รอก่อนไม่ได้หรือ? หนุ่มโวยมินิมาร์ทรีบปิดทำการ ทั้งที่เหลือเวลาอีก8นาที

Advertisement ดูเหมือนจะเป็นการรบกวนร้านค้า หากลูกค้าเข้ามาใช้บริการในเวลาที่ร้านใกล้ปิดทำการ หรือมาในเวลาที่กระชั้นชิดใกล้ปิดร้านมากๆ แล้วถ่วงเวลาพนักงานไปอีก ซึ่งบางร้านค้าอาจจะใจดี ไม่อยากเสียลูกค้าจึงยอมเลื่อนเวลาปิดร้านไปอีกหน่อย แต่ถ้าเป็นร้านค้าที่ค่อนข้างมีมาตรฐานสากล เช่น มินิมาร์ท ที่ชาวพันทิปล็อกอินกาแฟแดง ประสบพบเจอ ก็ไม่รู้ว่าเป็นการรักษามาตรฐานร้านค้าตามปกติ หรือลูกค้าเรียกร้องเกินไป เพราะในมุมลูกค้าอย่างล็อกอินกาแฟแดง เขารู้สึกผิดหวังมากๆ ที่เหลือเวลาอีก 8 นาทีก่อนปิดร้านแท้ๆ พนักงานกลับปิดร้านก่อนเวลา ไม่ให้เข้าไปซื้อของอีกแล้ว Advertisement โดยเขาได้เล่าในกระทู้ http://pantip.com/topic/35546234 ว่า…  ครอบครัวผมเป็นลูกค้าบิ๊กซีซื้อของอย่างน้อยก็สองอาทิตย์ครั้งและจะได้รับคูปองส่วนลดตลอด วันนั้นเกือบเที่ยงคืนอีกประมาณ20นาทีนึกขึ้นได้ว่ามีบัตรส่วนลดและยังไม่ได้ใช้ ก็เลยรีบขับรถไปยังบิ๊กซีมินิ สุขาภิบาล3 หมู่บ้านพฤษชาติ ไปถึงร้านเหลืออีกประมาณ 8 นาทีจะเที่ยงคืน ผมเรียกพนักงานงานไม่มีใครสนใจมาเปิดประตู ทำให้ผมไม่สามารถใช้สิทธิคูปองส่วนลดได้ เสียเวลา เสียความรู้สึกมาก ทั้งๆ ที่ประตูก็บอกว่าปิดเวลา 24 นาฬิกา ผมถ่ายรูปมาตามไฟล์แนบ โดยใช้เครื่องมือถือที่มีชื่อไฟล์บอกวันเวลาในการถ่ายภาพ และเครื่องผม sync สัญญาณนาฬิกากับอินเตอร์เน็ตตลอด จึงมีความเที่ยงตรงของเวลา ผมได้รับบริการที่ไม่เป็นไปตามสัญญากับลูกค้า เสียเวลา เสียความรู้สึกมาก แล้วฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บมจ บิ๊กซีฯ ที่คอยมาตอบกระทู้ใน pantip ไม่ต้องมาบอกนะครับ ว่าให้ส่งเมล์ไปแจ้งที่ http://corporate.bigc.co.th/th/contact/ เพราะผมส่งไป 3 รอบแล้วแต่ไม่มีการตอบกลับแต่อย่างใด แม้กระทั่งส่งเมล์ตรงไปที่ [email protected] Advertisement ซึ่งหลังจากเขาได้โพสต์กระทู้ไปแล้ว ล็อกอินฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บมจ บิ๊กซีฯ ซึ่งรับผิดชอบในการตอบปัญหาลูกค้าบิ๊กซีในพันทิป ก็ได้ออกมารับเรื่องไว้ […]

อัพเดทคดี”น้องการ์ตูน” คู่กรณีเตรียมงัดไพ่เป็น”บุคคลล้มละลาย” ไม่จ่าย ไม่รับผิดชอบ!!

เมื่อปี 57 หลายคนคงพอจะจำคดีรถกระบะแต่งซิ่งพุ่งชนร้านสเต๊ก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และผู้บาดเจ็บสาหัส 1 คน ซึ่งภายหลังจากเกิดเหตุ เจ้าของรถซึ่งเป็นเจ้าของกิจการเขียงหมูก็ยังใช้ชีวิตปกติ ในขณะที่ "น้องการ์ตูน" เด็กหญิงตัวน้อยๆ ต้องนอนเป็นอัมพาต ตาใกล้บอด โดยมีแม่ที่ยังเปิดร้านสเต๊กต่อไป เพื่อหารายได้มาดูแลน้องการ์ตูน และเป็นเสาหลักแทนพ่อของเด็กที่เอาตัวมาบังลูกจนเสียชีวิตไปแล้ว คลิกที่แต่ละหัวข้อเพื่ออ่านข่าวย้อนหลัง – เปิดวงจรปิดคดีน้องการ์ตูน ยัน น้ำผึ้ง ขับกระบะชนพ่อ-ลูกจริง – ชาวเน็ตเดือด ขาซิ่งชนน้องการ์ตูนโพสต์เฟซบุ๊ก บอกเสียเวลากับสองแม่ลูก – ขอความเป็นธรรมให้ครอบครัวน้องการ์ตูน !! – 2 เดือนผ่านไป! คดี 'น้องการ์ตูน' ไม่คืบ-ไร้คนจ่ายค่าเสียหาย – คุก 1 ปี "น้ำผึ้ง" ซิ่งรถชนร้านเสต็ก จ่ายเยียวยา "น้องการ์ตูน" 6 ล้าน สินไหมพ่อ 3 แสน ล่าสุด เพจ ร้านสเต็กคุณแม่การ์ตูน Mother's Grill Steak House "ย่างด้วยรัก หมักด้วยใจ"  ซึ่งเป็นเพจร้านสเต๊กโดยคุณแม่น้องการ์ตูนเอง ได้โพสต์อัพเดทความคืบหน้าของคดีในวันนี้ […]

รวบตัวได้แล้ว! คนขับรถทัวร์ใจโฉดใช้ค้อนทุบผู้โดยสาร ถูกจับเพราะพลังโซเชียลช่วยกันแชร์

หลังกลายเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญไปทั่วประเทศ เมื่อ นางบุญเพ็ง อายุ 56 ปี ที่เสียชีวิตจากการถูกคนขับรถโดยสาร สายร้อยเอ็ด-บุรีรัมย์ ฆ่าชิงทรัพย์บนรถ แล้วนำร่างมาทิ้งไว้ที่กลางทุ่งนา ระหว่างบ้านดงบาก-บ้านเหล่าน้อย ต.นาสีนวล อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม ล่าสุด สามารถจับกุม นายวัชรินทร์ อายุ 26 ปี โชเฟอร์ฆ่าชิงทรัพย์ผู้โดยสารบนรถโดยสาร สายร้อยเอ็ด-มหาสารคาม ได้แล้ว โดยสามารถจับคนร้ายได้ในที่ บ้านจอกขวาง หมู่ 6 ต.หนองแสง อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม เจ้าหน้าที่เผยสาเหตุที่ตามจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว เป็นเพราะกระแสโซเชียลมีเดีย ที่มีการแชร์ภาพออกไปอย่างมากมาย ทำให้มีคนพบเห็นนายวัชรินทร์ ว่าอยู่ในพื้นที่ บ้านจอกขวาง ต.หนองแสง อ.วาปีปทุม จึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาจับกุม ซึ่งระหว่างเข้าจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 1 นาย รักษาตัวอยู่ที่ รพ.วาปีปทุม ส่วนผู้ต้องหาขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.วาปีปทุม เพื่อรอพนักงานสอบสวน สภ.พยัคฆภูมิพิสัย มารับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ข่าวจาก : johjae.com

ทำประกันไปแล้วแต่อยากยกเลิก? เรามีสิทธิยกเลิกได้ โดยได้เงินคืนทั้งหมดด้วย

ตอนที่ทำประกันสักแห่งไว้บางคนอาจจะทำไปเพราะตัดความรำคาญ ซื้อไว้ขำๆ  หรือไม่ก็ซื้อไว้ก่อนแต่ไม่ทันได้ศึกษารายละเอียดดี พอมารู้ทีหลังกรมธรรม์ที่ตนเองถืออยู่มีปัญหาที่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ อยากจะยกเลิกพอจะทำได้รึเปล่า? Thaijobsgovมีเกร็ดความรู้จาก MoneyHub มาให้แฟนเพจได้ศึกษากันว่า "ยกเลิกประกันอย่างไร ให้ได้เงินคืนทั้งหมด" ภาพประกอบจาก www.investopedia.com [ads] ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า เงื่อนไขในการยกเลิกค่าเบี้ยประกันระหว่างการทำประกันผ่านทางโทรศัพท์กับการทำประกันผ่านตัวแทนขายแบบเห็นหน้าที่สาขาธนาคารหรือที่ไหนก็ตามจะมีเงื่อนไขไม่เหมือนกัน ด้วยเหตุผลที่ว่าการตกลงทำประกันแบบเห็นหน้ากันนั้นเราสามารถสอบถามหรือให้ตัวแทนสามารถอธิบายเงื่อนไขต่างๆ ได้มากกว่าการทำประกันผ่านโทรศัพท์ ดังนั้นเรามาเริ่มที่การยกเลิกประกันเมื่อทำผ่านตัวแทนไม่ว่าจะที่สาขาของธนาคาร หรือผ่านตัวแทนที่เป็นคนรู้จักกัน หากเราตัดสินใจทำประกันไปแล้ว จ่ายค่าเบี้ยประกันไปแล้ว เกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาจะทำยังไง คือ เราก็ติดต่อกลับไปที่ตัวแทนหรือนายหน้าที่ขายประกันให้กับเราว่าเราขอยกเลิก หรือถ้าไม่อยากติดต่อกับตัวแทนหรือนายหน้าขายประกันอีกแล้ว เราก็เพียงแต่รอให้ได้รับกรมธรรม์ประกันชีวิตเสียก่อน แล้วก็ทำเรื่องยกเลิกกรมธรรม์ได้ภายใน 15 วัน นับจากวันที่เราได้รับกรมธรรม์ประกันชีวิต โดยเราจะต้องทำหนังสือแจ้งการยกเลิกทำประกันภัยซึ่งสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของบริษัทประกัน ต่อจากนั้นเราก็ส่งหนังสือแจ้งการยกเลิกนี้พร้อมกับกรมธรรม์ที่เราได้รับมาให้กับบริษัทประกัน ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนหรือ EMS ก็ได้ ซึ่งถ้าเราทำอย่างนี้ภายใน 15 วันนับจากวันที่ได้รับกรมธรรม์ เราก็จะได้รับค่าเบี้ยประกันคืนทั้งหมด แต่จะต้องถูกหักค่าใช้จ่ายกรมธรรม์ละ 500 บาท และอาจจะถูกหักค่าตรวจสุขภาพด้วยหากประกันชีวิตที่เราเลือกทำไว้นั้น มีการตรวจสุขภาพและบริษัทประกันเป็นผู้จ่ายค่าตรวจสุขภาพนั้นให้กับเรา สำหรับการทำประกันผ่านโทรศัพท์แล้วอยากจะยกเลิกนั้น ก็สามารถแจ้งยกเลิกได้เหมือนกัน คือ เมื่อได้รับกรมธรรม์ประกันชีวิตแล้ว ศึกษารายละเอียดแล้วรู้สึกว่าเงื่อนไขต่างๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่คุยกันทางโทรศัพท์ หรือคิดว่าถ้าต้องจ่ายค่าเบี้ยเป็นระยะเวลานานๆ เราอาจจะไม่สามารถจ่ายได้ เราก็สามารถแจ้งยกเลิกได้เหมือนกับการทำประกันผ่านตัวแทนหรือนายหน้า คือ ส่งหนังสือแจ้งยกเลิกพร้อมทั้งกรมธรรม์ประกันชีวิตที่เราต้องการยกเลิกส่งแบบลงทะเบียนหรือ EMS ไปที่บริษัทประกัน โดยการทำประกันผ่านทางโทรศัพท์นั้น ให้เราสามารถแจ้งยกเลิกได้ภายใน 30 […]

คนไข้โวย! ค่ายา รพ.เอกชนดังเกินจริงไป7000% ถามชาวเน็ตร้องเรียนที่ไหนได้บ้าง?

เป็นที่ทราบกันดีว่า รพ.เอกชน มักจะมีค่ารักษาพยาบาลที่แพงกว่า รพ.รัฐ แลกกับความสะดวกสบายทุกอย่างที่เหนือกว่ารัฐ ตามประสาการบริหารงานที่อิงเอกชนเป็นหลัก ไม่ต้องมีขั้นตอนทางราชการให้วุ่นวายมาก จึงเป็นธรรมดาที่คนไข้หลายคนจะยอมจ่ายแพงกว่า เพื่อสิ่งที่โดยรวมแล้วคุ้มค่าดี แต่สำหรับชาวพันทิป สมาชิกหมายเลข 2899645 เธอกลับรู้สึกว่า รพ.เอกชนแห่งหนึ่งเอาเปรียบคนไข้มากเกินไป ยิ่งมาคำนวณค่ายา-เวชภัณฑ์ดีๆ เทียบกับทั่วไปแล้ว เธอพบว่า รพ.เอกชนดังกล่าวชาร์จราคาแพงกว่าทั่วไปถึง 7,000% เธอจึงตั้งกระทู้หารือกับชาวเน็ตว่าแบบนี้จะร้องเรียนได้ที่ไหน เพราะมันไม่เป็นธรรมกับคนไข้จริงๆ โดยเธอได้เล่าว่า … เราเป็นหนึ่งคนที่ไว้วางใจใช้บริการกับโรงพยาบาลกรุงเทพ แต่แล้วก็ต้องผิดหวังมากถึงมากที่สุด เพราะรู้สึกได้ถึงความไม่เป็นธรรมละการรับปากจากเจ้าหน้าที่ว่าจะรักษาสิทธิให้การลูกค้าภายหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 1.เราได้มาฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเป็นระยะตั้งแต่เริ่มต้น แต่เราไม่เคยได้รับข้อมูลกับสิทธิต่างๆ จากโรงพยาบาลเลย อาทิเช่น "บัตรชีววัฒนะ" แต่เราต้องไปได้รับข้อมูลต่างๆจากคนภายนอก จนเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อดิฉันเกิดเคสฉุกเฉินเนื่องจากการคลอดก่อนกำหนด มีค่าใช้จ่ายในวันแรกสูงมากๆ จนทำให้บุคคลภายนอกแนะนำให้ดิฉันไปสมัครบัตรดังกล่าว หลังจากนั้นทางเราได้ไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ว่าเนื่องจากเราไม่ได้รับคำแนะนำต่างๆเหล่านี้จากทางโรงพยาบาล จึงของทวงสิทธิที่ตัวเองเสียไปว่า ให้ช่วยนำส่วนลดดังกล่าวนี้ครอบคลุมไปถึงวันแรก ทางเจ้าที่ได้รับปากกับทางเราว่า ให้เรามีชำระเงินส่วนดังกล่าวแล้วทางโรงพยาบาลจะพิจารณาละติดต่อกลับมาเพื่อให้เราได้รับสิทธิดังกล่าว แต่เมื่อเวลาผ่านมาเราไม่เคยได้รับการติดต่อจากทางโรงพยาบาลเลยตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา 2.ค่ายาและเวชภัณฑ์ที่ทางโรงพยาบาลได้คิดเกินราคาถึง 7000% อาทิเช่น – ค่ายา magnesium sulfate 50% (2ml) ในราคาตัวนี้ ปกติราคา 300 บาทเท่านั้น ตามราคากลางของ บัญชียาหลักแห่งชาติ http://drug.fda.moph.go.th:81/nlem.in.th/medicine-price?index=M แต่ทางโรงพยาบาลคิดค่ายาดังกล่าวในราคา =21,956 บาท (ยาตัวนี้คุณหมอให้เรา ตอนที่เจ็บท้องจะคลอด เพื่อยับยั้งการคลอด แต่สุดท้ายถุงน้ำคร่ำแตกก่อน) – […]

ไปสมัครงาน รปภ. โดนปฏิเสธ เพราะเหตุผลคือ”เป็นคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้”

หนุ่มปัตตานีท้อ หนีร้อนมาพึ่งเย็น ลุยสมัครงาน แต่กลับถูกปฏิเสธเพียงเพราะเป็นคน 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ พ้อเป็นคน 3จังหวัดชายแดนใต้มันผิดตรงไหนทั้งที่เป็นคนไทยเหมือนกัน หลังอพยพมาบ้านภรรยาที่ระยอง โดยก่อนหน้านี้ทำธุรกิจขายอาหารตามสั่งในตัวเมืองปัตตานีไปไม่รอด จึงออกหางานทำเป็น รปภ.แต่กลับถูกปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่บริษัทยามหลังทราบว่าเป็นคนปัตตานี ปฏิเสธเสียงดังลั่นว่าบริษัทไม่รับคน3จังหวัดชายแดนใต้ พร้อมทั้งให้ตนกลับ โดยไม่ทราบเหตุผล เผยรู้สึกเสียใจ ทั้งๆ ที่ตนเองและคนใน 3จังหวัดชายแดนใต้ต่างก็ไม่มีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้น และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่ทำไมจึงถูกเหมารวม สำหรับคนใน 3จังหวัดต่างก็ต้องการให้เหตุการณ์สงบลงเพื่อจะได้ทำมาหากินได้เหมือนเดิมไม่ต้องอพยพมาหากินต่างถิ่น เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 27 ส.ค. นายสมยศ ชุติมากุล อายุ 46 ปี ชาวจ.ปัตตานี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองพร้อมด้วยภรรยาและบุตรได้อพยพจาก จ.ปัตตานี หลังจากกิจการร้านอาหารตามสั่งไปไม่รอดเพราะลูกค้าลดลงมาก ด้วยสาเหตุความไม่สงบ และเกี่ยวกับเรือประมงที่ลดลงเพราะไม่สามารถปฏิบัติตามกฎหมายกำหนด จึงทำให้คนลดน้อยลง จนทำให้กิจการไปไม่รอด จึงได้อพยพมาที่บ้านภรรยาในตลาดเพ ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง โดยเพิ่งอพยพมาเพียง15วัน โดยภรรยาก็เริ่มเปิดร้านขายอาหารตามสั่งในตลาดเพ ตนเองอยากจะช่วยหารายได้เพิ่มเพราะร้านยังมีลูกค้าไม่มาก จึงได้ไปสมัครงานเป็น รปภ.ของบริษัทแห่งหนึ่งในจ.ระยอง ตามที่หลานภรรยาแนะนำ ต่อมาเมื่อวันที่ 24ส.ค.ที่ผ่านมา ตนเองจึงได้เดินทางไปสมัครงานที่บริษัทดังกล่าวโดยหลานพาไป พอไปถึง ตนเองจึงขึ้นไปพร้อมด้วยหลักฐานเอกสารสมัครงาน พอเข้าไปพบว่ากำลังมีการอบรมพนักงาน […]

ธนาคารแง้มเทคนิคใหม่ ปีหน้าอาจใช้การสแกนลายนิ้วมือในการทำธุรกรรม

ธ.ซีไอเอ็มบีไทย ยืนยันปัจจุบัน ระบบธนาคารพาณิชย์ของไทยปลอดภัย แย้มต้นปีหน้าอาจใช้การสแกนลายนิ้วมือยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะธุรกรรมที่มีความเสี่ยงสูง    ภาพประกอบจาก www.funkidslive.com นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า ระบบธนาคารไทยปัจจุบันมีความปลอดภัยในการทำธุรกรรมที่สาขา และทางอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงข้อมูลใดๆ ของลูกค้าที่มีความสำคัญ จะต้องมีการแสดงตัวตน ทั้งการนำเอาบัตรประชาชนตัวจริง เพื่ออ่านค่าผ่านระบบสมาร์ทการ์ด และลูกค้าต้องมาพิสูจน์ตัวตนด้วย จะไม่มีการข้ามขั้นตอนใด เนื่องจากเป็นระเบียบปฎิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ทุกธนาคารจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งเมื่อได้รับข้อมูลพนักงานจะมีการตรวจสอบข้อมูลซ้ำทุกครั้ง นอกจากนี้ ยังมีทีมตรวจที่จะสุ่มตรวจสอบทุก 6 เดือน         ส่วนกระบวนการเข้าถึงทางอิเล็กทรอนิกส์ ยังสามารถตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้ User รหัสเข้าใช้ และอุปกรณ์เชื่อมต่อที่เป็นอุปกรณ์เฉพาะในธุรกรรมที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อเป็นการยืนยันตัวตนให้แน่ชัด         นอกจากนี้ ปัจจุบัน ธนาคารแห่งประเทศไทยยังมีเปิดให้ธนาคารพาณิชย์นำระบบการยืนยันตัวตนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-KYC มาทดลองใช้กับธนาคารไทย ซึ่งหากระบบมีความพร้อม คาดว่าจะเปิดใช้งานได้ภายในต้นปีหน้า ทำให้ลูกค้ามั่นใจว่า ระบบธนาคารไทยยังมั่นคง และมีความปลอดภัยสูง  ข่าวจาก : manager.co.th

พักงานด่วน-ระงับค่าตอบแทน! คำสั่ง คสช. ม.44 ลงดาบ “หมอเปรม”-“สุขุมพันธุ์ “

วันนี้ (25 ส.ค.59) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 50/2559 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 6 ระบุว่า โดยที่เจ้าหน้าที่ของรัฐบางรายซึ่งเป็นผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบขององค์กรตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญหรือหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย มูลกรณีที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ หรือมีพฤติกรรมซึ่งเข้าเป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นๆ แม้ผลการตรวจสอบหรือการสอบข้อเท็จจริงในขณะนี้ยังไม่อาจสรุปความผิดได้ แต่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอยู่ในความสนใจของประชาชน และมีการดำเนินการไปแล้วในระดับหนึ่ง อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 หัวหน้า คสช. โดยความเห็นชอบของ คสช. จึงมีคำสั่ง ดังนี้ ข้อ 1. ให้ ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่ในการกรุงเทพมหานครเป็นการชั่วคราวโดยยังไม่พ้นจากตำแหน่ง จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนในระหว่างนี้ ข้อ 2. ให้นายเปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่ในเทศบาลเมืองบ้านไผ่เป็นการชั่วคราวโดยยังไม่พ้นจากตำแหน่ง จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนในระหว่างนี้ ข้อ 3. ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายซึ่งดำเนินการตรวจสอบหรือสอบข้อเท็จจริงบุคคลตามข้อ 1 และข้อ […]

“หอหญิงล้วน” ไม่ปลอดภัยเพราะยามทำผิดเอง! สาว นศ.โพสต์เตือนภัย ระวังยามบุกปล้ำถึงห้อง

ผู้ปกครองที่มีลูกหลานเป็นหญิงหลายคนอาจจะรู้สึกวางใจ หายห่วงได้ประมาณหนึ่งถ้าเลือกให้ลูกหลานตนเองได้พักในหอหญิงล้วน แต่ภัยสังคมเดี๋ยวนี้มีรอบด้าน ที่ที่คิดว่าปลอดภัยที่สุดก็เป็นที่อันตรายที่สุดได้เหมือนกัน ดังเช่นเรื่องราวของเฟซบุ๊ก Jeranun Into เธอก็ไม่คิดว่ายามจะบุกปล้ำเพื่อนของเธอในหอหญิงล้วนได้ โชคดีที่มีคนไปช่วยเพื่อนไว้ทัน ผู้หญิงบางคนที่เข้าไปช่วยต้องถึงกับถีบประตูให้กระจกแตกจนตัวเองบาดเจ็บ ในขณะที่ยามวิ่งหนีหายไป  โดยเธอได้เล่าผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า เหตุการณ์เมื่อคืนน่าจะประมาณตี 2 กว่าๆ ทำให้รู้ว่า คนเหี้ยๆ นี่แม่งมีอยู่ทุกที่จริงๆ รู้หน้าไม่รู้ใจ ทำผู้หญิงตัวเล็กๆไม่มีทางสู้ได้ไง เกิดกับคนใกล้ตัวก็ไปไม่ถูกเหมือนกัน สงสารเพื่อน ทำได้แค่ปลอบกับรอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจจัดการ แจ้งความไว้เรียบร้อยแล้ว เหตุการณ์เกิดขึ้นที่หอและห้องของเราเอง  *** แต่คนที่เสียหายคือเพื่อนของเรา มันพยายามจะปล้ำเพื่อนเรา เพราะรู้ว่าเพื่อนเราสู้ไม่ไหว ตอนนั้นเราไปเที่ยวกับเพื่อนเรา แต่เพื่อนเราไม่ไหวก็กลับมาหอก่อน โดยมีเพื่อนอีกคนมาส่งพร้อมเอาแฟนมันมาเป็นเพื่อนด้วย แต่ไอ้ยามไล่เพื่อนเราลง บอกว่าผู้ชายห้ามอยู่นะไรงี้ เพื่อนเราก็คงไม่ได้เอะใจอะไรก็ลงไปพร้อมแฟนมัน น่าจะเป็นจังหวะที่เพื่อนคนที่มาส่งกลับไปแล้ว ฉวยโอกาสตอนเพื่อนเราอยู่คนเดียว บุกเข้าห้อง เพราะห้องเราเพื่อนไม่ล็อครอเรากลับมา พอเรากลับมาแล้วขึ้นไป เพื่อนก็เล่าเรื่องให้ฟังว่าไอ้ยามจะปล้ำ เท่านั้นแหละตกใจมาก พยายามตั้งสติกัน แล้วรีบโทรหาพรรคพวกกันทันที ตอนนี้เป็นหอหญิงล้วนแล้วด้วย คิดดูว่า ขนาดเป็นคนรักษาความปลอดภัยของหอ แต่กลับทำเรื่องชั่วๆ เอง แล้วความปลอดภัยอยู่ตรงไหนวะ อันตรายมากๆ ระวังตัวกันด้วยนะคะ แต่เพื่อนเราไม่ได้เป็นไรมากนะ เพราะขัดขืนก่อน  …พอหลายคนรู้ข่าวก็แห่มากันโดยมิได้นัดหมาย ชายฉกรรจ์ประมาณเกือบๆ หลายสิบชีวิต […]

ยอมลดราคาแล้ว! รถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีละบาท-ตลอดสายเหลือแค่29บาท เริ่มตั้งแต่1ก.ย.นี้

พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมร่วมกับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็ม มีมติเห็นชอบลดราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงต่อสถานีลง 50% เหลือสถานีละ 1 บาท จากเดิมค่าโดยสารต่อสถานีละ 2 บาท แต่ยังคงอัตราค่าโดยสารแรกเข้าไว้ที่ 14 บาท ซึ่งหากรวมค่าโดยสารตลอดสายจำนวน 16 สถานี ราคาจะลดลงเหลือ 29 บาท จากเดิมราคาอยู่ที่ 42 บาท และหากเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สุดสายปลายทางที่สถานีหัวลำโพง ราคาจะอยู่ที่ 54 บาท จากเดิมราคาอยู่ที่ 70 บาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนเป็นต้นไปจนกว่าการเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าระหว่างช่วงสถานีบางซื่อ และเตาปูนจะแล้ว ทั้งนี้ ผู้โดยสารที่จะได้รับการลดอัตราค่าโดยสารดังกล่าวจะต้องใช้บัตรเอ็มอาร์ที พลัส (MRT Plus) เท่านั้น และหากบัตรเอ็มอาร์ที พลัส สำหรับนักเรียนและนักศึกษา จะได้รับส่วนลดเพิ่มขึ้นอีก 10% […]

1 2,904 2,905 2,906 2,927
error: