ทั่วไป

Advertisement สวัสดีค้าชาวพันทิปทุกคน เราเป็นคนนึงที่ชอบอ่านพันทิปมากมากต้องนั่งอ่านทุกวัน มันแบบได้รับรู้ถึงเรื่องราวชีวิตที่เราไม่เคยได้รู้ได้ประสบการณ์ใหม่ๆเยอะแยะเลย วันนี้เราเลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ของเราที่เกิดขึ้นกับตัวเอง แต่ประสบการณ์นั้นก็ทำให้มีสิ่งดีดีเกิดขึ้นในชีวิตเรามากมาย เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า เรามาย้อนกลับไปในวัยเด็ก          อีดำตับเป็ดอีเห็ดต้มยำ , อีแก้วหน้าม้า , อีเหยิน , อีดำ , อีฟันกระต่าย , โรนันนินโย่ , เสื้อลอยได้ , น้องดำดอทคอม , ข้าวนอกนา คำพวกนี้เราได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ  ทำไมหนะหรอ ก็เราทั้งตัวดำฟันเหยิน  ถามว่าเสียใจมั้ย เหอะไม่เสียใจอะเฉยๆมากทั้งเพื่อนที่บ้านเพื่อนที่โรงเรียนด่าเราทุกวัน เราโดนด่าโดนกัดจนตัวนี่พรุนไปหมดละแต่ฉันก็ไม่รู้สึก ..          จนวันนึงมีคนคนนึงเข้ามาในชีวิต แกฉันชอบเขามากกกเหมือนเป็นรักแรก เห่ยเราโอเคเราชอบเราปลื้มแต่เขาไม่โอเคกะเรา จากคำด่าทุกคำที่เราไม่เคยสนใจไม่เคยแคร์ คำด่านั้นกลับทำให้เราร้องไห้เพราะคนที่ด่าเรานั้นคือคนที่เราแอบชอบทำไมคนอื่นด่าแล้วเราไม่รู้สึกแต่พอคนที่เราแอบชอบด่าผมนี่แทบกระอัก และหลังจากนั้นเราก็รู้สึกแย่ทุกครั้งที่มีคนมาด่า  เพื่อนๆเคยมีความรู้สึกแบบนี้ไหม มันรู้สึกผิดหวังในตัวเองรู้สึกน้อยใจตัวเองรู้สึกแบบน้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง จนเราต้องแอบร้องไห้บ่อยๆ จะร้องไห้ตอนโดนด่าก็กลัวจะเสียหน้าเลยแอบเก็บเอาไปร้องไห้ที่บ้านดีกว่า555555           วันนึงโดนเพื่อนผู้ชายมาด่า "ไอ่โรนันนิโย่" สงสัยอยู่นานว่ามันคืออะไรกลับไปถามแม่ แม่เปิดรูปให้ดู ผมนี่อึ้งไปเลย โอ้โห้ฟันเราเหยินขนาดนั้นเลยหรอ คือแอบเจ็บบบบบบบ!!!!!!!!! แล้วคืออะไรไปบ้านยาย แล้วฝั่งบ้านยายนี่ขาวกันทุกคนโดนยายด่าตั้งแต่เด็กๆว่า "อีข้าวนอกนา" ตอนนั้นไม่เข้าใจความหมายของมันแต่พอโตขึ้นมา โห้ชีวิต ข้าวก็มา นาก็มา […]

กระทู้นี้ เป็นกระทู้แรก จากที่เคยอ่านแต่เรื่องราวของคนอื่นใน Pantip และดูซี่รี่คลับฟรายเดย์ จนอินบ่อน้ำตาแตกมาหลายๆครั้ง แต่ไม่เคยคิดว่าในที่สุด..เหตุการณ์เหล่านี้จะมาเกิดขึ่นกับตัวเราเอง ..   รูปไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา เรื่องราวของเราเป็นเหตุการณ์จริงๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเราเอง เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 เป็นวันเหตุการณ์ ที่ทำให้เราตัดสินใจเลิกกับอดีตสามี อย่างเด็ด ขาด มาจนทุกวันนี้… ณ ปัจจุบัน 3 เดือนกว่า แล้ว และเราไม่มีความคิดที่จะกลับไปคืนดีด้วยแน่นอน ขอเล่าเลยแล้วกันนะคะ ……..ตัวเรากับอดีตสามี (ต้องใช้คำว่าอดีตสามี เพราะไม่กลับไปเอาเป็นสามีแล้วแน่นอนค่ะ) เรากับอดีตสามีคบกันมา 15 ปี ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมา 10 ปี แต่งงาน มา 7 ปี  มีลูกด้วยกัน 1 คน(ลูกอายุ7ปี) สาเหตุที่แต่งเพราะเราท้อง … ซึ่งต่อไปนี้เราขอใช้คำเรียกแทนอดีตสามีว่า P  ค่ะ มองจากภาพลักษณ์ของครอบครัวเราภายนอก ครอบครัวเราดูเหมือนเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก จนใครหลายๆคนอิจฉา (ดูจากการลงFB สร้างภาพ ว่ารักเรารักลูกของP)เรารักและ เชื่อใจ P […]

วันนี้เราไปเจอ บทความหนึ่งมา อยากให้ลูกๆหลายๆคนได้อ่านนะคะ จะได้รู้ว่าความรักที่แม่มีให้เรามันมากมายมหาศาลขนาดไหน… แม่ของฉันตาบอดหนึ่งข้าง ฉันรู้สึกรังเกียจเขา การมีชีวิตอยู่ของเขาทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดใจ สมัยเรียนชั้นประถม มีวันหนึ่งโรงเรียนจัดการแข่งขันกีฬาสี แม่ก็มาดูฉันในการแข่งขันวันนั้น แต่ฉันกลับไม่รู้สึกดีแม้แต่นิดเดียว เพียงแต่รู้อึกอัดและลำบากใจอย่างมาก ฉันมองแม่ที่มีตาข้างเดียวด้วยความขยะแขยง และไม่อยากจะใส่ใจ เพราะในวันต่อมา ฉันถูกเพื่อนๆในโรงเรียนล้อเลียนว่า ฮ่าๆๆๆๆ แม่เธอเป็นอีบอด! ในตอนนั้น ฉันอยากให้แม่หายไปจากโลกใบนี้！ เมื่อกลับถึงบ้าน ฉันตะคอกใส่แม่ว่า ทำไมแม่ต้องมีตาเดียว แม่ทำให้หนูเป็นตัวตลกถูกเพื่อนๆล้อเลียน แม่น่าจะตายๆไปให้พ้นๆซะ แม่ไม่ตอบอะไรฉัน ฉันคิดว่าแม่คงรู้สึกเจ็บปวดอยู่ไม่น้อย แต่ฉันไม่สนใจ เพราะฉันได้พูดในสิ่งที่อยากพูดออกไปแล้ว และนั่นทำให้ฉันรู้สึกสบายใจมาก ฉันตื่นขึ้นมากลางดึก และไปหาน้ำดื่มที่ห้องครัว ฉันได้ยินเสียงคนร้องไห้ เมื่อเดินไปดูก็เห็นแม่ร้องไห้แต่ฉันกลับรู้สึกไม่เห็นใจแม่เลย ฉันมองแม่แค่แป๊บเดียวก็เดินถอยออกมา พร้อมกับบอกตัวเองว่าฉันต้องรีบโตเป็นผู้ใหญ่ และหนีไปอยู่ให้ไกลๆจากแม่ให้มากที่สุด ด้วยเหตุนี้ฉันจึงพยายามขยันเรียนหนังสืออย่างมาก และในที่สุดฉันก็หนีออกมาจากแม่จนได้ ฉันแต่งงานและมีลูก ตอนนี้ชีวิตของฉันประสบความสำเร็จ และมีความสุข ฉันรู้สึกชอบบ้านที่ไม่ต้องมีแม่อาศัยอยู่ด้วยแบบนี้ ในขณะที่ฉันกำลังดื่มด่ำกับช่วงเวลาแห่งความสุขที่ไม่ต้องมีแม่มากวนใจ ทันใดนั้นก็มีคนๆหนึ่งแอบมองฉันอยู่ ฉันตะโกนออกไปว่า นั่นใครอ่ะ! มีอะไร? ฉันรู้ทันที ว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือแม่ของฉัน เพราะเธอมีตาเพียงข้างเดียว เมื่อลูกสาวๆของฉันเห็นเข้าก็รีบวิ่งหนีเข้าไปในบ้านทันที ฉันตะโกนออกไปว่า เธอเป็นใคร ฉันไม่รู้จักเธอ […]

ช่วงนี้เวทีแม็กซิมดุเดือดเลือดพล่านกันจริ๊งๆ ไล่มาตั้งแต่สาว เอมมี่ อมลวรรณ หรือ เอมมี่ แม็กซิม เผยความลับว่ามีลูกโตกันอายุหลายขวบทำเอาคนนอกวงการถึงกับช็อก! ถัดจากนั้นไม่นานสาว เมจิ แม็กซิม ก็มีข่าวว่านางเคยมีความสัมพันธ์แซ่บกับปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล ทำเอาคนมองสาวๆเวทีแม็กซิมในภาพไม่ดี แต่ล่าสุดเห็นจะเป็นเรื่องดราม่า มหากาพย์หนักหน่วงกว่าใคร ถึงขั้นออกมาด่าแรงกันฟาดงวงฟาดงากันเลยค๊า กับ ลูกศร แม็กซิม รองอันดับสองมิสแม็กซิม 2015 กับผู้จัดการประกวดอย่าง แม่น็อต กฤติน จิกิตศิลปิน บรรณาธิการแฟชั่นนิตยสารแม็กซิม ที่ช่วงหลังมีข่าวฉาวบ่อยมาก ล่าสุดมีการโพสเฟสบุคของ ลูกศร แม็กซิม ว่า “สาระแนไม่เข้าเรื่อง” เลยเป็นที่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะไม่นานจากนั้นบังเอิญไปเจอข้อความคอมเม้นข้างใต้โพสดังกล่าว ของแม่น็อต กฤติน ว่า “ทำไมต้องด่าแม่ด้วย”   แหมไม่แน่ใจว่าจะเกิดศึกบาดหมางกันขึ้นหรือเปล่าเพราะก่อนหน้านี้ ทั้งลูกศรและแม่น็อต เรียกว่าความสัมพันธ์สนิทแนบแน่นจูบปากกันดีจะตาย แต่ไหนมาเกาเหลากันอย่างนี้ละยะ หรือว่าต้องการสร้างกระแสหรือเป็นเรื่องดราม่าไหปลาร้าแตก สืบถามไล่เรียงเรื่องราวจากปากแม่น็อตเองยืนยันว่า ก่อนหน้านี้ได้ไปพูดคุยให้คำแนะนำมีอารมณ์ตักเตือนกับ ลูกศร แต่ที่พูดไปเพราะหวังดี “พี่เองก็ไม่แน่ใจหรอกนะที่ ศร โพสนะหมายถึงเรามั้ย แต่ถ้าเขาว่าเรา อยากจะบอกว่าเราหวังดี ทุกคนในแม็กซิมมองพี่เองว่าเป็นเหมือนแม่ แล้วได้ยินข่าวมาว่าลูกสาวเราเนี่ย เจ้าศรเนี่ยมีผู้ชายเข้ามาจีบเยอะมาก คือแม็กซิมปีนี้ ยอมรับ ศรดังมากฮอตมาก มีข่าวตลอดเราเองรู้มาว่ามีผู้ชาย พระเอก นักร้อง  มาขายขนมจีบ เราก็เตือนๆเพราะศรมันใหม่กับวงการนี้ กลัวจะโดนหลอกเราเตือนให้ระวังให้เลือกคบคน” [ads] “เราก็เตือนหมด เรื่องความรัก เรื่องผู้ชายความสัมพันธ์ เกิดพลาดพลั้งขึ้นมาจะลำบาก หมดอนาคตได้ […]

นายกฯ เปิดงาน กองทุนการออมแห่งชาติ หวังช่วยคนรายได้น้อย ผุดไอเดีย ใส่ข้อมูล อาชีพ-รายได้ต่อปี ในบัตรประชาชน บอกรัฐบาลจะได้รู้ว่าต้องช่วยใคร             วันที่ 20 สิงหาคม 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดกองทุนการออมแห่งชาติ โดย พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า เมื่อลงทุนใน กอช. แล้วรัฐบาลก็จะสมทบไปตามสัดส่วนและนำไปบริหารโดยผู้บริหารกองทุนมืออาชีพ โดยจะมีกฎหมายที่ควบคุมชัดเจนไม่เสียหาย ซึ่งรัฐบาลจะต้องค้ำประกันผลตอบแทนของสมาชิกไม่ใช่ทำแล้วเจ๊งแล้วคืนเงินไม่ได้            ทั้งนี้เราจะจ่ายผลตอบแทนให้กับสมาชิกทุกคนให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีคุณภาพ โดยกองทุนนี้จะให้กับคนมีรายได้น้อยที่อยู่กับบ้าน สามีไม่ดูแล ภรรยาไม่ดูแล ลูกไม่ดูแลก็จะกลายเป็นสังคมสูงอายุที่ไม่มีคุณภาพ มีความเสี่ยงตลอดเวลา รัฐบาลต้องคิดเพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งวันหน้าจะมีกองทุนสาธารณูปโภคพื้นฐาน กองทุนทางด้านการสื่อสารซึ่งประชาชนจะมีส่วนร่วมทั้งหมด           วันเดียวกัน น.ส.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหารหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ Deep Blue Sea ว่า "นายกฯ ปิ๊งไอเดียใส่"อาชีพ-รายได้ต่อปี" ในบัตรประชาชน รัฐบาลจะได้รู้ว่าจะต้องช่วยใครยังไง ใครต้องเสียภาษีไม่เสียภาษี" [ads] และล่าสุดใน Twitter ชาวเนตได้มีการติด Hashtag #บัตรประชาชนแบบใหม่ เป็นเทรนที่กำลังมาแรงใน […]

  นิกกี้ พริตตี้ เงินล้านปล่อยโฮ! ภาพขึ้นปกแรง “ทำร้ายพ่อแม่หนูทางอ้อม”กลายเป็นประเด็นฮอตและดราม่าแบบรุนแรงเมื่อ สาวเซ็กซี่ นิกกี้ พริตตี้เงินล้าน หรือ นิกกี้ ณัฐณิชา ถึงกับร้องไห้ปล่อยโฮ หลังถูกนิตยสารชื่อดัง พาดหัวข่าวพร้อมใช้รูปที่ นิกกี้  รู้สึกว่ารุนแรงมากทำให้ตัวเองดูเซ็กซี่วาบวามจนเกินงาม “หนูว่าภาพนี้มันแรงไป เวลาหนูแต่งตัวเซ็กซี่ออกงานหนูจะซับข้างในหมด แต่รูปที่ออกมามันทำให้หนูไม่สบายใจ คือหนูจะบอกพ่อแม่หนูยังไง เขามาเห็นภาพนี้ เขาไม่เข้าใจ พ่อยิ่งเป็นเบาหวาน แม่ยิ่งป่วยเป็นความดัน มาเจอภาพที่มันรุนแรงแบบนี้แม่ไม่กล้าออกไปตลาด เขาอายคน คือที่ผ่านมามันพอรับได้ แต่นี่มันรุนแรงเกินไป นิกกี้เข้าใจทางทีมงานทำหนังสือเล่มนี้ว่าต้องเขียนอะไรแรงๆ ต้องเล่นเรื่องแรงๆ แต่เขาเคยถามหนูสักคำมั้ย เนื้อข่าวข้างในโอเคยอมรับว่า เขียนดีมาก แต่รูปพาดหน้าปกเห็นง่ามดำๆ มันอาจจะเป็นมุมกล้องที่เขาถ่ายได้ ปกติหนูจะระวังตัวและใส่ซับในสีเนื้ออยู่แล้วพี่”     [ads]   สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้น นิกกี้บอกว่าไม่ต้องการเอาผิดถึงขั้นฟ้องร้องกันรุนแรงอะไรหรอก เพียงแค่อยากให้พูดคุยกับทางนิตยสารเล่มดังกล่าว “คือหนูมีทุกวันนี้ต้องขอบคุณพี่นักข่าว เราต่างพึ่งพากันนะ ก็ไม่อยากถึงขั้นจะไปฟ้องร้องกัน แต่หนูแค่อยากพูดคุยถามไถ่หน่อย เพราะมันดูแรงไป คือหนูไม่เท่าไหร่ หนูแคร์ความรู้สึกของคนที่บ้านมากกว่า พ่อแม่หนูเขาไม่รู้เรื่องอะไร ภาพทำแบบนี้มันแรงเกินไป เขารับไม่ได้ ที่ผ่านมามันอยู่ในขอบเขตในลิมิตที่เป็นการทำงาน แต่พอมีภาพแบบนี้ พ่อแม่เขาเครียด คนมองไม่ดี”   สำหรับ นิกกี้ […]

หมอดูชื่อดังทำนายไว้แล้วกลางปี 58 ใจกลางกรุงเทพฯไฟไหม้ตึกถล่ม มีคลิป!!!