“ไขมันพอกตับ”…คุณก็อาจจะเป็นโรคอยู่ก็ได้!!
Advertisement Advertisement ไขมันพอกตับคือโรคที่เกิดจากการสะสมของไขมันในตับที่มากเกินไปจนทำให้ตับทำงานผิดปกติ เอกสารทางการแพทย์พบว่าโดย 20% ของคนที่เป็นโรคอ้วนมักจะเป็นโรคไขมันพอกตับ รวมถึงผู้ที่มีดัชนีมวลกาย BMI 25-30 หรือผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากนั่นเอง แล้วปัจจัยอะไรที่ทำให้เกิดโรคนี้หละ!!? 1. การดื่มสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ เป็นประจำและมากเกินไปหรือดื่มจัดนั่นเอง 2. ดื่มน้ำสะอาดน้อยเกินไปหรือการดื่มน้ำหวานแทนน้ำเปล่า 3. การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว 4.ผู้ที่ป่วยเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน ผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซี ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง และสภาวะขาดอาหารสามารถทำให้เกิดโรคไขมันพอกตับได้รวมถึงการรับประทานอาหารที่มากเกินไป ไขมันพอกตับจะแบ่งความรุนแรงของโรคเป็น 4 ระยะ ดังนี้ ระยะแรก เริ่มมีอาการสะสมไขมันที่ตับมากกว่าปกติ แต่ยังไม่ส่งผลเสียใด ระยะที่สอง เริ่มพบการอักเสบที่ตับ หากไม่รีบรักษาหรือดูแลตัวเองและปล่อยให้เป็นนานถึง 6 สัปดาห์จะทำให้เกิดอาการตับอักเสบเรื้อรัง Advertisement ระยะที่สาม เซลล์ตับจะค่อยๆถูกทำลาย เพราะการอักเสบมีความรุนแรงขึ้น และเกิดพังผืดขึ้นในตับ ระยะที่สี่ ตับไม่สามรถทำงานได้อย่างปกติอีกต่อไป เพราะเซลล์ตับถูกทำลายลงไปมาก อาจทำให้เปลี่ยนเป็นโรคตับแข็งหรือมะเร็งตับในที่สุด "แม้ว่าผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้จะไม่แสดงอาการให้เห็นหรือรู้ตัวมาก่อน หรือหากมีอาการก็ไม่สามารถรู้ได้ว่ากำลังเป็นโรคนี้อยู่ เช่น มีอาการคลื่นไส้อาเจียนเป็นบางเวลา รู้สึกอ่อนเพลียบ่อยๆ และรู้สึกเจ็บๆตึงๆบริเวณใต้ชายโครงด้านขวา เป็นต้น" เราจะสามารถป้องกันโรคนี้ได้อย่างไร? 1.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ […]