ทั่วไป

Advertisement มาดูกัน 10 อันดับค่าตัวของซูเปอร์สตาร์ไทย ที่แต่ละคนรับค่าตัว 1 ล้าน – 10 ล้าน นับว่ารับเล๊ะ อู้ฟู่สุด ๆ Advertisement   10. พลอย เฌอมาลย์ ค่าตัวพรีเซ็นเตอร์ 5-8 ล้านบาท   9. ใบเตย อาร์สยาม ค่าตัวพรีเซ็นเตอร์ 5-10 ล้านบาท     8. ญาญ่า อุรัสยา กับค่าตัวพรีเซ็นเตอร์ 5-10 ล้านบาท   7. บอย ปกรณ์ กับค่าตัวพรีเซ็นเตอร์ 6-9 ล้านบาท หากพร้อมครอบครัว 10 ล้านบาท น้องวันใหม่ค่าตัว 6 หลัก 6. เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ กับค่าตัวพรีเซ็นเตอร์ 7-10 ล้านบาท […]

จาก แฟนเพจ เฟซบุ๊ก เม่าสงสัย ได้มีการเผยข้อความจากแฟนสาวของ ดีเจโจ้ อัครพล ที่เขียนถึงชายหนุ่มอันเป็นที่รักของเธอด้วยความอาลัย แม้เวลาจะผ่านไปนานกว่า 9 ปีแล้ว โดยมีข้อความว่า "ตำนานความรักที่ทรงพลังของ นนทิยา พุทธาโภคาทรัพย์ กับ ดีเจโจ้ อัครพล ธนะวิทวิลาส …ใกล้ดำเนินมาถึงบทที่ทั้งคู่เริ่มต้นชีวิตครอบครัวอย่างมีความสุข แต่เพียงไม่กี่เดือน รอยยิ้มถูกแทนที่ด้วยคราบน้ำตา งานมงคลกลายเป็นงานศพ ความฝันของผู้หญิงคนหนึ่งพังทลายลงชั่วพริบตา                  แม้เวลาจะผ่านมา 9 ปีแล้วก็ตาม แต่จุ๊บยังจำวันแรกที่เจอกับพี่โจ้ได้ไม่ลืม เราเจอกันในงานคอนเสิร์ตของ นาวิน ต้าร์ เขาหันมามองจุ๊บ ยังจำดวงตาคู่นั้นได้เลยว่าสวยมาก เพื่อนแอบให้เบอร์จุ๊บกับพี่โจ้ ซึ่งสมัยนั้นเป็นเพจเจอร์ เขาส่งข้อความมาหลายครั้ง กระทั่งจุ๊บยอมไปทานข้าวด้วย แล้วจุ๊บก็หลงรักเขาโดยไม่มีเงื่อนไขว่าแฟนฉันต้องหล่อหรือรวย เพราะจุ๊บรักทุกอย่างที่เป็นพี่โจ้ รักเสียง รักรอยยิ้ม รักดวงตาคู่นั้น เขาเรียกจุ๊บว่าหนู จุ๊บก็เรียกเขาว่าที่รัก แม้ตอนแรกคุณพ่อคุณแม่จะไม่ชอบ แต่ความจริงใจที่เขามีให้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ประกอบกับเป็นคนมีจิตใจดี พี่โจ้จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวจุ๊บโดยปริยาย               เราตกลงกันว่าจะเก็บเงินซื้อบ้านเป็นเรือนหอ ช่วงนั้นอะไรประหยัดได้ก็ช่วยกันประหยัด เวลาพี่โจ้มารับที่บ้านคุณแม่ทำข้าวใส่กล่องเตรียมไว้ให้ ระหว่างทางจุ๊บจะป้อนข้าวพี่โจ้ หรือเสื้อผ้าพี่โจ้ก็จะเอามาซักที่บ้านจุ๊บจะได้ประหยัดค่าซักรีด กินข้าวนอกบ้านเรียกว่านับครั้งได้ เพราะแค่ซื้อน้ำส้มสักแก้วยังคิดแล้วคิดอีก […]

เป็นที่ฮือฮามากทีเดียวสำหรับเวทีการประกวดสาวงามอย่าง Miss International ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทย โดยครั้งนี้มีบรรดาสาวงามจากเวทีต่างๆที่เคยแห้วประทาน ผิดหวังมานับครั้งไม่ถ้วนมาประชันโฉมแห่รอคิวสมัครกันเพียบ แต่ที่สร้างความฮือฮาและตกตลึงแหวกใครมาเลยเห็นจะเป็นเรื่องที่ สาว น้ำเพชร สุณัณณิภาร์ อดีตรองอันสองมิสยูนิเวอร์ไทยแลนด์ มาลงประกวด หลังจากที่โดนปลดออกจากกองประกวด ริบสายสะพาย ส่วนมงกุฏนั้นไม่แน่ใจว่าเจ้าตัวยอมคืนกองประกวดไปหรือยัง เปิดใจแบบหมดไส้หมดพุง น้ำเพชร ถามหน่อยซิ คิดอะไรอยู่ถึงกล้ามาลงสมัครเวทีนางงามอีกครั้ง ไม่เข็ดหลาบหรือยังไง “มันเหมือนสิงที่ติดค้างคาอยู่ในใจหนู จากเวทีนั้นเหมือนเราโดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์มาเยอะ แต่เวทีนี้ Miss International เปิดโอกาสให้หนูมาพิสูจน์ตัวเอง คือเรามีความฝันเราก็อยากเดินตามความฝัน โดยถ้าผ่านเข้ารอบไปก็จะไปเก็บตัวแบบ Reality ให้คนติดตามชีวิตนางงาม” ไม่กลัวคนด่าเรอ เพราะเหมือนภาพที่ออกมาของเราไม่ค่อยดี “หนูว่าที่หนูเจอมามันน่ากลัวกว่านี้ และอีกอย่างเราผ่านตรงนั้นมาได้แล้ว ตอนนี้ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น หนูเป็นคนมีศักดิ์ศรีอยากทำอะไรก็ทำเลย” ไม่กลัวทางคณะกรรมการไล่ตะเพิดกลับมาเรอ “ไม่มีค่ะ ไม่มีเลย ทางเวทีกองประกวดเขายินดีต้อนรับ และหนูมั่นใจและเชื่อว่าเวทีนี้ มีความเป็นธรรม มีความเป็นกลาง และที่สำคัญเวทีนี้ให้โอกาสคนทุกคน ซึ่งหนูเตรียมความพร้อมมาพอสมควร ตัดชุดมาใหม่ด้วย” แล้วถ้าเกิดไม่เข้ารอบละ จะหน้าแตกมั้ย “ก็ไม่เสียใจเราทำของเราเต็มที่และดีที่สุดแล้ว หนูเคารพการตัดสินของคณะกรรมการเสมอเพราะแต่ละปีคอนเซ็ปจะจะไม่เหมือนกันอยู่แล้ว” เจอปฏิกิริยารอบข้างตอนวันสมัครแบบมีคนหมั่นไส้มั้ย “ไม่เจอนะคะ บางคนก็ยิ้มทักทายเป็นมิตร บางคนก็เฉยๆ ตรงนี้หนูเองก็อยากได้กำลังใจจากทุกคนเชียร์หนูด้วยนะค่ะ” […]

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า โลกโซเชียลของฝรั่งระอุเดือดอย่างหนัก หลังมีสตรีนางหนึ่งโพสต์ภาพกรอกเหล้าใส่ปากเด็กน้อยรายหนึ่งอายุประมาณ 5 ขวบเท่านั้น พร้อมกับภาพเด็กคนดังกล่าว กำลังคาบบุหรี่ เตรียมสูบ จำนวน 3 ภาพ ลงบนเฟซบุ๊ค โดยในภาพดังกล่าวปรากฎมือของผู้ใหญ่ที่เป็นคนยื่นไฟแช็คจุดบุหรี่ให้กับเด็กอีกด้วย ทั้งนี้ ผู้โพสต์ภาพดังกล่าว ได้เขียนคำบรรยายใต้ภาพสุดหดหู่ที่สรา้งความโกรธแค้นให้แก่ชาวเน็ตอย่างรุนแรงในครั้งนี้ว่า “ดูท่าการซดเหล้าของลูกฉันซะก่อน” ซึ่งทั้งหมดนั้นทำให้ชาวเน็ตต่างเข้าไปโพสต์ต่อว่า และรุมประณาม รุมถล่มการกระทำของเจ้าของภาพ ซึ่งเชื่อกันว่าเจ้าของภาพ และผู้โพสต์ภาพทั้งหมด คือ แม่ของเด็ก ซึ่งน่าจะมีถิ่นพำนักอยู่นประเทศอาร์เจนตินา [ads] สำหรับความคืบหน้าล่าสุดพบว่า เจ้าของภาพได้ลบโพสต์รูปเจ้าปัญหาทั้งหมดออกแล้ว แต่ก็สายเกินไปเนื่องจากผู้คนในโลกโซเชียลที่ไม่พอใจกับการกระทำดังกล่าวต่อเด็กน้อย ได้เซฟภาพดังกล่าวไ้วแล้ว พร้อมกับประกาศว่าจะร่วมกันตามล่า สืบหาตัวแม่ใจยักษ์รายนี้ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมตัวไปลงโทษ โทษฐานทำทารุณกรรมเด็กให้ได้ ภาพแม่ใจร้าย บังคับกรอกเหล้าใส่ปากลูก สร้างความโกรธแค้นต่อผู้ที่พบเห็นอย่างมาก   ขอบคุณเนื้อหาจาก : KIITDOO ที่มา : Dailymail.com   [ads=center]

ผู้โพสต์คลิป Wiley crying over Grandma (คลิปสุนัขร้องไห้บนหลุมศพเจ้าของ) ซึ่งถูกโพสต์ตั้งแต่เดือนเมษายน 2556 และมีคนคลิกเข้าชมแล้วเกือบ 6 ล้านครั้ง เผยว่า เจ้าไวลีย์ร้องไห้อยู่บนหลุมศพคุณยายของเธอ แม้ว่าหลาย ๆ คนดูแล้วจะคิดว่ามันอาจกำลังคัดจมูกหรือจะจาม แต่อาการแบบนี้ก็เป็นอาการที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับมันมาก่อน และหลังจากเหตุการณ์นี้มันก็ไม่เคยแสดงท่าทางแบบนี้อีกเลย เธอเองไม่ใช่สัตวแพทย์ แต่เชื่อว่ามันคงรับรู้ได้ถึงการจากไปและกำลังเสียใจอยู่              ไม่ว่าเจ้าไวลีย์จะกำลังร้องไห้อยู่จริงหรือไม่ แต่เห็นแล้วก็ยังแอบเศร้าตามไปด้วยไม่ได้ แล้วคุณล่ะเคยเห็นสุนัขที่เศร้าจนร้องไห้ออกมากันบ้างไหม       [ads=center]

รายการ ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 5 รายการเรียลลิตี้โชว์เกี่ยวกับการประกวดที่เฟ้นหาคนที่มีความสามารถโดดเด่น ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา (21/6/2558) มีหนุ่มผู้เข้าประกวดรายหนึ่งพ่อค้าบาบีคิวตลาดนัดเลียบด่วน ได้ทำการก๊อปปี้โชว์ของนักร้องร็อกเกอร์ชื่อดัง ตูน บอดี้สแลม ขวัญใจชาวไทย งานนี้เล่นเอากรรมการถึงกับอึ้ง ทึ้ง และหัวเราะชอบใจ  เพราะด้วยใบหน้าที่ละหม้ายคล้ายคลึง หนุ่มตูนแล้วยังไม่พอทั้งเสียงร้อง เสื้อผ้าหน้า ผม ถอดแบบได้มาอย่างเนียนเป๊ะๆไม่มีที่ติ และที่สำคัญลีลาการแสดงโชว์ก็เสมือนว่าเวที คอนเสิร์ต Bodyslam นั่นทำให้ยิ่งฮาเข้าไปใหญ่ ถูกใจคณะกรรมการผ่านเข้ารอบไปโดยปริยาย  อยากทราบแล้วว่าถ้าพี่ตูน บอดี้สแลม ได้ชมการแสดงชุดนี้แล้วจะอึ้งเหมือนพวกเราไหม…..       ขอบคุณรูปประกอบจาก รายการ ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 5   [ads=center]

เอไอเอสจัดให้ แจกสมาร์ทโฟนฟรี เฉพาะข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ  พร้อมแพ็กเกจสุดพิเศษ โทรหากันในกลุ่มฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง ห้ามพลาด…   โปรโมชั่นดีๆ จากทางเอไอเอส รายเดือน จัดให้สำหรับข้าราชการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจ รับฟรี สมาร์ทโฟน พร้อมแพ็กเกจพิเศษ โทรหากันฟรี ตลอด 24 ชม. สุดคุ้ม ห้ามพลาด !     รายละเอียดโปรโมชั่น •    รับสมาร์ทโฟนฟรี  ได้ที่เอไอเอส ช็อป, ร้านเทเลวิซ ที่ร่วมรายการ •    แพ็กเกจสุดพิเศษ โทรหากันในกลุ่มฟรี ตลอด 24 ชม. •    สำหรับข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่เปิดเบอร์ใหม่ หรือย้ายค่ายเบอร์เดิมมาเอไอเอส รายเดือน    สมาร์ทโฟนฟรี สำหรับข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ 1. AIS LAVA Pro 4.5”     2. AIS LAVA […]

รายงานระบุว่า หนุ่มไต้หวันรายนี้ ชื่อนายอาห์ จิ ซึ่งปัจจุบันอายุ 47 ปี ได้นั่งอยู่บริเวณนอกสถานีรถไฟ "ไท่หนาน" เป็นเวลาตลอด 20 ปี เพื่อรอหญิงที่สัญญาว่าจะออกเดตกับเขา แต่เธอไม่เคยปรากฎตัว โดยย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน เขาได้ตกหลุมรักหญิงชาวเมืองแห่งนี้คนหนึ่ง ซึ่งเธอบอกว่าพร้อมจะออกเดตกับเขา โดยทั้งสองได้นัดเจอกันที่สถานีรถไฟแห่งนี้ แต่เธอกลับไม่มาตามนัด ซึ่งไม่ปรากฎว่า ในครั้งแรกพวกเขาเคยเจอกันได้อย่างไร แต่รายงานระบุว่า เห็นได้ชัดว่าหญิงรายนี้ได้เลิกสนใจชายผู้นี้ไปแล้ว และเป็นไปได้ว่า เธอได้ลืมสถานที่นี้ หรือคำสัญญาดังกล่าวไปแล้ว แต่สำหรับนายอาห์ จิ กลับเป็นเรื่องน่าเศร้าที่เขายังฝังใจกับคำสัญญาดังกล่าว และนั่งอยู่ตรงที่เดิมมาตลอดเวลากว่า 20 ปี รายงานระบุว่า พฤติกรรมดังกล่าวทำให้นายอาห์ จิ กลายเป็นคนไร้บ้าน อดอาหาร ต้องยังชีพด้วยความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่จากพนักงานรัฐ ผู้คนที่เดินผ่านไปมา รวมทั้งครอบครัวของเขา ที่ต้องคอยหาอาหารและเสื้อผ้ามาให้เขาตลอดเวลา และพยายามให้เขากลับบ้าน แต่เจ้าตัวปฎิเสธ แม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐก็พยายามหาที่อยู่ใหม่ให้เขา แต่เขาก็ปฎิเสธด้วยเช่นกัน บอกว่า เขาไม่คิดจะไปจากที่นี่ ที่ซึ่งเขาคอยนั่งรอหญิงที่เขาเฝ้ารักมาตลอด   ขอบคุณเนื้อหาจาก มติชนออนไลน์   [ads=center]

จากกรณีที่ "ตั๊ก บงกช"  แสดงอาการไม่พอใจ เมื่อมีภาพหลุดจากทริปท่องเที่ยวบนเรือยอร์ช ซึ่งเป็นทริปส่วนตัวเฉพาะครอบครัวเท่านั้น ภาพดังกล่าวหลุดออกมาเผยแพร่ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้เต็มใจจะให้บันทึกภาพ ทำให้ส่งตัวแทนไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.พหลโยธิน เมื่อวานนี้ (20 มิ.ย.) ล่าสุด ตั๊ก บงกช" ยังได้โพสต์ชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่มีคนชื่อ "โรส" ออกมาชี้แจงผ่านอินสตาแกรมของสาวตั๊กก่อนหน้านี้ โดยระบุใจความว่า "เป็นตัวแทนผู้ประสานงานติดต่อเช่าเรือยอร์ชให้กับ เจ้าสัวบุญชัย และ ตั๊ก บงกช พร้อมกับยืนยันว่า ทีมงานบนเรือยอร์ชในวันนั้น ไม่มีผู้ใดแอบถ่ายภาพใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากทำงานเป็นมืออาชีพ ทีมงานให้ความสำคัญบริการแก่ลูกค้าเท่านั้น ไม่ว่าลูกค้าจะเป็นใครก็ตาม" ทั้งนี้ ประโยคปิดท้ายของความของคนชื่อ "โรส" ยังได้มีตอบโต้อย่างดุเดือด เผ็ดร้อน เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกกล่าวหาและต่อด่าด้วยคำหยาบจากสาวตั๊ก ทำให้ขอความกรุณาให้แก้ไขข่าวให้ด้วย  ทำให้ สาวตั๊ก ออกมาตอบโต้กลับไปอย่างเผ็ดร้อน ชนิดที่ออกอากาศไม่ได้ ซึ่งมีใจความว่า… "เธอไม่ใช่คนที่ฉันอยากจะมีเรื่องด้วย เพราะเธอไม่ได้สำคัญอะไร ก็แค่พนักงานต่ำๆ ที่ทำเป็นพูดน่าเชื่อถือและหลอกลวงคนอื่น หรืออีกอย่างคือ อยากดัง"   ขอบคุณภาพจากอินสตาแกม "ตั๊ก บงกช"     [ads=center]

กระแสดราม่าที่ ดักแด้ หรือ บัญชา คำทอง โดนด่าหลังจากใส่ชุดมโนราห์ไปเชียร์ซีเกมส์ที่สิงค์โปร เป็นเรื่องที่มีความคิดเห็นหลากหลายบางคนเห็นด้วยกับการที่มองว่า ดักแด้ ทำไม่ถูกกาละเทศะ แต่เสียงส่วนใหญ่กลับมองว่าการที่เขาเอาชุดมโนราห์มาใส่ไม่ใช่เรื่องเสียหายเลย กลับเป็นการเผยแพร่วัฒณธรรมศิลปะไทยให้ชาวโลกได้รู้จักเป็นการสมควรแล้วเรอที่ชายผู้นี้จะโดนด่าว่าไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ด่าว่าเป็นคนลบหลู่ดูหมิ่นความเชื่อและศรัทธาของใครบางคน วันนี้ทางทีม Thaihothit เลยขอโอกาสเปิดใจชีวิตนักเชียร์ระดับชาติคนนี้กันหน่อยเพราะ กว่าที่เขาจะเดินทางมาถึงการเป็นนักเชียร์ระดับชาติอย่างทุกวันนี้เขาผ่านอุปสรรคมาไม่ใช่น้อย ถึงขนาดต้องขายรถจนหมดตัวเพื่อหาเงินเป็นค่าเดินทางไปเชียร์นักกีฬาไทยที่ต่างประเทศ "ตอนช่วงแรกๆที่ผมเดินทางไปเชียร์เราออกตังค์เองครับ ก็ไม่มีเงินหรอกแต่ใจมันอยากไปเชียร์ เลยเอารถไปขาย เอาไปจำนำอะไรแบบนี้ เสียค่าใช้จ่ายเอง อะไรประหยัดได้ก็ประหยัด ไปถึงก็ไม่รู้จะไปนอนไหนบางทีก็ไปนอนตามวัดไทยในต่างประเทศ นอนตามบ้านคนไทย ร้านอาหารไทย คือบางคนเขาเห็นเรามาทำเพื่อประเทศเขาก็ช่วย บางทีถ้าหาที่นอนไม่ได้ก็แอบเนียนไปนอนกับพี่ๆน้องๆนักข่าวสื่อมวลชน ครั้งหนึ่งจำได้ไปเชียร์เอเชียนเกมส์ที่เกาหลี ก็แอบเนียนไปนอนกับนักข่าวในโรงแรม แต่เตียงมันไม่พอเพราะมีแค่ 2 เตียงผมก็เลยไปนอนในตู้เสื้อผ้า เอาหัวซุกเข้าไป" ทำไมถึงไม่ยอมเลิกไปเชียร์ ถ้าชีวิตมันดูลำบากขนาดนี้ "คือผมทำตรงนี้มาเกือบ 20 ปีแล้วตั้งแต่ซีเกมส์ครั้งที่ 18 ที่เชียงใหม่ สมัยเรียนรามผมฝันอยากเป็นกีฬาทีมชาติแต่เราความสามารถไม่ถึงเลยขอเอาเป็นคนเชียร์ข้างสนามแล้วกัน ทำมาเรื่อยๆจนรู้สึกว่าเราลงหลังเสือไม่ได้ มีแข่งทีมไทยที่ไหนต้องไปที่นั่น ผมไปเชียร์ไม่ใช่เฉพาะนักกีฬาไทยปกตินะครับ กีฬาคนพิการผมก็ไป แบบ ครั้งหนึ่งจำไม่ได้ที่ไหน นักกีฬาตาบอด เขามาพูดกับผมว่าได้ยินเสียงเชียร์จากเรา เขารู้สึกดีใจมีกำลังใจขึ้นมา บางครั้งผมก็ช่วยเข็นรถเข็นพาเขาไปห้องน้ำ คือเราไปด้วยใจจริงๆ"     […]