น้ำตานอง…พ่อแม่ใส่รองเท้าขาดๆคนละข้างกัดฟันฝ่าเลี้ยงลูกจนโต แต่ลูกใส่รองเท้าสุดหรูแต่กลับเลี้ยงพ่อแม่ไม่ได้..!!
Advertisement เรียกได้ว่านี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งบทความที่สะท้อนให้เห็นชีวิตจริงในสังคมสมัยนี้ ก็เพราะด้วยวัตถุนิยมนั้นเข้ามามีผลกับการดำเนินชีวิต พ่อแม่นั้นสู้อุตส่าห์ตรากตรำทำงานหนักเพื่อให้ได้เงินมาส่งเสียให้ลูกเรียนหนังสือจบระดับสูง ๆ เพื่อเป็นความหวังให้พ่อแม่ในยามแก่ชราว่าจะได้สบาย Advertisement [ads] หลาย ๆ คนนั้นหารู้ไม่ว่าพ่อกับแม่นั้นยากลำบากแค่ไหนคิดจะใช้เงินสักบาทยังคิดแล้วคิดอีก วิธีทางใดบ้างที่จะพอบรรเทาประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้ก็ทำแม้จะต้องเหนื่อยขึ้นอีกหลายเท่าตัวก็ตาม รองเท้าหนึ่งคู่ก็ยังไม่กล้าที่จะซื้อห่วงก็แต่จะเก็บเงินไว้ส่งเสียให้ลูก ๆ ได้เอาไว้ร่ำเรียนใช้ในการดำเนินชีวิต หากแต่คุณลูกที่อยู่ที่ฟากฝั่งหารู้ค่าไม่ใช้เงินมือเติบ อยากได้โน่นได้นี่ ติดหลงกับค่าวัตถุนิยม แม้จะต้องโกหกพ่อแม่ว่าจะนำเงินเพื่อไปร่ำเรียนก็ทำ หวังให้ได้มาเพื่อทัดเทียมหรืออยากมีอยากได้เฉกเช่นกับลูกคนรวยคนอื่นเขา นึกย้อนดูเอาเถิดว่าพ่อแม่เสียสละทำเพื่อลูก ๆ ได้มากขนาดไหน ก่อนคิดที่จะใช้เงินแบบคนรวยก็ควรคิดวิเคราะห์สักนิดว่าต้องแลกกับอะไรมาพ่อแม่ต้องอดรนทนแค่ไหน Advertisement “ให้เจ้าฮักเพียรเลี้ยง สองเขือเจ้าพ่อแม่ ยามลาวแก่ชราเฒ่าให้คอยพ่ำหล่ำดู ไผสิดุขยันสร้างให้เจ้าเฮียนสูงยิ่ง แม่นเจ็บคิงเพิ่นกะอดตางสู้ซูเจ้าให้ยุ่ดี หล่าเอ้ย…..มีเวลาให้เจ้าเลี้ยงใจเค้า สองเลาให้สุขแก่น แนเด้อ กายเพิ่นเฒ่าแก่แล้ว ยังไว้แต่ใจเพิ่ง ซั่นแหล้ววว” ที่มา thaiarcheep และ http://www.iam-news.com/ [ads=center]