บทความทั่วไป

Advertisement 28 ต.ค.2567 เป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียลอย่างมาก หลังเจ้าของร้านทองวารินเยาวราช สาขาตลาดเจริญศรี จ.อุบลราชธานี ลงคลิปวิดีโอ สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1.6 กิโลกรัม หรือ 108 บาท มูลค่าเกือบ 5 ล้านบาท ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์และชื่นชมอย่างมาก Advertisement ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ นายสรวิชญ์ พาชิยานุกูล อายุ 25 ปี เจ้าของร้านทองวารินเยาวราช อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เปิดเผยที่มาของสร้อยคอทองมังกรดังกล่าว มีชื่อว่า “สร้อยคอมังกรยักษ์ ลาย “แปดเซียน” มีน้ำหนัก 108 บาท หรือประมาณ 1.6 กิโลกรัม ราคาประมาณ 4.9 ล้านบาท ส่วนเหตุผลที่สร้างสร้อยคอเส้นนี้ เพราะปัจจุบันมีการทำลาย 8 เซียนขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะขึ้นชื่อเรื่องของความใหญ่อยู่ทรง จึงคิดว่าถ้าทำลาย 8 เซียนขึ้นมาในน้ำหนัก 108 บาท ปรากฏสร้อยมีความใหญ่เท่ากับทองคำน้ำหนักถึง 300 บาท […]

“เจ๊ไฝ” ไข่เจียวปู หรือ เปีย-สุภิญญา จันสุตะ อายุ 81 ปี ประกาศอำลาวงตะหลิวไม่ทำร้านต่อ โดยร้านเจ๊ไฝจะปิดภายในปีหน้า ด้านเจ๊ไฝ เล่าสาเหตุที่ตัดสินใจวางมือเจ้าตัวยอมรับว่าลำบากมาก การเตรียมร้านและของที่ต้องใช้ต้องละเอียด เธอไม่ไว้ใจให้พนักงานในร้านทำ ซึ่งตอน 7 โมงเช้าต้องลงมาเช็กวัตถุดิบที่ต้องใช้ในแต่ละวัน หากของไม่ได้คุณภาพหรือไม่ถูกใจจะถูกส่งกลับทันที และไม่ได้มีแผนที่จะให้ลูกสาวมาดูแลกิจการต่อ แต่เจ๊ไฝยินดีที่จะแจกสูตร พร้อมสอนให้กับผู้ที่สนใจจะนำไปทาน ทั้งนี้สูตรการทำอาหารทั้งหมดมาจากตัวเจ๊ไฝเอง ไม่มีมีใครสอนมาก่อน เมื่อถามถึงแผนการเกษียณอายุ เจ้าของร้านมิชลินสตาร์สตรีทฟู้ดตอบว่าเคยคิดว่าจะเกษียณอายุเมื่อครบ 80 ปี ณ ขณะนี้ อายุ 81 ปีแล้ว แต่ทางผู้ใหญ่บอกว่าค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป เธอก็เริ่มถอยออกมาเรื่อย ๆ จากที่ร้านเคยหยุดวันอาทิตย์เพียงวันเดียวจึงเปลี่ยนมาเป็นหยุด 2 วัน คือวันอาทิตย์และวันจันทร์ กระทั่งปัจจุบันทางร้านเปิดบริการเพียง 4 วันคือ วันพุธ – วันเสาร์   ทั้งนี้ เจ๊ไฝยังคงมีโปรเจ็คและสัญญาที่ทำร่วมกับประเทศเกาหลีและประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย […]

28 ตุลาคม ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ในการประชุม กกพ. ครั้งที่ 40/2567 (ครั้งที่ 925) เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2567 มีมติเห็นชอบข้อเสนอแนวทางการปรับปรุงเงื่อนไขการวางเงินประกันการใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ ได้แก่ ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท 3 กิจการขนาดกลาง ประเภท 4 กิจการขนาดใหญ่ และประเภท 5 กิจการเฉพาะอย่าง ที่มีประวัติการชำระค่าไฟฟ้าดี โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย (การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ) ปรับปรุงเงื่อนไขการวางเงินประกันการใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ที่มีประวัติการชำระค่าไฟฟ้าดี ตามแนวทางที่ กกพ. ได้วางไว้ “กกพ. เข้าใจดีถึงภาระต้นทุนในการทำธุรกิจจากการวางหลักทรัพย์เพื่อเป็นการประกันการใช้ไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย ซึ่งผู้ใช้ไฟฟ้าบางประเภทและในบางอุตสาหกรรมต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูง เป็นต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ ในขณะเดียวกันคำนึงถึงคู่สัญญาคือการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายด้วย เพราะหากเกิดกรณีไม่ชำระค่าไฟฟ้า หรือค้างชำระค่าไฟฟ้าเกินกำหนด หรือละเมิดการใช้ไฟฟ้า ก็จะเป็นความเสี่ยงและเกิดภาระต้นทุนของการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย เนื่องจากการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายเองก็ต้องจ่ายกระแสไฟฟ้าไปให้ผู้ใช้ก่อนแล้วค่อยเรียกเก็บเงินค่าไฟในภายหลัง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย กกพ. จึงมีมติโดยวางกรอบให้สิทธิได้รับการลดวงเงินประกันการใช้ไฟฟ้าตามประวัติการชำระค่าไฟและสถานะหนี้คงค้างค่าไฟเป็นหลัก ซึ่งขอย้ำว่าการวางเงินประกันการชำระค่าไฟฟ้ายังคงมีความจำเป็น เพื่อไม่ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าต้องร่วมรับผิดชอบการไม่ชำระค่าไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้าบางราย […]

27 ตุลาคม 2567 จากกรณีข่าวที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งอาจารย์พิเศษของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รร.นรต. ขอชี้แจงหลักเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นอาจารย์พิเศษตามประกาศโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ว่าด้วยแนวทางการแต่งตั้งอาจารย์พิเศษในหลักสูตรของ รร.นรต.ต้องมีการดำเนินการ ดังนี้ 1. คณะตรวจสอบคุณวุฒิตามเกณฑ์ของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ.2565 2. คณะตรวจสอบความประพฤติ/จริยธรรม โดยการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม หรือให้ผู้บังคับบัญชารับรอง 3. ประชุมคณะกรรมการประจำคณะพิจารณาและความพร้อมในการมาสอนเมื่อได้รับการแต่งตั้งตามประกาศ รร.นรต. 4. ทุกสิ้นเทอมให้อาจารย์ผู้รับผิดชอบวิชาตรวจสอบการมาสอนของอาจารย์ตามคำสั่งแต่งตั้ง และให้รายงานต่อคณบดีทราบ เพื่อรวบรวมส่งให้ศูนย์บริการทางการศึกษา (ศบศ.) รร.นรต. ในกรณีที่คุณสมบัติไม่ครบตามข้อ 1 จะต้องเสนอให้สภาการศึกษา รร.นรต.พิจารณาอนุมัติต่อไป ขณะนี้ รร.นรต. ได้สั่งให้คณะตำรวจศาสตร์ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบรายวิชาที่เชิญบุคคลดังกล่าวมาเป็นอาจารย์พิเศษดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และรายงานผลให้ทราบโดยด่วน และให้ ศบศ.ดำเนินการตรวจสอบการจัดทำคำสั่งแต่งตั้งอาจารย์พิเศษว่าเป็นไปตามกระบวนการและขั้นตอนที่ รร.นรต.กำหนดไว้หรือไม่ หากพบข้อบกพร่องให้ดำเนินการเร่งแก้ไขคำสั่งโดยเร็ว พร้อมกันนี้ได้ให้มีการสั่งให้ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงในกรณีการประพฤติผิดจริยธรรม เพื่อจะได้ดำเนินการทางวินัยตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป   ข่าวจาก :ไทยรัฐออนไลน์

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เพื่อจัดสรรสินเชื่อที่อยู่อาศัยดอกเบี้ยพิเศษให้แก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม มาตรา 33, 39 และ 40 โดยสำนักงานประกันสังคมได้จัดสรรวงเงิน 10,000 ล้านบาท ให้ ธอส. นำไปปล่อยกู้ให้ผู้ประกันตน เพื่อสนับสนุนให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง เงื่อนไขพิเศษ อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 1.59% สำหรับเงื่อนไขสินเชื่อ ผู้ประกันตนที่ได้รับการอนุมัติจะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ แบ่งเป็น 3 ช่วง ดังนี้ ช่วงที่ 1: 5 ปีแรก ดอกเบี้ย 1.59% ต่อปี ช่วงที่ 2: ปีที่ 6-8 ดอกเบี้ย MRR -2.00% ต่อปี ช่วงที่ 3: ปีที่ 9 จนถึงตลอดอายุสัญญา ดอกเบี้ย MRR -0.50% ต่อปี […]

“ภาษีไปไหน” เป็นคำถามที่หลายคนรู้สึกทันทีที่รับรู้ข่าวหน่วยงานราชการใช้เงินจำนวนมากในสิ่งที่ดูแล้วประชาชนจะไม่ได้อะไร หรือไม่ก็ในข่าวที่มีการจัดเก็บภาษีในอัตราที่ดูเหมือนโหดเกินไป เมื่อเทียบกับรายได้และค่าครองชีพในปัจจุบัน “ภาษีไปไหน” มีคำตอบ! เพียงแค่เข้าเว็บไซต์ https://govspending.data.go.th/ จะเจอเว็บหน้าตาแบบนี้ ให้เราสามารถกรอกคำค้นหาที่ต้องการคำตอบได้ว่า ภาษีในเรื่องนั้น ปลายทางอยู่ตรงไหน ปัจจุบันทำอะไรไปแล้ว โดยแบ่งเป็น 3 หมวดหลักคือภาษีมาจากไหน, งบประมาณ และจัดซื้อจัดจ้าง   เมื่อคลิกเข้าไปในหมวด “ภาษีมาจากไหน” ก็จะแบ่งเป็น 2 หมวดหลัก คือรัฐบาล และท้องถิ่น (สามารถเลื่อนลงอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้)   เมื่อคลิกเข้าไปหน้างบประมาณ ก็จะพบแผนภูมิรายงานว่างบประมาณแบ่งไปกับด้านไหนบ้าง   และเมื่อคลิกเข้าไปใน “จัดซื้อจัดจ้าง” ก็จะเข้าสู่หน้าที่รายงานว่า จัดซื้อจัดจ้างไปกับอะไรบ้าง จังหวัดไหนบ้าง   ทั้งนี้ สามารถค้นหาคำที่สนใจในหน้าแรกได้ ซึ่งก็คือหน้าเว็บไซต์ https://govspending.data.go.th/      

24 ต.ค.2567 ที่กองบัญชาการกองทัพบก นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังตรวจเยี่ยมกองทัพบกว่า วันนี้มาอยู่ในวงรอบของทหารก็รู้สึกอบอุ่น ได้ต้อนรับอย่างสมเกียรติ ถือเป็นการให้เกียรติตนในการเข้ามาร่วมกันทำงาน ทั้งนี้ได้ฟังสิ่งที่กองทัพได้ดำเนินการและแผนงานที่จะเดินไปข้างหน้า โดยมีเป้าหมายให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดให้ได้ โดยเฉพาะการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงในโลกสมัยใหม่ และภัยคุกคามที่เกิดขึ้น จากการเข้าไปช่วยเหลืออุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงรายทำให้เห็นถึงศักยภาพความมีระเบียบวินัย และ ประสิทธิภาพของกองทัพ สิ่งที่จะต้องพูดคุยกันต่อไป คือเรื่องการเกณฑ์ทหารโดยสมัครใจมากขึ้น ซึ่งจะต้องมี แผนนโยบายไทม์ไลน์ที่เป็นรูปธรรมชัดเจนและ มีการพูดคุยกันว่าบทบาทหน้าที่ในการเกณฑ์ทหารอาจจะไม่ใช่กองทัพบกเพียงอย่างเดียว ซึ่งกองทัพเรือและกองทัพอากาศควรจะต้องทำบทบาทหน้าที่ของตนเองในส่วนนี้ด้วย เพราะจะทำให้ทหารเกณฑ์สามารถสมัครในพื้นที่ตัวเองไม่ต้องมาเกณฑ์ทหารในส่วนกลางเป็นการจัดคนให้ถูกกับงาน ไม่ใช่เอาชาวเขาไปอยู่ในทะเล พร้อมทั้งจะทำให้ให้ผู้ปกครองมาเยี่ยมได้สะดวกมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ต้องเพิ่มการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้นและวางบทบาทเหล่าทัพให้ชัดเจนขึ้น นอกจากนั้นยังมีการพูดเรื่องการปรับลดกำลังพลและเพิ่มเทคโนโลยีเข้ามาช่วย อีกครั้งต้องให้ความสำคัญกับสวัสดิการทหารชั้นผู้น้อยอาจจะต้องมีการหารือกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม). การเคหะแห่งชาติ เพื่อให้เขามีโอกาสที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะคนกลุ่มนี้ถือว่าเป็นกลุ่มเปราะบางต้องได้รับการเอาใจใส่ช่วยเหลือ รวมถึง ชีวิตความเป็นอยู่ของทหารชั้นประทวนโดยพิจารณาเพิ่ทเบี้ยเลี้ยง อาจต้องหารือกับกรมบัญชีกลางและสำนักงบประมาณต่อไป ทั้งหมดต้องดูที่เหตุและความจำเป็น ความถูกต้องเหมาะสม เมื่อถามว่าทำงานมาสองเดือนแล้วความรู้สึกกับทหารแตกต่างจากเมื่อตอนเป็นนักศึกษาหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก็แตกต่าง เมื่อก่อนไม่เคยเข้ามาสัมผัสภายในนี้ ตอนเป็นนักศึกษาก็มีความรู้สึกแตกต่าง แต่ก็ขึ้นอยู่กับทหารแต่ละยุคสมัยเพราะตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย 2514-2515 ตอนนั้นทหารระดับสูงจะมีอำนาจมาก  จึงเกิดปัญหาความขัดแย้งในสังคมซึ่งเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ตนคิดว่าวันนี้ส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทหาร หรือพลเรือน ต้องปรับตัว ปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว เพราะฉะนั้นความทันสมัย […]

ลูกสาววัย 17 ปี ถูกคนร้ายลวนลาม แม่พาเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองพัทยา สาขาโค้งดงตาล แต่กลับถูกตำรวจ โยกให้ไปอีกท้องที่ สับไปสับมาจนงง ก่อนพบว่า ร้อยเวรเจ้าของคดี นอนหลับอยู่ในห้องสอบสวน ผู้เสียหาย ต้องไปปะทะคารมณ์กับตำรวจกันเล็กน้อย กับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่แม่ผู้เสียหาย พาลูกสาว อายุ 17 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองพัทยา แต่ถูกให้ไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองพัทยา สาขาโค้งดงตาล ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ หลังจากที่ลูกสาวถูกคนร้ายลวนลาม หวังจะกระทำชำเรา โดยได้เข้าไปโอบกอดข้างหลัง แล้วลากขึ้นรถ ก่อนจะลวนลามจับหน้าอกและของลับ ทำให้ลูกสาวใช้ศอกกระแทกไปที่ใบหน้าของผู้ก่อเหตุ แล้วเปิดประตูรถวิ่งหนีออกมาได้ จึงไปเล่าให้แม่และญาติฟัง ก่อนจะพากันเข้าแจ้งความ (เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา) ระหว่างพาลูกสาว เข้าไปแจ้งความกับ ร้อยเวร สภ.เมืองพัทยา สาขาโค้งดงตาล พบว่า ตำรวจที่รับแจ้งความใส่เครื่องแบบครึ่งท่อน สอบถามเบื้องต้น ราว ๆ 10 – 20 นาที กลับบอกว่าให้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา ทำเอาถึงกับงง ก่อนจะมีการปะทะคารมกับตำรวจอยู่หน้าห้อง […]

26 ต.ค. 2567 ที่ศาลอาญา  ถ.รัชดาภิเษก  พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ  (ดีเอสไอ) ร่วมกันนำตัว น.ส.สุชาดา หรือ นัทธมล  หรือ นัตตี้ ลีอาห์ เน็ตไอดอล และยูทูบเบอร์  ชื่อดัง อายุ 31 ปี เจ้าของช่อง นัตตี้ ไดอารี่  และนางธานิยา อายุ 66 ปี มารดา ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน ตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 12  ก.ย. 2565 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จบิดเบือนหรือปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน  มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม – 6 พฤศจิกายน นี้  เนื่องจาก ต้องสอบปากคำพยานผู้เสียหายจำนวนมาก  รอผลการตรวจประวัติอาชญากร  รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง และอื่นๆ กรณีผู้ต้องหาทั้งสองกับพวกร่วมกันหลอกลวงประชาชนจำนวนมาก กว่า 6,000 […]