ครม.ไฟเขียว บุตรหลานต่างด้าวเกิดไทยเกิน15ปี-จบป.ตรี ขอสัญชาติได้!

Advertisement ปลัดมหาดไทย แจ้งเวียนหน่วยงานในสังกัดเตรียมความพร้อมดำเนินการ หลัง ครม.ไฟเขียว บุตรหลาน คนต่างด้าว กลุ่มชาติพันธุ์ ชนกลุ่มน้อย ยื่นขอสัญชาติไทยได้ หากอยู่อาศัยมาแล้วไม่น้อยกว่า 15 ปี – เรียนจบชั้นปริญญาตรี Advertisement แหล่งข่าวจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ในช่วงเย็นวันที่ 7 ธ.ค.2559 ที่ผ่านมา นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งเวียนมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลของเด็กนักเรียนนักศึกษาและบุคคลไร้สัญชาติที่เกิดในราชอาณาจักรไทย ให้ทุกส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทยได้รับทราบและเตรียมความพร้อมในการดำเนินงาน โดยระบุว่า ที่ประชุม ครม. ได้มีมติเห็นชอบให้สัญชาติไทยแก่คนที่เกิดในประเทศไทย 2 กลุ่ม คือบุตรหลานของคนต่างด้าวกลุ่มชาติพันธุ์หรือชนกลุ่มน้อยที่ได้จัดทำทะเบียนประวัติไว้และได้อยู่อาศัยในประเทศไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า15ปี และบุตรหลานของคนต่างด้าวอื่นๆ ที่เรียนจบชั้นปริญญาตรีแล้วสามารถยื่นคำร้องขอมีสัญชาติไทยได้ด้วย  นอกจากนี้ ที่ประชุมครม. ยังมีมติอนุมัติหลักการให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการตามหลักสิทธิมนุษยชนสามารถออกกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติสัญชาติ ซึ่งตามหลักกฎหมายควรออกกฎกระทรวงตั้งแต่ปี 2551 แต่ก็ไม่มีการดำเนินการให้ถูกต้อง โดยให้สิทธิบุตรหลานของคนต่างด้าวทั้งหลายไม่ว่าจะเข้าเมืองไทยมาอย่างไร ทั้งมีหนังสือเดินทาง และไม่มีหนังสือเดินทาง สามารถอาศัยอยู่ในประเทศไทยโดยไม่ผิดกฎหมายคนเข้าเมืองตราบเท่าที่พ่อและหรือแม่ยังอาศัยอยู่ในประเทศไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมครม.เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2559 ที่ประชุม ครม. ได้อนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอ ในการแก้ไขปัญหาเรื่องสัญชาติและสถานะบุคคลของเด็กนักเรียนนักศึกษาและบุคคลไร้สัญชาติที่เกิดในราชอาณาจักรไทยดังนี้ 1. อนุมัติให้บุตรของชนกลุ่มน้อยหรือกลุ่มชาติพันธุ์ที่เกิดในราชอาณาจักรไทยและมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ ได้สัญชาติไทยเป็นการทั่วไป คือ  1.1 […]

รัฐบาลยังให้5 ธ.ค.เป็น”วันพ่อแห่งชาติ”ต่อไป เตรียมเสนอ13ต.ค.เป็นวันสำคัญของชาติ

“รัฐบาล”ถก“วันสำคัญของชาติ ปี60”ก่อนทูลเกล้าฯ แล้วชงครม.พิจารณาประกาศเป็นทางการ เผยข้อสรุปเบื้องต้น“ 5 ธันวาฯ”ยังคงเป็น“วันพ่อแห่งชาติ”ต่อไป 8 ธ.ค. 59 แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมเป็นการภายใน โดยมีผู้เข้าร่วมได้แก่ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตัวแทนจากสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตัวแทนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตัวแทนจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และตัวแทนจากกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อเตรียมการเรื่องวันสำคัญที่จะกำหนดให้เป็นวันหยุดในปี 2560 ตามที่หลายหน่วยงานสอบถามนั้น เบื้องต้นที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า วันสำคัญของชาติในปีหน้า ได้แก่ วันที่ 5ธันวาคม ซึ่งรัฐบาลมีความประสงค์ให้เป็น “วันพ่อแห่งชาติ” ต่อไป ส่วนวันที่ 28 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร จะมีการจัดงานพระราชพิธีขึ้น และในวันที่ 13 ตุลาคมนั้น รัฐบาลก็ถือว่าเป็นอีกวันสำคัญของชาติ แต่ที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะเรียกวันดังกล่าวให้มีเกิดความมเหมาะสมที่สุด หรือมีแนวทางปฏิบัติอย่างไร อีกทั้งที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะกำหนดให้ทั้ง 3 วันสำคัญดังกล่าว เป็นวันหยุดด้วยหรือไม่ เนื่องจากยังมีขั้นตอนหลังจากนี้ คือ นายวิษณุ […]

ครม. อนุมัติ โครงการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ครอบคลุม 24,700 หมู่บ้านทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) รับทราบและเห็นชอบตามที่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดท.) เสนอ ดังนี้ 1. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในการประชุม ครั้งที่ 2/2559 เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2559 ซึ่งเห็นชอบในหลักการต่อ (ร่าง) แผนปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนารายยุทธศาสตร์ของแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2560-2564) และผลการดำเนินการ รวมทั้งปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ 2.เห็นชอบแนวทางการดำเนินโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยมอบหมายให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจซึ่งเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านโครงข่ายโทรคมนาคมเป็นผู้ดำเนินการ ในลักษณะการเบิกจ่ายงบประมาณแทนกัน ตามที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ทั้งนี้ ทรัพย์สินที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการของหน่วยงานที่รับผิดชอบจากการเบิกจ่ายเงินงบประมาณแทนกัน ให้ ดท. ขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลัง (กค.) 3.มอบหมายให้ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการกิจกรรมการขยายโครงข่าย อินเทอร์เน็ทความเร็วสูงให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศ และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการกิจกรรมการเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ สู่การเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Digital Hub) […]

“ยอมรับว่าจน ไม่อายสายตาคนอื่น ขอแค่ลูกไม่ดูถูกพ่อก็พอ”ความในใจพ่อยาจกปั่นรถส่งเรียน

หากเลือกเกิดได้ 1 ในสิ่งที่หลายคนอยากขอพรแต่แรกเกิดคงหนีไม่พ้นการขอให้เกิดมาแล้วมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย แต่เพราะเราเลือกเกิดไม่ได้นี่สิ เราถึงต้องดิ้นรนกันไปตามชะตาชีวิต โดยเฉพาะคนยากจนที่ต้องอดทนสู้สร้างฐานะตนเองไม่พอ ยังต้องต่อสู้กับสายตาคนอื่นที่ดูถูกเหยียดหยามไปด้วย "ลุงพิณ" ก็คือคนหนึ่งที่หากเลือกเกิดได้ เขาก็คงอยากจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่เพียงเพราะเพื่อชีวิตตนเองและภรรยา หากแต่เพื่อลูกสาวที่รักของตนเองด้วย แต่กระนั้นความยากจนก็ไม่ได้เป็นปัญหาในการดำรงชีวิตแต่อย่างใด และไม่อายที่จะส่งปั่นจักรยานไปส่งลูกในสภาพเนื้อตัวมอมแมม แขนพิการ เพราะใจความสำคัญคือ "ไม่อายสายตาคนอื่น ยอมรับว่าจนจริงๆ และสอนลูกให้พอใจในสิ่งที่มีอยู่ อีกทั้งลูกก็ยังไม่อายพ่อที่เป็นแบบนี้ ปั่นจักรยานไปส่งเรียนด้วยสภาพแบบนี้ทุกวัน" เรื่องราวของ "ลุงพิณ" ถูกเปิดเผยโดย "ตาอั่ม" (ตาอั่ม สาระศาลิน) ถ่ายทอดลงเพจ YouLike (คลิปเด็ด) เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ดังต่อไปนี้ @ตาอั่ม_[ระบุว่า]… #จำได้มั๊ยลุงยาจกที่ถีบจักรยานส่งลูกสาวเรียนอาชีวะ ลุงคนนี้ชื่อ"ลุงพิณ" หรือ #ลุงยาจกส่งลูกเรียนอาชีวะ(ชีวิตจริงลุงแขนใช้งานได้ข้างเดียว) ใครจะมองลุงอย่างไง ดูถูกลุงอย่างไง ลุงไม่สนเพราะที่ลุงจนมันเรื่องจริง ลุงยอมรับ (จนแค่ตัวสกปรกก็ที่กายแต่หัวใจไม่เคยจนและยิ่งใหญ่มาก) คำว่าพ่อนั่นยิ่งใหญ่ทุกลมหายใจเพื่อลูก…ทุกข์อย่างไงก็ต้องยิ้มสู้ (ผมสะเทือนใจมากๆตอนเจอคุณลุงแล้วคนงานทักผมว่า..มาเก็บหนี้ไอ้พิณเหรอ) ทุกข์ที่ไม่เคยเอ่ยปากของลุงท่านนี้…เมื่อทุกข์ต้องยิ้มสู้แล้วเดี๋ยวทุกอย่างก็ดีเอง อย่างแรกที่ดีเห็นได้ชัดคือใจ แต่เรื่องจริงน่าเศร้ากว่าที่เห็น(เศร้าได้อีก) ผมขอเรียกลุงว่า…ลุงพิณยอดคุณพ่อหัวใจทองคำ แล้วกัน(ติดตามอ่านในคอลัมน์เดลินิวส์เร็วๆ นี้) ลุงพิณ อายุ 56 ปี เนื้อตัวสกปรกมอมแมมผิวดำตัวกร้านแขนพิการหนึ่งข้าง ใช้การได้ไม่ค่อยดี ท่าทางรูปร่างเปรียบเทียบกับขอทานข้างถนนก็ไม่ต่าง(เป็นการตัดสินคนจากภายนอก ) ตาอั่ม…ผมหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วเปิดรูปให้ลุงดูพร้อมกับถามลุงพิณว่าชายที่ปั่นจักรยานพ่วงลูกคนนี้ใช่คุณลุงไหม? ลุงพิณ…ตอบว่าใช่ปั่นไปส่งลูกอย่างนี้ทุกๆ วัน […]

นศ.ถล่มยับ ร้านขายชุดนักศึกษาชื่อดังย่าน มช.คิดค่าลองเสื้อครั้งละ20/ติดป้ายเตือนแรงมาก!

ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร หากร้านค้าจะติดป้ายเตือนเพื่อรักษาคุณภาพของสินค้าและสิ่งของอื่นๆ ที่เป็นต้นทุนภายในร้านให้ยังมีคุณภาพดี ไม่เสียหาย แต่ก็ต้องมีวาทศิลป์หรือรู้จักการใช้คำพูดสักหน่อย มิฉะนั้นจะกลายเป็นการไล่ลูกค้าได้ เฉกเช่นกรณีของเฟซบุ๊ก Pachara Wuttipianlert นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ที่เจอป้ายเตือนของร้านขายชุดนักศึกษาชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านหน้า มช. ดังนี้ ซึ่งหลังจากเฟซบุ๊กดังกล่าวได้โพสต์เรื่องราวนี้ลงไป ก็มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงเห็นด้วยเป็นอย่างมาก พร้อมแชร์ประสบการณ์ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ร้านนี้ชื่อดัง แต่แปลกที่พนักงานมารยาทแข็งกระด้าง ไม่ง้อลูกค้าเกินไป คิดค่าลองเสื้อครั้งละ 20 บาท อีกทั้งยังชอบถามในเชิงไม่พอใจหรือแกมบังคับลูกค้า เมื่อลูกค้าลองเสื้อผ้าแล้วยังหาไซส์ที่ถูกใจไม่ได้ บางคอมเม้นท์ก็แคปหน้าจอมาให้ดูกันไปเลยว่า นอกจากหน้าร้านจะบริการไม่ดี แม้กระทั่งในเพจร้านก็ยังตอบลูกค้าไม่ดี แข็งกระด้าง ไม่นิ่มนวลชวนซื้อเช่นกัน ก็น่าติดตามว่าทางร้านค้าจะทราบเรื่องนี้หรือไม่? หากทราบแล้วจะวางตัวอย่างไรต่อ? แต่ก็น่าคิดว่าเรื่องสั้นๆ แต่มีคนเข้ามาพูดเป็นเสียงเดียวกันมากกว่า 230 คอมเม้นท์และอีก 3,700 คนที่แชร์ออกไป ก็น่าจะพอยืนยันได้ดีว่าการเลือกใช้คำพูดที่เหมาะสมในการค้าขาย มีผลต่อลูกค้าโดยตรงเสมอ หากเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ลูกค้าก็พร้อมจะบอกต่อ หากแย่มากๆ ลูกค้าก็ไม่อาจง้อ และทนไม่ไหวที่จะส่งต่อถึงชื่อเสียงในด้านลบ คลิกที่นี่ เพื่อเข้าสู่ลิ้งค์ต้นเรื่องแบบไม่เซนเซอร์  

ติวเตอร์ชื่อดังทำพิษ หลอกเงินเหยื่อรายละ3หมื่น-ยกเลิกคอร์สติวหมอ-ปิดเฟซหนี!!

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 5 ธันวาคม 2559 นายจารึก คงเรือง อายุ 50 ปี และนางศรีวิไล คงเรือง อายุ 41 ปี สองสามีภรรยา และบุตรสาวคือ น.ส.มณีฉาย อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่ง จ.ชุมพร พร้อมด้วยนางสุจิตต์ ภาสพานทอง อายุ 47 ปี และบุตรสาวคือ น.ส.พิมพ์ชนก อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่ง เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.วุฒิพงศ์ ทองมาก สารวัตรสอบสวนเวร สภ.เมืองชุมพร น.ส.พิมพ์ชนกเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2559 ตนและ น.ส.มณีฉายพร้อมเพื่อนร่วมห้องเรียนเดียวกันอีก 15 คน ได้อ่านพบข้อความโฆษณาใน […]

สลดใจ! เด็กชาย ม.2 ยิงตัวตาย ทิ้ง จ.ม.ขอโทษพ่อแม่ เหตุน้อยใจเพื่อนแกล้งหนัก

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 6 ธ.ค. ร.ต.อ.ชิตณรงค์ กลางประพันธ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สน.โชคชัย รับแจ้งเหตุมีคนใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 32/19 ซอยลาดพร้าว 81 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ รอง ผกก.สส. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 80 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด จากการตวรจสอบภายในบ้านพบศพนายโด่ง (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี เสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอนชั้น 2 สภาพสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขายาวสีแดง มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่หน้าอกขวา 1 นัด ทะลุหลัง ข้างกายพบปืนลูกโม่ ขนาด.38 ตกอยู่ 1 กระบอก นอกจากนี้ภายในห้องยังพบจดหมายลาตายเขียนไว้ด้วยลายมือผู้ตาย […]

อัพเดทชีวิต”เก่งเกียร์R”เป็นเด็กวัดเลี้ยงแม่ชรา-ลูกป่วย สำนึกสุดซึ้งวอนสังคมให้โอกาส(มีคลิป)

ย้อนกลับไปหลายเดือนก่อนราวๆ ต้นปี 2559 หลายคนคงจำกันได้ดีสำหรับคดีที่ "ดีเจเก่ง" ขับรถวีโก้สีดำถอยทับรถเก๋งฮอนด้าแจ๊ซสีแดงซ้ำกันถึง 3 ครั้งซ้อนแล้วมีคนถ่ายคลิปไว้ได้ จนเกิดฉายา "เก่ง เกียร์R" และประโยคเด็ด"ขอความเห็นใจด้วยครับผม เจอคนแบบนี้ ในสังคมแบบนี้ แย่มากครับ" ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากในโลกโซเชียลถึงความขาดสติของดีเจหนุ่มเจ้าของรถ จนเรียกได้ว่าเขาเป็นคนที่ถูกด่ามากที่สุดในปี 2559 ก็ว่าได้.. คลิปจาก Roister Chanel [youtube]nffEQfF1P8U[/youtube] คลิปจาก AMARIN TVHD [youtube]S6jiIS3vrzM[/youtube] [youtube]sWnaxMqhce4[/youtube] กระแสสังคมดังกล่าวในช่วงนั้น ทำให้ดีเจหนุ่มคนดังกล่าวต้องยอมจำนนต่อหลักฐานต่างๆ โดยดีและปลีกตัวหายไปสักระยะจากสังคม ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทางรายการ "ต่างคนต่างคิด" ช่องอัมรินทร์ทีวี ก็ได้เชิญเขามาสัมภาษณ์เปิดใจครั้งแรก อัพเดทชีวิตหลังผ่านเหตุการณ์ดังกล่าวไปหลายเดือนแล้ว โดยดีเจหนุ่มคนดังกล่าวได้อัพเดทชีวิตตนเองว่า ในระหว่างที่หายไปจากหน้าสื่อนั้น ตนได้ไปบวชที่วัดใกล้บ้านสักระยะหนึ่ง ตอนนี้สำนึกอย่างสุดซึ้งแล้วจากความขาดสติของตนเองชั่ววูบที่ทำให้ทุกสิ่งรอบตัวเขาพังพินาศ เริ่มตั้งแต่การที่ต้องหย่าร้างกับภรรยาเพราะทัศนคติที่ไม่ตรงกัน, ตกงาน ไม่มีรายได้จนต้องยอมให้โดนยึกรถไป, ประสบเหตุโจรขึ้นบ้าน ขโมยเซฟที่เก็บทรัพย์สินไว้เพื่อเป็นทุนการศึกษาสำหรับลูกไปหมดสิ้น, แม่ตนเองที่ต้องกู้เงินมาชดใช้คู่กรณีร่วมกว่า 2 แสนบาทล้มป่วย หนำซ้ำลูกที่ยังเล็กก็ป่วยอีกเช่นกัน วอนสังคมให้โอกาสเขาอีกครั้ง โดยเฉพาะเรื่องการงาน เพราะทุกวันนี้ต้องประทังชีวิตด้วยการเป็นเด็กวัดในวัดที่เคยบวช หากเขาต้องเป็นอะไรไป แม่และลูกที่กำลังป่วยต้องแย่ตามแน่ๆ  คลิปรายการต่างคนต่างคิด […]

ใครพูดจริง? ทอมบอกจู่ๆ ชายต่อยหาเรื่องก่อน-ชายยอมรับต่อยจริงเพราะทอมกร่างก่อน

เป็นเรื่องอลวนอลเวงเสมอสำหรับประเด็นชายหมั่นไส้ทอม ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กSahasa Aumbad Phoo สาวหล่อซึ่งอ้างว่าเป็นผู้เสียหายก็ได้แชร์เหตุการณ์ที่ตนเองพบเจอให้กับโลกออนไลน์ได้รู้โดยทั่ว โดยฝั่งเธอนั้นได้กล่าวว่าตนเองเพียงแค่กำลังจะไปกินข้าวกับเพื่อนสาว จู่ๆ ก็มีผู้ชายตามมาถึงร้านสะดวกซื้อ ต่อยเธอไปเกือบ 10 ครั้งได้ เพราะชายคนนั้นเข้าใจว่าเธอไปขับรถปาดหน้ารถเขา ซึ่งหลังจากโพสต์เรื่องราวดังกล่าวไปพร้อมภาพและคลิป ก็มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก (คลิกที่นี่เพื่ออ่านความคิดเห็นอื่นๆ ในลิ้งค์ต้นเรื่อง) และในเวลาไล่ๆ กันนั้นเอง เรื่องราวดังกล่าวก็ได้แชร์ไปถึงเพจ Red Skull V.SE ชายหนุ่มคู่กรณีจึงขอให้แอดมินนำความจริงอีกด้านจากตนเองไปโพสต์ โดยขอไม่เปิดเผยชื่อตนเอง (คลิกที่นี่เพื่ออ่านความเห็นอื่นๆ ในโพสต์ของเพจ Red Skull V.SE) งานนี้ก็ไม่รู้ว่าใครพูดจริงหรือเท็จ แต่ที่แน่ๆ จะพูดเท็จต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมายต่อไป คนไทยอย่าใจร้อนกันเลย ไม่ว่าจะเพศไหนก็ไม่ควรใช้ความรุนแรงต่อกัน    

แบบนี้ก็มีด้วย เมียเก่าหมั่นไส้!!! ถีบลูกเมียใหม่กระเด็น

  เป็นเรื่องราวจากสมาชิกเฟชบุ๊ค Jidapa Petchklay  โพสต์คลิปวิดิโอวงจรปิดจากห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา เหตุเกิดวันที่ 5 ธันวาคม 2559 เหลนชายของผู้โพสต์ ถูกผู้หญิงซึ่งเป็นอดีตภรรยาของพ่อเด็ก ถีบจนกระเด็น ด้วยสาเหตุใดนั้นยังเป็นที่คาใจ ว่าเพราะเหตุใจจึงเอาความแค้นส่วนตัวนั้นมาลงกับเด็กสองขวบ ที่ไม่รู้อะไร  ทั้งนี้ทางผู้เสียหายได้ทำการแจ้งความเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเนื้อหาที่โพสต์มีความว่า      คลิกเพื่อชมคลิปเหตุการณ์ ซึ่งสาเหตุของเรื่อง ทางผู้โพสต์คิดว่า อดีตภรรยาของพ่อเด็ก มีความแค้นส่วนตัวกับแม่เด็กที่เป็นภรรยาใหม่ ทั้งที่เลิกรากันไปนานแล้ว ก่อนจะมาแต่งงานกับแม่เด็ก ซึ่งการกระทำกับเด็กเล็กๆ ที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยนั้น ทำให้เกิดเสียงวิพากวิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก  ด้วยคำถามที่ว่า เด็กผิดอะไร ทำไมต้องมาลงกับเด็ก!!    ขอบคุณภาพเหตุการณ์และเรื่องราวจาก  สมาชิกเฟซบุ๊ค  Jidapa Petchklay เรียบเรียงโดย : http://www.thaijobsgov.com/  

1 2,910 2,911 2,912 2,960
error: