สาระน่ารู้

Advertisement   Advertisement         ใครชอบกินไก่ต้มจิ้มกับน้ำจิ้มรสเด็ดบ้าง กินกับข้าวมัน หรือข้าวสวย หรือข้าวเหนียว ก็อร่อยเด็ด แต่ไก่ต้มธรรมดาก็อาจจะจืดไปสักหน่อย แต่ถ้าเป็นไก่ต้มน้ำปลาแล้วล่ะก็ อร่อยขึ้นกว่าเดิมแน่ ๆ ส่วนใครที่อยากลองทำไก่ต้มน้ำปลากินเอง ก็มาจดสูตรและวิธีทำไก่ต้มน้ำปลา ไปลองทำกันเองง่าย ๆ แถมไม่จำเป็นต้องใช้ไก่ทั้งตัว พ่วงมากับน้ำจิ้มสูตรโบราณอีกด้วย ลองตามมาดูกันเลยจ้า   สิ่งที่ต้องเตรียม ไก่สด 1 ตัว (หรือไก่ส่วนต่าง ๆ ตามชอบ) รากผักชีทุบ 2 ราก ข่าหั่นแว่น 3 แว่น ตะไคร้ทุบ 2 ต้น ใบมะกรูด 3 ใบ น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ถ้วย ซอสปรุงรส 1 ถ้วย ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ […]

การคุมกำเนิด คือเทคนิคและวิธีการที่ใช้ในการป้องกันการตั้งครรภ์ ด้วยวิธีการต่างๆ แต่หลายคนก็ยังมีข้อสงสัยว่า การคุมกำเนิดอาจให้ผลในการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่ดีเท่าควร ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่า   [ads] ไม่มีวิธีการคุมกำเนิดใดๆ ในโลกนี้ที่คุมได้ 100% การนำไปใช้จริงมีโอกาสใช้ผิดพลาดได้ เช่น ลืมกินยา กิน/ฉีดช้ากว่ากำหนด ทำให้ความสามารถในการคุมกำเนิดลดลง   วิธีการคุมกำเนิดที่นิยมใช้ แต่ โอกาสพลาดสูง การนับระยะปลอดภัย หรือ หน้า 7 หลัง 7(วิธีนี้ถือว่าประสิทธิภาพต่ำที่สุด) ปัญหาคือ 1) หน้าเจ็ด:มักคลาดเคลื่อนเนื่องจากประจำเดือนมักมาไม่ตรง 2)หลังเจ็ด: มักนับผิดเป็นวันสุดท้ายของประจำเดือน (แทนที่จะเป็นวันแรก)    การหลั่งภายนอก มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดเพียง 73% เท่านั้น ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดมีน้อยกว่า 85% หากมีเพศสัมพันธ์ตอนไข่ตกเเล้วกินยาก็ไม่ได้ผล  การคุมกำเนิดด้วยวิธีการกินยาคุมกำเนิด ต้องกินอย่างถูกวิธีเเละปรึกษาเเพทย์ทุกครั้ง   [ads=center] Illustration & Reference by: [online] www.kidspot.com.au [online] www.siamchairadio.com

ทราบกันดีว่า รังสีต่างๆมีผลกระทบต่อทารกและเด็กเล็ก  เพราะมีงานวิจัยมากมายที่แสดงให้เห็นถึงการเชื่อมโยงระหว่างการได้รับคลื่นและรังสีกับมะเร็งหลายชนิด และการทำงานผิดปกติของร่างกายอีกหลายอย่าง   ล่าสุดองค์การระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยมะเร็ง(ไออาร์ไอซี)ที่เป็นส่วนหนึ่งขององค์การอนามัยโลกในสังกัดสหประชาชาติได้ศึกษาสนามแม่เหล็กไฟฟ้าจากคลื่นวิทยุ หรือตัวการที่มีฤทธิ์ก่อให้เกิดมะเร็งในมนุษย์   [ads] ทั้งนี้ แหล่งที่มาหลักของคลื่น ดังกล่าวนี้คือ วิทยุ, โทรทัศน์, เตาไมโครเวฟ, โทรศัพท์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์ไวไฟทั้งหลาย     งานวิจัยได้สรุปผลและจัดทำเป็นข้อเสนอแนะไว้ว่า เด็กๆดูดซับปริมาณการแผ่รังสีได้มากกว่าผู้ใหญ่ยิ่งเป็นทารกในครรภ์ยิ่งอ่อนไหวต่อคลื่น เนื่องจากขนาดของร่างกายเล็กกว่าผู้ใหญ่ กะโหลกบางกว่ากะโหลกศีรษะของผู้ใหญ่ และเนื้อเยื่อสมองของเด็กและทารกมีขีดความสามารถในการดูดซับได้สูงกว่าผู้ใหญ่   [ads=center]      ดังนั้น สตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ลูกในท้องได้สัมผัสกับการแผ่รังสี ไม่ควรเก็บมือถือไว้ติดกับร่างกายและย้ำว่าอุปกรณ์ที่มีการเชื่อมต่อแบบไร้สาย (ไวไฟ) ต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์ที่ส่งสัญญาณวิทยุ ไม่ใช่ของเล่นที่เหมาะสมสำหรับเด็ก ของเล่นใดๆ ที่มีคุณสมบัติดังกล่าวนี้ควรได้รับการติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด   [ads=center] Illustration & Reference by: [online] www.marketingexperiments.com [online] www.thegeekparent.com [online]www.storytimeforkids.info

             พงศาวดารลูกชิด..กว่าจะได้ตักเข้าปากกิน ลูกชิดมีที่มาแบบนี้ล่ะ หลายคนคงได้ยินคำว่าลูกชิด กับลูกจาก กันอยู่แล้วใช่ไหมล่ะคะ และเราก็เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่คิดว่าลูกชิด กับลูกจากก็คืออย่างเดียวกัน แต่ความจริงแล้วลูกชิดกับลูกจากคนละอย่างกันนะคะ แม้ว่าลักษณะภายนอกจะดูคล้ายกันก็ตาม ลูกชิดกับลูกจากมาจากต้นไม้คนละต้นกันนะคะ…                  โดยลูกชิด มาจากต้นตาว หรือต๋าว หรือตนใต้เรียกว่า ต้นชก หรือฉก ซึ่งเป็นพืชตระกูลปาล์มชนิดหนึ่งค่ะ ต้นตาวชอบขึ้นตามเชิงเขา ที่มีดินร่วน อากาศชุ่มชื้น ลำต้นตรงและใหญ่กว่าต้นตาล ใบคล้ายใบมะพร้าวแต่ใหญ่กว่าและแข็งแรงกว่า สามารถนำมาใช้มุงหลังคาได้ ผลของตาวจะออกเป็นทลาย เนื้อในเมล็ดเรียกว่า ลูกชิด ซึ่งสามารถกินได้แบบสดๆ หรือจะนำไปเชื่อมก่อนก็อร่อยเหมือนกันค่ะ            ส่วนลูกจาก มาจากต้นจาก ซึ่งเป็นพืชตระกูลปาล์มเช่นกัน แต่เป็นคนละสายพันธุ์กับต้นตาว ใบจากมักนิยมนำมาห่อขนมที่เรียกว่าขนมขากนั่นเองค่ะ ผลของต้นจากจะออกเป็นทลาย เนื้อในเมล็ดเรียกว่าลูกจาก สามารถกินได้ทั้งแบบสดๆ หรือเชื่อมก่อนก็ได้เช่นกัน […]

  วัตถุดิบ 1.หอยลาย 2.กระเทียม 3.น้ำตาล 4.ใบโหระพา 5.พริกสด 6.น้ำพริกเผา [ads] เตรียม‬วัตถุดิบ  แช่หอยลาย…ให้คายดิน แล้วล้างให้สะอาด..พักไว้..! ‪‎วิธีทำ‬ ตั้งกะทะใส่น้ำมันเจียวกระเทียมกับพริกสดสับ..พอเหลืองหอม ใส่หอยลายลงไปผัด..(เอาฝาครอบ) หอยสุกปรุงรสด้วย..น้ำพริกเผา…. ซอสปรุงรส..น้ำตาล..ชิมรส..ปิดไฟ ใส่ใบโหระพา..ตักใส่จาน…! ขอบคุณสูตรโดย : คุณกาญจนา รุนิล   [ads=center]

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ก่อนอื่นจะต้องทำให้ทานนั้นครบองค์ ประกอบ 4 ประการดังนี้ คือ   [ads]   1. วัตถุบริสุทธิ์ ได้แก่ สิ่งที่จะให้ทานต้องเป็นของที่เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของเราเอง ไม่ได้คดโกงใครเขา     2. เจตนาบริสุทธิ์ ได้แก่ มีความตั้งใจที่จะให้ทาน เพื่อกำจัดความตระหนี่ ความเห็นแก่ตัว ฆ่าความโลภให้สิ้นไป ไม่ได้หวังลาภ ยศ สรรเสริญ เป็นเครื่องตอบแทน แต่มีความตั้งใจที่จะเสียสละ ให้เกิดเป็นบุญกุศลจริงๆ และการหวังได้บุญ ไม่ใช่เป็นความโลภนะ ขอให้พิจารณาแยกแยะกันให้ดี   3. ผู้ให้บริสุทธิ์ คือ ตัวผู้ให้ทานเองต้องมีศีล 5 เป็นอย่างน้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ก่อนให้ก็มีจิตใจผ่องใส ชื่นบาน เมื่อกำลังให้ จิตใจก็ผ่องใสอยู่ หลังจากให้แล้ว ก็มีความยินดี ไม่นึกเสียดายของ     4. ผู้รับบริสุทธิ์ เช่น ถ้าเป็นพระภิกษุ ก็เป็นพระภิกษุที่หมดกิเลส หรือเป็นพระอรหันต์แล้ว ซึ่งจะทำให้ได้บุญมากเป็นพิเศษ […]

“เวลาใครพูดถึง แฟนเก่าให้ฟังก็คิดมากขึ้นมาอีก หรือฝันถึงเขาอีก ทั้งที่คล้ายตัดใจได้เด็ดขาดไปแล้ว” วันนี้มีวิธีการระงับจิตใจไม่ให้คิดถึงคนรักเก่า ตามแนวทางพระพุทธศาสนามาฝากค่ะ หนังสือ ดังตฤณวิสัชนา ฉบับ รู้จักรัก ได้อธิบายว่า คนเรานั้นเดิมทีมีดวงจิตที่เป็นอิสระอยู่ แต่พอคิดถึงใคร พอพูดถึงใคร ใจก็เกิดกระแสโยงไปเชื่อมกับคนๆนั้น     อย่างไรก็ตาม พอคิดจบ หรือพูดจบ กระแสความผูกพันนั้นจะหายไป เว้นแต่คุณจะยังคงคิดพะวงถึงใครอีกคนอยู่เรื่อยๆ กระแสความผูกพันก็จะยังมีอาหาร ยังมีตัวหล่อเลี้ยงเอาไว้ไม่ให้ขาด พูดง่ายๆว่าคุณสร้างพันธะขึ้นมาด้วยความพะวงคิดถึง ถ้ายังตัดนิสัยความพะวงคิดถึงไม่ได้ พันธะก็เกิดขึ้นใหม่ได้เรื่อยๆ ต่อให้ตัดใจจากคนเก่าไปนานแค่ไหนแล้วก็ตาม   [ads]   สิ่งที่ล่อให้เกิดความพะวงคิดถึง มักเป็นญาติหรือบุคคลใกล้ชิดกับแฟนเก่า หรือไม่ก็เป็นการเจอตัวแฟนเก่าตรงๆ ภาพที่กระทบตา เสียงที่กระทบหูในขณะหนึ่งๆนั่นเองจะสะกิดให้นึกถึงเรื่องดีๆในหนหลัง   หากสังเกตอาการทางจิตของตัวเองอย่างใกล้ชิด คุณจะพบว่าการคิดถึงใครสักคนมี 2 ขั้นใหญ่ๆ   1) ขั้นที่คิดถึงเฉยๆ ความผูกพันเบาบาง ขั้นนี้พอมีสิ่งอื่นมากระทบหูกระทบตา ใจคุณจะหันเหไปทางใหม่ทันที โดยไม่รู้สึกหลงเหลือเยื่อใยตกค้าง 2) ขั้นที่เกิดปรากฏการณ์เสมือนมียางเหนียวยื่นออกจากใจคุณไปแปะติดกับบุคคลนั้น ขั้นนี้ต่อให้มีสิ่งอื่นมากระทบหูกระทบตา ใจคุณคล้ายเรือที่ถอนสมอไม่ขึ้น ต้องแช่นิ่งอยู่ที่เดิมนั่นเอง   พันธะหรือยางเหนียวเป็นสิ่งที่หน่วงเหนี่ยวให้ใจขาดอิสรภาพ […]

เบื่อไหม?กับรอยยิ้มที่ไม่สดใส ขาดความมั่นใจ เพราะฟันที่เป็นคราบเหลือง ทั้งที่เราแปรงฟันทุกวัน วันนี้มีอาหารที่ช่วยให้ฟันขาวขึ้น  ที่หาซื้อง่าย ราคาถูก ดังนี้     สับปะรดและส้ม นำเปลือกส้มที่แกะแล้วมาถูกับฟันจะช่วยให้คราบที่สะสมอยู่บนผิวฟันของเรานั้นลดลง และทั้งส้มและสับประรดก็เป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่ช่วย กระตุ้นการสร้างน้ำลายได้ เป็นอย่างดี     สตรอเบอร์รี่ เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ชนิดเดียวที่ไม่ทำให้ทิ้งคราบบนผิวฟันแต่กลับช่วยทำความสะอาดฟัน เพียงนำสตอรเบอร์รี่มาทำเป็นครีมโดยนำมาผสมกับแป้งแล้วทาบนผิวฟันทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จะเห็นได้ชัดว่า ฟันดูสะอาดขึ้น     แครอทกับแอปเปิ้ล ความกรอบของทั้งสองอย่างนี้เป็นตัวขัดฟันอย่างดีในขณะที่กำลังเคี้ยวและยังเป็นตัวทำให้มีการ กระตุ้นการผลิตน้ำลายออกมามากขึ้น เนื่องจากน้ำลายนั้นเป็นน้ำยาทำความสะอาดช่องปากตามธรรมชาติได้เป็นอย่างดี ยิ่งมีการหมุนเวียนของน้ำลายมากก็ยังสามารถช่วยไม่ให้มีกลิ่นปากได้อีกด้วย   [ads=center]   น้ำมะนาว นำน้ำมะนาวมาผสมกับเกลือหรือเบคกิ้งโซดาหรือโซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium Bicarbonate) แล้วนำมาแปรงฟัน หลังจากนั้นให้บ้วนปากด้วยน้ำสะอาดทุกครั้ง     เห็ดหอม ในเห็ดหอมมีสาร Lentinan ที่เป็นน้ำตาลที่สามารถยับยั้งการสะสมของแบคทีเรียในช่องปากได้   บล็อกโคลี่ พืชในตระกูลกะหล่ำ เช่นเดียวกับกะหล่ำดอกและกะหล่ำปลี นอกจากสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคมะเร็ง และต้านกรดด้วยการสร้างเยื่อบางๆ เพื่อเคลือบและป้องปกไม่ให้เคลือบฟันนั้นถูกกัดกร่อนอีกด้วย [ads=center] Illustration & Reference by: [online] […]

นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ จากมหาวิทยาลัยเซอร์รีย์ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ ได้ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเชื้อโรคบนหน้าจอโทรศัพท์โดยการนำหน้าจอโทรศัพท์ของนักศึกษาคนหนึ่งมาทำการเพาะเลี้ยงบนจาน เป็นเวลา 3 วัน และผลการเพาะเชื้อก็ทำให้ได้เห็นภาพต่อไปนี้ ที่ไม่น่าเชื่อว่าแค่เพียงหน้าจอโทรศัพท์เล็ก ๆ ก็สามารถเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของเชื้อโรคได้มากมายขนาดนี้เลย     ส่วนที่สกปรกและมีเชื้อโรคที่สุดบนหน้าจอโทรศัพท์ คือ บริเวณปุ่มทัชสกรีน เพราะเป็นบริเวณที่คนเราจะสัมผัสมากที่สุด   แต่เชื้อโรคเหล่านี้เป็นเชื้อโรคที่ไม่มีความอันตราย แต่ก็ใช่ว่ามันจะเป็นเชื้อโรคที่ดีต่อร่างกายมนุษย์ เพราะการที่หน้าจอของเราเต็มไปด้วยเชื้อโรคนั้นก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเจ็บป่วยด้วยโรคภัยต่าง ๆ ได้เช่นกัน ซึ่งสาเหตุของการที่มีเชื้อโรคมากมายขนาดนี้อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ก็มาจากคนเรานี่ล่ะค่ะ   [ads]   ดังนั้นเพื่อสุขอนามัยที่ดี ควรจะหมั่นทำความสะอาดโทรศัพท์บ่อย ๆ ด้วยการเช็ดด้วยน้ำฆ่าเชื้อ และควรจะทำความสะอาดมือให้สะอาดก่อนหยิบโทรศัพท์มาใช้อีกด้วย เพื่อที่โทรศัพท์ของเราจะได้ไม่ต้องสัมผัสกับเชื้อโรคที่มาจากมือของเรายังไงล่ะคะ   [ads=center] Illustration & Reference by: [online] http://exploringtheinvisible.com