บทความทั่วไป

Advertisement   Advertisement เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 17 เมษายน 2560 พันจ่าเอก วีระยุทธ์ ฐานะ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและรักษาความสงบเทศบาลหนองปลาไหลและเจ้าหน้าที่อปพร.ประจำจุดอำนวยความสะดวกประชาชน บริเวณวงเวียนวัดสันติคาม กำลังปฏิบัติหน้าที่ให้ความช่วยเหลือผู้ที่สัญจรไปมาอยู่นั้น ได้มีนายพิพัฒน์ หอมดวง อายุ 25 ปี พา ด.ช.จุ่ยอายุ 13 ปี นามสมมุติ เข้ามาขอความช่วยเหลือว่าถูกผู้ชายนำมาทิ้งไว้ สอบถามนายพิพัฒน์ เล่าว่าช่วงประมาณบ่ายโมงของวันที่เดียวกัน มีชายอายุประมาณ 40 ปี พาน้องคนดังกล่าวมาขอซื้อเป็ดที่บ้านจำนวน 4 ตัว เป็นเงิน 1,000 บาท แต่ยังไม่ได้จ่ายเงินโดยอ้างว่าลืมเงินขอกลับไปเอาเงินที่บ้านก่อน โดยทิ้งเด็กชายวัย 13 ไว้ จนกระทั้งเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงก็ยังไม่กลับมา  ตนเองจึงสอบถามกับเด็กว่าชายคนดังกล่าวเป็นใคร เด็กกลับตอบว่าไม่รู้จัก แค่มาเป็นเพื่อนเฉยๆ ตนเองคิดว่าโดนหลอกแน่นอนจึงสอบเส้นทางที่พักของเด็ก แต่ก็พากันหลงอยู่หลายรอบ จึงพามาหาเจ้าหน้าที่ยังจุดอำนวยความสะดวกเพื่อช่วยติดต่อหาผู้ปกครอง Advertisement สอบถาม ด.ช.จุ่ย เล่าว่าชายคนดังกล่าวจ้างให้มาซื้อเป็ดเป็นเพื่อน แต่เมื่อมาถึงที่บ้านคนขายเป็ดก็ทิ้งตนเองไว้ แล้วนำเป็ดไปก่อนบอกว่าเดี๋ยวเอาเงินมาจ่ายค่าเป็ดแล้วกลับมารับ แต่ก็ไม่ยอมกลับมารับตนเองอีกเลย […]

  เซอร์ไพรส์แฟนแบบน่ารักๆ มีให้เห็นกันเยอะแล้ว แต่ไม่ค่อยจะมีเซอร์ไพรส์จากลูกถึงพ่อแม่สักเท่าไหร่ ลองมาดูตัวอย่างดีๆ จากคลิปของสมาชิกยูทูบ “Kaykai Salaider” ต่อไปนี้กัน รับรองมีน้ำตาซึม โดยสมาชิกยูทูบรายดังกล่าวได้ทำคลิปเซอร์ไพรส์แม่พร้อมข้อความว่า สงกรานต์ปีนี้เก๋ตั้งใจให้เงินแม่ เงิน100,000บาท เป็นเงินที่เก๋ทำงานเก็บเงินเองมา ก็เลยอยากจะให้เป็นของขวัญชิ้นแรก ถึงจะเป็นแค่เงินแสน ไม่ถึงขนาดเงินล้าน หนูก็ภูมิใจที่ได้ให้แม่นะ อิอิ บอกแล้วไง ว่าแม่ดุ โดนแม่เทศน์ตลอดทาง 555555555 โดยในคลิปได้ซ่อนเงินสด 100,000 บาทไว้ในขันแป้ง ก่อนพาแม่มารดน้ำดำหัวในวันสงกรานต์ ระหว่างนั้นก็ได้ใช้แป้งผัดหน้าแม่ ก่อนจะบอกแม่ว่าแป้งมันติดกันเป็นให้ ให้แม่คนดู แล้วก็หยิบเงินสดปึกหนึ่งขึ้นมายื่นให้แม่ ทำเอาแม่ถึงกับซึ้งน้ำตาไหล หลังคลิปดังกล่าวเผยแพร่ไปมีคนเข้ามาดูเกือบ 2 ล้านครั้ง             ไปชมคลิปกัน   ขอบคุณคลิปจาก : Kaykai Salaider

  เป็นเรื่องราวที่อยากแชร์มาให้ทุกท่านได้อ่านและลองคิดวิเคราะห์กันดู เนื่องจาก ชินเก็น-Ou-CU ได้เข้ามาตั้งกระทู้เรื่อง อาณาจักรที่ชาติมหาอำนาจล่าอาณานิคมได้ยากสุด? และจากนั้นก็มีชาวเน็ตได้เข้ามาตอบ โดยระบุว่า เป็นประเทศไทย เนื่องจากสาเหตุนี้     ยังยืนยันที่ "สยาม" ครับ ประเทศที่ไม่ได้เป็นเกาะแบบญี่ปุ่น ไม่ได้มีพื้นที่ใหญ่และทหารนับล้านแบบจีน แต่มหาอำนาจกลับใช้กลเม็ดทุกอย่างที่เคยทำสำเร็จกับอาณานิคมอื่นๆมาแล้ว มาประเคนใส่สยาม แต่ผลคือ เอาสยามไม่ลง เริ่มจาก ฝรั่งเศส     – ใช้ข้ออ้างเรื่องการกดขี่ศาสนาคริสต์และสังหารหมู่คณะบาทหลวง เข้ายึดตังเกี๋ย แต่ไม่สามารถใช้กับสยามได้ เพราะสยามให้เสรีภาพด้านศาสนามาตั้งแต่สมัยอยุธยา – ใช้ข้ออ้างเรื่องรัฐบรรณาการ แบบที่ใช้ยึดสิบสองจุไทยหวังได้ลาวกับเขมรทั้งหมด แต่รัชกาลที่ 4 วางกลอุบายซ่อนลาว แล้วรีบขีดเขมรส่วนนอกให้ฝรั่งเศส ส่วนเขมรส่วนถือเป็นดินแดนสยาม กงสุลฝรั่งเศสรีบกระโดดรับทันที คิดว่าได้เปรียบแน่ๆ แต่ไปๆมาๆ กลับเป็นการรองรับสถานะรัฐบรรณาการของสยาม (ที่เดิม สยามไม่ได้ผนวกเป็นส่วนหนึ่งของตน) ให้กลายเป็นดินแดนของสยามแบบไม่ตั้งใจ สื่อหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสด่ารัฐบาลโคชินไชน่าและกระทรวงอาณานิคมย่อยยับ     – เจอกดดันหนักๆเข้า รัฐบาลฝรั่งเศสจึงยอมหักดิบ สละมาดผู้ดี เอาเรือรบเข้าปากน้ำสยามและกำลังทางบกเข้ายึดที่มั่นข้าหลวงสยามในคำม่วน  หวังให้สยามต่อสู้แบบที่เคยทำกับเวียดนาม แต่สยามกับนั่งเป็นเตมีย์ใบ้ ทางน้ำยิงพอหอมปากหอมคอ […]

  "ปืน" อาวุธชนิดนี้ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถมีได้ มันไม่ได้หาซื้อง่ายตามตลาดทั่วไป ไม่สามารถที่จะพกเพื่อนำติดตัวไปไหนมาไหนได้ง่ายๆ เหมือนอย่างโทรศัพท์  แต่อาวุธชนิดนี้เป็นสิ่งอันตรายซึ่งผู้ที่ต้องการจะพกพา หรือหาซื้อต้องมีหความจำเป็นหรือเหตุอันควรเท่านั้น บางคนนำไปใช้ในทางที่ผิด บางคนก็มีไว้เพื่อป้องกันตัว หลายคนไม่ทราบว่าการได้มาซึ่งอาวุธปืนอย่างไม่ถูกต้องนั้นจะส่งผลให้ติดคุกติดตารางกันได้ง่ายๆ ในกระทู้นี้ Thaijobsgovจึงขอหยิบเอาประเด็นนี้มานำเสนอให้ทุกคนได้รับทราบกันเกี่ยวกับข้อกฏหมายที่ควรรู้เกี่ยวกับปืน ซึ่งส่วนราชการ กรมตำรวจ ได้ออกหนังสือเรื่อง การปฏิบัติเกี่ยวกับการตรวจค้นบุคคลพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะสถาน โดยได้ระบุข้อความเอาไว้ ดังนี้   ส่วนราชการ กรมตำรวจ โทร. 2511087 ที่ 0503(ส) / 27663 วันที่ 30 กันยายน 2525 เรื่อง การปฏิบัติเกี่ยวกับการตรวจค้นบุคคลพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะสถาน ——————————————————————————– ผบช. , ผบก. , หรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่าทุกหน่วยงาน ตามบันทึก ตร.ที่ 0501/30476 ลง วันที่ 11 ธันวาคม 2517 กำหนดแนวทางในการปฏิบัติของข้าราชการ ตำรวจ ให้ใช้ดุลพินิจในการตรวจค้น จับกุม ผู้พกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะสถานให้เป็นการถูกต้องตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 371 ได้บัญญัติไว้ ต่อมาได้มีคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน […]

  เจ้าของมีธุระด่วยต้องไปทำ เลยเรียกเจ้าตูบสุดที่รักดูแลลูกน้อยไว้ พร้อมกับพูดกำชับไว้ว่า "อย่าให้ลูกน้อยออกมาจากพรมเด็ดขาด เพราะมันอาจจะทำให้ลูกมีรอยฟกช้ำที่มือและบนใบหน้าได้" แต่หลังจากกลับมาย้อนดูภาพจากกล้อง ทำเอาเขาต้องมาเจอกับภาพที่ไม่รู้ว่าจะขำหรือจะโกรธดี  หลังจากที่เจ้าของออกไปได้ไม่นาน ลูกน้อยก็ร้องไห้หาแม่ทันที แถมยังคลานไปมา ทำให้เจ้าตูบเป็นกังวลอย่างมาก รีบนำขาหน้าเข้ามากอดรัดหนูน้อยไว้ เพื่อไม่ให้หนูน้อยออกไปจากพรม     หนูน้อยถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีพละกำลังอย่างมากในความคิดเจ้าตูบ แล้วยังจะพยายามคลานออกไปเรื่อยๆอีก ตูบทนไม่ไหวเลยเอาขาไปพาดตัวหนูน้อยไว้ เพื่อไม่ให้หนีไปไหน แต่หนูน้อยก็ยังไม่ยอมละเลิกความพยายาม ตูบแสนฉลาดจึงคิดวิธีต่างๆ นานา จะเล่นเกมกับหนูน้อย ที่จะหยอกให้หนูน้อยหัวเราะ แต่ระหว่างที่ตูบกำลังเป็นพี่เลี้ยงเด็กอยู่นั้น เขาก็ต้องนำขามาสกัดหนูน้อยเอาไว้ไปพลางๆ     เพียงไม่นานหนูน้อยก็ยังคงพยายามหนีออกไปให้ได้ ตูบครุ่นคิดอยู่นาน เลยตัดสินใจจั๊กจี้หนูน้อยซะเลย เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของหนูน้อย ตูบ : นายน้อย เป็นเด็กดีเถอะนะคร้าบ อย่าดื้อแบบนี้เลยนะ     สุดท้ายเพื่อตัดปัญหาตูบเลยตัดสินใจนำหัวของมันไปวางทับไว้ที่หนูน้อยซะเลย ตูบ : นายน้อยอย่างทำกับตูบแบบนี้เลยนะ แล้วแบบนี้ผมจะสู้หน้าคุณแม่ได้ยังไงในเมื่อผมดูแลนายน้อยไม่ดี หลังจากเจ้าของกลับมาบ้านเห็นตูบผู้ซื่อสัตย์มองมาด้วยแววตาละห้อย เธอจึงรีบไปอุ้มหนูน้อยขึ้นมาทันที     หลังจากนั้นเธอก็ได้แบ่งปันภาพให้ชาวเน็ตได้ชมกัน ก็มีชาวเน็ตออกมาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก บ้างก็ว่าตูบน้อยน่ารักจังเลย ช่างเป็นตูบที่ซื่อสัตย์และจงรักภักดีจริงๆ แต่ก็มีชาวเน็ตบางรายได้แสดงความเห็นว่าการฝากลูกน้อยไว้กับเจ้าตูบถือเป็นสิ่งที่อันตรายและเป็นการการทำที่ไม่ถูกต้อง จะว่าไปแล้วคุณแม่ก็คงไม่ฝากลูกไว้กับพี่เลี้ยงตูบนานหรอกจริงมั้ย […]

  ในเทศกาลสงกรานต์ และวันหยุดยาวต่างๆ ผู้คนต่างออกมาฉลอง เปิดเพลงเสียงดัง ดื่มเหล้าเมามาย โดยไม่ได้สนใจคนรอบข้าง ทุกคนล้วนมีข้ออ้างว่าเป็น "วันหยุด" ซึ่งมุมนี้หลายคนไม่ได้หยิบขึ้นมาพูดถึงบ่อยนัก เนื่องจากกระแสหลักในสังคมคือการสังสรรค์ แม้บางคนไม่ชอบใจก็มักจะปล่อยเลยตามเลย แต่สำหรับพระเอกสุดติสท์แต่เป็นขวัญใจแฟนๆ ยาวนานกว่า 20 ปี อย่าง “แอนดริว เกร้กสัน” กลับยกประเด็นนี้มาโพสต์ในอินสตาแกรม เป็นการสุขสันต์วันสงกรานต์แบบมีข้อคิดในแบบของตัวเอง ข้อความว่า… "เทศกาลวันหยุด หรือวันหยุดยาว จะประเพณีอันงดงามที่สืบต่อกันมาประเพณีไหนก็แล้วแต่ จริงๆ แล้วคือเทศกาลเมาเหล้า ให้สุดเหวี่ยง เปิดเพลงให้ดังสุดใจแล้วทำตามอำเภอใจ ประชาชนส่วนใหญ่คงเป็นคนดื่มเหล้า แล้วคนส่วนน้อยคงไม่ดื่ม ถึงเทศกาลวันหยุดทีไร คนส่วนน้อยถึงได้เกรงใจคนส่วนใหญ่ เหมือนพูดไม่ออกเมื่อคนที่ดื่มบอกว่า "วันหยุด" ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ในการขอร้องให้เบาเสียงกัน เจ้าหน้าที่ให้คำตอบอย่างลำบากใจว่า “วันหยุด…” ถ้าเจ้าหน้าที่จะทำงานแบบไม่อึดอัดต้องหลังเที่ยงคืน นั่นหมายถึงว่า แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ยังยอมรับว่าการดื่มเหล้าในวันหยุด แล้วเปิดเครื่องขยายเสียงตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน หรือบางทีอาจถึงตีสอง เป็นเรื่องปกติ ที่ทุกคนควรจะต้องยอมรับและปฏิบัติตาม เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ลำบากใจในการจะบอกกล่าวหรือบังคับใช้กฎหมาย เจตนาของกฎหมายมีขึ้นเพราะ…ดุลพินิจของผู้บังคับใช้กฎหมายคือ…แล้วทุกวันนี้ที่เกิดขึ้นจริงคือเจตนาอะไร… คำถาม : 1.ใครคือผู้รักษากฎหมาย? 2.ในเวลาแบบนี้ใครคือที่พึ่งของประชาชน? 3. โทษปรับที่มีอยู่เหมาะสมหรือ 4. เราต้องยอมรับสภาพหรือ? ความเห็นส่วนตัว : […]

  เมื่อวันที่ 16 เม.ย. มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อPlakem Rateได้โพสต์ภาพที่มีคุณป้าคนหนึ่ง นิสัยดีเเละน่ารักมาก ได้ยืนแจกมะม่วงสับพร้อมพริกเกลือ สำหรับพี่น้องที่กำลังเดินทางเข้าเมืองหลวง เพราะคุณป้ากลัวคนที่กำลังเดินทางกลับต่างจังหวัดจะง่วง ซึ่งเป็นน้ำใจที่งดงาม เเสดงความเอื้อเฟื้อเผื่อเเผ่ให้คนไทยได้เห็น พอภาพนี้ถูกเผยเเพร่สู่โลกโชเซียวก็เป็นกระเเสที่โด่งดังมาก       โดยPlakem Rateได้โพสต์รูปภาพเเละข้อความว่า…นางฟ้าใจดี ยืนแจกมะม่วงสับพร้อมพริกเกลือ สำหรับพี่น้องที่กำลังเดินทางเข้าเมืองหลวง ขอบคุณคุณป้าสำหรับมะม่วงแก้ง่วงนะคะ ขอให้ป้าร่ำรวยแข็งแรงๆนะคะ (แดดร้อนมาก) โดยเหตุการณ์ขณะเดินทางกลับ กทม. ซึ่งระหว่างทางบริเวณบ้านหนองเยือง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ มีหญิงวัยกลางคนกำลังยืนถือถุงมะม่วงเรียกคนอยู่ข้างทาง โดยหญิงคนดังกล่าวได้กวักมือเรียก จึงสอบถามก็ทราบว่าหญิงคนดังกล่าวไม่ได้ขาย แต่เอามาแจกให้กับผู้ที่ขับรถ เพราะเป็นมะม่วงเปรี้ยวพร้อมกับพริกเกลือ เพื่อให้กินคลายความง่วงลงได้บ้าง       ความคิดเห็นของชาวเน็ตบางส่วน       ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊กPlakem Rate

  ความสะอาดถูกอนามัยเป็นสิ่งที่ทุกคนพึงมีก็เพื่อสุขภาพที่ดี แต่จะมากน้อยแค่ไหนบางทีก็แล้วแต่อุปนิสัยส่วนตัวของแต่ละคน บางคนก็ง่ายๆ แค่ 3-5 ขั้นตอนก็สะอาดมากพอแล้ว บางคนก็ต้องเช็ดแล้วเช็ดอีก มีเป็นสิบอย่าง ถูเป็นสิบรอบได้ถึงจะแน่ใจว่าปลอดภัยชัวร์! ล็อกอินสาวแสนสวยใส่เสื้อสีแสด เห็นแผงบนอ่างล้างจานสุดอลังการของคุณนายแม่จึงอดไม่ได้ที่แอบมาเม้าท์ขำๆ แบ่งปันประสบการณ์กับชาวเน็ตกันในเว็บไซต์https://pantip.com/topic/36341090 ลองอ่านดู มีใครให้มากกว่านี้ไหม? การล้างจานที่บ้านคุณนายเกสร คือมหกรรมอันแสนยิ่งใหญ่และท้าทายมาก เพียงแค่อุปกรณ์ที่ใช้ก็….เยอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (ไม้ยมก 14 ตัว เดี๋ยวจะรู้ว่าทำไม) ไปดูภาพเลยค่ะ     ฟองน้ำ ฝอยขัด แปรงล้าง รวมทั้งหมด 14 ชิ้น 14 การใช้งาน!!!     เริ่มจาก… 1. ฟองน้ำล้างสำรับถวายข้าวพระพุทธ คุณนายว่าไม่ควรใช้รวมกับสำรับกับข้าวทั่วไป ซึ่งจะมีการถวายสำรับพระพุทธพระภูมิเจ้าที่ทุกวันไม่เคยขาด 2. ฟองน้ำล้างสำรับกับข้าวพระภูมิเจ้าที่ คุณนายว่าที่ต้องแยกกับพระพุทธ เพราะเวลาตั้งสำรับนอกบ้าน ชอบมีนก หนู กระรอก มาแอบแทะเล็มอาหาร อาจมีเชื้อโรคไม่พึงประสงค์ติดมา 3. ฝอยขัดหม้อขัดกระทะ 4. ฟองน้ำล้างเครื่องปั่นน้ำผลไม้  5. ฟองน้ำล้างเครื่องปั่นอาหารคาว คุณนายว่าควรแยกจากเครื่องปั่นผลไม้ จะได้ไม่เหม็นคาว […]

  โชเฟอร์แท็กซี่สมุย ถูกหวยรางวัลที่ 1 รับทรัพย์เหนาะ ๆ 30 ล้านบาท จากสลากทั้งหมด 10 ใบ ซึ่งเลขที่ซื้อนั้นเป็นเลขจากทะเบียนรถแท็กซี่ อีกทั้งยังซื้อเลขเดิมทุกงวด เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2560 เว็บไซต์ workpointtv.com รายงานว่า นายสิทธิชัย สามทอง วัย 40 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 16 เมษายน 2560 หมายเลข 816729 จำนวน 10 ใบ ได้รับเงินรางวัล 30 ล้านบาท ซึ่งเพื่อนฝูงและครอบครัวต่างร่วมแสดงความยินดี ด้านนายสิทธิชัย กล่าวว่า ตนได้นำสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัล ไปลงบันทึกประจำวันกับ ร.ต.ท. รัฐกาญจน์ จันทร์รงค์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เกาะสมุย เรียบร้อยแล้ว สำหรับสาเหตุที่ซื้อเลขดังกล่าว เพราะเป็นเลขทะเบียนของรถแท็กซี่ตัวเอง คือ ทข […]

  เผยสาเหตุทำไม ซินแสโชกุน เหลือเงินในบัญชีแค่ 3 ล้านบาท ทั้ง ๆ ที่หลอกคนได้นับพัน ได้เงินไปร่วม 50 ล้านบาท ด้าน ปปง. เร่งดำเนินการ  เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2560 ผู้สื่อข่าวมีรายงานว่า ภายหลังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำ น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และความผิดฐานร่วมฉ้อโกงประชาชน และดำเนินการตรวจสอบการทำธุรกรรมกับธนาคารของ น.ส.พสิษฐ์ ทราบว่ามีเงินในบัญชี 3 ล้านบาท ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการประสานไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อทำการอายัดเป็นที่เรียบร้อย ากรายการของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า น.ส.พสิษฐ์ ได้ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยเผยว่า มีการนำเงินกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ผู้เสียหายนำมาลงทุน ไปแปลงเป็นทรัพย์สินอื่น ๆ หลายรายการ อาทิ คอนโดมิเนียม มูลค่า 2 ล้านบาท รถเบนซ์ 2.8 ล้านบาท รถยนต์หรูหลายคัน รวมทั้งทองคำ […]