[รีวิวหลอนๆ] 8 บ้านเช่า-หอพักโซนมหาลัยชื่อดังติดทะเล เคยอยู่แล้วเจออะไรบ้าง?

Advertisement เพื่อความสบายใจในการเช่าหรือซื้อที่พัก หลายคนมักจะให้ความสำคัญกับประวัติความเป็นมาเป็นพิเศษ แต่สำหรับชาวพันทิปล็อกอินนางสาว ไอติม เธอบังเอิ๊ญญญญ แจ๊คพ็อตกว่านั้น นอกจากยังไม่เคยได้ฟังเรื่องเล่าก่อนตัดสินใจอยู่อาศัย เธอยังเป็นคนมีสัมผัสพิเศษในเรื่องเร้นลับไปอีกกกก  Advertisement ลองมาอ่านกันว่า 8 สถานที่ที่เธอเคยเช่าอยู่ ทั้งบ้านเช่าและหอพัก เธอและผองเพื่อนต้องเจออะไรกันมาบ้าง หมายเหตุ : ในเรื่องดังกล่าวที่ทางThaijobsgovหยิบยกมานั้นอาจเป็นเรื่องจริงหรือแต่งก็ได้ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านเพื่อความบันเทิงเป็นหลัก ————————- กระทู้นี้มีภาพประกอบ เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นนะคะ  เพื่อไม่ให้เพื่อนๆ งง เราขอแนะนำกลุ่มผจญภัยเราก่อน สมาชิกหลักมี เรา (แกว) เกย์ 1 (ขจร) ทอม 1 (อ้วน) หญิง 4 (โซ่, แซ่, กุญแจมือ, น้ำแข็ง) และแก๊งลูกหมูอีกประมาณ 2-4 คน 1. บ้านสีชมพู ในช่วงปี1 เทอม1 เราก้าวเข้ามาในเขต "บางสิบหมื่น" อยู่หอที่เป็นอาคารพาณิชย์ เราอยู่ชั้น2 กับแฟน คืออ้วน ส่วนขจรอยู่คนเดียวชั้น5 ไม่มีเมท ในช่วงนั้นเหมือนเราเห่อชีวิตมหาลัย แก๊งเราเป็นเด็กศรีราชา อำเภอข้างๆ […]

เงาปริศนาหรือแค่ความมืดเฉยๆ? เขาว่ากันว่า ถ.ลพบุรีราเมศวร์ จ.สงขลา เส้นนี้เปลี่ยวน่ากลัว!!

ถนนหนทางทั่วประเทศไทย เมื่อตกค่ำต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่มากกว่าตอนกลางวันเป็นธรรมดา แต่จะมากหรือน้อยก็ขึ้นกับภูมิทัศน์ของพื้นที่นั้นๆ ด้วย ยิ่งอยู่ท่ามกลางป่าเขา ไฟฟ้าทิ้งช่วงห่างมากๆ ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ ถนนลพบุรีราเมศวร์ จังหวัดสงขลา เป็นเส้นทางสายใต้แห่งหนึ่งที่เขาว่ากันว่ามืดเปลี่ยว น่ากลัวมากๆ จนไม่แน่ใจว่าจะเกิดอุบัติเหตุเพราะธรรมชาติ ที่เป็นมุมอับ สามารถอธิบายได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ หรือเป็นเพราะผีบังตา ลองอ่านเรื่องของชาวพันทิปสมาชิกหมายเลข 2876380 แล้วตัดสินใจกันเองว่าจริงหรือไม่? ————– ถนนลพบุรีราเมศวร์ จ.สงขลา ถ้าเป็นคนที่อาศัยหรือมาใช้ชีวิตใน อ.หาดใหญ่ และ อ.เมืองสงขลา คงจะคุ้นเคยกับถนนสายนี้เป็นอย่างดีนะครับ ก็เป็นถนนที่ตัดตรงเลี่ยงเมืองหาดใหญ่จากสี่แยกบางกล่ำ ไปจรดสี่แยกน้ำกระจายของ อ.เมือง เป็นถนน 4 เลนที่มีโค้งน้อยมาก (ตามรูปที่แนบมา) ช่วงต้นทาง สองข้างทางจะเต็มไปด้วยตึกและอาคารที่ผุดขึ้นมาหลังการมีถนน ช่วงกลางแถวๆ มัสยิดใหญ่จะตัดผ่านทุ่งหญ้ากว้างไกลสุดลูกหูลูกตา มองเห็นเขาคอหงส์ หลังเมืองหาดใหญ่อยู่ไกลๆ ส่วนช่วงใกล้เขต อ.เมือง ตรงที่เป็นโค้งก่อนถึงสี่แยกน้ำกระจาย จะเป็นเนินเขา ไอ้ช่วงกลางก่อนถึงช่วงปลายของถนนเส้นนี้ ตอนกลางคืนจะเปลี่ยวมาก ยิ่งตอนดึกๆ รถน้อยๆ จะยิ่งเปลี่ยวสุดๆ ช่วงกลางวันกับหัวค่ำไม่น่ากลัวเท่าไหร่  เพราะคน อ.เมือง และหาดใหญ่ใช้เส้นทางนี้  บวกกับรถที่มาจากที่อื่นก็ทำให้พลุกพล่านพอสมควร แต่เพราะรถมากนี่แหละ ทำให้ถนนเส้นนี้ขึ้นชื่อเรื่อง “คนตาย” เยอะมาก ก็ตายจากอุบัติเหตุทางรถนั้นแหละ มันก็ธรรมดาของถนนที่รถเยอะอยู่แล้วที่จะมีอุบัติเหตุบ่อยๆ ไม่น่าแปลก แต่จากประสบการณ์ตรงของการขับรถผ่านถนนเส้นนี้บ่อยๆ  กับจากคนรอบข้างที่เจออะไรแปลกๆ ยามค่ำคืนมาเช่นกัน จึงขอนำมาเล่าสู่กันฟัง  เพื่อรับรู้และไม่ประมาทในการใช้ถนนเส้นนี้นะครับ หากใครมีโอกาสขับรถบนถนนเส้นนี้จะทราบดีว่ารถแรงเท่าไหร่ก็รู้สึกอยากใส่จนหมดไมล์  เพราะถนนที่ราบเรียบ ตัดตรงจนแทบจะไม่รู้สึกว่ามีโค้งในช่วงกลาง ห้อกันเต็มเหยียด แล้วก็โดนเงาคล้ายเงาคนวิ่งตัดหน้า หากใครตกใจหักรถหลบก็มีสิทธิ์ “ตายโหง”  คนแล้วคนเล่า หนุ่มๆ สาวๆ มีอนาคตหลายๆ ชีวิต เอาชีวิตมาทิ้งบนถนนเส้นนี้มากมาย สืบหาข้อมูลได้จากข่าวอุบัติเหตุ หรือตามเพจกู้ภัยของหาดใหญ่  ใกล้ๆ ตัวผมนี่ก็เป็นเพื่อนสาว ม.ราชภัฏ ของรุ่นน้องผมคนนึง นั่งรถไปกับแฟน รถก็เสยต้นไม้ ผู้ชายรอดแต่เจ็บหนัก ส่วนเพื่อนของรุ่นน้องผมคนนั้นตายคาที่  จบอนาคตตัวเองลงบนถนนเส้นนี้ไป จนเพื่อนๆ ที่รู้ข่าวเศร้าใจไปตามๆ กัน เพราะก่อนเธอจะโดนถนนเส้นนั้นกระชากวิญญาณไปไม่นาน เธอยังคุยแชตกับรุ่นน้องผมอยู่เลยว่าขึ้นรถแล้ว มีเสียงลือเล่าปากต่อปากภายในกลุ่มเพื่อนของแต่ละคนที่เจอว่า ถนนเส้นนี้มีอาถรรพ์บางอย่างจากอะไรบางสิ่งที่คอยหลอกหลอนคนถึงฆาต ให้ต้องมาพลาดตายโหงบนถนนเส้นนี้ตลอดเวลาที่โอกาสมาถึง ตอนแรกผมก็คิดว่ามันน่าจะเป็นแค่อุบัติเหตุที่เกิดได้ทั่วไป แต่ผมต้องรู้สึกเปลี่ยนใจและความคิด เพราะคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาตอนตี1 กว่าๆ เพื่อนของแฟนผมเธอไปท่องราตรีในหาดใหญ่ แล้วมอเตอร์ไซค์ยางรั่ว และหาร้านปะยางไม่ได้ เพราะออกมาไกลจากตัวเมือง เธอเลยโทรหาแฟนผมให้ช่วย ปกติแฟนผมจะอยู่หาดใหญ่ ก็ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุที่เพื่อนประสบเหตุเท่าไหร่ แต่โชคร้ายที่คืนวันเสาร์แฟนผมจะมาอยู่กับผมที่เมืองสงขลา พอเพื่อนแฟนรู้ก็บอกไม่เป็นไรงั้นไม่รบกวนแฟนผมดีกว่า แต่แฟนผมอดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้ แฟนผมเลยบอกให้เพื่อนเธอที่ไปกัน 2 คน จอดรถไว้ข้างทางล็อคคอรถ แล้วหาที่ซ่อนตัวแถวๆ นั้นก่อนเพราะเป็นหญิงทั้งคู่ […]

เคล็ดลับ! ใส่คอนแทคเลนส์ให้ดวงตาปลอดภัย

ท่านผู้อ่านทราบหรือไม่ครับว่ากระจกตาเป็นส่วนเดียวของร่างกายที่ไม่มีเส้นเลือด เพราะกระจกตาจะต้องใสและมีสุขภาพดีจึงจะมองเห็นได้ชัดเจน ดวงตาจึงเป็นอวัยวะของร่างกายที่สำคัญ ถ้าหากสูญเสียอวัยวะนี้ไปก็ไม่ต่างกับการอยู่ในโลกมืดเพียงลำพัง  คอนแทคเลนส์เป็นเครื่องมืออย่างนึงที่ช่วยให้ผู้มีปัญหาทางสายตาหรือสายตาสั้นสามารถมองเห็นได้ชัดเจนโดยสัมผัสกับดวงตาโดยตรงตามชื่อเลยครับ วันนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับวิธีการใช้คอนแทคเลนส์ให้ปลอดภัย เคล็ดลับที่1:หากมีอาการหรือพฤติกรรมต่อไปนี้ ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์โดยเด็ดขาด -มีอาการอักเสบติดเชื้อหรือระคายเคืองในตา รอบดวงตา และเปลือกตา มีอาการตาแห้ง -ช่วงที่สุขภาพไม่ดี เช่น เป็นหวัดรุนแรง หรือไข้หวัดใหญ่ -ในระหว่างที่ใช้ยาที่ตา (ยาหยอดตา) -เล่นกีฬาทางน้ำโดยไม่สวมใส่แว่นตากันน้ำ -อยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยฝุ่น เคล็ดลับที่2: ใส่และถอดคอนแทคเลนส์อย่างถูกปลอดภัยคำนึงถึงความสะอาด เริ่มต้นใส่หรือถอดทุกครั้งควรล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่หรือเจลล้างมือ  “เมื่อจะใส่คอนแทคเลนส์” วางคอนแทคเลนส์บนปลายนิ้วชี้ และใช้มืออีกข้างหนึ่งถ่างเปลือกตาออกเบาๆ ใส่คอนแทคเลนส์สู่ดวงตาอย่างเบามือ “เมื่อจะถอดคอนแทคเลนส์” ถ่างตาออกเบาๆ แล้วใช้นิ้วชี้เลื่อนคอนแทคเลนส์ลงมาที่บริเวณตาขาว แล้วใช้นิ้วหัวแม่มือ และนิ้วชี้ค่อยๆ จับคอนแทคเลนส์ออกอย่างเบามือ วิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เล็บไปโดนบริเวณตาดำ เคล็ดลับที่3: ดูแลคอนแทคเลนส์ให้สะอาดอยู่เสมอ   หากไม่ดูแลความสะอาดของคอนแทคเลนส์ อาจส่งผลให้ติดเชื้อแบคทีเรีย “ซูโดโมแนส แอรูจิโนซา” (Pseudomonas Aeruginosa) ซึ่งสามารถลุกลามสู่กระจกตาได้ ดังนั้นควรดูแลทำความสะอาดคอนแทคเลนส์อย่างถูกวิธี คือ -ล้างและเช็ดมือด้วยผ้าสะอาดก่อนหยิบจับเลนส์ทุกครั้ง -นำเลนส์วางบนอุ้งมือ หยดน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ลงบนผิวเลนส์ทั้งสองด้าน ถูเลนส์เบาๆ อย่างน้อยด้านละ 10 วินาที -วางเลนส์ในตลับเลนส์ แล้วเติมน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ จนถึงขีดภายในตลับเลนส์ ปิดฝาตลับเลนส์ให้สนิท […]

ไฟหน้ารถขุ่นมัวมีสีเหลือง สิ่งนี้ช่วยได้จริงแถมประหยัด!!

ท่านผู้อ่านหลายๆท่านเคยสังเกตุไฟหน้ารถของตัวเองมั้ยครับว่า นับวันมันยิ่งเหลือง ขุ่น ไม่ใสปิ๊งเหมือนซื้อมาแรกๆ ไม่ว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแพงแค่ไหนก็ยังไม่ใสสะอาดเท่านี้ควร วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการทำความสะอาดไฟหน้ารถให้ท่านผู้อ่าน ด้วย"ยาสีฟัน" ท่านอ่านไม่ผิดครับ "ยาสีฟัน" ซึ่งราคาไม่แพงแถมมีประสิทธิภาพ เรามาดูกันเลยครับว่ามีวิธีการอย่างไร อุปกรณ์มีดังนี้ครับ 1. ยาสีฟันยี่ห้อใดก็ได้ครับ 2. ผ้าแห้งสะอาด 2 ผื่น 3. น้ำสะอาด วิธีการทำความสะอาดมีดังนี้ครับ 1. ใช้น้ำล้างไฟหน้ารถให้สะอาด เพื่อลบคราบดินคราบทรายที่ติดมากับรถ แล้วใช้ผ้าแห้ง(ผืนที่1)สะอาดเช็ดให้เกลี้ยง 2.ทายาสีฟันบนไฟหน้ารถเป็นวงกลม แล้วรอให้ยาสีฟันแห้ง 3. ใช้น้ำสะอาดล้างคราบยาสีฟัน ให้เกลี้ยงแล้วใช้ผ้าแห้ง(ผืนที่2)เช็ดให้สะอาด เพียงเท่านี้ก็จะได้ไฟหน้าที่เงาวั๊บ!!และรถก็จะดูสวยน่ามองขึ้นมาทันทีครับ ภาพจาก http://www.prlog.org/ เรียบเรียงโดย Thaijobsgov ข้อมูลจาก thaidiy.info  [ads=center]    

(สูตรเด็ด) แจกสูตรมันบด!! ทำกินเองได้ ไม่ง้อร้านดัง

  หลายๆท่านคงจะคุ้นเคยกับการรับประทานมันบดในร้านดังๆเป็นอย่างดีใช่มั้ยหละครับ ด้วยรสชาติที่กลมกล่อม นุ่มอร่อย ราดด้วยน้ำเกรวี่เข้มข้นเป็นใครก็ต้องชอบรับประทานครับ วันนี้เราจะมานำเสนอสูตรการทำมันบดไว้รับประทานเองที่บ้านครับ วิธีการทำและวัตถุดิบก็ไม่ยุ่งยากเลยครับ โดยเริ่มที่  วัตถุดิบ – มันฝรั่งปอกเปลือกแล้ว 6 หัว – น้ำสำหรับต้มมัน – นมจืด 6 ถ้วยตวง – เนย 1 ถ้วยตวง – พริกไทยป่น  – เกลือ  วิธีทำ 1. ต้มมันในน้ำผสมเกลือให้สุก (ไม่ต้องถึงกับสุกจนเละนะครับ) 2. เทน้ำร้อนออกจากหม้อให้หมด แล้วนำมันที่อยู่ในหม้อตั้งไฟต่อเพื่อทำให้มันแห้ง (ขั้นตอนนี้ระมัดระวังมันจะไหม้ด้วยนะครับ) 3. เมื่อแห้งแล้ว ยกออกจากเต แล้วเอาที่บด พอบดให้ละเอียด (ใช้ตะหลิวที่มีรูๆสำหรับทอดปลาก็ได้ครับ) 4. เมื่อมันละเอียดแล้ว อุ่นนมและเนยในอีกภาชนะหนึ่ง เมื่อเดือดค่อย ๆเทนมและเนยลงไปในมันบด คนให้เข้ากัน 5. ปรุงรสด้วยเกลือพริกไทยรสชาติของมันบดควรจะมันเหมือนเนยกับนม  ส่วนน้ำเกรวี่สำหรับราดมันบดนั้น ไม่ยากครับ!! ปัจจุบันมีผงเกรวี่และน้ำเกรวี่เป็นแบบขวดแก้วขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป ทุกท่านสามารถซื้อมาทำและรับประทานกับมันบดที่เราทำเองได้ครับ ราคาไม่แพงเลย  เวลามีปาร์ตี้อย่าลืมนึกถึงสูตรมันบดนี้นะครับ   เรียบเรียงโดย […]

สายปิ้งย่างต้องอ่าน! อันตรายจากสารเร่งเนื้อแดง

ในปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขกำลังเร่งแก้ปัญหาการบริโภคเนื้อสัตว์ในปัจจุบันของคนไทยอย่างเร่งด่วน ซึ่งถือเป็นภัยหมายเลขหนึ่ง และไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าเขียงหมูเกือบทุกเขียงทั่วประเทศนั้นขายเนื้อหมูที่มีสารอันตรายปนเปื้อนอยู่ในปริมาณสูงมาก เช่น สารเร่งเนื้อแดง เพื่อทำให้เนื้อหมูมีสีแดงดูสดสวยน่ารับประทาน ซึ่งเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูเองนั่นแหละครับที่เป็นผู้ใช้สารเร่งเนื้อแดง และที่น่าตกใจที่สุดก็คือเขียงหมูจะรับซื้อเฉพาะหมูที่ใช้สารเร่งเนื้อแดงเท่านั้น!!? เพื่อตอบสนองผู้บริโภคที่นิยมบริโภคแต่เนื้อสีแดงสวยและไม่ค่อยมีไขมัน   แต่..ภายใต้เนื้อสีแดงน่ารับประทานนั้นต่างแฝงไปด้วยอันตราย ส่งผลเสียต่อสุขภาพคือ -สารเร่งเนื้อแดงจะทำให้เกิดอันตรายสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ยาและคนที่เป็นโรคหัวใจที่อาจถูกกระตุ้นด้วยสารตัวนี้ทำให้หัวใจเต้นผิดปกติและยังตรวจพบยาปฏิชีวนะประเภทคลอแรมเฟนิคอล และยา กลุ่มไนโตรฟูแรน ตกค้างอยู่ทำให้เกิดโรคมะเร็งอีกด้วย -ไตจะทำงานหนักมากถึง 3 เท่า เพื่อขับสิ่งสกปรก อาทิ ยูเรีย แอมโมเนีย และกรดยูริกและสารพิษในเนื้อที่รับประทานเข้าไป เมื่อผู้บริโภคมีอายุมากขึ้นจะเห็นผลชัดเจนและมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็ง    ผู้อ่านทุกท่านจะต้องรู้จักเลือกซื้อเนื้อสุกรที่สะอาดปลอดภัย โดยให้เลือกซื้อเนื้อสุกรที่มีมันหนาบริเวณสันหลัง เมื่ออยู่ในลักษณะตัดขวาง จะมีมันแทรกระหว่างกล้ามเนื้อเห็นได้ชัดเจน เนื้อสุกรปกติเมื่อหั่นทิ้งไว้จะพบน้ำซึมออกมาบริเวณผิว แต่เนื้อที่มีสารเร่งเนื้อแดงจะมีลักษณะค่อนข้างแห้ง ส่วนของ 3 ชั้น ปกติจะมีเนื้อแดง 2 ส่วน ต่อมัน 1 ส่วน (33%) แต่เนื้อสุกรที่ใช้สารเร่งเนื้อแดงจะมีปริมาณเนื้อแดงสูงถึง 3 ส่วน ต่อมัน 1 ส่วน (25%) และเนื้อจะมีสีแดงคล้ำกว่าปกติ          ควรเลือกซื้อเนื้อหมูที่มีแหล่งผลิตที่น่าเชื่อถือ หรือมีป้ายรับรองจากหน่วยราชการ เช่น ป้ายทองอาหารปลอดภัย หรือตรารับรองของกรมปศุสัตว์ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้ได้เนื้อหมู หรือเนื้อสัตว์ต่างๆ มาบริโภคได้อย่างปลอดภัยครับ […]

ไม่น่าเชื่อ! 3สิ่งนี้ เมื่อกินเข้าไปจะทำให้เกิดอาการเครียด!!!

ท่านผู้อ่านทราบหรือไม่ครับว่าอาหารบางชนิดสามารถสร้างความเครียดให้กับเราได้?! โดยผู้เชี่ยวชาญได้เผยว่า อาหารที่มีรสหวาน มีไขมันสูง ส่งผลต่ออารมณ์ ทำให้เกิดความเครียด นักวิจัยด้านโภชนาการ และนักโภชนาการให้กับนักกีฬาในซีแอตเติล กล่าวว่า อาหารสามารถกำหนดอารมณ์ของเราได้ แต่หลายคนมักจะไม่รู้ว่า สิ่งที่พวกเขากินทุกวันส่งผลโดยตรงต่ออารมณ์ของพวกเขา อาหารบางอย่างนอกจากจะไม่ทำให้หายเครียดแล้วยังสร้างปัญหาให้เครียดมากขึ้นไปอีก ลองมาดูกันว่าอาหารชนิดไหนที่ควรเลี่ยงเวลามีความเครียด 1. คาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล ใช่ครับ เวลาที่เรารับประทานของหวานๆ มันจะทำให้เรารู้สึกสดชื่น แต่นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ได้กล่าวว่าการเพิ่มคาร์โบไฮเดรตขัดขาวในอาหารจะเพิ่มความเครียดให้คุณ โดยได้ติดตามผู้หญิงกว่า 7 หมื่นคน นักวิจัยพบว่าปริมาณน้ำตาลในเลือดของพวกเธอเหล่านั้นสูง หลังจากพวกเธอรับประทานน้ำตาลและธัญพืชขัดขาว ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเกิดความแปรปรวน ส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนคอร์ติซอล สามารถส่งผลต่อการอักเสบทั่วร่างกายทวีความรุนแรงขึ้นได้ และยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะซึมเศร้าได้มาก 2. น้ำอัดลม น้ำตาลที่แฝงตัวอยู่ในน้ำอัดลมเทียบเท่ากับน้ำตาลถึง 10 ก้อน ซึ่งข้างต้นได้บอกถึงความเครียดที่จะเกิดขึ้นหลังจากความชื่นใจไปแล้ว ท่านผู้อ่านอย่าคิดว่าน้ำอัดลมที่ปราศจากน้ำตาลนั้นจะดีกว่า คำตอบคือไม่ต่างกันเพราะสารให้ความหวานแทนน้ำตาลจะไปทำปฏิกิริยากับแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร ส่งผลโดยตรงต่อโรคอ้วนและโรคเบาหวานครับ 3. ไขมันทรานส์ นักวิจัยในมหาวิทยาลัยเวคฟอเรสต์ พบว่าอาหารที่มีไขมันทรานส์สูงเป็นสาเหตุทำให้น้ำหนักขึ้นและรอบเอวที่จะทำให้คุณเครียดยิ่งกว่าเดิม ไขมันเทียมยังไปกระตุ้นให้เกิดภาวะสมองเสื่อมและริ้วรอยก่อนวัยที่ควรจะเป็น  สำหรับคุณผู้ชาย ไขมันทรานส์ส่งผลทำให้การผลิตสเปิร์มด้อยคุณภาพอีกด้วย   จะเห็นได้เลยใช่มั้ยครับว่าบางครั้งอาหารที่เรารับประทานมันอร่อยถูกปากเราทำให้เรามีความสุขแต่ถ้ามากเกินไปก็จะส่งผลร้ายต่อสุขภาพได้ครับ การออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรงได้ครับ   ข้อมูลจาก thaihealth.or.th เรียบเรียงโดย Thaijobsgov [ads=center]

[รีวิวละเอียดยิบ] รีโนเวทบ้านจากการประมูล ป่ารกทึบ ให้กลับสดใส เหมือนซื้อบ้านใหม่มือหนึ่ง

หากพูดถึงบ้านมือสอง ไม่ว่าจะเป็นบ้านเช่า บ้านเก่าแก่ตกทอดจากใครก็ตาม หลายคนหากเลือกได้มักจะเลือกที่ซื้อใหม่ดีกว่าอยู่ต่อจากคนอื่น เพราะไม่อยากเสี่ยงอยู่ไปซ่อมไป ยิ่งเก่าแก่ ทรุดโทรมมาก ยิ่งไม่ค่อยคุ้มทุน แต่สำหรับชาวพันทิปสมาชิกหมายเลข 924693 เธอกลับเป็นคนหนึ่งที่ตาดี มองเห็นความคุ้มค่าของบ้านหลังหนึ่งที่เกิดจากการประมูล นอกจากพื้นที่รอบบ้านกว้างขวาง โครงสร้างบ้านยังแข็งแรง นำมาปรับปรุงแล้วสวยงามน่าอยู่กว่าเก่าเสียอีก ลองมาดูกันว่าเธอปลุกบ้านที่มีพื้นที่รกร้าง เป็นบ้านกว้างน่าอยู่ได้อย่างไร ——————  สวัสดีค่ะ จากที่เคยตั้งกระทู้ว่าได้ไปประมูลบ้านมาได้ เลยจะแชร์สภาพบ้านตอนที่ได้ไปเจอครั้งแรกก่อนการการประมูลมาค่ะ ต้องขอบอกก่อนว่าตอนนี้บ้านยังไม่เสร็จ100 % นะคะ เนื่องจากว่าฝนตกทำไม่สามารถทาสีภายนอกได้ค่ะ บ้านหลังนี้ประมูลมาได้ในราคา 1.6 ล้านบาท เนื้อที่ 101 ตร.ว. จากกรมบังคับคดีค่ะ อยู่ใน จ.ปราจีนบุรี นี่คือสภาพบ้านตอนไปเจอบ้านวันแรก สภาพภายนอกรกมากกกกก หญ้าท่วมเลยค่ะ สภาพบ้านรอบนอกที่รกร้างเพราะว่าบ้านโดนทิ้งร้างมากว่า 3 ปี เลยมีหญ้ารกบางต้นสูงเกือบถึงหลังคาเลยค่ะ   ภาพนี้เป็นบริเวณบ้านด้านทิศตะวันออกที่เป็นที่ว่างๆ ค่ะ คาดว่าจะได้จัดสวนสวยๆ ด้านนี้ แต่ตอนนี้ยังไม่รู้จะจัดแบบไหนเหมือนกันค่ะ    ภายนอกก็ประมาณนี้ค่ะ ต่อมาเราไปดูในบ้านกันค่ะว่าวันนั้นสภาพเป็นแบบไหน เปิดประตูหน้าบ้านก็เห็นแบบนี้เลยค่ะ สภาพบ้านชั้นล่าง ห้องยาวๆ จนถึงครัวเลยค่ะ  ภาพนี้จะเป็นครัวของเค้าค่ะ ยาวๆ สี่เหลี่ยมผืนผ้าค่ะ มาค่ะดูกันต่อเลย อันนี้เป็นชั้นบนค่ะ ลืมบอกว่าบ้านนี้มีห้องนอน 3 ห้องค่ะ เล็ก 2 ห้อง […]

(สูตรเด็ด) ปลาแดดเดียวทอดไว้รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ!!

ใครชอบทานอาหารเมนูปลาต้องห้ามพลาดกับสูตรเด็ดนี้นะครับ นั่นก็คือ "ปลาแดดเดียวทอด" ไว้สำหรับทานได้ทุกมื้อ!! รสชาติกล่อมกล่อม ทานกับข้าวสวยหอมมะลิร้อนๆมันช่างเข้ากัน อย่ารอช้า เรามาดูวิธีการทำกันเลยครับ วัตถุดิบและวิธีทำปลาแดดเดียว – ปลาสด 1 กิโลกรัม จะเป็นปลาช่อน ปลาดุก ปลานิล ปลาทับทิม ปลาทูและปลาสวาย ก็ได้ครับ – ถ้าปลามีเกล็ดให้นำมาขอดเกล็ดให้เรียบร้อย แล้วทำความสะอาด ตัดหัวและควักไส้ออกและหั้นเป็นชิ้นๆ – ถ้าปลาที่เลือกไม่มีเกล็ด เช่น ปลาสวายให้ใช้มีดขูดเมือกที่ตัวปลาออกแล้วตัดหัวและควักไส้ทิ้งแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ – นำปลามาล้างน้ำให้สะอาด แล้วทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำจนแห้ง ส่วนผสมสำหรับหมักปลาแดดเดียว – น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ – ผงปรุงรส 1 ช้อนชา – น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา – หัวกระเทียม 1 หัว ปอกเปลือกแล้วล้างให้สะอาด จากนั้นโขลกให้ละเอียด – พริกไทย 10 เม็ด นำมาโขลกให้ละเอียด วิธีหมักปลาแดดเดียว […]

เช็คสัญญาณเตือน!! โรคลมแดดและวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น!!

สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวในช่วงหน้าแล้งเช่นนี้อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ง่ายๆเลยนะครับ โดยเฉพาะ “โรคลมแดด” หรือ “โรคฮีทสโตรก" (Heat Stroke) ที่เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ช่วงนี้ อาการของโรคนี้มีดังนี้ครับ ผู้ป่วยจะมีอาการหน้าแดง กระหายน้ำ มึนงง ปวดหัววิงเวียนศีรษะ ตัวร้อน คลื่นไส้ อาเจียน หายใจเร็วและถี่ มีอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ ชัก รูม่านตาขยาย ความรู้สึกตัวลดน้อยลงหากอาการรุนแรงอาจถึงขั้นเป็นลมหมดสติและถ้าไม่ได้รับการปฐมพยาบาลที่ถูกต้องทันท่วงทีก็มีโอกาสเสียชีวิตได้ครับ  สัญญาณเตือนในเบื้องต้นของโรคนี้ก็คือ "ไม่มีเหงื่อออกแม้อากาศจะร้อนมากก็ตาม"  ผู้ที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคฮีทสโตรก คือ ผู้สูงอายุ เด็ก ผู้ที่อดนอน ผู้ที่ดื่มเหล้าจัด ผู้ที่ทำงานในสภาพอากาศที่ร้อนชื้น ละผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคอ้วน รวมถึงนักกีฬาและทหารที่เข้ารับการฝึก ดยไม่มีการเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมที่จะเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัด ถ้ามีอาการแรกเริ่มในข้างต้นทีกล่าวมานั้นอย่างนิ่งนอนใจนะครับ เรามารู้จักวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นในโรคลมแดดหรือHeat Strokeกันเลยครับ  การปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการลดระดับความร้อนของร่างกายลงให้เร็วที่สุดโดยให้ผู้ป่วยนอนหงายยกเท้าให้สูงขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มปริมาณเลือดที่ไหลเวียนกลับสู่หัวใจ คลายเสื้อผ้าที่รัดแน่นแล้วเช็ดตัวด้วยน้ำเย็นหรือใช้ถุงใส่น้ำแข็งประคบตามลำคอ ลำตัว แขน-ขา ข้อพับต่างๆและใช้พัดหรือใช้พัดลมเป่าร่วมด้วย เพื่อให้อุณหภูมิในร่างกายลดลงเร็วขึ้น ในกรณีผู้ป่วยมีการอาเจียนให้นอนตะแคงก่อน เมื่ออาเจียนแล้วให้นอนหงาย ถ้าผู้ป่วยยังมีอาการที่ไม่ดีขึ้นให้ราดน้ำเย็นลงบนตัวเพื่อลดอุณหภูมิร่างกาย แล้วให้ดื่มน้ำหรือน้ำเกลือแร่เพื่อทดแทน แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดครับ    ข้อมูลจาก thaihealth.co.th  เรียบเรียงโดย […]

1 2,977 2,978 2,979 2,982
error: