ใครเป็นเจ้ากรรมนายเวรของคุณ?…วิธีดูเจ้ากรรมนายเวร

Advertisement เรื่องของเจ้ากรรมนายเวร เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากที่สุดในเรื่องของกรรม เพราะสิ่งนี้ทำให้เราต้องทนทุกข์ทรมานกันมากมายในทุกวันนี้ ถ้าอธิบายกันอย่างง่ายๆ เจ้ากรรมนายเวรก็คือ คน สัตว์ หรือวิญญาณ ที่เคยมีความเกี่ยวข้องกับเรามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน Advertisement   [ads]   คนทุกคนเกิดมา เราจะมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นของตนเองติดตามเรามา และจะมีเจ้ากรรมนายเวรอยู่ 2 แบบคือ 1.เจ้ากรรมนายเวรที่มีชีวิต คือ เจ้ากรรมนายเวรที่เรามีโอกาสเจอและสัมผัสสัมพันธ์กันอยู่บ่อยๆ เกิดเป็นวิบากกรรมกับเราได้เร็วแบบวันต่อวัน ทันตาเห็นเลย เช่น พ่อแม่ เป็นพี่น้อง เป็นเพื่อน หรือคนในที่ทำงาน เป็นเจ้านาย เป็นลูกน้อง คนรอบตัวเรา หรือแม้กระทั่งสัตส์เลี้ยงที่เราเลี้ยงไว้     วิธีง่ายๆ ที่เราจะรู้ได้และสังเกตด้วยตัวเราเองว่าเป็นเจ้ากรรมนายเวรในแบบนี้หรือไม่ก็คือ ต้องเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นคนหรือสัตว์ที่นำความเดือดร้อนมาให้เรา มาสร้างความกังวลใจให้เราอยู่ตลอดเวลา เป็นคนที่เราเห็นหน้าแล้วอยากหนีไปให้พ้น ไม่อยากพบเจอ แต่จะหนีอย่างไรก็หนีไม่พ้น     Advertisement 2. เจ้ากรรมนายเวรที่ไม่มีชีวิต คือ เจ้ากรรมนายเวรที่เป็นวิญญาณ ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และมันอาจยากมากที่คนทั่วไปอย่างเราๆ จะรับรู้ เพราะสภาพของเรากับเขามันอยู่คนละมิติกัน คนละภพภูมิกัน จึงไม่อาจสื่อสารกันได้     เจ้ากรรมนายเวรที่เป็นวิญญาณนั้น เราต้องปรับสภาพจิตของเราให้ละเอียดพอที่จะติดต่อกับเขาเพื่อที่จะขอโทษ […]

นักวิจัยเผย! สูตรอาหารที่ทำให้เรียนเก่ง เรียนดี

การเรียนเก่ง หรือสอบได้คะแนนดี มีผลมาจากอวัยวะเล็กๆของร่างกาย ที่เรียกว่า “สมอง” จัดว่าเป็นอวัยวะอันดับต้น ๆ ที่ต้องการสารอาหารมาบำรุงอย่างมาก ซึ่งไม่ว่าจะเป็นวัยแรกเกิด วัยเด็ก วัยรุ่น วัยเรียน วัยทำงาน จนถึงวัยสูงอายุ ก็ต้องการสารอาหารบำรุงด้วยกันทั้งนั้น           [ads] การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า อาหารเช้ามีส่วนเพิ่มสมรรถภาพสมอง โดยเด็กๆ ที่กินอาหารเช้ามีแนวโน้มจะสอบได้คะแนนดีกว่า(และอ้วนน้อยกว่า) เด็กที่ไม่กินอาหารเช้า ท่านอาจารย์ ดอกเตอร์พอล เจ. เวาเจเลอส์ และคณะ แห่งมหาวิทยาลัยอัลเบอร์ทา เอดมอนทัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างเด็กนักเรียนเกรด 5 จำนวน 4,589 คน เด็กเหล่านี้สอบ ตก 19.1% เมื่อทำการศึกษา วิเคราะห์ เจาะลึกลงไปพบว่าเด็กๆที่สอบตกส่วนใหญ่กินอาหารไม่ค่อยดี ทั้งปริมาณและคุณภาพ เมื่อเทียบกับเด็กๆที่สอบได้คะแนนดี   ผลการศึกษาพบว่า เด็กๆที่สอบได้คะแนนดีมีแนวโน้มจะกินอาหารครบทุกมื้อ (3 มื้อ) เเละรับประทานผัก ผลไม้ เเละอาหารไขมันต่ำ มากกว่าซึ่งเด็กๆที่เรียนดีมีแนวโน้มจะกินอาหารสุขภาพหลากหลาย (หลายชนิด) หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันมากกว่า กินอาหารซ้ำซาก (เหมือนเดิม) น้อยกว่า  […]

การไว้หนวด…ลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังได้

การไว้หนวดที่เป็นเอกลักษณ์ของผู้ชายแต่ละคนนั้น แท้ที่จริงก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพในอีกทางหนึ่งด้วย เพราะการมีหนวดนั้นสามารถลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนังได้   [ads]   ข้อมูลนี้มาจากการทดสอบของทีมนักวิจัยของศาสตราจารย์ อัลฟิโอ ปาริซี่ แห่งมหาวิทยาลัยเซาท์เทิร์น ควีนส์แลนด์ (The University of Southern Queensland) ประเทศออสเตรเลีย ที่ใช้เครื่องมือตรวจวัดมวลของผิวหนัง และวัดระดับของปริมาณรังสีอัลตราไวโอเลตที่ผิวหนังดูดซึมเข้าไปในระยะเวลาที่กำหนด (Dosimetric techniques)   ซึ่งผลการทดสอบได้ผลออกมาว่า ชายหนุ่มที่มีหนวดสามารถลดอัตราเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งผิวหนังได้ถึง 1 ใน 3 เพราะหนวดจะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหนังสัมผัสกับแสงแดดจากดวงอาทิตย์โดยตรง และยิ่งถ้ามีหนวดยาวมาก ก็ยิ่งช่วยป้องกันได้มากขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ดี ปัจจัยเสริมที่จะเกิดมะเร็งผิวหนังหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและมุมที่ถูกแสงแดดด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ชายที่ไม่นิยมไว้หนวดหรือคุณผู้หญิงก็ไม่ต้องตกใจกันเกินไปนัก เพราะการไว้หนวดเป็นเพียงแค่องค์ประกอบย่อยที่ผู้ชายส่วนใหญ่ไว้เพราะความชอบส่วนตัวหรือเสริมบุคลิกภาพเท่านั้น ทั้งนี้ หากว่าคุณไว้หนวดแล้วจะออกไปสู้แสงแดดจัดตลอดทั้งวัน ก็ควรทาครีมกันแดดป้องกันผิวก่อนออกจากบ้านสักหน่อยก็ดีนะค่ะ เพราะมีหนวดอย่างเดียวคงกันแดดไม่อยู่!!!   [ads=center] Illustration & Reference by: [online] www.tnews.co.th [online] www.cdc.gov

‘กอดอก’ ช่วยลดความเจ็บปวดได้

ในระหว่างสนทนา เรามักจะเห็นคนแสดงท่าทางกอดอกอยู่เป็นประจำ หรือในวัยเด็กทุกครั้งที่ต้องถูกทำโทษด้วยการถูกตี ก่อนที่เราจะถูกตี ผู้ใหญ่หรือคุณครูมักจะบอกว่าให้เราเอามือกอดอกก่อนเสมอ   [ads]   ข้อดีของการกอดอกที่คาดไม่ถึง จากการศึกษาวิจัยพบว่า การกอดอกนั้นทำให้สมองเกิดอาการสับสนและช่วยลดความเจ็บปวดได้ เหตุผลของปรากฏการณ์นี้คือข้อมูลที่ขัดแย้งกันระหว่างสองแผนความคิดทางสมอง โดยแบ่งออกเป็นทางร่างกาย และทางจิตใจ ในเเต่ละวันเราจะใช้มือซ้ายในการจับสิ่งของที่อยู่ทางด้านซ้ายของเรา และมือขวาก็จะใช้สำหรับสิ่งที่อยู่ทางด้านขวา เเต่เมื่อเราทำการกอดอก แผนความคิดนี้จะไม่ถูกกระตุ้นขึ้นมา   ในงานวิจัย นักวิทยาศาสตร์ใช้เลเซอร์ในการสร้างความเจ็บปวดที่คล้ายกับเข็มทิ่มบนมือของกลุ่มอาสาสมัครจำนวน8 คน ซึ่งเป็นความเจ็บที่ไม่ต้องเกิดจากการสัมผัส และได้ทำการฉายเลเซอร์ชนิดนี้กับกลุ่มที่ทำการกอดอกด้วย อาสาสมัครได้ให้คะแนนเกี่ยวกับการรับรู้ถึงความเจ็บ รวมไปถึงการตอบสนองของคลื่นไฟฟ้าสมองของพวกเขานั้นถูกวัดโดยใช้เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (electroencephalography, EEG) ผลจากการรายงานของอาสาสมัคร และคลื่นไฟฟ้าสมองแสดงให้เห็นว่า "การรับรู้ความเจ็บปวดนั้นลดลง…เมื่อมีการกอดอก"    นักวิจัยหวังว่า การค้นพบของพวกเขาสามารถนำไปสู่การพัฒนาตัวยาและการรักษาชนิดใหม่ๆได้ เพื่อที่จะลดอาการเจ็บปวดที่เกี่ยวเนื่องกับสมองและร่างกายได้ ดังนั้น หากเกิดความเจ็บปวด หรือ ร้อนๆหนาวๆ การกอดอก จึงช่วยบรรเทาอาการเหล่านั้นได้ชั่วคราว   [ads=center]   Illustration & Reference by: [online] www.swimupstream.ca [online]http://sciencefocus.com  

อยากผอม อยากสวย ทำได้ด้วย “เมล็ดเจีย”

 “ผอม สวย หุ่นดี” ถือเป็นรูปร่างลักษณะที่สาวไทยต่างต้องการอยากให้เกิดขึ้นกับตนเอง เพราะใครๆก็รู้ว่า สาวที่มีหุ่นดีนั้นมีชัยไปกว่าครึ่ง การพยายามดูแลรูปร่างด้วยการรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ และไม่ทำให้อ้วน จึงถือเป็นสิ่งที่สาวไทยหมายปอง และพยายามที่จะทำให้ได้ตลอดเวลา เมล็ดเจีย (Chia Seed) เป็นหนึ่งในธัญพืชมาแรงแซงทางโค้งที่บางคนอาจเคยได้ยินชื่อ แต่ยังไม่เคยได้ลองสัมผัสถึงคุณสมบัติอันแสนวิเศษของมัน ถึงเวลาแล้วละค่ะที่คุณจะเปิดรับเอาธัญพืชตัวใหม่ เข้าไปอยู่ในใจของคุณทุกคน ภาพจาก : http://www.crunchybetty.com/ ความจริงแล้ว เมล็ดเจียไม่ใช่ธัญพืชที่เพิ่งจะเกิดขึ้นมาใหม่ แต่ถือเป็นพืชที่มีอายุยืนยาวมามากกว่า 3,500 ปีก่อนคริสตกาลแล้ว เพียงแต่ว่าในช่วงเวลานั้น คนไทยยังไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับเมล็ดเจียเท่านั้นเอง ชาวอินเดียแดงทางตอนใต้ ผู้เป็นผู้ค้นพบธัญพืชชนิดนี้ นิยมนำมันมารับประทานเพื่อประโยชน์ทางสารอาหาร อีกทั้งยังใช้เป็นอาหารหลักในการให้พลังงานอีกด้วย โดยรูปแบบการรับประทานก็มีอยู่อย่างหลากหลาย ทั้งการนำเอาเมล็ดเจียไปบดรวมกับแป้งก่อนคั้นออกมาเป็นน้ำมัน หรือนำมาแช่น้ำให้พองตัวแล้วผสมอาหารอื่นๆรับประทาน ซึ่งไม่ว่าจะรับประทานเมล็ดเจียในรูปแบบไหน ก็ล้วนแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น [ads] หากใครยังไม่เคยเห็นว่าเมล็ดเจียมีหน้าตาเป็นอย่างไร อยากให้ลองนึกถึงเม็ดแมงลักดูคะ เมล็ดเจียจะมีลักษณะที่คล้ายๆกับธัญพืชที่ว่านี้ กล่าวคือ เมื่อนำเอาธัญพืชชนิดนี้ไปสัมผัสกับน้ำ เปลือกนอกของเมล็ดเจียก็จะพองตัวออกได้คล้ายวุ้น อย่างไรก็ตาม เมล็ดเจียจะมีข้อแตกต่างกับเมล็ดแมงลักตรงที่ เมล็ดเจียจะมีสีที่ใสกว่า และเมื่อสังเกตที่ผิวของเมล็ดเจีย ก็จะเห็นว่ามีลวดลายที่ผิวเล็กน้อยด้วย ส่วนคุณประโยชน์ของเมล็ดเจียก็มีอย่างเต็มเปี่ยม เพราะด้วยความที่เมล็ดเจียมีลักษณะที่คล้ายกับเมล็ดแมงลัก ทำให้เมล็ดเจียสามารถให้ความอิ่มท้องแก่เราได้ไม่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ต้องแน่ใจเสียก่อนว่า เมล็ดเจียที่เรากำลังจะรับประทานเข้าไปนั้น พองตัวในน้ำได้เต็มที่แล้ว […]

ท้องผูก? ทุเรียนช่วยได้!

เมื่อพูดถึงทุเรียน นอกจากจะนึกถึงหนามบนเปลือกอันแข็งแกร่งของทุเรียนแล้ว สาวๆ หลายคนคงจะกำลังนึกถึงคอเลสเตอรอลและไขมันเป็นแน่ ทุเรียนถูกยกย่องให้เป็น ราชาแห่งผลไม้ไทย ที่เลื่องชื่อในเรื่องของกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ เมื่อพูดในแง่ของประโยชน์ของทุเรียน คงมีมากมายสารพัดไม่แพ้ผลไม้อื่นๆ เพราะเมื่อได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “ผลไม้” แล้วล้วนแต่มีประโยชน์ด้วยกันทั้งสิ้น แต่ประโยชน์อีกอย่างที่อาจจะยังไม่ทราบกัน ก็คือ ทุเรียนสามารถช่วยแก้อาการท้องผูก ถ่ายไม่ออกได้เช่นกัน! นอกจากจะได้ลิ้มรสความหวาน หอม อร่อยแล้ว ใครที่มีปัญหาระบบขับถ่ายอยู่ ก็ได้ประโยชน์ไปอีกเต็มๆ                ในทุเรียนมีเส้นใยไฟเบอร์เล็กๆ เป็นชนิดไม่ละลายน้ำ เป็นกากที่ทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว เพราะเป็นเส้นใยที่จะถูกย่อยช้ากว่าอาหารทั่วไปเมื่อเจอกรดในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก เส้นใยไฟเบอร์เหล่านี้จะช่วยทำให้ลำไส้ทำงานเป็นปกติ ซึ่งก็จะช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น และทำให้ความเสี่ยงที่จะเกิดโรคที่เกี่ยวกับลำไส้น้อยลงอีกด้วย                และอย่างที่ทราบกันดีว่า อาหาร ผัก ผลไม้ทุกอย่างที่มีประโยชน์ หากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไปก็สามารถเกิดโทษได้ทั้งนั้น ดังนั้นในการทานทุเรียนให้เกิดประโยชน์นั้น ก็ควรทานเท่าที่ร่างกายควรได้รับเท่านั้น ตามข้อมูลที่เรายกมาให้ จากกคุณหมอหมี (Dr.CareBear) นั่นเอง                – ผู้ชายที่อายุน้อยกว่า 50 ปี ประมาณไฟเบอร์ที่ควรได้รับต่อวัน: 38 กรัม                – ผู้ชายที่อายุมากกว่า 50 ปี ประมาณไฟเบอร์ที่ควรได้รับต่อวัน: […]

วิธีรักษา “ส้นเท้าแตก” ให้หายได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ !

หลายๆ คนอาจเคยคิดว่าปัญหาส้นเท้าแตกไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะบริเวณที่เป็นปัญหาอยู่ที่ส้นเท้า ซึ่งคงไม่มีใครมองหรือสังเกตเห็น แต่ถ้าหากคุณได้ลองประสบปัญหานี้ด้วยตนเอง จะทำให้ความมั่นใจของคุณหดหายไปในทันที ในกรณีที่รอยแตกเยอะมากหรือปล่อยทิ้งไว้นานโดยไม่ได้รักษา โอกาสที่จะใส่รองเท้าส้นสูง รองเท้าเปลือยเท้าก็น้อยลง เพราะรอยแตกเหล่านั้นนั่นเอง อาการจะเริ่มจากการอักเสบหรือบวมแดงบริเวณส้นเท้าก่อน หลังจากนั้นเมื่อทิ้งไว้นานๆ จะเริ่มแข็ง และเกิดร่องลึกๆ เป็นรอยแตกขึ้นมา วิธีรักษาสามารถทำได้ง่ายๆ และได้ผลดี คือการแช่เท้าในน้ำอุ่นผสมน้ำส้มสายชู(หรือน้ำมะนาว) และน้ำยาบ้วนปาก ในอัตราส่วน 3:1:1 ประมาณ 10-15 นาที จะทำให้ผิวหนังนุ่มและอ่อนขึ้น หลังจากนั้นให้นำหินขัดผิวมาขัดบริเวณส้นเท้า เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้ออกไป แล้วเช็คให้แห้ง แล้วจึงนำเปลือกกล้วยมาถูบริเวณส้นเท้าที่แตก จนกว่าเมือกที่อยู่บนกล้วยจะหายไป หลังจากนั้นก็ล้างให้สะอาดแล้วอย่าลืมทาครีมช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ส้นเท้าเป็นประจำทุกวัน แต่อย่างไรก็ตาม การแช่เท้าในน้ำผสมน้ำส้มสายชู น้ำยาบ้วนปาก และการขัดผิวทุกวันอาจทำให้เกิดอาการแสบได้ วิธีดังกล่าวจึงควรปฏิบัติเพียง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ หากในวันธรรมดา ควรใช้วิธีแช่เท้าในน้ำอุ่น แล้วตามด้วยการใช้เปลือกกล้วยถูบริเวณส้นเท้า หลังจากนั้นให้ใช้น้ำมันมะกอกหรือครีมเพิ่มความชุ่มชื้นทาก็เพียงพอแล้ว สิ่งสำคัญในการรักษาส้นเท้าแตก คือพยายามรักษาความชุ่มชื่นบริเวณส้นเท้าให้มากที่สุด และหมั่นขจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วเท่านั้นเอง หากปฏิบัติตามวิธีข้างต้นอย่างสม่ำเสมอสามารถรักษาอาการส้นเท้าแตกได้ภายในระยะเวลาประมาณ 3-7 สัปดาห์ขึ้นอยู่กับขนาดรอยแตก   เรียบเรียงโดย thaijobsgov.com

วิธีทำ “เส้นหมี่ผัดมันกุ้งใส่ผักกะเฉด” เส้นนุ่ม กุ้งหอม แสนอร่อย !

  วัตถุดิบ 1.ตำพริกกระเทียม เตรียมไว้ 2.มันกุ้งสด รีดจากหัว 3.กุ้งแกะเปลือกผ่าหลัง 4.เส้นหมี่แช่น้ำไว้ 5.ยอดผักกะเฉด 6.มะนาว 7.ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย ซอสปรุง [ads] วิธีทำ ‪#‎กระทะใส่น้ำมันตั้งไฟให้ร้อน‬ ใส่เครื่องที่ตำไว้ลงไปผัดให้หอม ใส่กุ้งลงไปผัดพอสุกใส่มันกุ้งลงไปผัดให้ทั่ว แล้วปรุงรสตามชอบ ใส่เส้นหมี่ลงไปผัดให้มันกุ้งเคลือบเส้นให้ทั่วๆ ใส่ยอดกะเฉดลงไปผัดพอผักสลด ปิดไฟเลยค่ะ แล้วบีบมะนาวลงไป ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง เป็นอันเสร็จจร้า   ขอบคุณสูตรจากคุณ Khwan Muangnao   [ads=center]

เลือก ‘เคสมือถือ’ ให้เสริมดวงความสำเร็จ-รักความชื่น!!

หากจะเลือกซื้อเคสใส่โทรศัพท์มือถือสักชิ้น  อาจไม่ง่ายนักเพราะในปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย  วันนี้มีเคล็ดลับการเลือกเคสมือถือให้ถูกโฉลกกับดวงชะตา เสริมความมงคลในด้านการงาน การเงิน ความรัก สุขภาพ ดังนี้                                                            Soft Case                             Hybrid Case    […]

แก้ปัญหาเด็กฟันผุด้วย “นมฟลูออไรด์”

ปัญหาฟันผุในเด็ก สามารถพบเห็นกันได้บ่อยๆ ล่าสุดจึงมีการผลิต “นมฟลูออไรด์” ที่กรมอนามัยได้ร่วมกับโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินงานโครงการนมฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2543 ภายใต้การสนับสนุนด้านวิชาการจากองค์การอนามัยโลก   รูปแบบนมฟลูออไรด์ เป็นนมพาสเจอร์ไรซ์ขนาดถุงละ 200มิลลิลิตร มีปริมาณฟลูออไรด์ 0.5 มิลลิกรัม/ถุง ตามที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ   [ads]   ซึ่งมีผลการศึกษาพบว่าการดื่มนมฟลูออไรด์อย่างต่อเนื่อง เป็นเวลา 5 ปี สามารถลดโรคฟันผุในฟันแท้ได้ ร้อยละ 34.4โดยปริมาณฟลูออไรด์ที่ได้รับถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมมีความปลอดภัย ไม่พบผลเสียเรื่องฟันตกกระ ซึ่งเด็กยังคงต้องแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ตามปกติ   แม้ว่านมฟลูออไรด์จะช่วยป้องกันโรคฟันผุในเด็กได้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความจำเป็นในการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างถูกวิธี ได้แก่ การแปรงฟันให้สะอาด อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หลีกเลี่ยงขนมหวานที่เหนียวหนืด ติดฟัน รวมทั้งเคลือบคลุมร่องฟันที่ลึก เพื่อทำความสะอาดได้ดีขึ้น   [ads=center]   Illustration & Reference by: [online] www.smilelandceo.com [online] www.thaihealth.or.th […]

1 606 607 608 704
error: