เรื่องหมาๆ …สุนัขมีอารมณ์อิจฉาได้เช่นเดียวกับคน

Advertisement ในความเป็นจริงมนุษย์มีความอิจฉาได้แทบทุกคน แต่หากเกิดกับหมา ล่ะ….. Advertisement   นิสัยอิจฉาของสุนัข ไม่ได้เกิดจากการเรียนรู้ด้านอารมณ์แต่ฝังตัวอยู่ในพฤติกรรม และเป็นความรู้สึกที่ไม่ต้องอาศัยความคิดหรือสติปัญญาขั้นสูงแต่อย่างใด มีการทดลองของมหาวิทยาลัยแคลิฟรอเนีย รัฐที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา โดยให้เจ้าของสุนัขสนใจสิ่งของต่างๆรวมทั้งตุ๊กตาสุนัขที่กระดิกหางได้ ผลปรากฏว่า เมื่อเจ้าของให้ความสนใจตุ๊กตาสุนัขที่กระดิกหางได้ สุนัขจะพยายามแทรกตัวเข้าไประหว่างเจ้าของกับตุ๊กตา หรือในบางกรณีถึงกับกัดหรือคาบตุ๊กตาออกไปเลย   [ads]   สอดคล้องกับการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ในออสเตรีย ได้ยืนยันว่าสุนัขก็มีนิสัยขี้อิจฉาริษยาได้เหมือนคน จากการทดลองพบว่าถ้าเราสั่งให้สุนัข 2 ตัวทำในสิ่งเดียวกัน แต่เลือกที่จะให้รางวัลกับสุนัขแค่เพียงตัวเดียว สุนัขอีกตัวก็จะเกิดความน้อยใจและอิจฉา จนไม่ยอมทำตามคำสั่งอีกต่อไป            Advertisement   …..และยังพบอีกว่า ความอิจฉาริษยาเป็นพฤติกรรมที่พบได้เฉพาะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น ลิง นอกจากลิงจะอิจฉาที่เพื่อนของมันได้รางวัลแต่ตัวเองไม่ได้แล้ว พวกลิงยังจำแนกได้ด้วยว่ารางวัลที่ได้รับ อันไหนมีค่ามากกว่ากัน และถ้าตัวเองได้รับรางวัลที่ไม่ค่อยมีคุณค่าเท่าใด มันก็จะอิจฉาเพื่อนตัวอื่นที่ได้รับรางวัลที่ดูดีมากกว่า     เมื่อทราบข้อมูลเหล่านี้แล้ว หากใครที่เลี้ยงน้องหมา น้องแมวอยู่ ก็อย่าลืมใส่ใจและดูแลพวกเค้าอย่างเท่าเทียมกันน่ะค่ะ…………..   [ads=center]  

ธอส.จัดให้ !! “สินเชื่อบ้าน ธอส.ชีวิตมีสุข”ดอกเบี้ยคงที่ 3.99% ต่อปี นาน 3 ปีแรก

ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) เดินหน้าปล่อยสินเชื่อเพื่อลดความเหลื่อมล้ำสร้างโอกาสให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัยตามนโยบายรัฐบาลเพื่อคืนความสุขให้ประชาชน โดยทุ่มวงเงิน 5,000 ล้านบาท จัดทำโครงการ “สินเชื่อบ้าน ธอส. ชีวิตมีสุข” อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.99% นานถึง 3 ปีแรก วงเงินให้กู้รายละไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ให้กู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย หรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัยและซื้ออุปกรณ์ตกแต่งเพื่อที่อยู่อาศัย สามารถยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2558 และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 กันยายน 2558 หรือภายใต้กรอบวงเงินที่ธนาคารกำหนด นางอังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า สำหรับแนวทางการดำเนินงานไตรมาส 2 ธนาคารยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างโอกาสด้านที่อยู่อาศัยให้กับคนไทยโดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำได้ง่ายขึ้นพร้อมเดินหน้ามาตรการสินเชื่อเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ จึงได้เตรียมวงเงิน 5,000 ล้านบาท จัดทำ “โครงการสินเชื่อบ้าน ธอส. ชีวิตมีสุข” อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.99% ต่อปี นาน 3 ปีแรก […]

ตากแดดสิ!!ช่วยผอมได้

มีการเปิดเผยจากวิทยาลัยแพทยศาสตร์ไฟเบิร์ก แห่งมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น ว่า แสงแดดยามเช้าช่วยลดน้ำหนักได้จริง     โดยได้ทำการให้อาสาสมัครอายุเฉลี่ย 30 ปี จำนวน 54 คน ให้ได้รับการตากแดดในตอนเช้า(ในช่วงเวลา 08.00-12.00 น.) และสวมเครื่องวัดปริมาณแสงอาทิตย์ตอนเช้าเป็นเวลา 7 วัน ติดต่อกัน พร้อมทั้งบันทึกรายการอาหารที่กินในแต่ละวันพบว่าคนที่ได้รับแสงแดดช่วงเช้ามีค่า BMI (Body Mass Index:ดัชนีมวลกาย) ต่ำกว่าคนที่ไม่ได้รับเเสงเเดดเลย โดยไม่ขึ้นกับอายุอาหารที่กินหรือกิจกรรมที่ทำ แค่ให้ร่างกายได้สัมผัสแสงอาทิตย์วันละ 20 – 30 นาที ก็ช่วยให้น้ำหนักลดลงได้แล้ว   [ads]     แต่สำหรับประเทศไทย ปริมาณแสงแดดในช่วงเช้า ก่อน 09.00 น.จะเหมาะสมเละปลอดภัยต่อผิวที่สุด…..ลองทำดูง่ายๆ นอกจากจะทำให้ผอมลงได้แล้ว ในแสงแดดอ่อนในช่วงเช้าหรือเย็นจะสังเคราะห์วิตามินดีให้ร่างกาย ทำให้กระดูกแข็งแรง อีกด้วย   [ads=center]   Illustration by: [online]www.linkedin.com  

รู้หรือไม่ ? ดื่มน้ำเย็นจัด ลดขีดความสามารถของสมอง แถมป่วยเร็วอีกต่างหาก !!

ใครๆก็ชอบดื่มน้ำเย็นกันทั้งนั้น เพราะอากาศบ้านเราร้อนซะขนาดนี้ ดื่มน้ำเย็นๆสักแก้วนี่มันชื่นใจจริงๆ โดยเฉพาะหน้าร้อนเนี่ยหลายคนคงจะขาดไม่ได้เลย แต่รู้หรือไม่ว่า น้ำเย็นจัดที่ชอบดื่มกันนั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพมากมายเลยทีเดียว ผลเสียที่ว่ามีไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย 1. ลดขีดความสามารถของสมอง           เชื่อไหมว่า นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยบริสตอล ในประเทศอังกฤษ ได้ทำการศึกษาพบว่า คนที่ดื่มน้ำเย็นจัดในยามที่ร่างกายไม่ได้เกิดความรู้สึกกระหายน้ำนั้น จะทำให้ขีดความสามารถในการทำงานของสมองลดลงไปทันที จากการแบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มหนึ่งไม่ได้ดื่มน้ำอะไรเลย ขณะที่อีกกลุ่มให้ดื่มน้ำเย็นจัด อุณหภูมิประมาณ 10 องศาเซลเซียส 1 แก้ว ทั้งที่ยังไม่รู้สึกกระหาย แล้วนำแบบทดสอบไปให้ทำ ปรากฏว่า กลุ่มที่ไม่ได้ดื่มน้ำทำแบบทดสอบได้ดีกว่ากลุ่มที่ดื่มน้ำเย็นจัด โดยกลุ่มที่ดื่มน้ำเย็นจัดนั้น มีขีดความสามารถในการทำแบบทดลองลดลงไปถึง 15% เลยทีเดียว           เมื่อผลเป็นเช่นนี้ นักวิจัยจึงเชื่อว่า อุณหภูมิของน้ำที่เย็นไปส่งผลกระทบต่อสมอง ดังนั้น จึงกระทบต่อคนที่กำลังทำงานที่ต้องใช้สมอง หรือใช้ความคิดมาก ๆ รวมทั้งการขับรถด้วย หากใครกำลังทำงานเครียด หรือขับรถฝ่ารถติด ก็เลี่ยงน้ำเย็นจัด ๆ ไว้นะ 2. ย่อยอาหารได้ยากขึ้น           หลายคนติดนิสัยทานอาหารคำสุดท้ายเสร็จเมื่อไร ก็จะดื่มน้ำเย็น ๆ ตามลงไปทันที บ้างก็ว่าเพื่อล้างปาก […]

ดื่มโกโก้ 1 เดือน ช่วยให้ความจำดี!

ผลงานวิจัยของ ดร.ฟาร์ซาเนห์ โซรอนด์ แห่งวิทยาลัยการแพทย์ฮาร์วาร์ด ซึ่งทำการทดลองกับกลุ่มผู้สูงอายุวัย 73 ปี จำนวน 60 คน เป็นเวลา 1 เดือน โดยให้กลุ่มผู้ทดลอง ดื่มโกโก้ร้อนวันละ 2 แก้ว พบว่า โกโก้ร้อน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนโลหิตไปสู่สมองได้ดีขึ้นถึง 8.3 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้ระบบความจำทำงานได้ดีขึ้น จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์     ทั้งนี้ต้องไม่ลืมระมัดระวังปริมาณน้ำตาลที่ใส่ในโกโก้ หากใส่มากเกินไป แทนที่จะให้ประโยชน์ อาจกลายเป็นโทษแฝงมากับโกโก้ถ้วยโปรดของคุณก็ได้   [ads=center] Illustration by: [online] www.telegraph.co.uk [online] www. namyoi.lnwshop.com        

ข่าวดี !! กยศ.ประกาศแจ้งรายชื่อผู้กู้ยืมที่มีสิทธิ์จะ “ได้รับเงินคืนส่วนลดเงินต้น 3%”

กยศ.ประกาศแจ้งรายชื่อผู้กู้ยืมที่มีสิทธิ์จะได้รับเงินคืนส่วนลดเงินต้น 3%  แจ้งรายชื่อผู้กู้ยืมที่มีสิทธิ์จะได้รับเงินคืนส่วนลดเงินต้น 3% ในโครงการรณรงค์ชำระหนี้ปี 2558 แต่มิได้แจ้งความประสงค์มายังกองทุนฯ ประกาศแจ้งรายชื่อผู้กู้ยืมที่มีสิทธิ์จะได้รับเงินคืนส่วนลดเงินต้น 3% แต่มิได้แจ้งความประสงค์มายังกองทุนฯ เพื่อขอรับเงินคืน บนเว็บไซต์ของกองทุนฯ และ/หรือ สื่ออื่นๆ โดยระบุข้อความว่า "ขอให้ผู้กู้ยืมที่มีรายชื่อดังต่อไปนี้ ( คลิกตรวจสอบรายชื่อ ) ติดต่อแจ้งความประสงค์ขอรับคืนส่วนลดเงินต้น 3% โดยส่งแบบฟอร์มแจ้งความประสงค์ขอรับเงินคืน (โครงการรณรงค์ชำระหนี้) พร้อมหลักฐานประกอบการขอคืนเงินมาที่ฝ่ายบริหารหนี้ หมายเลขโทรสาร 0-2643-2213 หรือ ที่อยู่ในการจัดส่งเอกสาร : กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา อาคาร 2 ชั้น 16 ซอยทวีมิตร ถนนพระราม 9 แขวง/เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 (ฝ่ายบริหารหนี้) หลักฐานประกอบการขอคืนเงิน ดังนี้   1. แบบฟอร์มแจ้งความประสงค์ขอรับเงินคืน(โครงการรณรงค์ชำระหนี้) (คลิกดาวน์โหลด)   2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้กู้ยืม   3. สำเนาใบเสร็จรับเงิน(ใบ pay in)   4. […]

เเค่ออมเงิน 10 บาท/สัปดาห์ก็มีเงินเพิ่มเป็นหมื่น!ได้

เชื่อว่าหลายคนยังอยากเริ่มต้นออมเงิน วันนี้มีวิธีการออมเงินจากเวปไซด์ http://www.kuripotpinay.com เขียนโดย theAsianparent Editorial Team   ที่แนะวิธีปฏิบัติการออมเงินในสหรัฐอเมริกา ถ้าคุณทำตามนี้อย่างเคร่งครัด คุณจะมีเงิน 1 หมื่น 3 พันกว่าบาทในเวลา 1 ปี !!     วิธีการคือ สัปดาห์แรกให้คุณเก็บเงิน 10 บาท แล้วสัปดาห์ที่ 2 ให้คุณเพิ่มเป็น 20 บาท สัปดาห์ที่ 3 ก็เพิ่มเป็น 30 บาท เพิ่มไปเรื่อย ๆ ใส่กระปุกออมสินไว้ ฟังดูง่ายใช่รึเปล่าล่ะ   แม้เงินอาจเป็นจำนวนน้อยนิด แต่ก็เป็นการเริ่มต้นออมเงินที่ดี   แต่หากคุณมีรายได้สูง คุณอาจเริ่มต้นเก็บเงินจาก 10 บาท เป็น 100 บาท และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในทุกสัปดาห์ เมื่อผ่านไป 1 ปี คุณจะมีเงินเก็บ 137,800 บาทเลยทีเดียว   [ads=center]   Illustration1-3 by: [online] http://www.kuripotpinay.com [online] www.seadogit.com  

การกินน้ำตาลแบบใหม่ ลดแคลอรี่เกินครึ่ง

คนไทยมักคิดว่าขาดรสหวานไม่ได้ ในประเทศไทยจึงมีการบริโภคน้ำตาลอยู่ในระดับอันตราย และยังมีแนวโน้มบริโภคเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่น่าตกใจคือคนไทยกินน้ำตาลเฉลี่ยคนละ 83.6  กรัมต่อวัน หรือประมาณ 16.7 ช้อนชา ซึ่งสูงกว่าปริมาณที่แนะนำต่อวันเกือบสามเท่า!!!     องค์การอนามัยโลกจึงให้คำแนะนำให้บริโภคน้ำตาลเป็น 2 แบบคือ   1.แบบทั่วไป  แนะนำให้ผู้ใหญ่และเด็กบริโภคน้ำตาลในปริมาณที่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของพลังงานทั้งหมดที่ได้รับต่อวัน เช่น ในผู้ใหญ่ที่ต้องการพลังงาน 2,000 แคลอรีต่อวัน ให้ลดการบริโภคน้ำตาลให้เหลือน้อยกว่าร้อยละ 10 ของพลังงานที่บริโภคโดยรวมต่อวัน(ไม่เกิน 200 แคลอรี่ หรือน้อยกว่า 13 ช้อนชาต่อวัน)   2.แบบสุขภาพที่ดีขึ้น แนะนำให้ผู้ใหญ่และเด็กควรบริโภคน้ำตาลต่ำกว่าร้อยละ 5 หรือเทียบเท่ากับ 25 กรัม หรือ 6 ช้อนชาต่อวัน (โดยน้ำตาล 1 กรัม ให้พลังงาน 4 แคลอรี่ ดังนั้นน้ำตาล 1 ช้อนชา จะให้พลังงานประมาณ 15 แคลอรี่) […]

5 เหตุผล ผู้ใหญ่เล่นโซเชียล อันตรายกว่าวัยรุ่น

               ตามไปดู 5 เหตุผล ที่เมื่อผู้ใหญ่สูงวัยเล่นอินเทอร์เน็ต-โซเชียลมีเดีย แล้วอันตรายกว่าเด็กและวัยรุ่น จากมุมมองของ ธีรภัทร เจริญสุข             บางคนคิดว่าการท่องโลกสังคมออนไลน์ของเด็กวัยรุ่นยุคนี้ดูจะไม่ปลอดภัยนัก เพราะยังขาดวุฒิภาวะและความยับยั้งชั่งใจในหลาย ๆ เรื่อง ประกอบกับมีความคึกคะนองอยู่ในตัวเอง จึงเผลอโพสต์ข้อความหรือภาพอะไรโดยไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อน และทำให้เกิดเรื่องได้             แต่จริง ๆ แล้ว ไม่ใช่แค่วัยรุ่นเสมอไป วัยผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุที่หันมาเล่นอินเทอร์เน็ตมากขึ้น ก็เป็นคนกลุ่มใหม่ที่เสี่ยงต่อการถูกหลอกลวง และรู้เท่าไม่ถึงการณ์จากผิดภัยของโลกไซเบอร์ได้เช่นกัน อย่างเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2558 ธีรภัทร เจริญสุข นักเขียน นักแปล และคอลัมนิสต์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Theerapat Charoensuk เผยถึง 5 เหตุผล ที่เมื่อผู้ใหญ่สูงวัยเล่นอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย แล้วอันตรายกว่าเด็กและวัยรุ่น ซึ่งข้อมูลนี้น่าสนใจทีเดียว             "5 เหตุผลที่เมื่อผู้ใหญ่สูงวัยเล่นเน็ตโซเชียลมีเดียแล้วอันตรายกว่าเด็กและวัยรุ่น […]

9 โรคใหม่ของคนที่สูบบุหรี่

                      จากการรายงานของกระทรวงสาธารณสุขสหรัฐอเมริกา พบว่าการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุของมะเร็งปอดและโรคเรื้อรังอื่นๆ เป็นครั้งแรก ในปี 2507  หลังจากนั้นก็มีรายงานถึงโรคต่างๆ ซึ่งมีหลักฐานแน่ชัดว่าเกิดจากการสูบบุหรี่มาเป็นระยะๆ โดยปีนี้ในโอกาสครบรอบ 50 ปี มีรายงานของนายแพทย์ใหญ่สหรัฐอเมริกา พ.ศ.2557 ซึ่งเป็นฉบับล่าสุด ได้รับรอง 9 โรคใหม่ที่เกิดจากการสูบบุหรี่หรือการได้รับควันบุหรี่ที่ผู้อื่นสูบ ได้แก่             1. มะเร็งตับ             2. มะเร็งลำไส้             3. วัณโรค โดยมีความเสี่ยงที่จะเกิดวัณโรคเพิ่มขึ้น มีโอกาสเสียชีวิตจากวัณโรคเพิ่มขึ้น และทำให้วัณโรคกลับเป็นใหม่มากขึ้น [ads]   […]

1 623 624 625 704
error: