บทความทั่วไป

Advertisement กรมการขนส่งทางบก เตรียมปรับเกณฑ์การสอบใบขับขี่ใหม่ บังคับผ่านข้อเขียน 50 ข้อ เต็ม 100% จากเดิมผ่านเพียง 45 ข้อ หรือ 90% เพิ่มเวลาอบรมจาก 4 ชั่วโมง เป็น 15 ชั่วโมง พร้อมเล็งฝังชิพในป้ายทะเบียน Advertisement วันนี้ (26 กันยายน 2559) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แนะนำให้มีการปรับเกณฑ์เกี่ยวกับออกใบอนุญาตขับขี่รถทุกประเภทให้มีความเข้มข้นมากขึ้น คือ จากเดิมกำหนดเกณฑ์การสอบผ่านไว้ที่ 45 ข้อ หรือ 90% แต่ต่อไปผู้สอบจะต้องทำคะแนนสอบเต็ม 50 ข้อ หรือ 100% จึงจะมีการออกใบอนุญาตขับขี่ให้ โดยจะเน้นหมวดสำคัญ คือความรู้เกี่ยวกับการปลอดภัยในการขับขี่เพราหากเน้นทุกหมวดหลายคนอาจจะมองว่าข้อสอบมีความยากเกินไป และหากแนวคิดดังกล่าวจะนำมาใช้จริงทางเจ้าหน้าที่จะมีการนำตัวอย่างข้อสอบ จำนวน 1,000 ข้อ […]

ใช้รถใช้ถนนใช่ว่าจะต้องระวังอุบัติเหตุจากรถเสมอไป มิจฉาชีพที่ "ตั้งใจ" ทำให้เราประสบอุบัติเหตุแล้วฉวยโอกาสก็มีอยู่มาก ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ก.ย.59 ที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ก็มีแก๊งโจรหากินรูปแบบใหม่ ทำทีขับมาเบียดรถเหยื่อ แล้วจอดโวยวายให้เหยื่อชดใช้ค่าเสียหายให้ได้ พอเหยื่อยอมตกลงชดใช้ ก็เรียกค่าเสียหายเป็นหมื่น ไม่ให้ไม่ได้ เว้นเสียแต่ต่อรองราคากันได้จึงจะปล่อยกันไป โดยเรื่องราวทั้งหมดนี้ ได้รับการเปิดเผยจากแฟนเพจของ CM108 เพจศูนย์รวมข่าวสารจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นเหยื่อถึง 2 ราย รายแรกเกิดเหตุเมื่อวันที่ 22 ก.ย.59 ที่ผ่านมา ได้เข้ามาโพสต์ร้องทุกข์และเตือนแฟนเพจคนอื่นๆ ใจความว่า ขออนุญาตแอดมินนะครับ แกงค์เบียดรถเริ่มหากินแถวถนนคันคลอง สายน้ำบ่อหลวง-เชียงใหม่  พอดีญาติผมไปโดนมา เรียกเป็นหมื่นครับ ขอเล่าเหตุการณ์ ช่วงกลางวันที่ผ่านมา ญาติผมออกจากในเมืองเพื่อมาทำธุระแถวอำเภอบ้านกาด ขับรถมาตามสายคันคลอง ตามปกติ มีรถวีโก้สีดำขับอยู่ข้างหน้าหนึ่งคัน แต่ขับช้ามาก ทั้งที่เป็นรถรุ่นใหม่กว่าของญาติผม พอเห็นว่าจังหวะทึ่สามารถจะแซงได้จึงตีไฟเลี้ยวออกขวาเพื่อจะแซง เบี่ยงออกขวาได้จึงเร่งส่ง รถวีโก้คันข้างหลัง มันหักพวงมาลัยมาขวาตาม ทำให้ท้ายรถของมันกับหน้ารถของญาติผมเบียดกันประมาณฝ่ามือ มันเรียกให้จอดรถ ลงเจรจา เอะอะโวยวายจะเอาค่าซ่อมเป็นหมื่น ญาติผมบอกไม่มีเงิน ต่อรองกันไปมา มันลดให้เหลือ3,000 ต่อรองไปมาเหลือ2,000ครับ รบกวนเจ้าหน้าที่ช่วยดูแลด้วยครับ     และในเวลาต่อมา ก็มีเหยื่อรายอื่นยืนยันเช่นกันว่า ตนเองก็ได้ประสบเหตุดังกล่าวนี้ด้วย โดยเกิดในจุดเดียวกัน แต่เป็นคนละวัน วันที่ 23 ไปทำบุญมา ประมาณเที่ยงครึ่งตอนกลางวัน เจอ18มงกุฏ เขาหาว่าเราขับรถปาดหน้าเขา แล้วทางเราไม่ได้ปาด เขาขับรถตามเราประมาณ […]

จากกรณีเรื่องราวดราม่า MV กระฉ่อนประเทศก็เกิดเป็นกระแสวิพากวิจารณ์ตอบโต้กันไปมาอย่างแพร่หลาย ซึ่งหลังจากที่ “เก่ง ธชย” ได้ออกมาโพสจิกกัดโดยใช้กลอนแบบเพลงฉ่อย เล่นเอาทางด้านของครูกล้วยที่ถูกฝากกลอนเอาไว้ ถึงกับต้องออกมาแต่งกลอนสวนกลับทันควัน ให้เก่งได้คิดดีๆ อีกที ซึ่งหลังจากที่เกิดกรณีดังกล่าวขึ้นทางด้านของ เก่ง ธชย เองก็ได้ออกมาโพสข้อความลงเฟซบุ๊กแล้วว่าดังนี้ จากกรณีโพสกลอนฉ่อยเมื่อ 2 วันที่แล้ว เก่งขอกล่าวคำว่า”ขอโทษ”อย่างบริสุทธิ์ใจครับ ขอโทษต่อสังคมที่แสดงพฤติกรรมที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างเช่นนั้นออกไป และขออนุญาตเรียนมา ณ ทีนี้ว่า เก่งไม่ได้มีเจตนาที่จะคิดลบหลู่วัฒนธรรมดั้งเดิม หรือครูผู้ใหญ่ท่านใดๆทั้งสิ้น จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลจาก อารมณ์และความกดดัน ที่เก่งได้รับมาจากทุกทาง และสะสมเรื่อยมาจนกระทั่งเกิดกระเเส MV ที่เพิ่มขึ้นมา ส่งผลให้ตัดสินใจทำอะไรลงไปโดยไม่ทันคิดให้รอบคอบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ดีเลยและไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะครับ ผมควรควบคุมอารมณ์ และ ทำความเข้าใจแง่มุมต่างๆ ให้มากกว่านี้ สุดท้ายนี้ เก่งขอโทษกับทุกๆความหวังดีที่เคยมอบให้เก่งมา ขอโทษที่ทำให้ใครหลายๆ คนผิดหวังครับ ไม่มีคำแก้ตัวใดๆครับ นอกจาก คำว่า “ขอโทษ”อย่างบริสุทธิ์ใจครับ เก่ง ธชย (ขออนุญาตเจ้าของภาพนะครับ) ก็ถือว่าเป็นการจบลงด้วยดี คราวนี้กองเชียร์ทั้งหลายก็เลิกยุแยงกันได้แล้ว แต่ควรจะหันมาส่งเสริมในทางที่ดีงาม เป็นสุภาพชนกันจะดีกว่า   

งบประมาณจากทางการในการทำอะไรสักอย่าง กว่าจะตกมาถึงชาวบ้านต้องมีขั้นตอนให้ล่าช้าเป็นธรรมดา บางแห่งก็ล่าช้าจนถอดใจกัน เลิกหวังกันไปเลยว่าทางหลวงจะดูแลเท่า "ทางเรา" เหมือนดังชาวบ้านที่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พวกเขารอคำตอบจากทางหลวงกว่า 10 ปีไม่ไหว ต้องออกมาช่วยกันลงแขกซ่อมถนนเอง เพื่อให้ลูกหลานจะได้มีถนนดีๆ ใช้สัญจรกันต่อไป ชาวด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พวกเขาใช้ความสามัคคีในรูปแบบ การลงขัน-ลงแรงช่วยกันซ่อมแซม ถนนสายด่านขุนทด-หนองแวง ระยะทาง 27 กม.เอง สาเหตุเพราะหน่วยงานที่รับผิดชอบอ้างว่าไม่มีงบประมาณ ในการซ่อมถนน…ภาพชาวบ้านเกือบ 100 คน “ลงแขกซ่อมถนน” ทุกคนมาด้วยใจ ถืออุปกรณ์จอบเสียม ฯลฯ ตั้งหน้าตั้งตาทำงานเพื่อชุมชุม เพื่อหมู่บ้าน เพื่อลูกหลานได้รับความสะดวกจากการเดินทาง… หยาดเหยื่อที่ไหลโทรมกายเป็นหยาดเหยื่อของความรักความสามัคคีอย่างแท้จริง…ภาพชาวบ้าน ล้อมวงกินข้าว ช่วงพักกลางวันช่างเป็นภาพที่ประทับใจอย่างยิ่ง “ชวัลชาณัณท์  หมอกขุนทด” ครูโรงเรียนบ้านหนองแวง ผู้นำกลุ่มคนจิตอาสานำชาวบ้านกว่า 100 คนลงขันช่วยกันซ่อมแซมถนน บอกว่า ถนนสายนี้ชำรุดเสียหายมาตลอดกว่า 10 ปี ที่ผ่านมาไม่เคยมีหน่วยงานรับผิดชอบเข้ามาปรับปรุงซ่อมแซมอย่างจริงจังเลย  อ้างว่าไม่มีงบประมาณ  จนชาวบ้านทนไม่ไหวต้องลงขันซ่อมแซมถนนกันเองทุกปี ปีนี้เป็นปีที่ 3แล้ว  ชาวบ้านเขารู้สึกว่าหน่วยงานไม่ใส่ใจในปัญหาทุกข์ร้อนของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ขอย้อนถามว่าถ้าหากว่างบประมาณซ่อมแซมตลอดสายระยะทาง 27 กม.มากถึง 135 […]

การเป็นข้าราชการที่ดีจะต้องดํารงตนให้เหมาะสมและปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกําลังความสามารถ ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบวินัย เพื่อให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพและเกิดผลสัมฤทธิ์แก่ทางราชการ ซึ่งผลของการประพฤติปฏิบัติดังกล่าวนอกจากราชการจะได้รับประโยชน์แล้ว ผู้นั้นก็จะได้รับการตอบแทนความดีความชอบไม่ว่าจะเป็นคําชมเชยหรือเลื่อนขั้น เลื่อนเงินเดือน ในทางกลับกันหากข้าราชการผู้ใดปฏิบัติงานไม่มีประสิทธิภาพหรือไม่ประพฤติปฏิบัติตามระเบียบวินัย ก็ย่อมจะส่งผลต่อการพิจารณาความดีความชอบหรืออาจถูกดําเนินการทางวินัยต่อไปได้ การ “อุทิศเวลาของตนให้แก่ราชการ” ถือเป็นข้อปฏิบัติประการหนึ่งของข้าราชการตามมาตรา 82 (5) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ซึ่งกําหนดว่าต้องอุทิศเวลาของตนให้แก่ราชการ จะละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการมิได้และหากข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดไม่ปฏิบัติตามข้อปฏิบัติดังกล่าวผู้นั้นเป็นผู้กระทําผิดวินัยตามมาตรา 84 แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน  อย่างไรก็ตามกรณีที่ข้าราชการมาทํางานสายเป็นอาจิณ แม้ว่าจะยังไม่ถูกดําเนินการทางวินัยแต่การประพฤติปฏิบัติตนดังกล่าวย่อมส่งผลต่อการพิจารณาความดีความชอบ เช่น การเลื่อนเงินเดือน ดังเช่นคดีปกครองที่นํามาฝากกันในครั้งนี้เป็นกรณีของข้าราชการมาทํางานสายเกินกว่าเวลาที่ราชการกําหนด ซึ่งแม้ขณะเกิดข้อพิพาทในคดีนี้จะใช้บังคับตามกฎ ก.พ. ว่าด้วยการเลื่อนขั้นเงินเดือน พ.ศ. 2544 ข้อ 7 (7) และกฎ ก.พ. ดังกล่าวได้ถูกยกเลิก โดยปัจจุบันได้ใช้บังคับตามกฎ ก.พ. ว่าด้วยการเลื่อนขั้นเงินเดือน พ.ศ. 2552 ข้อ 8 (8) ซึ่งได้กําหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการมาทํางานไว้ในลักษณะเดียวกันว่าข้าราชการพลเรือนซึ่งจะได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนจะต้องไม่มาทํางานสายเกินจํานวนครั้งที่ผู้บังคับบัญชาผู้มีอํานาจสั่งเลื่อนเงินเดือนหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายกําหนดเป็นหนังสือไว้ก่อนแล้วโดยคํานึงถึงลักษณะงานและสภาพท้องที่อันเป็นที่ตั้งของแต่ละส่วนราชการหรือหน่วยงาน ดังนั้น ข้อพิพาทในคดีนี้จึงสามารถนําไปใช้เป็นแนวทางการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการในปัจจุบันได้ ภาพประกอบจาก www.huffingtonpost.com โดยคดีนี้นางสาวดาว (นามสมมติ) เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ตําแหน่งพยาบาลวิชาชีพระดับชํานาญการ ปฏิบัติราชการในจังหวัดแห่งหนึ่ง มาทํางานสาย 60 กว่าวัน […]

ช่างสักโพสต์เฟซบุ๊กเตือน ระวังคนนอกเครื่องแบบตรวจเกินกว่าเหตุ เพราะตนเองเจอกับตัวเองมาแล้ว แค่ไปเดินซื้อของ โดนล็อคตัวจะใส่กุญแจมือ พร้อมทั้งกระทำเกินเหตุหลายอย่างเพื่อจะตรวจฉี่ม่วง พอตรวจไม่เจอก็ขอปรับ 100 บาทก่อนปล่อยตัว ข้อหา "ไม่พกบัตรประชาชน"   ในวันที่ 23 ก.ย.59 ที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก Jarawut Paprompruek ได้โพสต์เตือนหลายคนที่มีรอยสัก รวมทั้งประชาชนทั่วไปให้ได้ระวังตัว หากโดนเรียกตรวจอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย พร้อมทั้งโพสต์ภาพและคลิปประกอบ ใจความว่า #ดูแล้วแชร์ด้วยนะครับ #ระวัง เตือนภัยครับ คนที่เดินซื้อของคนเดียวแถวบ้านหม้อ #โดยเฉพาะคนที่มีรอยสัก ระวังนอกเครื่องแบบสายโหด จับตรวจฉี่และกระทำเกินกว่าเหตุ ล็อคกุญแจมือ ทั้งๆที่ผมยังไม่มีความผิดอะไร และก็ไม่ได้ขัดขืนหรือใช้คำพูดไม่เหมาะสมตรงไหนเลย เหตุเกิดเมื่อวานครับ พฤหัสบดีที่ 22/09/2559 เวลา 15.30 น. บริเวณบ้านหม้อ #ขณะที่ผมกำลังเดินเลือกซื้อของอยู่คนเดียว ได้มีเจ้าหน้าตำรวจ 1 นาย เดินเข้ามาขอตรวจฉี่ ผมจึงบอกว่า "ผมไม่มีเวลาให้ตรวจหรอก เพราะผมไม่ได้เสพและตั้งแต่เกิดมาผมก็ไม่เคยเสพ" ทางเจ้าที่จึงบอกว่า "ตรวจเลย ใช้เวลาแปปเดียว" ผมจึงตอบตกลง เพราะเห็นว่า คงไม่เสียเวลามาก และผมได้ขอถ่ายรูปคู่กับเจ้าหน้าที่นายนั้นก่อนการตรวจปัสสาวะ แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ให้ความร่วมมือพร้อมทั้งยังแสดงทีท่าไม่พอใจ และเปลี่ยนใจบอกจะพาผมไปตรวจที่โรงพักแทน ผมจึงปฎิเสธพร้อมบอกเหตุผลว่า "ผมไม่มีเวลาเพราะผมต้องรีบไปส่งของที่ไปรษณีย์"(ผมขายของออนไลน์) "ถ้าจะตรวจก็คือตรวจตรงนี้" เพราะคนเยอะดี ตรวจตรงนี้แหละ […]

ภายหลังจากช่วงเช้าวันที่ 23 ก.ย. 59 ไทยรัฐออนไลน์ ได้นำเสนอข่าว (วธ.สั่งปรับปรุงเนื้อหา เอ็มวีโปรโมตเที่ยวไทย ทศกัณฐ์แคะขนมครก) ผ่านอินสตาแกรมไทยรัฐ กรณี 2 หน่วยงานราชการติติงมิวสิกวิดีโอเพลง 'เที่ยวไทยมีเฮ’ ที่มีบางฉากไม่เหมาะสม โดยเฉพาะฉากทศกัณฐ์แคะขนมครก เซลฟี่ ขี่ม้า ขับโกคาร์ท ต่อมามีผู้อ่านจำนวนมากได้ร่วมแสดงความคิดเห็น โดยหนึ่งในนั้นคือ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ที่ใช้อินสตาแกรมส่วนตัว @Nichax ทรงระบุว่า "ผู้ใหญ่คนไทยควรเปิดใจให้กว้างแล้วนะคะเดี๋ยวนี้ ทำไมทศกัณฐ์จะแคะขนมครกไม่ได้ เสียเกียรติตรงไหนที่ทำอะไรเป็นไทยๆ (ลืมไปว่าทศกัณฑ์ไม่ใช่คนไทย!)" จากนั้นได้มีผู้มาแสดงความคิดเห็นตามมาอีกจำนวนมาก สำหรับอินสตาแกรมไทยรัฐ @Thairath ได้รวบรวมรายงานข่าวและประเด็นที่น่าสนใจตลอดวัน ซึ่งปัจจุบันเป็นอินสตาแกรมสื่อไทยที่มีจำนวนผู้ติดตามสูงที่สุดกว่า 1 ล้านคน ภาพและข่าวจาก : thairath.co.th  

ใครๆ ก็มีธุรกิจเป้นของตัวเอง เพราะมันเป็นงานที่ให้ความรู้สึกว่าสามารถควบคุมได้เองทุกอย่าง ไม่ต้องเป็นลูกน้องใคร ไม่ต้องให้ใครมาสั่ง แต่ก็มีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้จะเริ่มอะไรดี จึงต้องเริ่มที่การซื้อ "ธุรกิจแบบเฟรนไชส์" หรือธุรกิจที่มีโมเดลสำเร็จรูปมาให้แล้ว แค่ซื้อสูตร ซื้อร้าน ก็ลงมือทำได้เลย ซึ่งถ้าใครโชคดีก็ได้งานดี เงินดี รอดตัวไป แต่ถ้าโชคร้ายก็อาจจะโดนโกง เจอโมเดลธุรกิจที่น่าผิดหวัง ทุนให้ไปเท่าไหร่ก็จมหมด ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ที่ผ่านมา ชาวพันทิป ล็อกอินViperPerFectz ก็ได้ออกมาตั้งกระทู้เตือนหลายคนที่คิดจะซื้อเฟรนไชส์ธุรกิจ "สินค้า 20 บาท ระดับSMEตีแตก" เห็นเจ้าของธุรกิจออกรายการมากมายอย่าเพิ่งหลงเชื่อ ระวังจะเจอระบบร้านที่ไม่เป็นธรรมกับคนซื้อ โดยเขาได้เล่าว่า ฝากเตือนทุกๆท่านที่คิดอยากลงทุนซื้อแฟรนไซส์ 20 บาท วิเคราะห์แบรนด์ต่างๆ ก่อนที่จะตัดสินใจจ่ายเงินไปก้อนโต ผมเองเปิดร้านมาได้ 2 ปีกว่าแล้ว แต่สงสารคนที่ต้องตกเป็นเหยื่อของคนที่มักง่ายโดยคิดว่าเป็นเจ้าของธุรกิจเฟรนไชส์ง่ายๆ เพียงแค่ "ขายฝัน" เรามาดูกันดีกว่าว่าวิธีการ "หารายได้ร้อยล้าน" ของเสี่ยเด็กคนนี้เป็นไงบ้าง เริ่มจาก 1) นำทุกๆ ท่านเข้าสู่โหมดเทพ จากคนจนรายได้วันละ 300 บาท จะขายได้วันละเป็นแสนๆ กำไรวันละหลายหมื่นบาททันที  2) จะให้คุณดูรายการที่เสี่ยเด็กคนนี้ไปออกมา […]

ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทั่วไปในโลกโซเชียลมีเดียกรณีมีการจัดทำฝายแม่ผ่องพรรณพัฒนาใน จ.เชียงใหม่ โดยมีนางผ่องพรรณ จันทร์โอชา ภริยาของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม น้องชายนายกรัฐมนตรี โดยมีการขึ้นป้ายผ้าไวนิลแสดงผลงานที่ชัดเจน ล่าสุดวันนี้ (23 ก.ย.59) เพจ CSI LA ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 7 แสนคน ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า “ฝายกั้นน้ำแม่ผ่องพรรณ พังแล้วครับ แทนที่จะเอาเงินที่เสียไปกับการเดินทางหลายล้านบาทของคุณผ่องพรรณ น่าจะนำเงินมาสร้างฝายที่มีมาตรฐานแทน ไม่ใช่ทำงานแบบผักชีโรยหน้าอย่างนี้” ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวมติชนกำลังเร่งตรวจสอบกรณีดังกล่าว ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เรื่องที่สมาคมภริยาข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมก่อสร้างฝายกั้นน้ำในพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ นั้น ทางสมาคมก็ถือเป็นหน่วยหนึ่งของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม แม้จะไม่ได้เป็นหน่วยขึ้นตรง แต่ก็ทำงานร่วมกัน และมีภารกิจและงานที่เกี่ยวกับสาธารณประโยชน์ ซึ่งการทำฝายกั้นน้ำนั้น เพราะในพื้นที่มีการร้องขอมา โดยมีศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ กรมการพลังงานทหาร ศูนย์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ กระทรวงกลาโหม ทำหน้าที่ดูแลพื้นที่อยู่ และสมาคมภริยาข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมได้สนับสนุนงบประมาณซื้อหินจำนวน 7,800 บาท [ads] ข่าวจาก : matichon.co.th […]

21 ก.ย. ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ รายงานว่า ร่องมรสุมเลื่อนลงไปพาดผ่านบริเวณภาคกลางและภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันภาคใต้และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือตอนบนมีปริมาณและการกระจายของฝนลดลงโดยทั่วไปในช่วงตลอดระยะกลางสัปดาห์นี้ ภาพประกอบจาก : www.greenintrend.com ขณะที่บริเวณชนบทรอบนอกตามอำเภอต่างๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ เริ่มมีอากาศหนาวเย็นชัดขึ้นในช่วงเช้ามืด หลายพื้นที่สามารถมองเห็นหมอกหนาตามบริเวณยอดดอยและหุบเขา นายวุฒิพงษ์ ดงคำฟู ผู้ช่วยผู้อำนวยการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า ในช่วงนี้ตอนเช้าและเย็นสภาพอากาศเริ่มหนาวเย็นอุณหภูมิเฉลี่ย 8-9 องศาเซลเซียส มาหลายวันแล้ว หากอุณหภูมิลดลงต่ำ 6 องศาเซลเซียสจึงจะเรียกว่าหนาวเต็มที่ แต่ในช่วงสายถึงบ่ายยังคงมีฝนตกอยู่ตลอด ทำให้สภาพกาศค่อนข้างปิด ฝากแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวังการสัญจรไปมาบนท้องถนนที่อาจลื่นจากฝนตก “ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่จะถึง ทางอุทยานฯจะเปิดให้บริการเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานแล้ว ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมกับทะเลหมอก ทุ่งกุหลาบพันปี และกวางผาอาบแดดรับฤดูหนาว เชื่อว่าจะสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก แต่ถ้าขึ้นมาในช่วงนี้ก็จะพบกับนาข้าวขั้นบันไดที่บ้านแม่กลางหลวง ซึ่งกำลังเขียวเต็มท้องทุ่ง” ข่าวจาก : matichon.co.th