ทั่วไป

Advertisement ที่อยู่อาศัย นับเป็นปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งปัจจุบันการซื้อที่อยู่อาศัยก็จะเป็นการกู้ยืมจากธนาคารและผ่อนชำระกันยาวๆ 20-30 ปี เป็นอย่างน้อย แต่สิ่งที่ต้องศึกษาก่อนซื้อบ้านก็คือ เรื่องดอกเบี้ยเงินกู้นั่นเอง Advertisement โดยหลายครั้งบนโซเชียลมักจะมีการตั้งคำถามถึงเรื่องดอกเบี้ยบ้าน ซึ่งโพสต์นี้ถูกโพสต์ลงในกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค ระบุว่า “ค่าบ้านไม่ตัดเงินต้นสักบาท ดอกเบี้ย 100% ใครเป็นบ้าง” Advertisement ผู้โพสต์ได้แนบบิลการชำระเงิน ในเดือน มิ.ย. และ ก.ค. โดยมีรายละเอียดระบุว่า เป็นการหักชำระอัตโนมัติ ในเดือนมิ.ย.ชำระไป 18,500 บาท เป็นเงินต้น 8,057 บาท และดอกเบี้ย 10,442 บาท แต่เดือน ก.ค.ชำระ 20,500 บาท เป็นดอกเบี้ย 20,500 บาททำให้กลายเป็นสาเหตุของความข้องใจครั้งนี้ ทั้งนี้ ในการคำนวณดอกเบี้ยบ้านนั้น จะต้องทราบกำหนดระยะเวลาการจ่ายคืน และดอกเบี้ยที่ธนาคารคิด ซึ่งธนาคารมักจะให้สิทธิผู้กู้ ได้จ่ายดอกเบี้ยต่ำช่วงแรกก่อนที่พ้นระยะเวลาก็จะมีการปรับเปลี่ยนการคำนวณดอกเบี้ยใหม่ แต่จะให้สิทธิรีไฟแนนซ์ได้ ทำให้ผู้บริโภคต้องศึกษารายละเอียดการกู้อย่างรอบคอบ   ข่าวจาก : ข่าวสด

1 ส.ค.2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเปิดลงทะเบียนและยืนยันตัวตนในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต ทางแอปพลิเคชัน ทางรัฐ ว่า วันแรกที่เปิดลงทะเบียน จนถึงเวลา 12.17 น. มียอดคนลงทะเบียนสำเร็จแล้ว 7.85 ล้านคน และยืนยันระบบแอปไม่ล่ม ประชาชนทุกคนที่มีคุณสมบัติจะได้รับสิทธิ์แน่นอน ส่วนการลงทะเบียนขอให้ทยอยลงได้ ตั้งแต่วันนี้ – 15 ก.ย. ทั้งนี้ ในช่วงของการเปิดระบบวันแรก อาจพบปัญหาบ้าง จากจำนวนผู้ใช้เข้างานจำนวนมากในเวลาเดียวกัน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาต่อเนื่อง ส่วนผู้ที่ยังไม่สามารถเข้าใช้งานแอปได้ หรือยังใช้งานแอป ในเวอร์ชันเก่า ขอให้ทำการลบแอป และดาวน์โหลดเวอร์ชันล่าสุด (Version 3.0.0) อีกครั้ง นายชัย กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กำชับให้ดูแลระบบและติดตามผลการลงทะเบียนโครงการ และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนให้มากที่สุด และต้องพร้อมรองรับการแก้ปัญหาแบบรายต่อราย เช่น กรณีการอัปเดตแอป ทางรัฐ และพบปัญหาการเข้าล็อกอินใหม่ เมื่อเข้าล็อกอินแล้วยังเข้าใช้งานบางบริการภายในแอป ไม่ได้ รวมถึงกรณีที่ผู้เข้าใช้งานเดิมที่ได้ตรวจสอบตัวตนผ่านแล้ว […]

วันที่ 30 ก.ค. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงการประชุมสภากลาโหมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ ในวันเดียวกันนี้ (30 ก.ค.) จะหารือถึงการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลหรือไม่ว่า ในวันนี้จะเน้นย้ำกรอบและหลักคิดการทำโผโยกย้ายนายทหารประจำปี 2567 ซึ่งเข้าใจว่ายังมีเวลาก็ให้ทุกเหล่าทัพไปดำเนินการเมื่อถามว่าตำแหน่งสำคัญ เช่น ผบ.ทบ. และ ผบ.ทร. จะให้หลักคิดในการเลือกคนอย่างไร   นายสุทิน กล่าวว่า คงต้องรับฟังจากหลากหลายแนว คนในกองทัพยอมรับใคร รวมถึงความคิดเห็นของคนเก่า ผลงาน ฝีมือ ความรู้ ความสามารถ แต่ก็ยอมรับว่าเรื่องรุ่นถือเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณา แต่ไม่ใช่ประเด็นหลัก เมื่อถามว่าการประชุมบอร์ดปรับย้ายนายทหาร ถึงขั้นต้องโหวตหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า หากตกลงกันไม่ได้ก็ต้องโหวต แต่ทราบว่าที่ผ่านมาไม่เคยต้องมีการโหวต เมื่อถามว่ามองอย่างไรกับคำพูดที่ว่าโผทหารเป็นของร้อน   นายสุทิน กล่าวว่า ของร้อนก็คือทำไม่ดี แต่เราจะทำให้ดีโดยการยึดหลักความเป็นธรรม เมื่อถามว่าฝ่ายการเมืองจำเป็นต้องพิจารณาตำแหน่งสำคัญ หรือจะยึดตามที่ ผบ.เหล่าทัพ เสนอ นายสุทิน กล่าวว่า ตนจะฟังทั้งระดับข้างบน กลาง และล่าง เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่มีการพูดถึง […]

30 ก.ค.67 ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ซึ่งมีการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สาม (ครั้งที่ 5) มีการถกเถียงกันเรื่องการแต่งตั้งบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นกรรมการวิสามัญร่วมพิจารณางบประมาณกรุงเทพมหานคร โดยในตอนหนึ่งของการประชุม นายนวรัตน์ อยู่บำรุง ส.ก.เขตหนองแขม ได้ลุกขึ้นอภิปรายแสดงความไม่พอใจต่อกรณีดังกล่าว อ้างสภาสมัยที่แล้วไม่มีการแต่งตั้งคนนอกมาร่วมพิจารณาก็ไม่มีปัญหา ก่อนตบท้ายด้วยขอให้สภาแห่งนี้รักสามัคคีกัน   “ผมนายนวรัตน์ อยู่บำรุง ส.ก.จากหนองแขม 7 สมัยครับ ที่ผมบอก 7 สมัยเพราะผมเป็นผู้อาวุโส ในฐานะประธานคณะกรรมการการปกครองรักษาความสงบเรียบร้อยของสภา ผมได้ติดตามข่าวการแต่งตั้งกรรมการวิสามัญเนี่ย ผมฟังแล้วมันไม่สบายใจไง กทม.เนี่ยผมว่าคนนอกเนี่ยชอบเข้ามายุ่งเกี่ยวแล้วมาใส่ร้าย ส.ก.ตลอด ทุกยุคทุกสมัย มันเป็นเพราะอะไรฮะ มันอยู่ที่ฝ่ายบริหารด้วย(ชี้นิ้ว) ท่านผู้ว่าฯนี่นะ ไปให้สัมภาษณ์เนี่ย เอ้าจริงรึเปล่าล่ะท่านผู้ว่าฯ เอ้า! ผมดูไอ้นี่อยู่ ยูทูบเนี่ย ไปพูดอะไรก็ไม่รู้ (ดร.จอน : ท่านนวรัตน์ใจเย็นๆ นะฮะ) ไม่เย็นแล้ว วันนี้ร้อนแล้ว (หัวเราะ)   จริง ๆ แล้วเรื่องพวกนี้มันไม่น่าเกิดขึ้น แล้วทำให้ กทม.สภาของเราเนี่ยเสียชื่อ […]