ครม.ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5-22 บาท เริ่ม1เม.ย.นี้!!

Advertisement   Advertisement ครม.ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5-22 บาท จะแบ่งกลุ่มจังหวัดไม่เท่ากันตามสภาพความเจริญทางเศรษฐกิจ ตั้งแต่ 308 – 330 บาท มีผลวันที่ 1 เม.ย.61 และออกแผนรองรับผลกระทบ เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นตั้งแต่ 5-22 บาท จะแบ่งกลุ่มจังหวัดไม่เท่ากันตามสภาพความเจริญทางเศรษฐกิจ ตั้งแต่ 308 – 330 บาท ซึ่งเป็นอัตราที่เพียงพอสำหรับแรงงานทั่วไปให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ตามมาตรฐานการครองชีพ สภาพเศรษฐกิจและสังคม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 นอกจากนี้รัฐบาลออก 3 มาตรการคุ้มครองผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้น Advertisement 1.มาตรการลดหย่อนภาษี ให้ผู้ประกอบการนำรายจ่ายที่จ่ายเป็นค่าแรงให้ลูกจ้างมาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 1.15 เท่า มีผล 1 เมษายนจนถึงสิ้นปีนี้ เงื่อนไขสำหรับผู้ประกอบการที่จะลดหย่อนได้คือ มีลูกจ้างไม่เกิน 200 คน และบริษัทต้องมีรายได้ไม่เกิน […]

‘บิ๊กป้อม’ลั่นแมนๆ!! พร้อมลาออกถ้าประชาชนไม่ต้องการ ยันทำเพื่อชาติตลอด50กว่าปี!!

  "บิ๊กป้อม" ลั่นหากประชาชนไม่ต้องการ พร้อมลาออก ชี้ 50 ปี รับราชการ ไม่เคยเจอเรื่องหนักๆ วอนสื่อพิจารณาว่าทำประโยชน์อะไรบ้าง เมื่อวันที่ 31 ม.ค.61 ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม จัดงานเลี้ยงอาหารกลางวันให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม ผบ.เหล่าทัพ และข้าราชการกระทรวงกลาโหม รวมถึงสื่อมวลชนสายทหาร เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2561 โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวตอนหนึ่งว่า กระทรวงกลาโหมได้สนับสนุนรัฐบาลมาโดยตลอดในเวลา 3 ปี 8 เดือน ซึ่งการดำเนินการตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทุกคนในกระทรวงกลาโหมได้ทำงานให้เกิดความมั่นคงแก่รัฐบาลและประเทศชาติ โดยดูจากงานด้านความมั่นคงจะเห็นอย่างชัดเจนในเรื่องของความสงบเรียบร้อยของประเทศ ไม่มีเหตุการณ์ใดๆ ที่บั่นทอนหรือแตกแยกเกิดขึ้น และเราได้ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนได้อยู่กันด้วยความสงบ พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า เราได้ร่วมกันพัฒนาในเรื่องของความมั่นคง และอยู่ร่วมกันอย่างสันติไม่มีแบ่งสีแบ่งฝ่าย ซึ่งยอมรับว่าทำงานด้วยความยากลำบาก แต่ได้รับการสนับสนุนจากสื่อมวลชนมาด้วยดี โดยตลอดระยะเวลา เกือบ 4 ปีที่ผ่านมา เราได้ใช้ความพยายามด้วยกันอย่างต่อเนื่อง ในการประคับประคองบ้านเมืองให้คลี่คลายปัญหาด้านความขัดแย้งในสังคม ควบคู่ไปกับบทบาทและภารกิจในการรักษาเสถียรภาพด้านความมั่นคงของประเทศให้ได้ พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันต้องสนับสนุนรัฐบาลในการเป็นกลไกการบริหารราชการแผ่นดิน และการขับเคลื่อนประเทศให้เดินหน้าต่อไป […]

ราชกิจจาเผยแพร่กฎหมายข้าราชการทหารฉบับที่11 เพิ่มเงินตำแหน่งวิชาการ-วิทยฐานะ สายการสอน เริ่ม2,500-15,600บาท

  เมื่อวันที่ 26 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการทหาร (ฉบับที่ 11) พ.ศ.2561 ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมบัญชีอัตราเงินประจำตำแหน่งข้าราชการทหาร ประเภทวิชาการในสถาบันการศึกษาสังกัดกระทรวงกลาโหมโดยไม่นำชั้นยศทางทหารมาเป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาการดำรงตำแหน่งทางวิชาการ เพื่อส่งเสริมและสร้างแรงจูงใจในการสร้างผลงานทางวิชาการของข้าราชการทหารผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว และเพิ่มบัญชีอัตราเงินประจำตำแหน่งข้าราชการทหาร ประเภทวิทยฐานะ เพื่อให้ข้าราชการทหารผู้ปฏิบัติงานด้านการสอน มีสิทธิได้รับเงินวิทยฐานะ อันจะเป็นการสร้างขวัญกำลังใจและเป็นไปโดยสอดคล้องกับภาระหน้าที่ โดยในท้ายประกาศได้กำหนดบัญชีอัตราเงินประจำตำแหน่ง(บาทต่อเดือน)  ดังนี้ ศาสตราจารย์ 15,600  13,000    รองศาสตราจารย์9,900    5,600   ผู้ช่วยศาสตราจารย์ 5,600  3,500    นอกจากนี้ยังได้กำหนดเงินวิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญพิเศษ 15,600  13,000   ครูเชี่ยวชาญ 9,900  ครูชำนาญการพิเศษ 5,600  ครูชำนาญการ 3,500  และครูชำนาญการต้น 2,500  ทั้งนี้มีผลให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา     คลิกที่นี่เพื่ออ่านราชกิิจจานุเบกษาฉบับเต็ม

‘บิ๊กป้อม’ลั่น มีเลือกตั้งแน่นอน!! แค่เลื่อนไปปี62 ชี้ถ้าอยู่สงบเรียบร้อย ก็ไม่มีอะไร!! (มีคลิป)

  เมื่อเวลา 10.15 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ลงมติร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.โดยให้ขยายเวลาบังคับใช้ออกไป 90 วัน ส่งผลให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไป พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็จะได้รู้ว่าเลือกตั้งแน่นอน ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนที่มีข้อสังเกตว่าเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่เป็นไปตามที่คสช.ประกาศไว้ตามโรดแมป ว่าจะเลือกตั้งในปี 2561 นั้น เมื่อสนช.เห็นอย่างนี้แล้วสื่อจะมาถามอะไร เรื่องนี้ไม่ต้องเตรียมคำชี้แจงต่อนานาชาติ เรื่องนี้คสช.ก็พิจารณาเห็นชัดเจน จะต้องชี้แจงอะไร เมื่อถามว่าก่อนหน้านั้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เคยประกาศทั้งในและนอกประเทศ เมื่อเลื่อนการเลือกตั้งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นต่อคำพูดของนายกฯอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่กระทบ ต่างชาติต้องการให้เลือกตั้งก็มีการเลือกตั้งอยู่แล้ว ไม่มีอะไร แค่เลื่อนเวลาออกไป 3 เดือน ต่อข้อถามว่าถึงข้อสังเกตว่าสนช.อาจสร้างสถานการณ์เพื่อให้การผลการโหวตออกมาให้มีการขยายเวลาออกไป พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สนช.อภิปรายกันทั้งวัน และคนระดับนี้แล้วจะไปสร้างสถานการณ์อะไร ผู้สื่อข่าวถามว่าจะให้ความมั่นใจได้หรือไม่ ว่าจะเกิดการเลือกตั้งต้นปี 2562 และจะไม่มีการเลื่อนตั้งออกไปอีก พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ชัดเจนแล้ว ตามรัฐธรรมนูญ ไม่มีทางเลื่อนไปได้ และไม่น่ามีปัจจัยอะไรที่ทำให้เลื่อนออกไป ถ้าเราอยู่กันอย่างสงบเรียบร้อยแบบนี้ก็ไม่มีอะไร สำหรับเสียงเรียกร้องของพรรคการเมืองให้ปลดล็อกนั้น ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยเดี๋ยวก็ปลด […]

ลุ้นสุดใจ!! สมาชิกสนช. เอาใจคสช. เสนอ‘เลื่อนเลือกตั้ง5ปี’

  วันที่ 25 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ซึ่งพิจารณามาตรา 2 การให้ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ภายหลังพ้น 90 วันนับจากการประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยมีกมธ.เสนอทั้งการขยายเวลา 90 วัน และ 120 วัน ด้วยเหตุผลเพื่อให้ประชาชนและพรรคมีความเข้าใจและดำเนินการกิจกรรมทันตามที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนดนั้น ปรากฎว่า มีพ.ต.ท.พงษ์ชัย วราชิต สมาชิกสนช. อภิปรายเสนอว่า ถ้าประเทศไทยไม่มีวันที่ 22 พ.ค. 2557 เราจะไม่มีประเทศไทยแบบทุกวันนี้ จะมีแต่การเผาบ้านเผาเมือง แบ่งแยกประเทศ จับอาวุธสงครามมากมาย แต่การพัฒนาประเทศจะไม่เกิดขึ้น ขอถามว่าที่ผ่านมานักการเมืองทำอะไรเพื่อประเทศและประชาชนบ้าง มีแต่ใช้วาทะกรรมบิดเบือน ชักศึกเข้าบ้าน ซึ่งเรื่องการขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้น ขอเสนอให้บังคับใช้กฎหมายหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 60 เดือนหรือ 5 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์

ช็อควงการมหา’ลัย!! แชร์สนั่นหนังสือสั่งการ ‘ลดเงินอุดหนุนสาขาที่จบมาแล้วไม่มีงานทำ/ไม่ตรงความต้องการ’

  23 ม.ค.61 เฟซบุ๊ก Weeraboon Wisartsakul โพสต์ภาพหนังสือคำสั่งราชการจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สนองนโยบายนายกรัฐมนตรีในการปรับปรุงระบบการศึกษาให้เข้ากับบริบทของสังคมโลก โดย 1 ในประเด็นที่น่าสนใจจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากก็คือ "2. กรณีการสนับสนุนงบประมาณให้อุดมศึกษา ให้ควบคุมสาขาที่ไม่มีงานทำ/ไม่ตรงความต้องการ การลดเงินอุดหนุน หรือไม่ให้ เช่น จีน ทำเหตุผล จบมาไม่มีงานทำ ต้องใช้หนี้ กยศ./ปัญหาต่อเนื่อง" ซึ่งเป็นประเด็นสะเทือนวงการการศึกษาระดับอุดมศึกษาเป็นอย่างมาก ในเรื่องของการจ้างงานของอาจารย์มหาวิทยาลัย ที่อาจต้องเปลี่ยนสถานะเป็นลูกจ้าง และรายได้อาจลดลง ในขณะที่นิสิต-นักศึกษา อาจต้องเบนเข็มไปเรียนสาขาที่ตรงความต้องการของตลาดแรงงาน     โดยโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไปกว่า 2,000 ครั้ง และถูกพูดถึงกว่า 200 ความคิดเห็นถึงปัญหาดังกล่าว อย่างไรก็ดี ต้องติดตามต่อไปว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดในแบบใดบ้างหรือไม่     ขอบคุณข้อมูลจาก : Weeraboon Wisartsakul

แก้ปัญหาวิ่งเต้นไร้ผลงาน!! ‘บิ๊กตู่’วางระบบข้าราชการใหม่ ให้ผู้น้อยประเมินงานเจ้านายได้!!

  ลูกน้องมีสิทธิประเมินเจ้านาย…“บิ๊กตู่” ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ บูรณาการการพัฒนาประเทศไทย 4.0เตรียมวางระบบให้ข้าราชการผู้น้อยประเมินผู้บริหารได้ แก้ปัญหาวิ่งเต้นขอตำแหน่งโดยไร้ผลงาน เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 ม.ค. ที่อิมแพ็คเมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนานักบริหารระดับสูงเพื่อการบูรณาการการพัฒนาประเทศไทย 4.0 และการปาฐกถาพิเศษเรื่อง "ผู้บริหารส่วนราชการกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ : One Country One Team" โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านประเทศที่มีประชาธิปไตยอย่างยั่งยืนแบบไทยนิยม ที่คนไทยนิยมทำความดีความถูกต้องมีคุณธรรมจริยธรรม และนิยมประชาธิปไตยที่ไม่ทิ้งหลักประชาธิปไตยสากล ซึ่งตนเองไม่เคยให้ยกเลิกอะไร แต่เวลาจากนี้สำคัญที่สุดในการบริหารราชการแผ่นดิน และทำคุณประโยชน์ประเทศชาติ ขอบคุณทุกคนทำงานเต็มที่ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา แต่หลายคนอาจจะเข้าใจและไม่เข้าใจ จึงขอให้อดทน เพราะตนเองพยายามทำเต็มที่หน้าที่ของตนเอง หากทุกคนทำเต็มที่จะผ่านอุปสรรคไปได้     นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกวันนี้รัฐบาลทำงานไม่มีคนรู้เรื่องว่ารัฐบาลทำอะไรไปบ้าง ฉะนั้น ผู้บริหารระดับสูงต้องช่วยกันด้วย จากนี้ไปจะมีการเตรียมวางระบบประเมินผู้บริหารระดับสูงของภาครัฐ เพื่อลดการวิ่งขอตำแหน่ง เอาผลงานมาวิ่งไม่ใช่มาขอเข้าพบ ต่อไปนี้ต้องสร้างการรับรู้ให้ประชาชน แต่เดิมผู้บริหารระดับสูงจะเป็นคนประเมินผู้น้อย จากนี้ไปผู้น้อยและข้าราชการจะเป็นผู้ประเมินผู้บริหารระดับสูงในภาครัฐด้วย โดยมอบหมายให้ นายวิษณุ […]

ประกาศแล้ว!! สปส.เผย’ผู้ประกันตน’ได้เงินช่วยเหลือทางการแพทย์เหมือน’บัตรทอง’ เหลือแต่ข้าราชการที่ไม่ได้!!

  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากปัญหาความไม่เข้าใจระหว่างบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย กรณีการรักษาพยาบาลที่อาจเกิดข้อพิพาทจนหลายครั้งเป็นคดีความตามที่มีข่าวมาตลอด แต่หลายครั้งก็มีการเจรจาจนสามารถตกลงกันได้ผ่านการช่วยเหลือเบื้องต้น ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีกองทุนช่วยเหลือเบื้องต้น แบ่งเป็นเสียชีวิต ทุพพลภาพ บาดเจ็บจากการบริการสาธารณสุข ซึ่งจะครอบคลุมให้แก่ผู้ป่วยในสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือผู้ป่วยบัตรทอง 48 ล้านคน ยกเว้นสิทธิประกันสังคมและสิทธิสวัสดิการข้าราชการ แต่ล่าสุดปรากฏว่าสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้ให้สิทธิผู้ประกันตนกว่า 13 ล้านคน เหลือเพียงสิทธิข้าราชการกลุ่มเดียวเท่านั้นที่ยังไม่มี ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 มกราคม นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) กล่าวว่า แม้ปัญหาคดีการฟ้องแพทย์จะเพิ่มขึ้น แต่ประเทศไทยยังไม่ได้เพิ่มมาก เนื่องจากมองว่ามีมาตรา 41 ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ซึ่งมีมาตรการในการช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ป่วยและญาติ โดยเพดานสูงสุดอยู่ที่ 400,000 บาทในกรณีเสียชีวิต ซึ่งเงินนี้จะได้รับอย่างรวดเร็ว ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ป่วยและญาติได้ ทำให้ส่วนใหญ่ไม่ติดใจที่จะนำคดีขึ้นสู่ศาล แต่ปัญหาที่ผ่านมาคือ กลับไม่มีการช่วยเหลือลักษณะนี้ในสิทธิประกันสังคมและสิทธิข้าราชการ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา สนช.ได้ผลักดันในการแก้ พ.ร.บ.ประกันสังคม ฉบับที่ 4 พ.ศ.2558 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาตั้งแต่วันที่ […]

(บทความเก่ามาเล่าใหม่)เลื่อนเงินเดือนระบบใหม่6% ฝันที่ไปไม่ถึง..ข้าราชการไทย

  สำหรับข้าราชการไทยเงินเดือนถือเป็นรายได้หลักของครอบครัว การขึ้นเงินเดือนข้าราชการดูจะเป็นเรื่องใหญ่ที่มีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศเสมอ ดังจะเห็นได้จากทุกครั้งที่รัฐบาลประกาศนโยบายขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ราคาของสินค้าในท้องตลาดจะต้องมีการขยับขึ้นทุกครั้งไป การเปลี่ยนระบบโครงสร้างเงินเดือนของข้าราชการไทยครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ.2552 ได้มีการยกเลิกระบบบัญชีเงินเดือนมาเป็นการเลื่อนขั้นเงินเดือนแบบเปอร์เซ็นต์ (ขึ้นได้ไม่เกินรอบละ 6%) เป็นการมอบอำนาจให้ส่วนราชการบริหารเงินที่ได้รับจัดสรร (3%) ของตนเอง ซึ่งวิธีการเลื่อนเงินเดือนแบบนี้ เริ่มมีการใช้กับข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน 2554 (การพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนรอบที่ 1 (ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม ถึง 31 มีนาคม) จนถึงปัจจุบันมหาวิทยาลัยได้ใช้วิธีการประเมินการเลื่อนขั้นเงินเดือนแบบนี้ไปแล้ว 3 รอบ ผลการประเมินเป็นที่พอใจบ้าง ไม่พอใจบ้าง ก่อให้เกิดเป็นคำถามคาใจกับพวกเราหลายๆ ประเด็น เช่น ตกลงว่าการใช้ระบบการขึ้นเงินเดือนแบบใหม่ดีกว่าแบบเดิมหรือไม่? ในวันนี้ผมจะยังไม่ตอบว่าระบบใหม่ดีกว่าระบบเก่าหรือไม่ แต่อยากขอให้ท่านทั้งหลายลองเปรียบเทียบจำนวนเงินที่ท่านได้รับจากการเลื่อนเงินเดือนทั้งสามรอบที่ผ่านมากับบัญชีการเลื่อนขั้นเงินเดือนแบบเก่าดู ท่านทั้งหลายก็จะได้คำตอบสำหรับตัวท่านเองในประเด็นนี้ แต่ผมมีสิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกท่านคือ ไม่ว่าผลของการเปรียบเทียบที่ท่านพบจะเป็นอย่างไร ท่านจะชอบหรือไม่ชอบวิธีการเลื่อนขั้นเงินเดือนแบบใหม่นี้ก็ตาม ท่านทั้งหลายที่เป็นข้าราชการก็จำเป็นจะต้องยอมรับ และใช้ระบบการเลื่อนเงินเดือนแบบนี้ต่อไป จนกว่ารัฐบาลจะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้น ณ จุดนี้ ผมจึงอยากให้พวกเราหันมาทำความเข้าใจกับ “กระบวนการประเมินผลการปฏิบัติราชการ” แบบใหม่ที่มหาวิทยาลัยใช้ประเมิน ซึ่งผมสรุปขั้นตอนสำคัญๆ ของการประเมินออกเป็น 4 ขั้นตอน ดังแสดงใน (ดูตารางที่ 1) […]

บอร์ดค่าจ้างเตรียมชงประกันสังคม ลดอัตราจ่ายเงินสมทบ’นายจ้าง-ลูกจ้าง’ลง1% เป็นเวลา1ปี

  จากกรณีคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) เตรียมประชุมเครือข่ายแรงงานถึงกรณีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำอัตรา 5-22 บาท ทั่วประเทศ โดยขอให้มีการทบทวนใหม่ ขณะที่ปลัดกระทรวงแรงงานยืนยันว่าไม่มีการทบทวนนั้น นายอรรถยุทธ ลียะวณิช ประธานสมาคมนายจ้างผู้ประกอบการค้าขนมไทย ในฐานะกรรมการค่าจ้างฝ่ายนายจ้าง กล่าวว่า มติการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำปี 2561 เป็นมติร่วมกัน ตนขอไม่พูดถึงเรื่องนี้ว่าใครจะพอใจหรือไม่พอใจ ก็ให้เป็นเรื่องของแต่ละฝ่าย อีกอย่างตนก็เป็นกรรมการค่าจ้างคงไม่ออกมาพูดว่าจะพอใจหรือไม่อย่างไร เพราะเป็นข้อสรุปของคณะกรรมการค่าจ้างแล้ว เมื่อถามถึงมาตรการช่วยเหลือนายจ้าง นายอรรถยุทธ์ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือ ทั้งเรื่องของการลดหย่อนภาษี 1.5 เท่า นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังมีข้อเสนอให้มีการลดการจ่ายเงินสมทบประกันสังคมทั้งส่วนของนายจ้างและลูกจ้างฝ่ายละ 1% เป็นเวลา 1 ปีด้วย ซึ่งตรงนี้คงต้องรอเสนอไปยังคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.) เพื่อพิจารณา ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีความรวดเร็ว เพราะอยู่ภายใต้กระทรวงแรงงงานเหมือนกัน ตรงนี้นับว่าเป็นผลดีทั้งกับฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเสนอให้มีการประกาศโครงสร้างค่าจ้างและค่าจ้างลอยตัว นายอรรถยุทธ์ กล่าวว่า นายจ้างก็พร้อมที่จะทำอยู่แล้ว เพราะว่าเป็นเรื่องที่ดีมีประโยชน์กับทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างเอง อย่างการประกาศโครงสร้างค่าจ้างก็จะทำให้ทั้งสองฝ่ายรับรู้ เช่น นายจ้างรู้ว่าจะต้องมีรายจ่ายเท่าไร และลูกจ้างรู้ว่าจะมีรายรับเข้ามาอย่างไรในแต่ละปี ทำให้วางแผนค่าใช้จ่ายกันได้ และการมีโครงสร้างค่าจ้างเช่นนี้ว่าแต่ละปีลูกจ้างจะได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้นเท่าไรอย่างไร ซึ่งหากทำจน ข่าวจาก : […]

1 976 977 978 1,012
error: