ม.รังสิตสุดเจ๋ง! ชูนโยบายช่วยชาวนา “ลูกหลานชาวนานำข้าวสารจ่ายค่าเทอมได้”

Advertisement "สุริยะใส" เผย ม.รังสิต ชง 5 ข้อช่วยชาวนา ระบุลูก-หลานชาวนานำข้าวสาร มาจ่ายค่าเทอมได้ เตรียมเปิดโซนขายข้าว "ถนนข้าวสารลานแบร์" ในมหาวิทยาลัย Advertisement … เมื่อวันที่ 2 พ.ย.59 นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดี วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต กล่าวว่า มหาวิทยาลัยรังสิต ได้จัดเวทีพูดคุยเพื่อร่วมกันฝ่าวิกฤติราคาข้าวช่วยเหลือชาวนาในเบื้องต้น ได้ข้อสรุป 5 ข้อ ดังนี้ Advertisement 1. ม.รังสิตจะจัดให้มีจุดรับข้าว เพื่อเปิดเพื้นที่ให้ชาวนาสามารถนำข้าวสารมาขาย  2. ให้ชาวนาในพื้นที่บริเวณหนองสาหร่าย จ.กาญจนบุรี สามารถนำข้าวเปลือกมาสีได้ที่โรงสีข้าวหนองสาหร่าย ซึ่งอยู่ในโครงการนวัตกรรมนาข้าว ชาวนาอัจฉริยะ ของ ม.รังสิต 3. ช่วยเหลือนักศึกษา ม.รังสิตที่เป็นลูกชาวนา โดยให้นำข้าวสารมาจ่ายเป็นค่าหน่วยกิตได้ และจัดให้มีทุนการศึกษา "ทุนลูกชาวนา" โดยพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ  4. จัดพื้นที่ให้บุคลากร นักศึกษาที่ครอบครัวทำนา ได้นำข้าวสารมาร่วมจำหน่าย โดยเปิดโซนพื้นที่ในการจำหน่ายให้เป็นถนนข้าวสาร 5. สถาบันปฏิรูปประเทศไทย ม.รังสิต ร่วมกับสถาบันต่างๆ จะมีการจัดเวทีนำเสนอนโยบายช่วยเหลือชาวนาอย่างเป็นรูปธรรมและจะจัดกิจกรรมผู้บริโภคพบปะจับคู่ชาวนาในวาระต่อไป […]

กิจ(การ)ของสงฆ์!? พระตั้งกรุ๊ปไลน์ชวนญาติโยมทำธุรกิจขายตรงกาแฟด้วยกัน

… การทำมาหากินของคนที่อาศัยผ้าเหลือง เรามักจะเห็นในรูปของการบิณฑบาตในเวลาและเส้นทางไม่เหมาะสม หรือไม่ก็อาศัยผ้าเหลืองปลุกเสกไสยศาสตร์หลอกเงินชาวบ้าน แต่กรณีต่อไปนี้คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อน "พระก็ทำขายตรงได้(หรือ?)" วันที่ 2 พ.ย.59 เวลา 14.51 น. เพจ Red Skull V.SE ได้นำเสนอพฤติกรรมของพระรูปหนึ่ง ตั้งกรุ๊ปไลน์เพื่อทำธุรกิจขายตรงกาแฟลดน้ำหนักกับญาติโยม ซึ่งไม่ทราบที่มาอย่างชัดเจนว่ามาจากที่ใด เพื่อเป็นการเตือนแฟนเพจหลายคนว่าเดี๋ยวนี้การทำมาหากินโดยอาศัยชายผ้าเหลืองได้พัฒนารูปแบบไปไกลแล้ว ระวังให้ดี คลิกที่นี่ หากต้องการเข้าสู่ลิ้งค์ต้นเรื่อง เพื่ออ่านความคิดเห็นอื่นๆ  

หรือเพราะบูชาไม่ถูกต้อง? ชาวเน็ตสงสัย เน็ตไอดอลบูชาพระแม่กาลีแล้วทำไมดวงตกกว่าเดิม

… จากอุบัติเหตุ "น้ำส้ม โซมี่" เน็ตไอดอลสาวที่ขับรถชนรถคันอื่นรวด 9 คัน เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก แล้วเธอก็มีท่าทีเหมือนคนไม่มีสติ เพี้ยนๆ ล่องลอย เป็นประเด็นที่ทำให้ชาวเน็ตหลายคนสงสัยมากว่าเธอเป็นอะไรกันแน่ถึงได้กล้าก่อเหตุดังกล่าว บ้างก็ว่าเป็นเพราะฤทธิยาเสพติด บ้างก็ว่าเป็นเพราะความเครียดจากปัญหาชีวิตส่วนตัว (อกหัก ลาออกจากหุ้นส่วนบริษัท) และอีกสาเหตุหนึ่งที่ฮือฮากันพอควรก็คือ "เธอรับองค์บูชาไม่ถูกต้อง!!" ใครว่าองค์ไหนดี สิ่งไหนบูชาแล้วดี เธอรับหมดโดยไม่เลือก ความเห็นบางส่วนจาก https://www.facebook.com/DramaAdd/posts/10154791999288291 และ 1 ในองค์ที่เธอนับถือแล้วทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป (ที่ชาวเน็ตตั้งข้อสันนิษฐาน) นั่นก็คือ "พระแม่กาลี" ซึ่งเป็นปางหนึ่งของพระแม่อุมา มีลักษณะเป็นหญิงน่ากลัว ดุดันกว่าเทพองค์อื่นๆ ที่เน็ตไอดอลสาวคนดังกล่าวมักจะโพสต์ถึงบ่อยๆ ก่อนจะเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น พระแม่กาลี คือร่างที่แบ่งภาคมาจาก พระอุมาเทวี (พระแม่อุมา) โดยทรงมีจุดประสงค์เพื่อลงมาปราบอสูรที่มีนามว่า อสูรทารุณ กล่าวกันว่า อสูรทารุณ เป็นอสูรที่ฆ่าไม่ตาย และหากเมื่อใดที่เลือดหยดลงถึงพื้น เลือดนั้นก็จะทวีขึ้นเรื่อยไปไม่หมดสิ้น ด้วยความคิดที่ว่าตนเองมีอิทธิฤทธิ์มากมายเหนือใคร และไม่มีใครสามารถฆ่าได้ จึงทำให้อสูรทารุณเกิดฮึกเหิมลำพองในความเก่งกาจของตน และได้นำอิทธิฤทธิ์ความเก่งกาจมาใช้กลั่นแกล้งผู้คน และเทวดาทั่วไป จนในวันหนึ่งก็เกิดความคิดที่จะครอบครองโลกทั้งสาม เมื่อเหล่าเทวดา นางฟ้า และผู้ทรงศีลทั้งมวล ทราบเรื่อง ก็นำเรื่องไปกราบทูลเข้าเฝ้าพระอิศวร เพื่อให้ช่วยหาทางปราบอสูรตนนี้ แต่เมื่อได้ฟังความอันตรายของอสูร […]

ต่อไปเราจะกู้เงินที่7-11ได้แล้ว!! อาลีบาบาจับมือกับทรู ปล่อยกู้ในเซเว่นฯ

 อาลีบาบาจับมือทรู ผนึกกำลังขยายเครือข่ายชำระเงินผ่านร้านเซเว่นอีเลฟเว่น พร้อมสยายปีกบุกอาเซียน นายปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท แอสเซนด์ กรุ๊ปเปิดเผยว่า ได้บรรลุข้อตกลงให้ แอนท์ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ในเครืออาลีบาบาเข้าถือหุ้นในบริษัท แอสเซนด์ มันนี่ ผู้ให้บริการธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงิน (ฟินเทค) ในไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้ชื่อบริษัท ทรู มันนี่ ในสัดส่วน 20% และในอนาคตจะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 30% เพื่อร่วมกันขยายเครือข่ายชำระเงินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ การเปิดตัวเป็นพันธมิตรจะทำให้เปิดการเชื่อมโยงเครือข่ายชำระเงินระหว่างอาลีเพย์ และทรูมันนี่ในการรับชำระเงิน ซึ่งขณะนี้ลูกค้าอาลีเพย์สามารถชำระเงินผ่านร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นได้แล้ว ต่อไปจุดรับชำระของอาลีเพย์จะรับชำระเงินของทรูมันนี่ได้ด้วย ปัจจุบันในจีนมีจุดชำระเงินอาลีเพย์มากกว่า 1.5 ล้านแห่ง ส่วนในไทยมีจุดรับชำระทรูมันนี่กว่า 2 หมื่นแห่ง นอกจากนี้ จะมีความร่วมมือใช้เทคโนโลยีทางการเงิน ซึ่งแอสเซนด์จะใช้แพลตฟอร์มฟินเทคของอาลีเพย์มาพัฒนาระบบชำระเงินและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และร่วมมือแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และข้อมูลในการทำธุรกิจระหว่างกัน โดยเฉพาะในเรื่องการตลาดชำระเงินที่แตกต่างกัน    “ความร่วมมือดังกล่าว ในส่วนของการรับชำระเงินนั้นเริ่มได้ทันที ส่วนความร่วมมือด้านเทคโนโลยีจะเห็นเป็นรูปธรรมใน 6 เดือน ระหว่างนี้อาลีเพย์จะเรียนรู้จากเราเรื่องอันเดอร์แบงก์ เพราะประชากรจีนส่วนใหญ่มีบัญชีธนาคาร ส่วนอาเซียน ประชากร 60% ไม่มีบัญชีธนาคาร” นายปุณณมาศ กล่าว ปัจจุบัน […]

ไม่รู้กาลเทศะ!?ชาวเน็ตถล่มยับ แฟนเพจคนหนึ่งขอให้แอดมินเป็นสื่อกลางฝืนระเบียบงานพิธี

… การที่ประชาชนทั่วสารทิศหลั่งไหลเข้ามาสักการะพระบรมศพในหลวง ร.9 ถือว่าเป็นภาพที่ประทับใจที่ทำให้โลกรู้ว่าชาวไทยรักพระองค์ท่านมากเพียงใด แต่ในอีกมุมหนึ่งนั้นก็มีเรื่องวุ่นวายไม่เว้นแต่ละวันให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องต้องปวดหัวกับการแก้ปัญหารายวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพยายามฝ่าฝืนกฎระเบียบที่ทางสำนักพระราชวังมีขึ้นเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบร้อยที่สุด การขออะลุ้มอล่วยเพื่อความสุขส่วนตัวโดยไม่รู้จักกาลเทศะ (เช่น การมาเซลฟี่ในงานพระราชพิธี, การพยายามแอบถ่ายรูปในมุมต้องห้าม, การเบียดเสียดผู้คนเพื่อเข้าไปกักตุนของฟรี) ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 พ.ย.59 เวลา 11.44 น. โหลก หรือ โหลกแดง แอดมินเพจ Red Skull V.SE ซึ่งเป็นเพจรวมประเด็นดราม่าสังคมไทยเพจหนึ่ง ได้โพสต์ภาพถึงข้อความจากแฟนเพจท่านหนึ่งที่มาขอร้องให้โหลกช่วยเป็นสื่อกลางให้ช่วยกระจายข่าวว่าน่าจะมีการถ่ายรูปในงานพระราชพิธีได้ แล้วนำคิดเงิน นำเงินไปสมทบทุนการกุศล ถือว่าเป็นเรื่องwin-win คนที่มางานได้ภาพกลับไป ได้ทำบุญ คนที่ถ่ายภาพได้เงินนำไปทำบุญด้วย ซึ่งโหลก หรือแอดมินเพจดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความประกอบภาพดังกล่าวว่า "ก็เข้าใจคนที่เข้าไปกราบพระบรมศพนะ แต่ทางสำนักพระราชวังเค้าก็มีระเบียบมีกฎเกณฑ์ในนั้นเหมือนกัน ก็ช่วยแชร์ไปเผื่อจะมีทางออกให้บ้าง" หลังจากโพสต์เรื่องราวดังกล่าวไป ก็มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงที่ว่า การร้องขอแบบนี้มันมากเกินไป กฎระเบียบเขามีไว้ให้ทำตามเพื่อความเรียบร้อย มิใช่ใครจะทำตามอำเภอใจอย่างใดก็ได้ บางความคิดเห็นก็แสดงความสงสารไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้วย ที่ต้องดูแลประชาชนหลายพันหลายหมื่นคนต่อวัน น่าจะเห็นใจกันหน่อย คลิกที่นี่ เพื่อเข้าสู่ลิ้งค์ต้นเรื่องเพื่ออ่านความคิดเห็นอื่นๆ 

ตัดขาดกันแล้ว! “พชร์ อานนท์”ประกาศกร้าว ต่อนี้ไปไม่เกี่ยวข้องใดๆกับ “เทพพิทักษ์”

… ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุผลกลใด จากนักปั้นมือทองที่เคยชุบตัว "เทพพิทักษ์ แอสละ" เน็ตไอดอลหน้าขาว ปากแดง ให้เข้าสู่วงการบันเทิง มีโอกาสดีๆ ในชีวิตมากขึ้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 พ.ย.59 เวลา 12.49 น. "พชร์ อานนท์" ก็ได้ออกมาโพสต์อินสตาแกรมและเฟซบุ๊ก ประกาศถึงแฟนคลับเน็ตไอดอลคนดังกล่าวอย่างฟ้าแล่บว่า "ต่อจากนี้ไปไม่เกี่ยวข้องกันอีก และจะไม่รับผิดชอบใดๆ กับตัวเขาอีกแล้ว".. ซึ่งในคอมเม้นท์ย่อย ทาง ผกก.และนักปั้นมือทองก็ไม่ได้ลงรายละเอียดใดๆ มาก นอกจากแสดงความคิดเห็นในเชิงที่ว่ารู้สึกผิดหวังกับเน็ตไอดอลคนดังกล่าวเป็นที่สุด แล้วก็มีคอมเม้นท์หนึ่งมาเฉลยซะทีว่าเป็นเพราะเทพพิทักษ์ขาดความรับผิดชอบมากขึ้นในเรื่องของการทำงาน อีกทั้งยังก่อเรื่องเมาแล้วขับรถสร้างเรื่องเดือดร้อนไปทั่ว จนพชร์ อานนท์ เอือมระอา ต้องออกมาประกาศยุติความสัมพันธ์ทั้งหมดในที่สุด คลิกที่นี่ เพื่อเข้าสู่ลิ้งค์ต้นเรื่อง เพื่ออ่านความคิดเห็นอื่นๆ 

บุญตาชาวไทย “สมุดพก-เอกสารลงทะเบียนเรียน” ของในหลวง ร.9

ธนาคารออมสิน สร้างสรรค์ภาพยนตร์สารคดีชุด "ตามรอยเสด็จฯ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์" เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระผู้ทรงสถิตในดวงใจไทยนิรันดร์ ออกอากาศทางช่อง 9 อสมท. เริ่ม 14 พฤศจิกายนนี้ พร้อมนำเสนอเป็นนิทรรศการ “ตามรอยเสด็จฯ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์” อันเป็นส่วนหนึ่งของสารคดีชุดเดียวกันเพื่อสะท้อนพระราชจริยวัตรอันงดงามของพระองค์ครั้งทรงพระเยาว์ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถ่ายทอดผ่านภาพพระบรมฉายาลักษณ์ที่หาชมได้ยากจัดแสดงระหว่าง 1-15พฤศจิกายน ณ ลานกิจกรรม ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่.. นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดทำภาพยนตร์สารคดีและนิทรรศการ "ตามรอยเสด็จฯ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์" กล่าวว่า เนื้อหานอกจากจะถ่ายทอดพระราชจริยวัตรของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ประทับอยู่ ณ สวิตเซอร์แลนด์พร้อมกับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และครอบครัวราชสกุลมหิดล ตลอดระยะเวลากว่า 17 ปีแล้ว ยังนำเสนอพระราชกรณียกิจต่างๆ ของยุวกษัตริย์ ที่สะท้อนแรงบันดาลพระราชหฤทัยและแนวพระราชดำริให้ทรงนำมาพัฒนาเป็นโครงการต่างๆ เพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทย.. ทั้งนี้ เนื้อหาสารคดีจะแบ่งออกเป็น 30 ตอน เรื่องราวและภาพบางแง่บางมุมไม่เคยปรากฏที่ใดมาก่อน อาทิ ภาพเอกสารลงทะเบียนเรียนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อครั้งทรงศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยโลซานน์, ผลงานโปสการ์ดฝีพระหัตถ์ของสมเด็จย่า พระราชทานแด่เพื่อนบ้านชาวสวิสเซอร์แลนด์, […]

คุณหมอหัวใจแกร่ง! บ้านยากจน ครอบครัวแตกแยก สู้ชีวิตจนเป็น”บัณฑิตแพทย์เกียรตินิยม”

เรามักจะเข้าใจกันว่า "แพทย์" หรือ "หมอ" เป็นอาชีพของคนมีเงิน เพราะค่าเล่าเรียนแต่ละปีการศึกษาก็หลายหมื่นไปถึงหลายแสน แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าบางคนก็เป็นคนธรรมดาๆ ค่อนข้างฐานะยากจนด้วยซ้ำ ได้รับโอกาสทางการศึกษาก็เพราะความใฝ่รู้ ประพฤติดี แลกกับทุนการศึกษาจนประสบความสำเร็จได้ ใครที่กำลังท้อกับชีวิต ลองอ่านประสบการณ์ของคุณหมอหัวใจแกร่ง  แพทย์หญิงสายสุดา ขวัญเพชร หรือ "หมอโหน่ง" คุณหมอที่เป็นบัณฑิตแพทย์เกียรตินิยมได้ ทั้งที่จุดเริ่มต้นนั้นมีชีวิตที่ช่างยากแค้นเหลือเกิน 31 ต.ค.59 มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เผยเรื่องราวชีวิตของ แพทย์หญิงสายสุดา ขวัญเพชร หรือ "หมอโหน่ง" บัณฑิตแพทย์เกียรตินิยม สำเร็จการศึกษาปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิตวิทยาลัยแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข ปัจจุบันอายุ 25 ปี ภูมิลำเนา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ บุตรสาวของนายธนูชัย และ นางทองประกาย ขวัญเพชร อาชีพรับจ้างทั่วไป หลังจบการศึกษาหมอโหน่งเข้ารับราชการที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ตำแหน่งแพทย์ปฏิบัติการ หมอโหน่ง บอกว่า ตั้งแต่เกิดมาชีวิตตนได้อยู่แต่กับความลำบากมาโดยตลอด ด้วยครอบครัวมีฐานะยากจน อาศัยอยู่ที่สวนเล็กๆห่างจากหมู่บ้านประมาณ 5 กม. ทุกเช้าตนต้องเดินเท้าไปเรียนหนังสือในหมู่บ้าน ในช่วงของวันหยุดต้องช่วยงานพ่อกับแม่ทำสวนปลูกผลไม้แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะฝนแล้ง พ่อต้องทิ้งสวน ไปทำงานรับซื้อของเก่าที่ จ.ภูเก็ต จากนั้นครอบครัวจึงต้องแตกแยก ตนต้องอยู่กับป้าที่นครพนม น้องชายอยู่กับยายที่ศรีสะเกษ ไม่มีการติดต่อกันนานนับปี จนพ่อกับแม่กลับมาอีกครั้งพร้อมกับทำอาชีพตระเวนค้าขายยาเส้นตามหมู่บ้าน หลายครั้งที่ตนต้องอยู่กับน้องชายลำพัง […]

เกินไปไหมคนสมัยนี้?! เห็นว่าเป็นคนชอบทำบุญ จึงกล้าขอเงินหลักพัน-แสนทั้งที่ไม่รู้จักกัน!!!

ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าสังคมเราน่าอยู่ขึ้นเพราะน้ำใจที่มีต่อกัน และก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันอีกว่าคนฉวยโอกาสหากินบนน้ำใจคนอื่นก็มีเยอะ สาวจ๋า แม็กซิม หรือเฟซบุ๊กDuangjai Phichitamphon ก็เป็นคนอีกคนหนึ่งที่เจอประสบการณ์คนฉวยโอกาสมาเยอะ จนอดทนไม่ไหวขอโพสต์เฟซบุ๊กประกาศให้ทราบไปโดยทั่วกันเลยว่า "อย่าหากินมักง่ายด้วยการไล่ขอเงินคนอื่นที่ไม่รู้จักกันแบบนี้อีกเลย ไปทำงานหาเงินเองจะดีกว่าไหม?" โดยเธอได้โพสต์ในเฟซบุ๊กของเธอเมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมานี้ว่า #ไม่ได้จะประจานนะคะ แต่อยากขอร้องให้เข้าใจกันหน่อย… #หยุด พฤติกรรมแบบนี้เถอะคะ จ๋าขอร้อง…. จ๋าไม่ได้รวยเงินเหลือถึงขนาดจะแจกเงินหรือช่วยเหลือทุกคนที่มาขอความช่วยเหลือได้ขนาดนั้นนะคะ บางคนนี่หนักถึงขนาดจะยกลูกของตัวเองให้จ๋ามาเลี้ยงเลย จิตใจทำด้วยอะไรอันนี้ค้อทโกรธ!!!! บางคนมาขอค่าเทอม ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่านมลูก ค่าข้าวอีก…บอกจ๋าจะด่าก็ได้แต่เดือดร้อนจิงๆอยากให้จ๋าช่วย ???????? โอ้ยยยยยเห็นจ๋าเป็นอะไร?? ตู้ ATM หรอคะ?? คนทุกคนมีปัญหากันหมดแหละคะ ทุกคนมีภาระกันหมดแหละ อยู่ที่แต่ละคนจะแก้ปัญหานั้นยังไง ยังมีคนอีกเยอะที่เค้าเดือดร้อนมากกว่าพวกคุณตั้งหลายเท่า คนที่เค้าแขนขาด ขาขาด เค้ายังไม่มาขอเงินจ๋าแบบนี้เลย ขนาดไม่มีแขนมีขาเค้ายังดิ้นรนสู้ชีวิตกันแทบตาย ไม่มาแบมือขอใครง่ายๆแบบนี้เลยคะ จ๋าชอบช่วยเหลือคนอื่นก็จริง แต่สิ่งที่จ๋าช่วยจ๋าดูแล้วว่าสมควรช่วย หมาแมวโดนรถชนรถทับหรือเป็นโรค เดือดร้อนหาคนช่วยยากจ๋าก็ช่วยเลยไม่คิดไร นี่คือเดือดร้อนจริงๆ จ๋าถึงช่วย ยังมีคนที่เค้าเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือจริงๆอีกตั้งเยอะที่เค้ารอความช่วยเหลืออยู่ จ๋าแบ่งเงินไปช่วยตรงนั้นดีกว่ามั้ยคะ อย่าเห็นแก่ตัวกันเลย จ๋าไม่ใช่แม่พระขนาดนั้น ภาระจ๋าก็เยอะ พ่อแม่จ๋าก็ป่วยต้องดูแลอีกตั้งเท่าไหร่ คุณยังมีมือมีเท้าทำไมไม่ดิ้นรนกันไปละคะ อย่างน้อยๆนึกถึงส่วนรวมก็ยังดีว่าให้จ๋าไปช่วยคนที่เค้าเดือดร้อนกันจิงๆ ดีกว่า พอเถอะนะคะ….เลิกมาขอหรือยืมเงินจ๋าแบบนี้กันได้แล้ว มันมีเยอะมากจนจ๋าต้องออกมาพูดบ้าง ไม่งั้นก็มากันเต็มเลยไม่เกรงใจกันเลยจริงๆ ถือว่าขอนะคะ จ๋าไม่จำเป็นต้องสร้างภาพช่วยเหลือทุกคน จ๋าก็คนธรรมดาๆคนนึงที่ต้องทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวเหมือนทุกคนนั่นแหละคะ ไม่ได้ต่างเลย!!!!! […]

มีผลแล้ว! กฎหมายคุ้มครองผู้รับงานไปทําที่บ้าน ค่าตอบแทนต้องไม่น้อยกว่าในสถานประกอบการ

๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการคุ้มครองการรับงานไปทําที่บ้าน เรื่อง อัตราค่าตอบแทนในงานที่รับไปทําที่บ้าน มีเนื้อหาระบุว่า โดยที่มาตรา ๑๖ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานไปทําที่บ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ การกําหนดค่าตอบแทนในงานที่รับไปทําที่บ้าน หากงานที่รับไปทําที่บ้านมีลักษณะและคุณภาพอย่างเดียวกัน และปริมาณเท่ากัน ให้ผู้จ้างงานกําหนดค่าตอบแทนให้แก่ผู้รับงานไปทําที่บ้านไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้าง ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานตามที่คณะกรรมการคุ้มครองการรับงานไปทําที่บ้านกําหนด และต้องไม่เป็นการเลือกปฏิบัติ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๖ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๒๘ (๓) แห่งพระราชบัญญัติ คุ้มครองผู้รับงานไปทําที่บ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓ คณะกรรมการคุ้มครองการรับงานไปทําที่บ้าน จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๒ อัตราค่าตอบแทนของงานที่รับไปทําที่บ้านในงานที่มีการจ้างงานกันในสถานประกอบกิจการ ต้องไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างที่จ่ายให้แก่ลูกจ้างในสถานประกอบกิจการ เมื่อคํานวณต่อหน่วยตามลักษณะงานคุณภาพอย่างเดียวกันและปริมาณเท่ากัน ข้อ ๓ อัตราค่าตอบแทนของงานที่รับไปทําที่บ้านในงานที่ไม่มีการจ้างงานกันในสถาน ประกอบกิจการ ให้เป็นไปตามที่ผู้จ้างงานและผู้รับงานไปทําที่บ้านตกลงกัน ข้อ ๔ อัตราค่าตอบแทนของงานที่รับไปทําที่บ้านตามข้อ ๒ และข้อ ๓ ต้องไม่น้อยกว่า อัตราค่าจ้างขั้นต่ําตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานกําหนด ข้อ ๕ ให้พนักงานตรวจแรงงานมีอํานาจวินิจฉัย […]

1 2,916 2,917 2,918 2,960
error: