สาระน่ารู้

  เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 1 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่สนามบินท่าอากาศยานนครพนม ได้มีข้าราชการ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้นำชุมชนท้องถิ่น และประชาชน ได้เดินทางมารอให้การต้อนรับ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม หลังกระทรวงมหาดไทยได้มีการแต่งตั้งผู้ว่าราชการคนใหม่ แทนคนเดิม คือ นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ อดีต ผวจ.นครพนม ที่เกษียณอายุราชการ โดยการต้อนรับครั้งนี้ ถือว่าเป็นไปด้วยความคึกคัก ชื่นมื่น อบอุ่น สร้างความตื้นตันใจแก่ชาวนครพนม เพราะถือเป็นประวัติศาสตร์ ของกระทรวงมหาดไทย รวมถึงชาวนครพนม ที่จะมีผู้ว่าราชการจังหวัด อายุน้อยที่สุด แค่ 44 ปี อีกทั้งยังมีสถานภาพโสด และนับเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดคนที่ 41 โดยเคยดำรงตำแหน่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ และผู้ตรวจกระทรวงมหาดไทย ก่อนมาดำรงตำแหน่ง ผวจ.นครพนม สำหรับการต้อนรับ ได้มี ข้าราชการ พ่อค้าประชาชน เดินทามามอบช่อดอกไม้ แสดงความยินดี และมีการร้องเพลง ถิ่นนครพนม ถือเป็นเพลงมาร์ชประจำจังหวัดเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และเป็นการต้อนรับอย่างอบอุ่น […]

  เฟซบุ๊ก สำนักประชาสัมพันธ์เขต 7 เปิดเผยถึงห้ามแรงงานข้ามชาติประกอบอาชีพที่แย่งอาชีพของคนไทย โดยระบุว่า ย้ำเตือนอีกครั้ง ห้ามแรงงานต่างด้าวทำงานผิดประเภททั้งขายของหน้าร้านหรือแย่งอาชีพสงวนของคนไทย ฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงถึง 200,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 ปี กฎหมายกำหนดให้แรงงานต่างด้าวที่มาทำอาชีพสงวนสำหรับคนไทยและทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 8 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับตั้งแต่ 2,000 – 100,000 บาท ส่วนนายจ้างถูกจับในข้อหาให้ต่างด้าวทำงานไม่ตรงกับใบอนุญาต หากผิดจริงมีอัตราโทษปรับ 10,000-100,000 บาทต่อแรงงานหนึ่งคน และหากทำผิดซ้ำมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับเพิ่มเป็น 50,000-100,000 บาทต่อแรงงานหนึ่ง ทั้งนี้ งานที่ผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ เมียนมา ลาว และกัมพูชา สามารถทำงานได้ 2 ประเภท คือ งานกรรมกร และงานบ้าน ส่วนงานขายของหน้าร้านหรือการเป็นเจ้าของกิจการยังคงเป็นอาชีพที่ห้ามแรงงานต่างด้าวทำ ตามที่กำหนดงานในอาชีพและวิชาชีพที่ห้ามแรงงานต่างด้าวทำ บัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดในอาชีพและวิชาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ พ.ศ. 2522 หากพบแรงงานต่างด้าวทำงานผิดกฎหมายหรือพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทำงานของแรงงานต่างด้าว สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วนกรมการจัดหางาน 1506 กด […]

    ใครที่เป็นคนรักต้นไม้ ชอบทำการเกษตรเล็ก ๆ คงเคยรำคาญใจกับแมลงต่าง ๆ รวมไปถึงหอยทากที่ชอบมากัดกินต้นไม้น้อย ๆ ที่ปลูกไว้ อยากจะฆ่าก็เกรงว่าจะบาปเกินไป ไอเดียต่อไปนี้อาจทำให้สบายใจมากขึ้น และไม่เป็นการทำบาปมหันต์ เพราะมันคือการสั่งสอนกันเล็ก ๆ แค่นั้น     เพียงแค่แปะแถบทองแดง อุปกรณ์ง่าย ๆ ที่หาซื้อได้ตามร้านจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือสั่งจากร้านค้าออนไลน์ก็ได้ แล้วต่อกับขั้วแบตเตอรี่     เพียงเท่านี้ กระถางต้นไม้ก็จะมีกระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ จากแบตเตอรี่ คอยช็อตสกัดกั้นเจ้าหอยทากและศัตรูพื้นทั้งหลายไม่ให้เดินทางเข้ามากินพืชในกระถางได้ โดนปุ๊บ ถอยห่างปั๊บ     ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ เพราะนี่คือกระแสไฟอ่อน ๆ และไม่เป็นอันตรายต่อหอยทากถึงกบช็อตมันตาย คนใจบุญสบายใจได้ มันแค่อุปกรณ์ที่ใช้สั่งสอนกันแค่นั้น     ชมคลิป   ขอบคุณคลิปจาก : ท่อนฮุก

  มาตรการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นอย่างไร เช็กเงื่อนไขกันก่อน ต้องซื้อของที่ไหน ได้เงินภาษีคืนเท่าไหร่   เป็นข่าวดีอีกแล้วสำหรับผู้มีรายได้น้อยในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หลังจากล่าสุดรัฐบาลได้เพิ่มมาตรการช่วยเหลือลดค่าครองชีพ ด้วยการให้นำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ได้ อ่านข่าวเพิ่มเติม : บัตรคนจนได้เฮ ! รัฐคืนภาษีไม่เกิน 500 บาท/เดือน ดีเดย์ 1 พฤศจิกายน ส่วนจะต้องทำยังไงถึงได้เงินภาษีคืน ซื้อของเท่าไหร่ ที่ไหน ลองอ่านรายละเอียดกันดู คืนภาษีผู้มีรายได้น้อย ใครมีสิทธิ์บ้าง  ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินคืนภาษีมูลค่าเพิ่มของโครงการนี้ จะต้องเป็นผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน จำนวน 11.4 ล้านรายทั่วประเทศเท่านั้น  ทำยังไงถึงจะได้คืนภาษีผู้มีรายได้น้อย  การที่ได้เงินคืนภาษีนั้น ผู้ถือบัตรคนจนจะต้องใช้บัตรรูดซื้อสินค้าและบริการผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าเอกชนอื่น ๆ ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านเครื่อง EDC ที่มีการเชื่อมต่อระบบ POS โดยเงินคืนภาษีจะคิดจากยอดรวมค่าใช้จ่ายของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในแต่ละเดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2562     หลักเกณฑ์คืนภาษีผู้มีรายได้น้อย  มาตรการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มผู้มีรายได้น้อย จะมีการโอนเงินคืนเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทุกวันที่ […]

  เป็นที่น่าจับตามองสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีภายในปีหน้า ซึ่งช่วงนี้นักการเมืองพรรคต่าง ๆ ก็ทยอยประโคมกลยุทธ์ของตัวเองกันใหญ่ แต่สิ่งสำคัญที่หลายคนยังไม่รู้จักก็คือ อุปกรณ์ที่จะใช้ในการเลือกตั้งซึ่งเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ดูเหมือนว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ แต่จริง ๆ แล้วมีมากว่า 10 ปีแล้ว!     เจ้าเครื่องนี้เรียกว่า "เครื่องลงคะแนนเลือกตั้ง" ซึ่ง กกต.พัฒนามาเป็นรุ่นที่ 4 แล้วในปี 2557 ลักษณะคล้ายกระเป๋านักธุรกิจที่พกพาไปไหนก็ได้ แล้วกางออกมาเป็นแผ่นคูหากั้น 3 ด้าน เหมือนคูหากระดาษที่บังโต๊ะที่เราเห็นกันทั่วไป อ่านเพิ่มเติม : กกต. จดลิขสิทธิ์โปรแกรมเครื่องลงคะแนนเลือกตั้ง รุ่นที่ 4 อ่านเพิ่มเติม : 'กกต.' จับมือ 'นักวิชาการ' พัฒนาเครื่องลงคะแนน ลต. ผุดใช้ระบบทัชสกรีน ในการทำงานของเครื่องนี้ก็ง่าย ๆ แค่กดปุ่มเลือกพรรคการเมือง แล้วเครื่องจะคีย์กระดาษออกมาเหมือนบัตรคิว แล้วให้เราพับกระดาษเล็ก ๆ นั้นลงกล่อง ง่าย ๆ แค่นี้เอง         ก็ต้องมาลุ้นกันอีกทีว่า การเลือกตั้งครั้งล่าสุดที่จะถึงนี้ชาวไทยจะมีโอกาสได้ใช้เจ้าเครื่องนี้หรือไม่ […]

  แชร์เป็นอุทาหรณ์ หนุ่มสุพรรณบุรีชาวสาวลำไยต้องจบชีวิตน่าเศร้า หลังโดนมดตะนอยกัด เพราะแพ้พิษอย่างรุนแรง สิ้นใจเพียง 7 วันให้หลังจากอาการโคม่า จากกรณีที่กำนันคนหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี ได้นำเรื่องราวของพิษร้ายของมดตะนอยที่อาจจะคร่าชีวิตได้อย่างคาดไม่ถึง กลายเป็นประเด็นที่สังคมออนไลน์ให้ความสนใจ โดยระบุว่า นายเอส (นามสมมติ)ชายหนุ่มวัยกลางคน อายุ 34 ปี สุขภาพแข็งแรงดี แต่เป็นคนสูง 190 เซนติเมตร ได้เช่าสวนลำไยห่างจาก อ.ด่านช้าง ไปราวๆ 30 กิโลเมตร ทำเป็นอาชีพ เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา นายเอส เข้าแวะเข้าสวนไปดูลูกน้องทำงาน ขณะที่นั่งใต้ต้นลำไย นายเอสถูกมดตะนอยกัดต่อยที่มือ ก่อนจะใช้มืออีกข้างปัดออก แล้วรีบเดินกลับไปขึ้นรถ พร้อมทั้งตะโกนบอกแฟนและเพื่อนให้รีบพาไปหาหมอ ระหว่างทาง นายเอสเริ่มหายใจไม่ออก เพื่อนลองให้ทานยาแก้แพ้และดื่มน้ำตาม แต่ก็อาเจียนออกมาทั้งหมด ก่อนจะหมดสติและเสียชีวิตลงในที่สุด ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสคุยกับ นายกิติพันธ์ ทวีวัฒนพงษ์ หรือ กำนันนพ กำนันตำบลวังคัน อ.ด่านช้าง ผู้ที่โพสต์เรื่องราวดังกล่าว เปิดเผยว่า นายเอส มีศักดิ์เป็นพี่เขย หลังจากถูกมดตะนอยกัดครั้งล่าสุดตามที่กล่าว ก็รีบพาไปส่งคลีนิกที่เคยรักษา แต่ปรากฏว่าครั้งนี้คลีนิกปิด จึงรีบนำส่งตัวไปโรงพยาบาล […]

  จากกรณีศาลมีคำพิพากษาจำคุกคดีนายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ อายุ 50 ปี วิศวกร หรือลุงวิศวะ ก่อเหตุยิงเข้าใส่กลุ่มวัยรุ่นที่กรูเข้าล้อมรถเก๋งและพยายามจะเข้าทำร้าย ทำให้นายนวพล หรือปอน ผึ่งผาย อายุ 17 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าที่ตั้งครกใหญ่ สามแยกถนนอ่างศิลา ตำบลอ่างศิลา อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 19.00 น. โดยตัดสินจำคุก 15 ปี และลดโทษ 1 ใน 3 เหลือ 10 ปี พร้อมชดใช้ค่าเสียหายนั้น ทั้งนี้ คำพิพากษาคดีดังกล่าว ระบุ คดีสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2561 พนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี เป็นโจทก์ฟ้อง นายสุเทพ โภชนสมบุรณ์ เป็นจำเลย ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ […]