บทความทั่วไป

Advertisement แน่นอนว่าคนเราในยุคสมัยนี้เป็นยุคที่เรียกว่า "สังคมก้มหน้า" ห่างจากมือถือแทบไม่ได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเวลาทำงาน เล่นเกมส์หรือติดต่อสื่อสารกับคนอื่น ก็ล้วนแต่ต้องใช้มือถืออยู่แทบตลอดเวลา รวมทั้งแอพพลิเคชันและฟังก์ชันที่ถูกพัฒนาออกมาให้ใช้อยู่ตลอดเวลาในมือถือสมาร์ทโฟน ยิ่งทำให้ขาดมือถือไม่ได้เลยแม้แต่สักนาทีเดียว ดังนั้นใครที่มีสมาร์ทโฟนก็ถือว่าต้องใช้ให้คุ้มกับเงินที่เสียไป Advertisement แต่คุณเคยสังเกตเห็นรู 1-2 รูที่อยู่ด้านข้างกันบ้างหรือไม่? ซึ่งตำแหน่งของมันขึ้นอยู่กับว่าบริษัทอะไรผลิตหรือรุ่นไหน บ้างจะอยู่ด้านบน บ้างจะอยู่ด้านล่าง คุณรู้มั้ยว่ารูเหล่านี้เอาไว้ทำอะไร เอาไว้ระบายความร้อนหรือเป็นการออกแบบมาแบบไร้ประโยชน์กันแน่ ซึ่งวันนี้เราก็มีคำตอบให้คลายความสงสัยกันว่ามันคืออะไรกันแน่ ? ซึ่งเชื่อได้เลยว่า คน 80% ไม่เคยรู้เลยว่ารูที่ว่านี่ก็คือ "ไมโครโฟนคู่เพื่อลดเสียงรบกวน!" นั่นเอง Advertisement โดยในปัจจุบันนี้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่จะมีไมโครโฟนสองอัน ไมโครโฟนหลักจะถูกออกแบบมาให้อยู่ด้านล่าง สะดวกสำหรับรับเสียงเวลาคุยโทรศัพท์ แต่การทำแบบนี้ เสียงรบกวนรอบๆตัวก็จะเข้าไปด้วย เมื่อคลื่นเสียงถูกส่งออกไป ก็จะทำให้มันมีคุณภาพต่ำ ดังนั้น ไมโครโฟนก็เลยต้องมีผู้ช่วย! รูเล็กๆที่พวกคุณสงสัยกันเมื่อสักครู่ ก็คือผู้ช่วยไมโครโฟนนั่นเอง ผ่านเทคโนโลยีลดเสียงรบกวนด้วยไมโครโฟนสองตัว ที่เรียกว่า “เทคโนโลยีการลดเสียงรบกวน 2MIC” เนื่องจากไมโครโฟนหลักและไมโครโฟนผู้ช่วยจะบันทึกทั้งเสียงรอบข้างและเสียงพูดเข้าไปด้วยกัน ไมโครโฟนสองตัวเมื่อรับเสียงพูดเข้าไปจะต่างกันประมาณ 6 dB (เดซิเบล) ถึงเวลานี้เครื่องประมวลผลภายในมือถือก็จะสร้างคลื่นเสียงที่ตรงข้ามกับเสียงรบกวนขึ้นมาโดยอัตโนมัติเพื่อลดเสียงรบกวน ทำให้ไม่ว่าเราอยู่ในสถาที่ที่มีเสียงรบกวนมากแค่ไหน ก็ยังสามารถทำให้คนที่คุยกับเราได้ยินเสียงเราอย่างชัดเจน ดังนั้นพวกเราสามารถรู้ได้ว่า เพื่อจะทำให้ไมโครโฟนสองอันสามารถลดเสียงรบกวนอย่างได้ผล ระยะห่างระหว่างไมโครโฟนหลักและไมโครโฟนผู้ช่วยไม่ควรใกล้กันเกินไป ไม่เช่นนั้นความดังของเสียงพูดที่ส่งไปถึงไมโครโฟนจะเท่ากัน เช่นนั้นก็จะไม่สามารถลดเสียงรบกวนได้ ไม่มีประโยชน์เปล่าๆ […]

จากเหตุการณ์ที่คนร้ายลงมือสุดเหี้ยม ดักปล้นรถยนต์ของนายกาจพลและนางฐิตาภา ภูววิมล 2 สามีภรรยา อาชีพกรีดยาง นำไปประกอบระเบิดเป็นคาร์บอมบ์ หวังถล่มฐาน ตชด. ที่ อ.เทพา จ.สงขลา แต่เคราะห์ดีที่สามารถเก็บกู้ได้ก่อน แต่ที่โชคร้ายคือสามีภรรยาดังกล่าวถูกทำร้ายมัดมือไพล่หลัง นำไปโยนทิ้งคลองเทพา(คลิกอ่านข่าวย้อนหลัง >>> ยิ่งกว่าโหด ศพ2ผัวเมีย โจรใต้ทุบหัวชิงรถทำคาร์บอมบ์​ ทิ้งคลองให้จมตาย) ยิ่งไปกว่านั้น เหตุการณ์ครั้งนั้น มีเด็ก 2 คนต้องเป็นกำพร้าทั้งพ่อแม่พร้อมกัน คือ ด.ช.ศุภกร ภูววิมล หรือน้องแม็ก และ ด.ญ. วิรัญธร ภูววิมล บุตรของ 2 สามีภรรยา โดย ด.ช.ศุภกร  คนพี่อายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนเทพา อ.เทพา และ ด.ญ.วิรัญธร อายุเพียง 6 ขวบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนวัดลำไพล อ.เทพา วันที่ 5 มี.ค. ผู้สื่อข่าวไปที่วัดบ้านลำไพล […]

5 มีนาคม 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถกระบะเสียหลักตกคูน้ำริมถนน บริเวณถนนเลียบชายหาดบ้านบางเกตุ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี มีผู้บาดเจ็บอยู่ภายในรถ จึงได้ประสานไปยังหน่วยกู้ภัยศิรินทร์และมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถานจังหวัดเพชรบุรี รีบรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบ ด.ช.วัฒนา เที่ยงธรรม อายุ 14 ปี เป็นผู้ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุที่ติดอยู่ในรถออกมา โดยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้ช่วยกันกู้ชีพผู้ประสบเหตุ แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ เพราะจมน้ำนานเกิน 20 นาที โดยทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายธีระ ศรีพรหมมา อายุ 53 ปี ชาวจังหวัดเพชรบุรี และพบรถกระบะสีบรอนซ์เงิน ในสภาพจมน้ำหงายท้องอยู่บริเวณคูน้ำริมถนน ด้าน ด.ช.วัฒนา เล่าว่า ตนเป็นนักเรียนชั้น ม.2 ของโรงเรียนหัวหินวิทยาลัย จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยก่อนเกิดเหตุพ่อได้พามาทำธุระในบริเวณใกล้เคียง และเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก็เห็นชาวบ้านร้องขอความช่วยเหลือว่ามีคนติดอยู่ในรถ พ่อและตนจึงหยุดรถและกระโดดลงน้ำไปช่วยเหลือ พร้อมเผยว่ารู้สึกเสียใจที่ช่วยไม่ทัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะขับรถกระบะคันดังกล่าวมาด้วยความเร็ว ประกอบกับบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางโค้ง ทำให้สูญเสียการควบคุม รถเสียหลักไปชนป้ายบอกทางข้างถนนและตกลงไปในคูน้ำริมถนนจนทำให้เสียชีวิตดังกล่าว ข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์

5 มี.ค.60 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้ลงประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องการถอดสมณศักดิ์ ความว่า ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ถอดถอนสมณศักดิ์ ด้วย พระเทพญาณมหามุนี (พระไชยบูลย์ สุทธิผล) วัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี เป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีกระทำความผิดข้อหาร่วมกันฟอกเงิน สมคบฟอกเงิน และรับของโจร ตามที่ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับ ที่ ๙๔๒/๒๕๕๙ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๙ และยังถูกกล่าวหาในคดีอาญาฐานอื่นอีกหลายฐานความผิด ซึ่งอัยการคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งฟ้องในบางคดีด้วยแล้ว แต่พระเพทญาณมหามุนีไม่ยอมมอบตัวตามหมายเรียก และได้หลบหนีคดีดังกล่าว จึงไม่สมควรดำรงอยู่ในสมณศักดิ์ต่อไป และได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมต่อไปแล้ว บัดนี้ ได้มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ถอดถอน พระเทพญาณมหามุนี (พระไชยบูลย์ สุทธิผล) ออกจากสมณศักดิ์ ตั้งแต่วันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๐ ประกาศ ณ วันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ข้อมูลจาก : http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/B/008/1.PDF […]

ความรักบางทีก็ดูโง่เง่าในสายตาคนภายนอก แต่สำหรับคนที่มีรักอยู่เต็มหัวใจ ความยากลำบากแค่ไหนก็พร้อมเปย์เสมอ ดีกว่าเสียดายในทีหลัง "อเล็กซานเดอร์ เคิร์ก" ชายชาวดัตช์ อายุ 41 ปี ก็เป็น 1 ในคนที่รักแบบไม่ลืมหูลืมตาเช่นกัน ถึงขนาดที่ว่ายอมนั่งเครื่องมาแสนไกล นอนสนามบินอีก 10 วัน เพื่อจะเจอหน้าหญิงสาวที่เขาเคยแชทให้ได้!! อเล็กซานเดอร์ เคิร์ก ชายชาวดัตช์ อายุ 41 ปี ได้พบหญิงสาวชาวจีนอายุ 26 ปี นามสกุล จาง คนหนึ่งในแอพแชท เมื่อ 2 เดือนก่อน จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มติดต่อพูดคุยกันอย่างสม่ำเสมอ และถึงแม้ว่าทั้งคู่จะอยู่ห่างไกลกันกว่า 4,500 กม. แถมยังมีความต่างด้านเวลาอีกถึง 6 ชั่วโมง แต่นายอเล็กซานเดอร์ก็รู้สึกว่าตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้แล้ว     ในที่สุด เมื่อความรู้สึกอยากพบมากขึ้นเรื่อยๆ อเล็กซานเดอร์ก็ตัดสินใจขึ้นเครื่องบินเดินทางมาฉางซา ในมณฑลหูหนาน เพื่อพบกับสาว จาง และหวังจะให้เธอประหลาดใจ แต่เมื่อลงเครื่องที่สนามบิน กลับไม่มีใครรอคอยเขาอยู่ที่นั่น   อเล็กซานเดอร์ตัดสินใจที่จะคอย และเขาคอยต่อไปในสนามบินโดยหวังว่าแฟนสาวทางออนไลน์ของเขาจะปรากฎตัวขึ้น […]

จากคดีสะเทือนขวัญ เมื่อ นายธีระพงษ์ ฐิตะฐาน หรือ ปอนด์ อายุ 24 ปี หนุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตเพชรบุรี ถูกกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ยกพวกรุมทำร้าย และใช้ไขควงแทงเข้าที่ท้ายทอยและยังรุมกระทืบซ้ำ เหตุเกิดที่หอพักแห่งหนึ่งในอ.ชะอำ เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ต่อมานางอารีรัตน์ ชมโลก อายุ 50 ปี ได้นำศพลูกชายกลับบ้านเกิดที่ จ.ชุมพร พร้อมประกาศว่าจะเอาเรื่องคนร้ายให้ถึงที่สุด และมีความกังวลว่าจะเกิดความไม่ยุติธรรมขึ้น เพราะทราบว่าในกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นลูกคนในเครื่องแบบ ความเมื่อวันที่ 5 มี.ค. มีรายงานข่าวจากสภ.ชะอำ ว่า คดีนี้มีผู้ต้องหาเดินทางมามอบตัวแล้วทั้งหมด 15 รายจากผู้ก่อเหตุทั้งหมด 18 คน และมีการแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่ากับฆ่าคนโดยเจตนากับผู้ต้องหาทั้งหมด โดยมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดภายในหอพักที่เกิดเหตุ จากการสอบปากคำทราบว่า วันเกิดเหตุวัยรุ่นกลุ่มนี้ขับรถมา 3 คันวนหาคู่กรณีคนหนึ่ง ซึ่งมีปัญหากับเรื่องผู้หญิง กระทั่งบุกเข้าไปในหอพักที่เกิดเหตุ แต่ไม่เจอคู่กรณี พบเพียงนายธีระพงษ์ ซึ่งเป็นเพื่อน เลยตรงเข้าไปทำร้ายร่างกายนายธีระพงษ์จนเสียชีวิตแทน ต่อมาพ.ต.อ.ภคิน ศิวเมธากุล ผกก.สภ.ชะอำ […]

ไม่กี่วันก่อน บางท่านอาจจะพอเห็นข่าวอาชญากรรมแนวๆ ขำๆ ไปบ้างแล้วกับเหตุการณ์ที่โจรสาวทำทีเฉี่ยวรถกระบะในย่าน อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา โดยหวังว่าคนขับรถจะลงมาดูแล้วสบโอกาสเรียกค่าเสียหาย หรือปลดทรัพย์ แต่พอเห็นว่าเหยื่อสวมเครื่องแบบทหารพรานก็รีบเผ่นเสียก่อน (คลิกอ่านข่าวย้อนหลังได้ที่ >>> ตกใจที่เจอตอ! โจรสาวแกล้งเฉี่ยวรถให้คนขับกระบะลงมาดู พอเห็นว่าเป็นใครรีบหนีเลย! ) ล่าสุด แอดมินเพจDrama-addict ซึ่งเป็นเพจรวมดราม่าชื่อดัง ก็ออกมาเตือนพ่อแม่พี่น้องให้ระวังกันด้วย เพราะน้องที่รู้จักก็เพิ่งโดนกันหมาดๆ แต่โชคดีที่ไหวตัวทัน ไม่ลงไป เพราะเกรงอันตรายตามประสาผู้หญิงตัวคนเดียว       ซึ่งหลังจากโพสต์เรื่องราวดังกล่าวไป ก็มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นแชร์ประสบการณ์ในทำนองเดียวกันนี้เป็นจำนวนมาก โดยแต่ละคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า โจรมักจะเคาะกระจกรัวๆ เพื่อเรียกให้คนขับรถลงมาเจรจาแต่โดยดี          คลิกที่นี่ เพื่ออ่านความคิดเห็นอื่นๆ เพิ่มเติม และโดยสรุปแล้ว มุกนี้มิจฉาชีพก็ยังวนเวียนกลับมาหากินอีกครั้ง สิ่งที่คนขับรถทั้งหลายควรพึงระวังไว้ โดยเฉพาะผู้หญิงตัวคนเดียว/ผู้สูงอายุ เมื่อเจอเหตุการณ์คนทำทีเฉี่ยวชนแล้วเคาะกระจกรัวๆ สิ่งที่พึงทำก็คือ 1. อย่าเพิ่งเปิดประตูรถลงไปเจรจา ลดกระจกรถลงมานิดเดียว พอให้คุยกันได้ก็พอ 2. พยายามติดต่อเจ้าหน้าที่ประกัน หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเป็นบุคคลกลางในการเจรจา "อย่าลงไปลุยเดี่ยว" เพียงแค่หวังจะจบเรื่องให้เร็วที่สุด 3. หากรีบจะไปธุระ มีเวลาไม่มาก ให้รีบขับรถไปที่สถานีตำรวจที่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด […]

ไม่มีใครไม่รู้จัก "พีช พชร" ดาราหนุ่มวัยขบเผาะ อายุ 23 ปี ที่นอกจากจะโด่งดังจากภาพยนตร์และซีรีย์ในเครือ GDH เช่น ท็อป ซีเคร็ต วัยรุ่นพันล้าน, ฮอร์โมนส์ เดอะ ซีรีย์ ความรวยของเขาก็ยังเป็นที่เลื่องลือน่าจับตามองมากๆ เพราะตระกูลของเขา "จิราธิวัฒน์" มีทรัพย์สินจำนวนถึง 413,956,000,000 บาท จากธุรกิจ กลุ่มเซนทรัล นั่นเอง โดยมีคุณปู่ของเขาที่เป็นเจ้าของหลัก     ถึงจะรวยแบบใช้เงินกี่ชาติก็ไม่หมดง่ายๆ เขาก็ยังหาเงินต่อด้วยตัวเอง ไหนจะงานในวงการบันเทิง ไหนจะขายสาหร่ายเข้าเซเว่น เปิดธุรกิจมันฝรั่ง Potato Corner ที่ขายมันฝั่งทอดสดๆ บนห้าง     และเมื่อมีคนมาขอเงินแค่ 5 ล้านบาท ซึ่งเทียบกับจำนวนเงินมรดกแล้วก็แค่เสี้ยวหนึ่งเอง เขากลับตอบไปว่า …     ซึ่งคนถามก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล "ท็อป ณภัทร" ดาราหนุ่มสังกัดเดียวกันนั่นเอง ตอบมาซะขนาดนี้ยอมใจจริงๆ ว่าเป็นคนเห็นคุณค่าของเงินมากแค่ไหน         […]

ยังคงปฏิบัติหน้าที่กันต่อไป สำหรับกรณีเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจ DSI ที่ต้องเข้ามาควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกายตามคำสั่งของ คสช. มาตรา 44 ซึ่งในจุดนี้มีทั้งคนเห็นใจ และคนที่ต่อต้าน ซึ่งไม่ว่าเสียงประชาชนจะเป็นอย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจก็ยังคงทำตามหน้าที่กันต่อไป แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะอดทนได้ตลอดราวกับคนไม่มีหัวใจ ล่าสุด พ.ท.กฤษณพล โภชนดา ผบ.ป.พัน.12 รอ. นายทหารผู้ใช้เฟซบุ๊ก กฤษณพล โภชนดา ก็เหลืออด ขอฉะกลับบ้างในกรณีที่ถูก "ศิษย์ธรรมกาย" นำภาพทหารกำลังตักบาตรเณรวัดธรรมกาย ไปเต้าข่าวเสียหายในกรุ๊ปไลน์ กล่าวหาว่าทหารปล้นอาหาร โดยเขาได้โพสต์ในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 4 มี.ค. เวลา 21.21 น.ที่ผ่านมานี้ว่า ผมโดนรอบ 2 แล้วครับ พวกบิดเบือนข่าวสาร วันนี้มีหนุ่มวัยไม่เกิน 20 ปี สะพายกล้องออกมาจากเต็นท์สาธุชนที่สวดมนต์กันอยู่ พร้อมกับ เณรน้อยน่ารักทั้ง 3 เดินตรงมาหาผมขณะกำลังเดินตรวจพื้นที่ค้าขาย เมื่อผมเห็นว่าท่านเณรตั้งใจเดินมาหาผม พร้อมซองลูกอมสีชมพูกับกระดาษฉีกๆ พับครึ่งมา ผมจึงถอดหมวกแล้วยกมือประนม ถามว่าท่านมาผมหรอครับ เณรพูดงึมงำว่าอะไรไม่รู้ แต่ที่ชัดสุด คือ "เราดีกันนะ" ผมนี่แทบอยากเข้าไปกอดท่านเณรน้อยเลย และรับซองลูกอมด้วยความน้อมนพ ให้บรรลุความตั้งใจที่ท่านอุตส่าห์เดิมกลางแดดมาหา แต่ที่ไหนได้ […]

สำนักพระราชวังแจ้งหมายกำหนดการ สมเด็จพระจักรพรรดิ และ สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น จะเสด็จฯ เยือนประเทศไทย เป็นการส่วนพระองค์ ระหว่างวันที่ 5 – 6 มีนาคม พ.ศ.2560         1 มี.ค. สำนักพระราชวังออกหมายกำหนดการสมเด็จพระจักรพรรดิ และ สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยเป็นการส่วนพระองค์ ระหว่างวันที่ 5 – 6 มีนาคม พ.ศ.2560         ในเวลา 13.45 น. วันที่ 5 มีนาคม สมเด็จพระจักรพรรดิ และ สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น เสด็จฯ ถึงท่าอากาศยานกองบัญชาการกองทัพอากาศ โดยเครื่องบินพระที่นั่ง เที่ยวบินพิเศษของรัฐบาลญี่ปุ่น จากนั้นเสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่งไปโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นโรงแรมที่ประทับ         ต่อมา เวลา 18.00 น. เสด็จฯ ถึงพระบรมมหาราชวัง เสด็จฯ ขึ้นพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทางบันไดมุกกระสัน พระที่นั่งพิมานรัตยา […]