เหตุผลทำไมคนญี่ปุ่นไม่แซงคิว โดย ฮารา ชินทาโร่

Advertisement ทำไมคนญี่ปุ่นเข้าแถว ไม่แซงคิว จากเฟซบุ๊ก ฮารา ชินทาโร่ อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี     ผมเองก็ไม่ทราบครับ ว่า ทำไมคนญี่ปุ่นเข้าคิวทุกครั้ง และแทบจะไม่มีใครกล้าแซงคิว มันเป็นหัวข้อที่น่าสนใจสำหรังงานวิจัยด้วย        สาเหตุหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ มันเป็นวัฒนธรรมในสังคมญี่ปุ่น ถูกสอนตั้งแต่สมัยอนุบาลศึกษา ทั้งพ่อแม่ ทั้งครู และทั้งบรรดาผู้ใหญ่จะดุเด็กๆ ที่แซงคิวหรือไม่เข้าคิว ดังนั้น ตั้งแต่สมัยเด็ก เราก็เข้าใจว่า การแซงคิวนั้นเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ ที่นี่ขอสังเกตว่า นี่ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับดีหรือไม่ดีครับ แต่อยู่ที่ว่า ทำได้หรือทำไม่ได้ เนื่องจากว่า ทุกครั้งพยายามจะแซงคิว เด็กๆ  จะโดนผู้ใหญ่ดุ และไม่มีผู้ใหญ่ที่แซงคิว ทำให้เด็กรู้ว่า ฉันก็ทำไม่ได้        อีกอย่าง คนที่แซงคิวถูกมองว่าเป็นคนที่ไม่มีคุณค่า เพราะคนนั้นเป็นคนที่เห็นแก่ตัว ไม่เกรงใจคนอื่น และทำให้คนอื่นรอนานเพราะความเห็นแก่ตัวของตนเอง ในที่นี่ ขอสังเกตว่า ชาวญี่ปุ่นเน้นความตรงต่อเวลามาก (ไม่ได้หมายความว่าทุกคนเป็นแบบนั้น แต่โดยส่วนใหญ่จะเป็นอย่างนั้น) ดังนั้น การแซงคิวหมายความว่า คนที่แซงนั้นไมให้เกียรติต่อเวลาของคนอื่น เมื่อคนใดคนหนึ่งไม่เห็นคุณค่าในเวลาของคนอื่น […]

อาหารแสลง ต้องห้าม 10 โรค

เรามักได้ยินคนเฒ่าคนแก่พูดถึงข้อห้ามมากมายเกี่ยวกับการกินและข้อควรปฏิบัติ เช่น คนที่ร้อนในง่ายห้ามกินของร้อน (คุณสมบัติหยาง) ของทอดๆ มันๆ ของเผ็ด เช่น       – กินทุเรียนแล้วห้ามกินเหล้า   – กินทุเรียนแล้วควรกินมังคุดหรือกินน้ำเกลือตาม   – กินลำไยมากระวังตาจะแฉะ   – เวลาเริ่มเป็นหวัด เจ็บคอ ควรกินพวกยาขม   – เวลาร้อนใน ให้กินน้ำจับเลี้ยง หรือกินน้ำเก๊กฮวย   – หญิงปวดประจำเดือนห้ามกินของเย็น (ลักษณะหยิน) เช่น แตงโม น้ำมะพร้าว   – คนที่กินยาบำรุงจีน ห้ามกินผักกาดขาว หัวไชเท้า ฯลฯ เพราะจะล้างยา (ทำไห้ฤทธิ์ของยาน้อยลง) ฯลฯ   คำกล่าวเหล่านี้ก็มีในทัศนะทางการแพทย์แผนจีนมาจากพื้นฐานที่ว่า “อาหารคือยา อาหารและยามีแหล่งที่มาเดียวกัน” การเลือกกินอาหารให้เหมาะสมเป็นศาสตร์และศิลป์ที่ต้องประยุกต์เปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องกับภาวะที่เป็นจริงของบุคคลเงื่อนไขของเวลาและสภาพภูมิประเทศ (สิ่งแวดล้อม) จึงจะเกิดผลที่ดีต่อสุขภาพ   ในแง่ของคนไข้ การเลือกกินอาหารให้เหมาะสม […]

เครื่องดื่มพิชิตพุงสลายไขมัน

เครื่องดื่มพิชิตพุงสลายไขมัน   เครื่องดื่มที่ช่วยกำราบพุงให้อยู่หมัด         นอกจากการออกกำลังกายจะเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินและลดหน้าท้อง ให้คุณหนุ่มๆ ได้แล้ว การดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพก็เป็นอีกวิธีง่ายๆ ที่สามารถลดพุงสลายไขมันหน้าท้อง เพื่อให้คุณมีหน้าท้องแบบราบได้เหมือนกันวันนี้เราก็มีตัวอย่าง เครื่องดื่มสำหรับลดพุงมาฝากกัน         1. ชามิ้นต์ ด้วยคุณสมบัติของมิ้นต์ จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารของคุณย่อยสลายไขมัน แม้แต่อาหารไขมันสูงอย่างเบอร์เกอร์หรือสเต็ก ก็จะถูกย่อยได้อย่างรวดเร็ว แถมยังลดอาการท้องอืดพร้อมเร่งการขับถ่ายได้อีกด้วย         2. ชาเขียว อย่างที่รู้กันว่าชาเขียวสามารถช่วยลดความอ้วน และควบคุมไขมันได้ด้วย นอกจากนี้ชาเขียวยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่า "คาเทซิน" ซึ่งช่วยลดไขมันบริเวณหน้าท้องได้ เพียงจิบชาเขียวก่อนออกกำลังกายก็ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมันในระหว่าง นั้นได้แล้ว         3. นมถั่วเหลือง ถั่วเหลืองมีสารแลคตินที่ช่วยป้องกันการสะสมไขมันของเซลล์ในร่างกาย พร้อมกับช่วยสลายไขมันส่วนเกิน เพียงดื่มนมถั่วเหลือง 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็จะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้ดี         4. […]

การศึกษาไทยระบบการศึกษาที่ ล้มเหลวที่สุดในอาเซียน

ระบบการศึกษาไทย ระบบการศึกษาที่ ล้มเหลวที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้   ระบบการศึกษาไทย คือหนึ่งในระบบการศึกษาที่ ล้มเหลวที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตกต่ำลงทุกปี บทความนี้เป็นประสบการณ์ของอาจารย์ชาวต่างชาติ Cassandra James ซึ่งเขียนขึ้นเมื่อปี 2008 และถูกเสนออีกครั้งผ่าน iReport ของเว็บไซต์ CNN ในปี 2013   ผู้เขียน (Cassandra James) สอนอยู่ในระบบการศึกษาไทยมากว่า 3 ปี และได้รับรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วระบบการศึกษาในไทยนั้นย่ำแย่แค่ไหน เงินงบประมาณที่ถมลงไปไม่เคยพอ ห้องเรียนขนาดใหญ่ที่มีนักเรียนมากกว่า 50 คนต่อห้อง ผลิตและพัฒนาครูย่ำแย่ นักเรียนขาดแรงผลักดัน และระบบที่บังคับให้นักเรียนผ่านชั้นได้แม้ว่าพวกเขาจะสอบตก จนคล้ายว่าเราจะมองไม่เห็นความหวังต่อการเปลี่ยนแปลงในระยะอันใกล้นี้   ผู้เขียนสอนในโรงเรียนเอกชนพหุภาษา ดังนั้นระดับความเข้มข้นของปัญหาจะน้อยกว่าโรงเรียนรัฐ แต่ถึงอย่างนั้น โรงเรียนก็ต้องตกอยู่ภายใต้ระบบราชการอันเทอะทะของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานไร้ประสิทธิภาพแห่งหนึ่งของโลก   กฏระเบียบเปลี่ยนแปลงทุกภาคการศึกษา หลักสูตรการสอน เนื้อหาแบบเรียน ข้อสอบ ฯลฯ แนวทางปฏิบัติใหม่ๆถูกสั่งการมายังครูอาจารย์ทุกๆเปิดเทอมใหม่ แล้วก็เปลี่ยนใหม่อีกทีในภาคการศึกษาหน้า     อาจารย์ทุกคนได้รับคำสั่งให้ปล่อยนักเรียนผ่านชั้นไปได้ แม้ว่าพวกเขาจะสอบตก และให้ปิดตาข้างหนึ่งให้กับปัญหาที่เราควรจะซีเรียสอย่างการลอกการบ้านส่ง   ทุกๆปี กระทรวงศึกษาธิการจะมีไอเดียสุดเลิศในการพัฒนาการศึกษา ซึ่งในขณะนั้น (ปี 2008) คือการบังคับให้อาจารย์ชาวต่างชาติทุกคนไปอบรมคอร์สวัฒนธรรมไทย แม้ว่าอาจารย์ชาวต่างชาติจำนวนมากจะอยู่ที่นี่มาหลายปีและเข้าใจวัฒนธรรมไทยดี   แต่เพื่อจะได้รับการต่ออายุใบอนุญาตเป็นอาจารย์ […]

10 เมนูอาหารค้างมื้อ เสี่ยงอาหารเป็นพิษ

อธิบดีกรมควบคุมโรค เตือนการทานอาหารที่ปรุงไว้นานหรืออาหารค้างมื้อ รวมทั้งการบริโภคอาหารทะเลที่ปรุงไม่สุกและน้ำที่ปนเปื้อน อาจทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ พร้อมแนะควรทานอาหารปรุงสุก รับประทานทันทีไม่เกิน 2-4 ชั่วโมง       นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเตือนประชาชนระวังการรับประทานอาหาร หรือน้ำ ที่ปนเปื้อนแบคทีเรีย ไวรัส หรือ พยาธิ ปนเปื้อนสารพิษ สารเคมี หรือโลหะหนัก เป็นต้น เพราะอาจทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ โดยอาการของโรคจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากรับประทานอาหารแล้ว อาการส่วนใหญ่จะถ่ายอุจจาระเป็นน้ำและปวดมวนท้องรุนแรงเฉียบพลัน บางครั้งมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เป็นไข้และปวดศีรษะ บางครั้งมีอาการคล้ายเป็นบิด ถ่ายอุจจาระปนเลือด หรือเป็นมูก ไข้สูง และมีจำนวนเม็ดเลือดขาวสูง เป็นโรคที่ไม่ค่อยรุนแรง มีระยะเวลาดำเนินโรค 1-7 วัน การติดเชื้อในระบบอื่นของร่างกายและการตายพบได้ แต่พบน้อยมาก ระยะฟักตัว ปกติ 6-25 ชั่วโมง หรืออยู่ในช่วง 4-30 ชั่วโมง โรคอาหารเป็นพิษ มักป่วยไม่รุนแรงรักษาได้ตามอาการ เช่น อาการ ปวดท้อง และการทดแทนด้วยน้ำและเกลือแร่ ด้วยสารละลายเกลือแร่ […]

14 คำสอนดีๆจากหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ

ถึงแม้ท่านลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ท่านจะละสังขารไปนาน แต่ก็ยังมีพุทธศาสนิกชนอยู่หลายๆคนที่ยังคงระลึกถึงท่านอยู่ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ยังระลึกถึงท่านอยู่เสมอๆ เนื่องจากเคยเข้าไปเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ที่วัดชลประทานอยู่หลายปี แต่ถึงแม้ตัวท่านจะจากไปแต่คำสอนของท่านก็ยังอยู่ให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้นำไปใช้อยู่นะครับ 1. ศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ตัวเราเอง 2. ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอวดดี 3. การกระทำที่โง่เขลาที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การหลอกลวง … 4. สิ่งที่แสนสาหัสที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอิจฉาริษยา 5. ความผิดพลาดมหันต์ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การยอมแพ้ตัวเอง 6. สิ่งที่เป็นอกุศลที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การหลอกตัวเอง 7. สิ่งที่น่าสังเวชที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความถดถอยของตัวเอง 8. สิ่งที่น่าสรรเสริญที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอุตสาหะ วิริยะ 9. ความล้มละลายที่สุดในชีวิตเรา ก็คือความสิ้นหวัง 10. ทรัพย์สมบัติที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ สุขภาพที่สมบูรณ์  11. หนี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ หนี้บุญคุณ 12. ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ […]

วิเคราะห์เพราะอะไร ภาษาอังกฤษไทยถึงรั้งท้ายอาเซียน!!

หลายคนคงจะเห็นข่าวที่ออกมานะครับ ว่าการศึกษาของบ้านเรานั้นถือว่ารั้งท้ายในอาเซียน ทั้งๆที่เด็กไทยเรียนมากติดอันดับโลก!! โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ที่ถือว่าสำคัญมากๆในโลกยุคปัจจุบัน เด็กไทยก็ยังไม่ให้ความสำคัญเท่าไร ผลการประเมินออกมาก็รั้งท้ายๆในอาเซียนเหมือนกัน อยากรู้มั้ยครับว่ามันมีสาเหตุมาจากอะไร โดยเว็บไซต์ TastyThailand ออกมาเปิดเผยบทความน่าสนใจ โดยตั้งหัวข้อว่า ทำไมภาษาอังกฤษของไทยถึงแย่อันดับท้ายๆในอาเซียน เพราะระบบการศึกษางั้นหรือ? และออกมาวิเคราะห์ว่าทำไมถึงเป็นเพราะสาเหตุนั้น     1. ระบบการศึกษาไทยเน้นท่องจำ   ท่องกันจนไปเป็นนกแก้วนกขุนทอง!! ระบบการศึกษาไทยมักจะสอนให้เด็กท่องจำจากที่ครูสอน แกรมมาร์และคำศัพท์ถูกเขียนบนกระดานดำ ให้เด็กอ่านและจำ ซึ่งไม่มีการวิเคราะห์พูดคุย หรือตั้งคำถามคำตอบเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ตอนเรียน เพราะจะกลัวว่าจะถูกด่าว่าโง่นั่นเอง   2. ไม่มีการสอนคิดแบบวิเคราะห์   การเรียนการสอนของไทยนั้น สอนให้รับรู้ ไม่ต้องคิดและไม่ต้องถามว่าสิ่งที่สอนนั้นถูกต้องจริงหรือ ซึ่งคนไทยต้องหัดคิดวิเคราะห์เพื่อแยกแยะโครงสร้างซับซ้อนของภาษา แต่พวกเขาทำไม่ได้ ทำให้เกิดการที่เรามักจะเห็นคนไทยเชื่อข่าวปลอมๆ หรือข่าวลวงๆ โดยไม่มีการคิดวิเคราะห์อยู่เป็นประจำ   รวมถึงการขาดความสามารถด้านนี้ ทำให้คนไทยไม่กล้าพูดอังกฤษเข้าไปอีก นับว่าเป็นปัญหาลูกโซ่ต่อมาเลยทีเดียว   3. ครูไทยไร้คุณภาพ   ข้อนี้อาจจะกระทบครูหลายคน ครูไทยไม่ใช่บุคลากรที่ยอดเยี่ยมมากทางด้านภาษาอังกฤษ แถมยังเติบโตมาพร้อมกับการสอนภาษาอังกฤษที่ไม่ค่อยได้มาตรฐาน รวมถึงตัวครูเองก็ไม่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างดีเยี่ยม และแม่พิมพ์ของชาติเหล่านี้ก็ส่งผลกระทบต่อเด็กไทยนั่นเองครับ   4. ครูต่างชาติไม่ได้มาตรฐาน […]

ผู้เชื้อเชิญความตาย

ผู้เชื้อเชิญความตาย ภาพประกอบชื่อ Hunger โดย Käthe Kollwitz ศิลปิน Expressionistic ชาวเยอรมัน      Hegesias คือ นักปรัชญาชาวกรีก ที่รู้จักกันในนาม ''ผู้เชื้อเชิญความตาย'' เขาเป็นผู้สนันสนุนให้ผู้คนจำนวนมากกระทำอัตวินิบาตกรรม Hegesias เปิดสำนักสอนเล็ก ๆ และปลูกฝังความคิดที่ว่า “ชีวิตล้วนเต็มไปด้วยความชั่วร้าย เป้าหมายของการมีชีวิตคือการเลี่ยงความเจ็บปวดและความโศกเศร้า”    Hegesias มีความเชื่อว่าการแสวงหาความสุขนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ เขาเขียนหนังสือ ''การตายโดยอดอาหาร'' เพื่อชักชวนให้ผู้คนจำนวนมากฆ่าตัวตาย หนังสือของเขาบรรยายรายละเอียดของความมืดมน ความทุกข์ยากในชีวิต การมีชีวิตอย่างทาสหรือความยากจนล้วนไม่มีทางพบกับความสุข หนังสือของเขาได้ตีพิมพ์ขึ้นในอเล็กซ์ซานเดรีย ทว่าเขาก็ไม่ได้รับอนุญาติให้เผยคำสอนดังกล่าวในอียิปต์ และที่นั่นทำให้เขาได้รับแนวคิดทางพระพุทธศาสนาจากคณะสงฆ์ของอินเดีย ที่เดินทางมาเผยแพร่ศาสนา   ขอบคุณข้อมูลจาก ฉันชอบประวัติศาสตร์ I like History

5 โรคฮิตของคนติดจอ

5 โรคฮิตของคนติดจอ 1. โรคซึมเศร้าจากเฟซบุ๊ก (Facebook Depression Syndrome)                หลายคนอาจสงสัยว่า เล่นเฟซบุ๊กก็มีเพื่อนตั้งมากแล้วจะเป็นโรคซึมเศร้าได้อย่างไร แต่อาการนี้เกิดขึ้นได้จริง ๆ เพราะคนเราเมื่อติดอยู่แต่หน้าจอ จิ้ม ๆ กด ๆ คุยกับคนในโลกออนไลน์ ก็กลายเป็นไปเพิกเฉยต่อคนในโลกจริง แถมหลายคนใช้เฟซบุ๊กเป็นเครื่องระบายความรู้สึกมากขึ้น โดยเฉพาะเวลาเราว้าเหว่ เหงา เดียวดาย ก็ยิ่งโพสต์เยอะ                โดย ธาม เชื้อสถาปนศิริ นักวิชาการสถาบันวิชาการสื่อสาธารณะ (สวส.) ได้เขียนบทความให้ความรู้เรื่องโรคซึมเศร้าจากเฟซบุ๊ก ไว้อย่างน่าสนใจว่า วารสารการแพทย์กุมารเวชศาสตร์ สหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาเรื่องนี้ และพบว่า คนที่ถูกเพื่อน ๆ ปฏิเสธหรือเป็นที่รังเกียจในโลกเฟซบุ๊กจะเป็นอันตรายมากกว่าถูกปฏิเสธในโลก แห่งความจริง และหลายรายอาจมีปัญหาซึมเศร้าตามมา                นั่นเพราะเฟซบุ๊กได้สร้างความเป็นจริงเทียม (artificial reality) ขึ้นมา จากการโพสต์แต่เรื่องดี ๆ แต่เก็บงำเรื่องร้าย ๆ แย่ ๆ ที่อยากปกปิดเอาไว้ เราถึงเห็นแต่คนที่มีชีวิตสมบูรณ์แบบในโลกเสมือนจริงเต็มไปหมด เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับตัวเอง […]

เหตุใด GOOGLE จึงรับพนักงานโดยไม่แคร์ใบปริญญา

หลายๆท่านคงทราบนะครับว่า ผู้ประสบความสำเร็จในโลกนี้หลายๆคนไม่ได้จบปริญญาอะไรมาเลย นั่นก็หมายความได้อย่างนึงว่าปริญญาเป็นสิ่งที่สำคัญแต่ไม่ได้มากที่สุดในชีวิต อย่างบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง google ก็รับสมัครพนักงานโดยไม่ได้คำนึงถึงใบปริญญา โดยบล็อกของ Venturebeat ที่ว่าด้วยแง่คิดของ Google ในประเด็นนี้ ซึ่งถือว่าน่าสนใจมากๆ และเป็นแง่คิดที่ผู้บริหารยุคใหม่ๆ อาจจะนำมาคิดทบทวนเช่นเดียวกับเด็กจบใหม่ที่ควรเริ่มคิดเกี่ยวกับการงานของตัวเองด้วยเหมือนกัน บล็อกดังกล่าวนั้นต่อยอดมาจากการให้สัมภาษณ์ของ Laszlo Bock ซึ่งเป็น Chariman และ Head of Hiring ที่ Google โดย Venturebeat นั้นเอาบทสัมภาษณ์ใน The New York Times มาสรุปแง่คิดสำคัญ 5 ข้อ ซึ่งถือว่าดีและเป็นแรงบันดาลใจได้เยี่ยมทีเดียว     1.คุณไม่ต้องการใบปริญญาเพื่อจะมีพรสวรรค์   Bock ให้ความเห็นว่า “เมื่อคุณมองไปยังคนที่ไม่ได้ไปเรียนหนังสือแต่สามารถหาทาง(มีชีวิตและประสบความสำเร็จ)ให้กับตัวเองได้ พวกเขาเหล่านั้นล้วนเป็นคนที่ไม่ธรรมดาทั้งสิ้น และเราควรทำทุกวิถีทางเพื่อหาพวกเขาให้เจอ”   หลายธุรกิจอาจจะต้องการวุฒิปริญญาสำหรับการทำงาน แต่ที่ Google นั้นไม่ใช่ข้อจำกัดพื้นฐานแต่อย่างใด เนื่องจากทุกวันนี้มีระบบการเรียนการสอนนอกสถาบันมากขึ้นเรื่อยๆ และมีคนจำนวนมากที่สามารถเรียนรู้พร้อมกับพัฒนาทักษะของตัวเองเพื่อจะสามารถทำงานกับบริษัทได้   ตัวผมเอง ก็เจอประสบการณ์ที่สอดคล้องกับแง่คิดนี้พอสมควร (ตัวผมเองก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน) ผมพบคนหลายคนที่ไม่ได้เรียนตรงสายกับงานที่ทำ […]

1 699 700 701 702
error: