เปิดหน้าแฉ! ผอ.รร.ดังลำปางเก็บเงินรายได้ต่างๆ เข้ากระเป๋าทุกเม็ดแบบไม่ผ่านระบบ”42ล้าน”จนได้บ้านหรู3หลังในเวลาไล่ๆกัน! ยัดหนี้ให้ลูกน้องยันคนขับรถ-คนสวน!(มีคลิป)

Advertisement   Advertisement อดีตเลขาฯ ส่วนตัว ผอ.ร.ร.ดังลำปางเปิดหน้าแฉชัด หลังกำลังกลายเป็นแพะต้องรับหน้าเป็นหนี้แทน ผอ.ยอดกว่า 10 ล้านบาท เผยที่ผ่านมา 4 ปีเงินรายได้ต่างๆ เข้ากระเป๋า “ผู้อำนวยการ” แบบไม่ผ่านระบบกว่า 42 ล้านบาท-สร้างบ้านหรู 3 หลังรวด ล่าสุด สพฐ.รับเรื่องตั้งกรรมการสอบแล้ว นางสุรณี กัลยารัตนกุล หรือครูต้อย อดีตครูเกษียณราชการ และอดีตเลขานุการส่วนตัวของ ผอ.โรงเรียนดังในลำปาง พร้อมด้วยเจ้าหนี้ ซึ่งเป็นครู-อดีตครูที่ชิงลาออกก่อน ได้หอบเอกสารที่เกี่ยวข้องมาร้องขอความช่วยเหลือต่อสื่อมวลชน เพื่อให้ติดตามเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนดังกล่าว         หลังเข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปาง และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 1 ไปแล้ว แต่เรื่องยังไม่คืบหน้า ประกอบกับ ผอ.คนดังกล่าวกำลังจะเกษียณอายุราชการในอีกไม่กี่เดือนที่จะถึงนี้ ขณะที่ “ครูต้อย” กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักที่ต้องรับหน้าเป็นหนี้แทน ผอ.โรงเรียน ที่ไหว้วานให้ไปกู้ยืมเงินมาใช้กว่า 10 ล้านบาท สุดท้าย ผอ.เบี้ยวหน้าตาเฉย อ้างไม่เคยเซ็นเอกสารใดๆ ในการกู้ยืมเงิน         ครูต้อยเปิดเผยว่า เดิมตนเป็นครูที่โรงเรียนดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองลำปาง […]

“วิษณุ”เผยจุดประสงค์ ม.77 คุมเว็บไซต์-สื่อโซเชียลก็เพื่อให้คนไทยรู้ข้อมูล ไม่ให้ทุกอย่างลับลวงพราง!!

  รองนายกฯ บรรยายทิศทางของการดำเนินการตาม ม.77 ให้นักกฎหมายกฤษฎีกา รุ่นที่ 1 ชี้ใจความสำคัญ 3 วรรค อ้างกฎหมายยุทธศาสตร์มีคนแสดงความเห็นผ่านเว็บแค่ 19 ราย ไม่สามารถบังคับได้ เผยร่วมมือสำนักงานอิเล็กทรอนิกส์สร้างเว็บกลางนำ กม.ไปขึ้น ชี้กระทรวงส่งกฎหมายมาต้องมีร่างฯ เหตุผล และผลวิเคราะห์ ชง ครม. ยันเป้า ม.77 หวังให้คนไทยรู้ข้อมูล         30 มิ.ย.60 ที่โรงแรมเดอะ สุโกศล เมื่อเวลา 09.00 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี บรรยายพิเศษหัวข้อ “ทิศทางของการดำเนินการตามมาตรา 77” ในการฝึกอบรมหลักสูตรเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ นักกฎหมายกฤษฎีกา รุ่นที่ 1 มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า มาตรา 77 มีใจความสำคัญ 3 วรรค โดยสรุปคือ รัฐพึงออกกฎหมายเพียงเท่าที่จำเป็นเวลาออกกฎหมายต้องตอบความจำเป็นให้ได้ และต้องปรับปรุงให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน ต้องให้ประชาชนเข้าถึงและเข้าใจ รวมถึงต้องวิเคราะห์ผลกระทบด้วย เช่น เผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งนายกฯ […]

เปิดรายชื่อ 5โรงพยาบาลงบ”บัตรทอง”ติดลบสุดๆ!! หลังต้องหักเงินเดือนบุคลากร-ไม่พอดูแล ปชช.!!

  เปิด 5 รพ. หลังหักเงินเดือนบุคลากรออกจากงบรายหัวบัตรทอง “ติดลบ” กระจาย ไม่เหลือเงินบริการประชาชน เผย รพ.สิงห์บุรี ติดลบสูงสุดถึง 13 ล้านบาท รพ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ติดลบเกือบ 4 ล้านบาท สธ. ชี้ เป็นเหตุผลต้องแยกเงินเดือนออกจากงบเหมาจ่าย เพื่อความเป็นธรรม         นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการชี้แจงรายละเอียดงบเหมาจ่ายรายหัวบัตรทองผ่านหน้าเว็บไซต์ สธ. ว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้กลุ่มประกันสุขภาพจัดทำรายละเอียดงบเหมาจ่ายรายหัวของโรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่ง ว่า แต่ละแห่งได้รับงบประมาณจำนวนเท่าไร และเมื่อหักเงินเดือนบุคลากรแล้วเหลือเท่าไรที่จะเอามาใช้บริการประชาชน ซึ่งพบว่ามีหลายแห่ง เมื่อหักเงินเดือนบุคลากรแล้วติดลบอยู่จำนวนมาก ยกตัวอย่าง ปี 2559 โรงพยาบาลเกาะพีพี จ.กระบี่ หากพิจารณาตัวเลขงบเหมาจ่ายรายหัวประมาณ 3,100 บาทต่อประชากร จะได้อยู่ประมาณ 1.7 ล้านบาท เมื่อหักเงินเดือนบุคลากรแล้วจะเหลือเงินใน รพ. เพียง 54,209 บาทต่อประชากรทั้งหมด 1,421 คน ซึ่งแทบจะไม่เหลือเลยในการนำมาบริหารจัดการและบริการประชาชน […]

กบข.เผยผลวิจัยข้าราชการออมตามกฎหมายที่3% ไม่พอใช้ยามเกษียณ!

  ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยล่าสุดของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เป็นการตอกย้ำว่าคนไทยในทุกสาขาอาชีพยังมีความเสี่ยงสูงที่จะเกษียณอย่างไม่เป็นสุข หลายต่อหลายงานวิจัยที่เกี่ยวกับชีวิตหลังวัยเกษียณของคนไทย ได้ผลออกมาในทิศทางเดียวกัน พบว่ามีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ที่คนไทยส่วนใหญ่ จะเผชิญปัญหาค่าใช้จ่ายไม่เพียงพอหลังวัยเกษียณ เพราะถึงเวลานั้น จะไม่ใช้เพียงรายจ่ายในชีวิตประจำวันที่จำเป็นต้องมีเท่านั้น แต่ยังหมายความรวมถึงค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่จะต้องแบกรับภาระที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกรณีที่ต้องเกษียณแล้วไร้ลูกหลานคอยดูแล  อย่างเช่นผลสำรวจของ “แมนูไลฟ์” ซึ่งสำรวจจากผู้ลงทุนไทยจำนวน 500 คน ที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไปในกรุงเทพฯ พบว่า สัดส่วนครึ่งต่อครึ่งของคนไทย หรือ 50% คาดว่าตนเอง จะมีเงินออมเหลือใช้ในวัยเกษียณ และอีก 50% คาดว่าจะมีเงินไม่เพียงพอ สำหรับวัยเกษียณ “แมนูไลฟ์” ระบุว่า ตัวเลข 50% ที่คาดว่าจะมีเงินไม่เพียงพอสำหรับคนไทยนั้น ถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง และน่าเป็นห่วง เพราะว่าผลสำรวจเดียวกันในประเทศอื่น พบว่ามีเพียง 35-40% เท่านั้น ที่คาดว่าจะมีเงินไม่เพียงพอในวัยเกษียณ  ล่าสุด ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยเรื่อง "อัตราเพิ่มและแนวทางเพิ่มอัตราเงินออมของสมาชิก กบข." ซึ่งจัดทำโดยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) พบว่า อัตราการออมตามกฎหมายที่ 3% ของสมาชิก กบข. […]

กกร.ยื่นความเห็นค้าน”พ.ร.ก.แรงงานต่างด้าว” หวั่นกระทบเอกชนทั่วประเทศ เหตุบังคับใช้เร็วไป-โทษสูงเกินไป!

  จากกรณีที่มีการประกาศกฎหมายแรงงานต่างด้าวฉบับใหม่ ให้มีผลบังคับใช้ทันที และมีโทษที่แรงขึ้นสำหรับผู้ฝ่าฝืน ซึ่งได้เผยแพร่ในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.60 ที่ผ่านมานั้น (คลิกอ่านข่าวย้อนหลัง : บังคับใช้แล้ว! "พ.ร.ก.แรงงานต่างด้าวใหม่" จ้างผิดกฎหมายปรับ8แสนต่อคน! นายหน้าคุก10ปี ปรับ1ล้าน! เปิดดูกันให้ชัด"39อาชีพห้ามต่างด้าวทำ-ผ่อนผันได้แค่2อาชีพ" ) ล่าสุด 29 มิ.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีจดหมายเผยแพร่จากคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่งประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ส่งจดหมายด่วนที่สุดถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เรื่อง ข้อคิดเห็นต่อปัญหาในภาคปฏิบัติตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 โดยระบุว่าเข้าใจสถานการณ์ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ด้าวแรงงานจนมีการออกกฎหมายนี้ แต่ กกร.ได้รับการร้องเรียนจากสมาชิกสมาคมการค้า, หอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ, สภาอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ และสมาชิกผู้ประกอบการ ถึงปัญหา เนื่องจากพระราชกำหนดมีผลบังคับใช้ทันทีและมีบทลงโทษสูงเกินไป จะทำให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง จึงนำเสนอข้อคิดเห็นเพื่อประกอบการพิจารณา 1. เปิดให้ลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายทั่วประเทศอีกครั้ง ตามระยะเวลาที่กระทรวงแรงงานเห็นสมควร 2. พิจารณาให้มีผู้แทนภาคเอกชนมีส่วนร่วมเสนอความเห็นต่อกฎหมายอนุบัญญัติ 39 ฉบับ 3. ควรให้มีการกำหนดกฎหมายอนุบัญญัติเฉพาะในการจ่ายค่าชดเชยแรงงานต่างด้าวที่มาทำงานกับนายจ้างในประเทศ 4. ควรมีการประชาสัมพันธ์ พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวอย่างเร่งด่วน โดยจดหมายฉบับเต็มมีดังนี้   […]

รมว.ศึกษาฯย้ำไม่มีนโยบายรับฝากเด็ก ฝากถาม ป.ป.ช.ให้ ผอ.ร.ร.แสดงบัญชีทรัพย์สินได้หรือไม่?

  จากกรณีผู้ปกครองนักเรียนเผยแพร่คลิปกล่าวหาผู้อำนวยการโรงเรียนสามเสนวิทยาลัยรับเงิน 4 แสนบาท เพื่อแลกกับการให้ลูกเข้าเรียนชั้น ม.1 นำมาสู่นักวิชาการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเรียกร้องให้มีการแสดงบัญชีทรัพย์สินหนี้สินของผู้อำนวยการโรงเรียน ขณะที่อดีตนายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย เสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตรวจสอบทรัพย์สินของผู้อำนวยการโรงเรียนทั่วประเทศเพื่อแก้ปัญหาการเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการให้เด็กเข้าเรียน ขณะที่ภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นแห่งชาติ (ภตช.) ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อเรียกร้องให้ตรวจสอบเอาผิดผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษ ปีการศึกษา 2560 และยกเลิกการรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษนั้น เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ตนมีนโยบายชัดเจนในเรื่องการรับเด็กเข้าเรียนและตนก็ทำเป็นตัวอย่างว่าไม่มีการฝากเด็กแน่นอน ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนสามเสนวิทยาลัยนั้น ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เร่งดำเนินการตรวจสอบ และจะไม่ปล่อยให้คนทุจริตมาทำลายระบบ ทั้งนี้ หากต้องการปรับระบบการรับนักเรียนให้มีความยุติธรรมมากขึ้น ก็ขอให้รวบรวมความคิดเห็นต่างๆ มาเสนอต่อนายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ส่วนที่จะให้ผู้อำนวยการโรงเรียนยื่นบัญชีทรัพย์สินนั้น เป็นเรื่องใหญ่ เห็นว่าต้องใช้เกณฑ์ของประเทศ คงต้องไปถามคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ อย่างไร ข่าวจาก : มติชนออนไลน์ 

สนข.ยืนยันค่าตั๋วรถไฟไทย-จีน เส้นกทม.ไปโคราช 500บาท/คน เจ๊งยาก!

  สนข.เบื่อโต้ประเด็นดราม่ารถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ตอบไปก็ไม่จบ แจงราคาค่าตั๋ว เส้นกรุงเทพ-โคราช 500 บาทต่อคน ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม. 17 นาที ยัน เจ๊งยาก เมื่อเทียบประวัติการใช้กับระบบขนส่งอื่นๆ ของไทยในอดีต เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ใช้อำนาจ ม.44 เร่งรัดโครงการรถไฟความเร็วสูง ความร่วมมือไทย-จีน ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ทั้งในภาควิชาการ และประชาชนทั่วไป หลายประเด็น ทั้งเรื่องการให้สิทธิ์แก่จีนมากเกินไป การถ่ายทอดเทคโนโลยี จนถึงประเด็นที่ระบุว่า รถไฟความเร็วสูง เมื่อเปิดให้บริการแล้วจะประสบผลขาดทุนจนถึงขั้นเจ๊งแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงคมนาคม โดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. ได้ชี้แจงในหลายประเด็น แต่ดูเหมือนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ก็ยังมีอยู่ แหล่งข่าว นักวิชาการ สนข. ได้ให้ความเห็นถึงประเด็นเหล่านี้ว่า ประเด็นที่มีการโต้แย้งเรื่องรถไฟความเร็วสูงขณะนี้ บางเรื่องตอบไปยังไงก็ไม่จบ เช่น ประเด็นเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงจากจีน โดยบางราย ดราม่าถึงขั้น วิจารณ์ว่าไทยทำรถไฟความเร็วสูงเจ๊งไม่เป็นไร ขอให้ได้เทคโนโลยีมา ซึ่งประเด็นนี้อยากถามกลับว่า ถ้าไทยทำรถไฟความเร็วสูงแค่กว่า […]

เตรียมแก้กฎหมาย”บัตรทอง”ครั้งสุดท้าย 29มิ.ย.นี้-รับความคิดเห็นจากทางออนไลน์เข้าพิจารณาที่ประชุมด้วย!!

  นพ.พลเดช ปิ่นประทีป เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการรับฟังความเห็นร่าง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ฉบับที่…) พ.ศ…หรือกฎหมายบัตรทอง กล่าวว่า ขณะนี้ได้รวบรวมประเด็นความเห็นทางออนไลน์ เวทีประชาพิจารณ์ 4 ภาค และเวทีปรึกษาสาธารณะเรียบร้อยแล้ว รวมๆมีประมาณ 17 ประเด็น ทั้งเห็นด้วย เห็นต่าง แต่ทั้งหมดนี้จะนำเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯในวันที่ 29 มิ.ย. เพื่อพิจารณาและรับรองรายงาน ก่อนส่งต่อให้คณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายบัตรทองซึ่งมีนายวรากรณ์ สามโกเศศ เป็นประธานพิจารณาปรับแก้ในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์กรรมาธิการสาธารณสุข สภานิติบัญญัติแห่งชาติกล่าวถึงการตรวจสอบการใช้จ่ายงบของสำนักงานหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ว่า การแก้กฎหมายบัตรทอง ในเรื่องการจัดซื้อยาของ สปสช.คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ระบุชัดว่าไม่สามารถทำได้ ซึ่งหน้าที่นี้ควรเป็นกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากผู้ใช้จะทราบดีว่ายาชนิดไหนเหมาะสมกับการรักษาผู้ป่วย ส่วนที่เอ็นจีโอบางกลุ่มออกมาพูดให้รัฐบาลตรวจสอบ ตนมองว่ารัฐบาลไม่ควรนิ่งเฉย ไม่ใช่แค่งบส่งเสริมกิจกรรมภาครัฐขององค์การเภสัชกรรม แต่ควรตรวจสอบงบทั้งหมด อย่างงบส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคในระดับท้องถิ่น ก็ควรตรวจสอบด้วยว่ามีการใช้จ่ายอย่างไร นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผอ.มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าที่ออกมาคัดค้านการแก้ไขกฎหมายบัตรทอง ไม่ได้เพื่อประโยชน์ของพวกพ้อง แต่เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง อย่างประเด็นที่ค้านเรื่องคำนิยามสถานบริการ […]

ครม.อนุมัติ!! สร้างหอชมเมือง 4,000ล้านไม่ต้องเปิดประมูล!!

  "ครม."เห็นชอบสร้างหอชมเมือง งบ 4,000 ล้านไม่ต้องเปิดประมูล เหตุกลัวล่าช้า-ไม่มีเอกชนร่วมลงทุน เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติให้ยกเว้นโครงการพัฒนาที่ดินราชพัสดุ เลขที่ทะเบียน กท.3275 เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร เพื่อก่อสร้างหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร สามารถดำเนินการคัดเลือกเอกชนได้ โดยไม่ใช้วิธีประมูลตามประกาศของคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ สืบเนื่องจากวันที่ 13 ธ.ค. 2559  ครม. มีมติเห็นชอบให้โครงการการก่อสร้างหอชมเมือง เป็นโครงการตามนโยบายของรัฐบาลมูลค่า 4,000ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นต้นแบบในการน้อมนำศาสตร์พระราชามาใช้ดำเนินโครงการ โดยจัดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่มีความโดดเด่นของเอกลักษณ์ไทย และเป็นสัญลักษณ์สำคัญแห่งยุค บริหารจัดการที่ล้ำสมัย ตามนโยบายของรัฐบาลไทยแลนด์ 4.0  ทั้งนี้จะมีการให้นักเรียนนักศึกษาเข้ามาร่วมเรียนรู้ในขั้นตอนการก่อสร้าง เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญาของเยาวชนของคนไทย     "สาเหตุที่โครงการนี้ไม่ให้มีการเปิดประมูล เนื่องจากจะทำให้มีความล่าช้าและอาจจะส่งผลกระทบต่อผลสัมฤทธิ์ของโครงการ และอาจจะไม่มีเอกชนรายใดสนใจดำเนินโครงการเพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่และมีรูปแบบการดำเนินการเชิงสังคม แต่มีเงื่อนไขว่าเอกชนที่ที่มาดำเนินการจะต้องจัดทำแผนบริหารการสัญจร การรักษาสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาชุมชนในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง และให้กรมธนารักษ์และกระทรวงการคลังพิจารณา รวมถึงให้นำรายได้ที่เหลือจากการดำเนินการทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายให้นำไปดำเนินการในเชิงสังคมไม่ให้นำมาแบ่งปันกัน"พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าว นอกจากนี้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้มีความเห็นเพิ่มเติมว่าให้มีการเตรียมการการวางแผนการจัดการจราจร บริเวณพื้นที่ดังกล่าวด้วย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวนี้มีโครงการใหญ่หลายโครงการซึ่งกำลังก่อสร้าง เพื่อบรรเทาการจราจรติดขัด […]

เตรียมแก้กฎหมาย ขยายรับเงินชราภาพจาก 55 ปีเป็น 60 ปี

  26 มิ.ย.60 พลเอกศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สั่งการให้สำนักงานประกันสังคม แก้กฏหมายขยายเวลาการรับเงินชราภาพของผู้ประกันตนจาก 55 ปีเป็น 60 ปี เพื่อสร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิตให้กับแรงงาน พร้อมทั้งรองรับสังคมผู้สูงอายุของไทย นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า นโยบายของกระทรวงแรงงาน โดย พลเอกศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญกับการสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตที่มั่นคงของแรงงานทั้งในช่วงที่อยู่ในระบบแรงงานและเมื่อต้องออกจากระบบแรงงานไปแล้ว จึงมีนโยบายที่จะสร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิตให้กับแรงงานในส่วนของผู้ประกันตน ด้วยการขยายระยะเวลาการรับเงินชราภาพของผู้ประกันตนจากอายุ 55 ปี เป็น 60 ปี ซึ่งจะต้องดำเนินแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คือพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 โดยเมื่อมีการปรับปรุงแก้ไขแล้ว ในอนาคตผู้ประกันตนจะสามารถอยู่ในระบบได้จนถึงอายุ 60 ปี ซึ่งเรื่องนี้เป็นแนวคิดที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เห็นชอบ และสั่งการให้สำนักงานประกันสังคมดำเนินการศึกษารูปแบบความเป็นไปได้เพื่อนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานต่อไป ข่าวจาก : nationtv.tv

1 987 988 989 1,012
error: