาน 2 คน กำลังขุดดินที่ฟาร์มของนายวิลเลียม นิวเวลได้พบร่างยักษ์ที่กลายเป็นหิน ข่าวยักษ์แห่งคาร์ดิฟฟ์จึงแพร่กระจายไปทั่วทุกหนทุกแห่ง ซึ่งความจริงแล้ว ยักษ์แห่งคาร์ดิฟฟ์เป็นของปลอมที่สร้างขึ้นโดยจอร์จ ฮัลเป็นนักค้ายาสูบชาวนิวยอร์ก (ญาติของวิลเลียม นิวเวล) ที่มาจากการที่เขาทะเลาะกับบาทหลวงชื่อเติร์ก ถึงบทหนึ่งในไบเบิลที่ระบุว่า ยักษ์เคยอาศัยอยู่บนโลก เขาเลยตัดสินใจที่จะ สร้างยักษ์โดยจ้างคนไปแกะสลักหินยิปซั่มให้เป็นยักษ์โดยเขาบอกคนแกะสลักว่าจะทำเป็นอนุสาวรีย์ของอับราฮัมลินคอล์นในนิวยอร์กจากนั้นเขาก็เอาคราบและกรดต่างๆ มาราดลงในรูปปั้นให้เหมือนของเก่า แถมด้วยการปักฝังเข็มลงไปให้ดูเหมือนรูขุมขน ก่อนที่จะเตรียมบทจ้างคนงานสองคนทำเป็นขุดพบเจอยักษ์แล้วประกาศว่า “พบยักษ์แห่งคาร์ดิฟฟ์ที่นี่” และมันก็ได้ผล มีผู้สนใจดูยักษ์จำนวนมากมาย จนเงินเข้ากระเป๋านิวเวล และฮัลมากมาย ขนาดพิที. บาร์นัม ผู้ยิ่งใหญ่แห่งโชว์แสดงของแปลกยอมจ่ายเงินเพื่อชมสิ่งหลอกลวง และขอเช่ายักษ์ถึงหกหมื่นดอลลาร์ […]

ผลการศึกษาพบขยะพลาสติกที่ลอยเกลื่อนมหาสมุทรทั่วโลกจะกระทบห่วงโซ่อาหารมนุษย์ ผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่มีการเผยแพร่ล่าสุดชี้ เกือบร้อยละ 90 ของมหาสมุทรทั่วโลกถูกปนเปื้อนไปด้วย “ขยะพลาสติก” ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความปลอดภัยของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล และกระทบห่วงโซ่อาหารของมนุษยชาติ ผลการศึกษาของทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย “กาดิซ” ประเทศสเปน ซึ่งมีการเก็บข้อมูลตั้งแต่ปี 2010 และนำโดยอันเดรส โกซาร์ นักวิจัยชื่อดังระบุว่า ในเวลานี้ ขยะพลาสติกในทะเลเปิดได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วจนก่อให้เกิดการปนเปื้อนในมหาสมุทรในสัดส่วนที่สูงถึง “ร้อยละ 88 “ ของตัวอย่างน้ำทะเลจำนวน 3,070 ตัวอย่าง ที่ทีมวิจัยเก็บจากมหาสมุทรต่างๆทั่วโลก จากผลการศึกษาพบว่า น่านน้ำบริเวณตอนเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก มีการปนเปื้อนโดยขยะพลาสติกในสัดส่วนที่สูงที่สุดในโลกถึงราว 12.4 ตัน และมีจำนวนขยะพลาสติกสูงกว่ามหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือที่พบขยะพลาสติกราว 6.7 ตันถึงเท่าตัว ขณะที่มหาสมุทรอินเดียกลายเป็นน่านน้ำที่มีปริมาณขยะพลาสติกน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับน่านน้ำแห่งอื่นๆของโลก โดยมีปริมาณขยะพลาสติกราว 5.1 ตัน ผลการศึกษาบ่งชี้ว่า การเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจอย่างขนานใหญ่ของประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก คือ ปัจจัยหลักที่ทำให้มีการปล่อยขยะพลาสติกออกสู่ทะเลเปิดและมหาสมุทรมากขึ้น และส่งผลให้น่านน้ำบริเวณตอนเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก กลายเป็นน่านน้ำที่มีการปนเปื้อนโดยขยะพลาสติกในสัดส่วนที่สูงที่สุดในโลก อันเดรส โกซาร์ ผู้นำทีมวิจัยเตือนว่า ขยะพลาสติกจำนวนมหาศาล ที่กลายเป็นสิ่งปนเปื้อนต่อมหาสมุทรต่างๆทั่วโลกถือเป็นอันตรายอย่างยิ่งยวดต่อการดำรงชีวิตของสัตว์น้ำ รวมถึงนกทะเลสายพันธุ์ต่างๆ หลังพบการล้มตายของสัตว์เหล่านี้เป็นจำนวนมากในแต่ละปี เพราะการที่พวกมันกินชิ้นส่วนขยะพลาสติกเข้าไป พร้อมเตือนว่า การล้มหายตายจากของสัตว์น้ำที่เกิดขึ้น จะส่งผลกระทบต่อ […]

กลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่าเตือนลิงยักษ์แอฟริกาใกล้สูญพันธุ์  สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงไนโรบีประเทศเคนยา เมื่อวันที่ 2ก.ค.อ้างคำกล่าวของบรรดานักอนุรักษ์ที่ระบุว่า ทุกปีบรรดาลิงตัวใหญ่หลายพันตัวในแอฟริกาได้ถูกฆ่าหรือนำตัวไปเป็นทาสสร้างมูลค่าของการค้าผิดกฎหมายหลายล้านดอลลาร์สหรัฐส่งผลให้สัตว์ที่มีความใกล้ชิดมนุษย์มากที่สุดใกล้สูญพันธุ์ นายแดเนียล สติลเลส นักอนุรักษ์จากโปรเจคต์ ทูเอนด์ เกรท เอพ สเลฟเวอรีกล่าวว่า เครือข่ายองค์กรอาชญากรรมซึ่งมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องได้คุกคามชีวิตของลิงยักษ์จนเกือบสูญพันธุ์นอกจากฆ่าตายแล้วยังจับลิงเหล่านี้ไปทำการแสดงหรือเอาไว้เป็นสัตว์เลี้ยง อีกทั้งยังมีการจับลูกลิงที่กำพร้าไปอีกด้วย แล้วนำไปขายต่อแบบทาสในขณะที่ลิงยักษ์ถือเป็นสายพันธุ์ที่มีความใกล้ชิดกับมนุษย์อย่างยิ่ง ทั้งนี้ ลิงตัวใหญ่หลายร้อยตัว รวมทั้งชิมแปนซี กอริลล่าและอุรังอุตัง ได้ถูกจับอย่างเหี้ยมโหดเพื่อนำไปขายในหลายประเทศรวมทั้งอาร์เมเนีย จีนอียิปต์ รัสเซีย ไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการค้าที่มีเงื่อนงำ หากแนวโน้มการค้าและล่าลิงยักษ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปสายพันธุ์ลิงยักษ์จะต้องหมดไปจากโลก ข้อมูลและภาพ : เดลินิวส์ออนไลน์ 2 กรกฎาคม 2557 ค้นหา ความรู้ทั่วโลก เพิ่มเติม ที่ > EDUZONES KNOWLEDGE สาระน่ารู้ ความรู้รอบตัวทั่วโลก  เรื่องก่อนหน้า : ผลการศึกษาพบขยะพลาสติกที่ลอยเกลื่อนมหาสมุทรทั่วโลกจะกระทบห่วงโซ่อาหารมนุษย์ เรื่องถัดไป : กองทัพเรือสหรัฐฯแต่งตั้งพลเรือเอกหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์238ปี

กองทัพเรือสหรัฐฯแต่งตั้งพลเรือเอกหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์238ปี เรย์ มาบุส เลขาธิการกองทัพเรือสหรัฐฯ ติดอินทรธนูชั้นนายพลสี่ดาวประดับบนบ่าของพลเรือเอกหญิง มิเชลล์ ฮาวเวิร์ด ในพิธีประดับยศ วานนี้(1) เอเอฟพี – กองทัพเรือสหรัฐฯ ประกาศแต่งตั้ง “พลเรือเอกหญิง” คนแรกนับตั้งแต่มีการก่อตั้งกองทัพขึ้นมาเป็นระยะเวลา 238 ปี ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่สำหรับสตรีที่ทำงานเป็นรั้วของชาติ         ในพิธีประดับยศที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ (1) พล.ร.ท.หญิง มิเชลล์ ฮาวเวิร์ด ได้รับการเลื่อนชั้นเป็นรองผู้บัญชาการทหารเรือ (vice chief of naval operations) ซึ่งถือเป็นตำแหน่งสูงสุดอันดับสองในกองทัพเรือสหรัฐฯ หลังจากที่ได้ก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ และพิสูจน์ความสามารถของตนจนเจริญก้าวหน้าในชีวิตราชการขึ้นตามลำดับ         ฮาวเวิร์ด วัย 54 ปี เป็นที่รู้จักในฐานะผู้บังคับการกองกำลังต่อต้านโจรสลัดในอ่าวเอเดน ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างโซมาเลียและเยเมน         พลเรือเอกหญิงผู้นี้เคยเป็นผู้นำปฏิบัติการช่วยชีวิต ริชาร์ด ฟิลลิปส์ กัปตันเรือสินค้าซึ่งถูกโจรสลัดโซมาเลียลักพาตัวไปเมื่อปี 2009 ภารกิจดังกล่าวซึ่งมีหน่วยปฏิบัติการสงครามพิเศษของกองทัพเรือ (Navy SEALs) เข้าร่วมด้วย ได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 2013 […]

ดีเอ็นเอไขปริศนาบิ๊กฟุตที่แท้แค่สัตว์ทั่วไป ใครที่เชื่อเรื่อง บิ๊กฟุต, เยติ, มนุษย์ภูเขา หรือสิ่งมีชีวิตเทือกๆ นี้ อาจผิดหวังต่อข่าวนี้ เมื่อผลทดสอบดีเอ็นเอของตัวอย่างที่ระบุว่า ชิ้นส่วนของมนุษย์ลึกลับดังกล่าวที่มีตำนานอยู่ทั่วโลก แท้จริงเป็นแค่ขนของหมี แพะ เลียงผา สมเสร็จ และบางตัวอย่างก็เป็นแค่ ขนมนุษย์ ภาพจากแฟ้มเมื่อปี 2008 ผู้สนับสนุนการมีตัวตนของบิ๊กฟุต แต่งตัวเลียนแบบสัตว์ลึกลับ หน้าโรงแรมระหว่างการแถลงข่าวพบตัวอย่างสัตว์ลึกลับในตำนาน (เอพี) เอเอฟพีรายงานผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ลงวารสารโพรซีดิงออฟเดอะรอยัลโซไซตี บี (Proceedings of the Royal Society B) ที่เผยผลทดสอบดีเอ็นเอจากตัวอย่างที่อ้างว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า บิ๊กฟุตหรือเยติ และสิ่งมีชีวิตลึกลับอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกัน โดยระบุชื่อตัวอย่างที่นำมาทดสอบว่า “ไพรเมตประหลาด” สำหรับแทนสิ่งมีชีวิตตามตำนานลึกลับ ศ.ไบรอัน ไซค์ส กับตัวอย่างดีเอ็นเอของสัตว์จากหิมาลัยที่เตรียมทดสอบ (เอพี) ตัวอย่างไพรเมตประหลาดที่นักวิทยาศาสตร์นำมาศึกษามี ทั้งตัวอย่างของสิ่งมีชีวิตที่อ้างว่าเป็นบิ๊กฟุตหรือเยติตามความเชื่อของชาวเมริกาเหนือ อัลมาตี (almasty) มนุษย์ลึกลับที่ชอบซ่อนตัวตามความเชื่อของชาวเอเชียกลาง รวมถึง โอรัง เปนเดะห์ (orang pendek) มนุษย์ลึกลับตามความเชื่อของชาวมาเลเซียที่ซ่อนตัวอยู่ตามป่าบนภูเขา มีทฤษฎีสนับสนุนการกล่าวอ้างว่าพบเห็นเยติรวมถึงสิ่งมีชีวิตลึกลับอื่นๆ ในเครือนั้นหลากหลายทฤษฎี ทั้งทฤษฎีว่านีแอนเดอร์ทัลมนุษย์อีกสายพันธุ์หนึ่งหรือตระกูลย่อยของมนุษย์สายพันธุ์อื่นที่ยังหลงเหลือ […]

ขุดพบซากกระดูกทหารสงครามโลกครั้งที่1อายุกว่า100ปี(ชมคลิป) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวา ทีมนักโบราณคดีฝรั่งเศสได้ขุดพบซากกระดูกของเหล่าทหารสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งถูกสังหารกว่า 100 ปีก่อน   โดยทีมนักโบราณคดีได้ร่วมกับอาสาสมัครท้องถิ่นขุดโครงข่ายอุโมงค์ที่ถูกถมฝังโดยเกษตรกรท้องถิ่นในช่วงหลังสงครามโลก และบริเวณดังกล่าวเคยเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์เชื่อมระหว่างแนวรบสองแห่ง ในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ซึ่งทหารนาซีเยอรมันและทหารฝรั่งเศส ต่างเข้าควบคุมพื้นที่นี้ในช่วงสงครามโลก ข้อมูล : มติชนออนไลน์ 30 มิถุนายน2557 vdo clip : youtube, user ITN ค้นหา ความรู้ทั่วโลก เพิ่มเติม ที่ > EDUZONES KNOWLEDGE สาระน่ารู้ ความรู้รอบตัวทั่วโลก  เรื่องก่อนหน้า : กองทัพเรือสหรัฐฯแต่งตั้งพลเรือเอกหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์238ปี เรื่องถัดไป : —

บริษัทที่ปรึกษาและวิจัยข้อมูลธุรกิจ "ทาวเวอร์ส วัทสัน" เปิดเผยข้อมูลระดับเงินเดือนทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปี 2014 โดยสำรวจแผนงบประมาณสำหรับระดับเงินเดือนจำนวน 2,000 ตัวอย่าง จาก 18 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พบว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 6.9      นางสาวพิชญ์พจี สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทาวเวอร์ส วัทสัน (ประเทศไทย) ระบุว่า ในปีนี้ ประเทศไทยน่าจะมีอัตราการเพิ่มขึ้นของเงินเดือนประจำปี  อยู่ที่ร้อยละ 5.4 แต่มีแนวโน้มว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของเงินเดือนอาจจะลดลง หากว่าประเทศไทยยังคงประสบกับภาวะความขัดแย้งทางการเมืองตลอดทั้งปี       ส่วนประเทศจีนอยู่ที่ร้อยละ 5.2 กัมพูชา อยู่ที่ร้อยละ 4.1 ส่วนเวียดนาม อยู่ที่ร้อยละ 11.5  อินโดนีเซีย ร้อยละ 9.6 และประเทศที่มีแนวโน้มอัตราเงินเดือนเพิ่มสูงที่สุด คือ ปากีสถาน ร้อยละ 13 และอินเดียร้อยละ 10 ส่วนนิวซีแลนด์ อยู่ที่ร้อยละ 3 และญี่ปุ่น […]

ผมเป็นคนหนึ่งนะครับ ที่ชอบติดตามดูผลงาน การทำงานของคนเก่งๆ เพราะมันสามารถเป็นการกระตุ้นตัวเอง สร้างแรงบันดาลใจได้อย่างดีเลยทีเดียว โดยส่วนใหญ่นั้นคนเก่งๆจะมีความเก่งอยู่ด้วยกัน 10 ประการ จะมีอะไรบ้างนั้น ลองไปดูกันครับ   1.เก่งในการชื่นชมผู้อื่น 2.เก่งในการหาข้อดี จุดเด่นของผู้คนได้ แม้จุดเล็กๆ ก็ยังเห็น 3.เก่งในการให้กำลังใจคนอื่น เป็นต้นแบบที่ดี 4.เก่งในการให้พลังตัวเองทุกวัน ใส่ความเชื่อมั่นลงไป 5.เก่งในการแอบชื่นชมตนเอง และคิดแต่เรื่องดีดี 6. เก่งที่มีอะไรทำทันที ไม่เป็นโรคเดี๋ยวก่อน 7.เก่งในการมองหาคุณค่าของทุกอย่างที่อยู่รอบตัว มองเห็นเป็นแต่เรื่องดี 8.เก่งในการมองหาข้อดีในตัวเอง ยินดีกับสิ่งที่ตนมี และเอาออกมาเป็นจุดเด่นเพื่อช่วยคนอื่นและสังคม 9.เก่งในการเห็นจุดบกพร่องของตนเอง ปรับปรุงต้วเอง คือมองหา เรื่องที่จะ Correct  10. เก่งในการขอบคุณคนให้เป็นนิสัย เป็นที่รักใคร่ของผู้พบเห็น

10 สัญญาณอันตราย เสี่ยงโรคสมองเสื่อม และวิธีป้องกัน 10 สัญญาณอันตราย ทดสอบว่าคุณและคนที่คุณรักเสี่ยงต่อโรคสมองเสื่อมหรือไม่ (คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพใหญ่) “สมอง” เจริญเติบโตและพัฒนาต่อเนื่องจนถึงอายุ 25 ปี และจะเริ่มเสื่อมลงตามอายุที่มากขึ้น ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มีเครื่องมือเพื่อช่วยจำ ช่วยคิด แทนการใช้สมอง ทำให้สมองขาดการใช้งาน เซลล์ประสาทขาดการกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง จนเกิดปัญหาสมองเสื่อมตามมา พบว่าภาวะสมองเสื่อมนั้นเกิดจาก โรคอัลไซเมอร์ ที่มีสาเหตุจากอนุมูลอิสระทำลายเซลล์สมอง ทำให้สมองไม่สามารถรับส่งกระแสประสาทได้ดีดังเดิม และอีกสาเหตุเกิดจากโรคหลอดเลือดในสมอง ซึ่งมีต้นเหตุจากโรคความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดตีบ จนส่งผลให้นำอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้ไม่เพียงพอ ทำให้เซลล์สมองเสื่อมและตายลงในที่สุด 10 สัญญาณอันตราย ทดสอบว่าคุณและคนที่คุณรักเสี่ยงต่อโรคสมองเสื่อมหรือไม่ 1. ความจำเสื่อม โดยเฉพาะความจำระยะสั้น หรือบกพร่องในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การถามย้ำซ้ำไปซ้ำมา หรือลืมไปแล้วว่าเมื่อสักครู่พูดอะไร ลืมนัดหมายที่สำคัญ จนต้องใช้เครื่องมือเพื่อช่วยจำ ไม่ว่าจะเป็นสมุดโน้ต หรืออุปกรณ์อิเลคโทรนิกส์ 2. งานหรือกิจกรรมอะไรที่เคยทำอยู่ประจำกลายเป็นงานที่ทำได้ยากขึ้น เช่น อาหารที่เคยทำแต่กลับลืมว่าต้องใส่อะไรก่อน-หลัง และใส่เครื่องปรุงไม่ครบ เป็นต้น 3. มีปัญหาในการใช้ภาษา เช่น พูดไม่รู้เรื่อง ใช้คำผิด […]

สรุป Admissions'57