ย้อนหลังไปเมื่อช่วงปลายปี 2557 รายการตื่นมาคุย ได้เชิญ หมอแมค  ซึ่งเป็นหมอดูชื่อดังมาออกรายการซึ่งได้พูดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 และมีช่วงหนึ่งซึ่งฟังแล้วรู้สึกขนลุกมากเมื่อ หมอแมค คนนี้บอกว่าช่วงประมาณกลางปี 2558 จะมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นในกรุงเทพฯ โดย หมอแมค บอกว่าจะมีเหตุการณ์ตึกถล่มและมีไฟไหม้บริเวณใจกลางกรุงเทพฯเลยบริเวณห้างดังรอบๆสยาม ซึ่งฟังแล้วหากเหตุการณ์ใกล้เคียงดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นคงไม่รู้สึกอะไร แต่พอมามีเหตุการณ์เกิดระเบิดตรงแยกราชประสงค์มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวน ซึ่งจุดดังกล่าวเรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของกรุงเทพฯมีห้างดังๆมามากมายอยู่บริเวณใกล้เคียง ชมคลิปที่ทำนาย นาทีที่ 7 เป็นต้นไป   ขอบคุณข้อมูลจากรายการ ตื่นมาคุย  ขอบคุณภาพจากคุณ  PORNCHAI KITTIWONGSAKUL / AFP และ รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย   [ads=center]

  เมื่อคืนวันที่ 17 สิงหาคม 2558 ฐาปนีย์ได้เข้าไปรายงานสถานการณ์ข่าวการวางระเบิดที่ศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ โดยเป็นการออกอาการสดผ่านรายการข่าวทางช่อง 3  ซึ่งจากภาพเหตุการณ์รายการข่าว จะเห็นว่า ฐาปนีย์ นั้นได้รายงานข่าวอยู่ใกล้กับสถานที่เกิดเหตุ ในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย กำลังเร่งนำตัวผู้บาดเจ็บสาหัสไปยังโรงพยาบาล และได้กำลังเร่งหาหลักฐาน เพื่อสืบสวนสอบสวน หาสาเหตุการระเบิดในครั้งนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการกั้นเขต ไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปยังบริเวณนั้นโดยเด็ดขาด  แต่ฐาปนีย์ และทีมข่าวช่อง 3 กลับเข้าไปในบริเวณนั้น และเมื่อเจ้าหน้าที่เดินมากันให้ออกจากทางพื้นที่ ฐาปนีย์ กลับหันไปตอบอย่างไม่สนใจว่า “กำลังรายงานข่าวอยู่นะคะ” ทำให้ชาวเน็ตหลายคนที่ได้เห็นภาพเหตุการณ์นั้น ต่างตำหนิฐาปนีย์กันอย่างมากมาย ว่าเป็นการเข้าไปขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ และทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ยากลำบากมากขึ้น ควรจะรายงานข่าวอยู่นอกพื้นที่มากกว่า ซึ่งงานนี้เรียกได้ว่า ก็กลายเป็นดราม่าเล็กๆ ที่เกิดขึ้นอีกครั้งกับคุณฐาปนีย์   ขอบคุณภาพจากเฟสบุ๊ค Supapich Hung

เป็นคราวซวยของเธอจริงๆ ค่ะ สำหรับเน็ตไอดอลหน้าใส อย่างน้องพิมฐา ที่มีฐานแฟนคลับติดตามเป็นอย่างมาก ด้วยความที่มีหน้าตาน่ารัก และมักจะโพสต์ภาพสวยๆ ให้หลายๆ คนได้เห็นกันอยู่เสมอ ล่าสุดพิมฐาได้โพสต์ภาพขณะเที่ยวญี่ปุ่นลงในอินสตาแกรม คืนวันเกิดเหตุระเบิดที่ย่านราชประสงค์ ทำเอาชาวเน็ตหลายคนเข้าไปดราม่าว่าเธอไม่รักชาติซะงั้น!  เพราะสาวพิมฐา โพสต์ภาพตามปกติลงในอินสตาแกรม ในขณะที่เหล่าดารา เนตไอดอล และประชาชนหลายคน ได้โพสต์ภาพเพื่อแสดงความเสียใจ และให้กำลังใจกับคนไทยที่กำลังเผชิญกับเหตุการณ์ร้ายๆ ซึ่งทำให้ชาวเน็ตบางคนเข้าไปตำหนิต่อว่าเธอว่า “ไม่รู้หรือไงว่าตอนนี้ประเทศกำลังเจอกับอะไร ยังมีหน้ามาโพสต์ภาพแบบนี้อีก ไม่รักประเทศชาติหรือไง?” กลายเป็นประเด็นดราม่าเล็กๆ ในอินสตาแกรมของพิมฐาแทบจะในทันที  [ads] ในขณะเดียวกัน ก็มีแฟนคลับบางส่วนเข้าไปปกป้องตัวสาวพิมฐาว่า เขณะนี้ตัวสาวพิมฐาไม่ได้อยู่ในประเทศไทย เลยทำให้อาจจะไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็เป็นได้     ภาพจากอินสตาแกรม pimtha   [ads=center]

หลังจากตกเป็นข่าวดังสำหรับ หญิง ขนิษฐา กุลสุมิตราวงศ์ หรือเฟสบุค Khanittar Koonsumitarwongที่ออกมาเล่าเรื่องราวชีวิตสุดแสนดราม่าของตัวเองว่าถูกสามีบังคับให้ทำแท้ง แต่เธอเลือกที่จะเก็บลูกไว้และหอบลูกพร้อมผ้าอ้อมผืนเดียวออกมาจากบ้านสามีหนีไปตายเอาดาบหน้า จนกลายเป็น ซิงเกิ้ลมัมหญิงนักสู้ เพราะทุกวันนี้เธอยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง มีธุรกิจที่มั่นคงแข็งแรง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลเพราะได้กำลังแรงใจจากลูกสาวตัวเล็กที่กำลังน่ารักน่าชัง แต่เรื่องราวชีวิตและการต่อสู้ ของ หญิง ขนิษฐา ไม่ได้จบเพียงแค่นี้ เพราเรื่องราวของเธอโด่งดังมากในโลกโซเซียล ขนาดมีการส่งแชร์เรื่องราวของหญิง จนได้รับความสนใจจากทีวีหลายๆช่องเชิญ หญิง ไปร่วมสัมภาษณ์พูดคุยในรายการ จนกระทั่งล่าสุด หญิง ได้ไปศาลเพื่อฟ้องค่าเลี้ยงดูจากฝ่ายชาย แต่สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกสะเทือนใจและรับไม่ได้เป็นที่สุดจนถึงกับแอบไปร้องไห้ในรถคนเดียวเพราะเจ็บปวดใจเมื่อสามีที่ทำเธอท้องและเคยบอกให้เธอไปทำแท้งบอกปัดว่า เด็กที่เธออุ้มมาขึ้นศาลไม่ใช่ลูกของเขา “เค้าบอกว่า ไม่ใช่ลูกเค้า แต่เขาจะช่วยค่าเลี้ยงดูก็ได้นะ เดือนหลักละ 300-500 บาท เค้าบอกว่าว่าหญิงมีตังค์อยู่แล้ว แถมตอนจะท้องเค้าบอกว่าหญิงบังคับให้เค้าแต่งงาน เขาเลยต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาแต่งงาน ตอนนี้เขาตกงาน สุดท้ายก็เลยเป็นผลพวงให้ปัจจุบันเขาไม่มีงานทำ พูดง่ายๆเป็นเพราะความผิดของเราพี่” พอได้ยินฝ่ายชายพูดแบบนี้รู้สึกยังไง “เครียดปวดหัวเลยพี่ ไม่คิดว่าเขาจะใจจืดใจดำกับลูกได้ขนาดนี้ ลูกของเขาทั้งคนนะ จะตรวจดีเอ็นเอ เราก็ยินดี เป็นทางฝ่ายเขาเองที่ไม่ยอมมาตรวจ เรายินดีเสมอ พูดบอกว่าไม่ใช่ลูกมันดูถูกเราไม่พอ เด็กตาดำๆที่เขาทำให้มีชีวิตขึ้นมา เขาไม่รู้สึกรักอะไรเลยเรอ เขาเคยรักใครจริงๆบ้างมั้ย หรือรักแต่ตัวเอง แต่ก็ตลกนะเขาเขียนอะไรต่างๆส่งมาทางทนายดูเยอะมาก แต่ลงท้ายที่ให้หนูสะอึกคือ เขาบอกว่าเขามีจรรยาบรรณการเป็นพ่อที่ดี คนแบบนี้เรอ กล้าพูดได้ยังไง” [ads] เห็นบอกว่าฝ่ายชายเอาใบเสร็จค่าใช้จ่ายงานแต่งงานมาด้วยหวังจะเบิกจากเราใช่ไหม “คือหญิงก็ไม่รู้ว่าเขาจะเอามาเบิกกับหญิงหรือเปล่านะ เขาเอามาด้วยพวกค่าแต่งงานอะไรต่างๆ […]