บทความทั่วไป

Advertisement คนเร่ขายของยังคงเป็นวิถีชีวิตที่มีให้พบเห็นกันชินตาตามท้องถนนทั่วไป หลายคนที่ใช้รถใช้ถนนผ่านไปมาส่วนใหญ่มักจะไม่แวะจอดซื้อ ด้วยเพราะระแวงว่ากลัวจะไปเจอมิจฉาชีพในคราบพ่อค้าแม่ค้าเข้า แต่สำหรับหนุ่มคนนี้ เจ้าของเฟซบุ๊กคุณชายป้อม ชีวิต ดี๋ดี เขาคือคนหนึ่งที่ไม่ตั้งคำถามใดๆ ทั้งนั้นเมื่อพบลุงคนหนึ่งแบกตะกร้าสานตุเลงๆ ไปตามถนนร้อนๆ เขาเลือกที่จะจอดแล้วช่วยซื้อ ทำเอาลุงแกถึงกับน้ำตาไหลเชียว Advertisement โดยเขาได้เล่าในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมานี้ว่า ถ้าคุณเจอคนเดินขายของแบบนี้พร้อมกับคำที่พูดว่า"ลุงเดินมาไกลมากเลยลูกไม่ยังขายไม่ได้เลย"คุณจะซื้อไหมคับ??? ผมมีตังค์อยู่500 แต่ผมคิดว่าผมหาใหม่ได้นะถ้าแลกกับการที่ลุงได้กินข้าวและรอยยิ้มของลุงผมถือว่าผมได้ช่วยลุงอย่างน้อยความสุขทางใจมันก็มีค่ากว่าความสุขด้านเงินคับ คุณเห็นรอยยิ้มของลุงไหมเขาดีใจมากดีใจจนน้ำตาผมนี่คลอเบ้าเลยคับ ลุงแกเดินไม่ไหวแกยังเดินขายแล้วคนที่มีทุกอย่างพร้อมกว่าลุงล่ะทำไมไม่สู้คับ!!!   Advertisement           ต้องปรบมือให้จริงๆ สำหรับหนุ่มคนนี้ ยกนิ้วให้เลยว่า "ใจพี่หล่อมาก" สังคมไทยเราจะน่าอยู่ขึ้น ก็เพราะการช่วยเหลือกันนี่แหละ แต่ดูให้ดี ระมัดระวังให้รอบด้านก่อนช่วยนะคะ ไม่งั้นเราจะกลายเป็นว่าช่วยผิดคนซะงั้น ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊กคุณชายป้อม ชีวิต ดี๋ดี 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเผยคณะกรรมการการบินพลเรือนเห็นชอบให้สายการบินที่มีเส้นทางบินในประเทศปรับขึ้นราคาค่าโดยสารประมาณ 150 บาทต่อคนต่อเที่ยว เนื่องจากมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน  นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือนว่าที่ประชุมได้เห็นชอบให้สายการบินที่มีเส้นทางบินในประเทศ ปรับเพิ่มค่าโดยสารอีกประมาณ 150 บาทต่อคนต่อเที่ยว หลังจากรัฐบาลประกาศการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานเพิ่มอีกลิตรละ 4 บาท 62 สตางค์  ทำให้สายการบินต้องรับภาระต้นทุนการให้บริการเพิ่ม ซึ่งค่าโดยสารใหม่นี้ยังอยู่ในเกณฑ์เพดานราคาที่สำนักงานการบินพลเรือน หรือ กพท.กำหนดไว้ แต่ได้สั่งการให้ กพท. ไปทบทวนโครงสร้างเพดานราคาค่าโดยสารสายการบินต้นทุนต่ำ หรือ โลวคอสต์ ใหม่ จากเดิมที่กำหนดไว้ทุกสายการบินจะต้องคิดค่าโดยสารไม่เกิน 13 บาท ต่อกิโลเมตร  เนื่องจากเห็นว่า ต้นทุนด้านการให้บริการของสายการบินโลว์คอสต์กับสายการบินที่ให้บริการเต็มรูปแบบไม่เท่ากัน จึงควรกำหนดเพดานราคาตามการให้บริการของแต่ละสายการบิน เพื่อความเป็นธรรม และจะทำให้เพดานค่าโดยสารของสายการบินโลว์คอสต์ถูกลงกว่าในปัจจุบัน ซึ่งกพท.จะเร่งศึกษาโครงสร้างค่าโดยสารอย่างรอบด้าน และเสนอกลับมาให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาอีกครั้งในเร็วๆนี้  ส่วนแผนการเตรียมรับการตรวจสอบการกำกับดูแลด้านการรักษาความปลอดภัย หรือ ยูแซป (USAP) ที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือICAO จะเข้ามาตรวจท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ขณะนี้ยืนยันว่ามีความพร้อม และมั่นใจว่า แผนดังกล่าวจะครอบคลุมการตรวจสอบมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการทำการบินของไทย  ข่าวจาก : springnews.co.th

เรื่องราวชีวิตที่พลิกผันแบบสุดๆ ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นกับชีวิตคนธรรมดาเดินดินเรื่องนี้ ได้รับการเผยแพร่ผ่านสำนักข่าว Dailymail โดยเป็นเรื่องราวของ Khalil Rafati หนุ่มวัย 46 ปี อดีตชายเร่ร่อนที่อาศัยตรอกเก่าและหัวมุมถนนลับตาคนในมหานคร Los Angeles เป็นที่หลับนอน กับชีวิตที่เคยดำดิ่งลงเหวอย่างกู่ไม่กลับจนเขาคิดว่า “ตัวเองควรจะตายไปซะดีกว่า” กลับฟื้นคืนมาอีกครั้ง แถมเป็นการกลับมาที่ทำให้เรื่องราวของเขากลายเป็นกำลังใจของคนทั้งโลก นายคาริล ราฟาติ (Khalil Rafati) มหาเศรษฐีผู้มีชีวิตดี๊ดีพร้อมทรัพย์สินมูลค่าหลายพันล้าน!! ที่ใครก็อิจฉา เขาเป็นเจ้าของธุรกิจน้ำผลไม้ปั่นรายใหญ่ที่กำลังโด่งดัง มาแรงสุดๆ และกำลังขยายสาขาไปในหลายๆเมืองทั่วสหรัฐอเมริกา แต่ใครจะไปคิดว่าชีวิตอันหรูหราของเขา เคยเคยดำดิ่งในเหวลึก ที่เรียกว่า ลึกจนลืมตายไปเลย     13 ปีที่แล้ว คาริลเป็นเพียงชายจรจัดขี้ยา ที่เรียกว่า เดรสังคม เลยก็ว่าได้ ย้อนไปช่วงเวลานั้น เขากล่าวว่า “ผมติดสารเสพติดทุกชนิด กัญชา ยาบ้า เฮโรอีน ทุกอย่าที่มี ผมลองมาหมดแล้ว” และในปี 2003 มันทำให้เค้าโดนจับเข้าคุกไปตามระเบียบเพื่อบำบัดการติดยาขั้นรุนแรง แต่เอาจริงๆคาริลก็ไม่ได้จนตรอกอะไรขนาดนั้น เพราะที่มาของเรื่องราวแย่ๆนั้นมาจากการที่ “เค้าหาเรื่องใส่ตัว” เองต่างหาก แรกเริ่มเดิมทีเขาก็พอมีฐานะอยู่บ้างจากการขายรถสปอร์ต […]

สำหรับคนที่อยู่ในแวดวงทหารอาจจะพอคุ้นตากันบ้างกับถ่านอัลคาไลน์หน้าตาแบบนี้ แต่สำหรับคนทั่วไปอาจจะเพิ่งเคยเห็น ถึงกับต้องอุทานว่า "มียี่ห้อนี้ด้วยหรือ? เพิ่งรู้นะเนี่ย!"     ถ่านหน้าตาแปลกๆ ที่คนทั่วไปไม่คุ้นกันนี้ ผลิตโดย "กรมการทหารสื่อสาร" กองทัพบก โดยมีจุดประสงค์หลักก็เพื่อผลิตใช้กับยุทโธปกรณ์ต่างๆ ในกองทัพ เช่น วิทยุสื่อสาร และเหตุผลต้องที่กองทัพบกต้องมีโรงงานผลิตเอง ไม่จัดซื้อจากบริษัทเอกชนอื่นๆ นั่นก็เพื่อให้กองทัพประหยัดค่าใช้จ่าย อีกทั้งกำลังพลสามารถเบิกไปใช้ได้สะดวกรวดเร็ว ทันต่อความต้องการ     ด้วยเพราะมันต้องถูกใช้กับยุทโธปกรณ์ต่างๆ โดยเฉพาะในยามศึกสงคราม จึงไม่แปลกเท่าใดหากใครที่นำไปใช้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไปแล้วจะพบว่า "มันอึดทนนานกว่าถ่านชนิดเดียวกันที่วางขายในท้องตลาดมากๆ" ลองนึกภาพดูสิ หากเกิดศึกสงคราม ต้องใช้วิทยุสื่อสารที่เปลี่ยนถ่านบ่อยๆ คงน่ารำคาญใจกันไม่จืดเลยทีเดียว          และเมื่อเจาะถึงราคาต้นทุน ปรากฎว่าราคาแค่ 6.37 บาทเท่านั้น ถูกกว่าถ่านยี่ห้อดังๆ ที่รู้จักกันในท้องตลาดเสียอีก!     อ่านมาถึงจุดนี้ บางคนอาจเกิดคำถาม "ถูกและดีขนาดนี้ ทำไมไม่ผลิตขายประชาชนบ้าง?" คำตอบก็คือมันขัดกับข้อกฎหมาย ไม่สามารผลิตแข่งกับเอกชนได้นั่นเอง ดังนั้น ใครที่อยากได้ อยากลองใช้ ก็ต้องอาศัยเลียบๆ เคียงๆ ญาติพี่น้องที่เป็นทหารเอากันเองละกันจ้า […]

เหตุเกิดที่ประเทศอินเดีย เมื่อหมู่บ้านที่ติดกับเเหล่งอุตสาหกรรมขาดเเขลนปัญหาน้ำอย่างหนัก เเละปัญหาเรื่องการจัดการเรื่องชนชั้นในอินเดียจึงทำให้น้ำเเละอาหารจะเข้าถึงชนชั้นที่ห่างไกลจากตัวเมือง เป็นเวลานานมาก ในที่สุดชายคนหนึ่งจึงตัดสินใจคิดจะขุดบ่อน้ำหลังบ้านตัวเองเพื่อหาเเหล่งน้ำ โดยใช้จอบเล็กๆ เเละเเท่งเหล็กในการงัดหิน เขาใช้เวลา 4 ชั่วโมง ในช่วงเช้า เเละตอนบ่ายอีก 2 ชั่วโมง สลับกับการทำงาน โดยในการขุดของเขาใช้เวลา 40 วันกว่าจะขุดไปยังชั้นหินจนพบเจอกับเเหล่งน้ำได้ในที่สุด ก่อนหน้านี้ เขาถูกคนในหมู่บ้านด่าทอ ดูถูกว่าเป็นคนบ้า เเต่เขาก็ไม่ลดละความพยายามที่จะขุด โดยมีความหวัง นักข่าวเผยว่าหินที่เขาใช้หลักขุดเเละทุบตัดออกนั้น มีความเเข็งเป็นอย่างมาก กว่าจะงัดออกได้เเต่ละอันต้องใช้พละกำลังมาก อีกทั้งอาหารที่เขากินนั้นก็ไม่ได้มีโภชนาการบำรุงร่างกายเเต่อย่างใด ทุกคนในหมู่บ้านจึงมากล่าวขอโทษเขาเเละขอน้ำที่เขาขุดกลับไปใช้กรองเเละสามารถกินได้ เห็นได้หรือยังว่าน้ำนั้นมันสำคัญกับคนเราเเค่ไหน ประเทศไทยที่เราอยู่มีความอุดมสมบูณ์ กว่ามากเเละน้ำมีมากมาย เเต่ก็เราก็ต้องช่วยกันประหยัด เเละปลูกป่าลดการใช้ สินค้าที่ส่งเสริมการทำลายป่า เพื่อที่จะช่วยให้ประเทศของเราที่เราอยู่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์มีน้ำใช้ตลอดไป         ข้อมูลจาก : domrie.com

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเปิดงาน การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ว่า การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้หมดไปเป็นวาระสำคัญของชาติ เพราะเกิดปัญหากับสังคมไทยมายาวนาน ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ และสร้างให้เกิดปัญหาสังคม เกิดจากการที่ประชาชนมีรายได้ไม่เพียงพอต้องไปกู้หนี้ยืมสิน เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม ดังนั้น จะต้องแก้ปัญหาหนี้นอกระบบแบบครบวงจร เพื่อคนไทยทั้งประเทศให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินโครงการต่างๆเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบมาตลอด เช่น การให้สินเชื่อผ่านกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง โครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล มาตรการเพิ่มรายได้ให้กับผู้มีรายได้น้อยเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจฐานราก เป็นต้น อย่างไรก็ตาม นอกจากการแก้ไขหนี้นอกระบบแล้ว ต้องพิจารณาด้วยว่าจะทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดหนี้นอกระบบขึ้น ไม่ให้คนเป็นหนี้ หรือลดหนี้ให้น้อยลง ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคืออยู่ที่ตัวเราเอง เรื่องการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน การดื่มสุราเป็นประจำก็จะเป็นหนี้ ทั้งนี้ รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะทำให้หนี้นอกระบบเป็นศูนย์คือ หมดสิ้นไป และมาอยู่ในระบบให้หมด และเข้าใจดีว่าคนปล่อยสินเชื่อนอกระบบก็คือ ธนาคารของคนจน แต่ก็ควรจะมาเข้าระบบที่ถูกต้อง จะมีความสุขมากขึ้น เพราะไม่ต้องไปคอยตามทวงหนี้อย่างผิดกฎหมาย และหลบๆซ่อนๆ ทำให้มีความไม่สบายใจ “ผมให้ระยะเวลาช่วงหนึ่งที่จะให้เจ้าหนี้นอกระบบมาเข้าระบบตามกฎหมายให้ถูกต้อง จากนั้น จะกวาดล้างทั้งหมด เป็นสิ่งที่จะต้องทำ ใครที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมดภายในเวลา 2 ปี เจ้าหนี้นอกระบบราว 200,000 รายต้องจับให้หมด ซึ่งเจ้าหนี้นอกระบบหากเป็นตำรวจและทหารจะต้องถูกจับและดำเนินคดีทั้งหมด ถ้าอยากเป็นเจ้าหนี้เหมือนเดิมก็ต้องขึ้นทะเบียนเป็นพิโก […]

ลุงพิการหลังค่อม ที่สระบุรี วานคนโพสต์โซเชียล ขอความช่วยเหลือ เมียป่วยโรคหัวใจ โรคปอด หอบหืด อาการทรุดส่วนตัวเอง หลังค่อมจากการทำงานกรรมกร อายุมากต้องออกมานั่งขายผักแทน รายได้ไม่พอซื้อยารักษา วันที่ 1 มี.ค. ผู้สื่อข่าวทราบว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'เจ๊ออย เปียซิ่ง' ส่งข้อความเข้ากลุ่ม "ชมรมคนรักมวกเหล็ก" เพื่อขอความช่วยเหลือให้คุณลุงรายหนึ่ง คือ สำรวย ปั้นสุรินทร์ อายุ 66 ปี ชาว อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี พ่อค้าขายผักตลาดเทศบาลมวกเหล็ก ซึ่งพิการหลังค่อม ต้องการความช่วยเหลือ โดยระบุว่า "สวัสดีค่ะพี่น้องชาวมวกเหล็ก ขอเวลาสัก 5 นาที เพื่อช่วยตากับยายนะคะ หรือที่อยู่ต่างจังหวัดยังจำเรื่องราวที่ออยเคยช่วยตากับยายได้หรือเปล่าคะ ตอนนี้คุณตาจะส่งจดหมายไปรายการรถปลดทุกข์ไทยรัฐTV เพราะตอนนี้ตากับยายแย่มากๆ เนื่องจากยายอาการเริ่มแย่ลงจากการเป็นโรคหัวใจ ส่วนคุณตาก็เป็นผู้พิการทางร่างกาย #หลังค่อมหูค่อยไม่ได้ยินเสียงพูดก็ไม่มี ตอนนี้ตากับยาย ก็เริ่มแย่ เลยให้ออยช่วยแชร์ ช่วยบอกให้พี่น้องในอำเภอมวกเหล็กได้ทราบ หรือต่างจังหวัด ถ้าใครจะบริจาคหรือสมทบทุนออยไม่ขอรับเงินสดไว้กับตัวเองนะ เรื่องเงินออยจะให้ไปให้กับคุณตาเอง ตารอเจอออยมา 2 อาทิตย์ เพื่อจะเอาจะหมายนี้ส่งถึงรายการรถปลดทุกข์ […]

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ห้องประชุมพระพทุธบาทบัวบก ชั้น 6 อาคาร 2 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายสุชัย บุตรสาระ รอง ผวจ.อุดรธานี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการควบคุมการขอทานจังหวัดอุดรธานีโดยมีนายปราโมทย์ ธัญพืช ปลัดจังหวัดอุดรธานี นายภูมิพัฒน์ ธนาสิทธิ์ตานนท์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จ.อุดรธานี นำหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เป็นคณะอนุกรรมการฯ เข้าร่วมการประชุมฯ พร้อมทั้งมีการแจ้งให้แต่ละหน่วยงานรับทราบอำนาจหน้าที่ แนวทางการปฏิบัติตามกฎหมายกับผู้กระทำการขอทาน แผนบูรณาการจัดระเบียบคนขอทาน จ.อุดรธานี ประปีงบประมาณ 2560 นายภูมิพัฒน์  พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.อุดรธานี กล่าวว่า หลังจากมีการประกาศใช้ 27 มาตรา ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559 ขอทานคือผู้กระทำความผิดตามมาตรา 19 จำคุก 1 เดือน หรือปรับ 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้สนับสนุนให้ฝ่าฝืน หรือผู้แสวงหาประโยชน์จากการขอทาน โทษจำคุกไม่เกิน […]

สองแม่ลูกที่พลัดพรากจากกัน 33 ปี โชคดีได้เจอกันทางเฟซบุ๊กและนัดมาพบหน้าอีกครั้ง ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ชาวบ้านที่รู้ข่าวต่างแสดงความยินดีกล่าวขานกันกว้างขวาง เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่ำวานนี้มีเรื่องราวประทับใจเกิดขึ้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นเรื่องราวที่น่าแปลกเมื่อสองแม่ลูกที่พลัดพรากกัน 33 ปี ได้ตามหากันจนเจอในเฟซบุ๊กและนัดเดินทางมาพบหน้ากันที่สถานีขนส่งอำเภอหาดใหญ่ โดยเรื่องดังกล่าวเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนจำนวนมากไปเฝ้าติดตามทำข่าว  โดยนางวิภาวดี ธิสอน หรือ กล้วย อายุ 54 ปี ชาวจ.อุดรธานี ได้ไปรอรับนายปริญญา ธิสอน อายุ 36  ปี หรือ โอ๊ด ซึ่งเป็นลูกชายที่สถานีขนส่งอำเภอหาดใหญ่ พร้อมเปิดเผยว่า ตอนที่ลูกชายอายุได้ 3 ขวบ มีปัญหาครอบครัวจนต้องเลิกกับสามี ส่วนลูกก็อยู่กับครอบครัวสามีที่บ้านในเวียง ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ช่วงแรกๆก็ได้พบกับลูกบ้างแต่ชีวิตค่อนข้างลำบากเพราะทำงานไม่เป็นหลักแหล่ง ทั้งกรุงเทพฯ ภูเก็ต และปัจจุบันไปๆมาๆระหว่างหาดใหญ่กับสิงคโปร์เพราะไปเปิดร้านอาหารอยู่ที่นั่น เมื่อชีวิตเริ่มดีขึ้นก็ติดตามหาลูกชาย กระทั่ง 4 วันก่อนได้ไปพิมพ์ชื่อนามสกุลค้นหาในเฟซบุ๊กจนเจอและได้ติดต่อกัน หลังลูกชายรู้ความจริงก็จะเดินทางมาหา ซึ่งนั่งรถทัวร์จากเชียงรายมาสงขลาใช้เวลาเกือบ 2 […]

เปิดเรื่องราวเด็กขยันกันอีกแล้วสำหรับรายการ "คนเก่งหัวใจแกร่ง" คราวนี้เป็นสองพี่น้องพ่อค้าก๋วยเตี๋ยวตัวเล็กๆ กันบ้าง โดยคนพี่ "น้องสเก๊ตช์" อายุ 14 ปี คนน้องอายุเพียง 9 ขวบเท่านั้น แม้จะอายุยังน้อย แต่ฝีมือการจ่ายตลาด-เสิร์ฟ-เก็บร้าน เรี่ยวแรงดีไม่แพ้กับผู้ใหญ่เลยทีเดียว สเก็ต แม่ และน้องชายวัย 9 ขวบ อาศัยอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวยกซดใน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ก่อนหน้านี้อยู่บ้านของยาย แต่เพราะบ้านยายอยู่ไกลจากที่ทำงานของแม่และโรงเรียนของสเก็ต แม่จึงขออนุญาตเจ้าของร้านพาลูกๆ มาอยู่ด้วย โดยช่วยกันทำงานทุกอย่างในร้านเพื่อตอบแทนนายจ้างที่ให้ที่อยู่อาศัย ในวันหยุดสเก็ตจะได้ค่าจ้างวันละ 100 บาทด้วย ครอบครัวมีเพียงแม่กับลูกเพราะพ่อเสียชีวิตอย่างกระทันหันด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวตั้งแต่สเก็ตยังเด็ก สเก็ตอายุ 14 ปี มุ่งมั่นเกินวัยและมีแรงบันดาลใจเต็มเปี่ยมที่อยากทำหน้าที่ดูแลแม่กับน้องแทนพ่อ ทุกวันจะตื่นตั้งแต่ตีสี่มาช่วยแม่จัดร้านและไปจ่ายตลาดก่อนไปโรงเรียน หลังเลิกเรียนจะช่วยงานในร้านจนกระทั่งปิดร้านในช่วงค่ำ ทุ่มเทแรงกายเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของแม่แล้วหลังปิดร้านจะเอาการบ้านและหนังสือมาทบทวนทุกวัน สเก็ตเอาใจใส่ในการเรียนเพราะคิดอยู่เสมอว่าจะต้องเรียนให้ได้สูงที่สุดเพื่อให้พ่อภาคภูมิใจ                   ข้อมูลจาก : สานรัก คนเก่งหัวใจแกร่ง