12 สิ่งที่คนประสบความสำเร็จเขาไม่ทำกัน

Advertisement 12 สิ่งที่คนประสบความสำเร็จเขาไม่ทำกัน Advertisement 1. ไม่ให้ใครมานิยามคำว่า “สำเร็จ” สำหรับพวกเขา คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ทำในสิ่งที่พวกเขาทำแล้วมีความสุข และลงมือทำมันโดยไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดยังไง บางคนวัดความสำเร็จด้วยเงิน ขณะที่บางคนต้องการที่จะปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น ซึ่งก็ไม่ได้มีใครผิดใครถูกทั้งหมด เพียงแต่ว่าคนที่ประสบความสำเร็จรู้ว่ามันเป็นสิ่งไม่ถูกต้องที่จะบังคับให้คนอื่นเห็นตามความต้องการของเราผู้เดียว 2. ไม่ยอมรับอะไรง่ายๆโดยไม่ตั้งคำถามก่อน คนที่ประสบความสำเร็จมักเป็นคนที่มีความคิด และมักตั้งคำถามก่อนที่จะยอมรับความจริง พวกเขาทราบดีว่าพวกนักเขียน หรือนักข่าวต่างก็มีอคติเช่นเดียวกับพวกเราคนธรรมดา ดังนั้นพวกเขาจะมีคำถามเสมอไม่ว่าข้อมูลที่พวกเขาได้ยินจะมีความน่าเชื่อถือเพียงใด ก่อนที่จะยอมรับว่ามันเป็นจริง 3. ไม่ยอมให้เพื่อนหรือครอบครัวมาตัดสินเรื่องสำคัญในชีวิต คนที่ประสบความสำเร็จต่างก็แคร์คนรอบข้าง เพียงแต่พวกเขาไม่ยอมให้ความเห็นของคนอื่นมาก่อนความสุขของตนเอง พวกเขาเชื่อมั่นในสัญชาตญาณและมุ่งหน้าเติมเต็มความฝันของตนเอง ถึงแม้ว่ามันจะทำให้ครอบครัวผิดหวังก็ตาม 4. ไม่ยึดคิดกับความเชื่อในอดีต คนที่ประสบความสำเร็จพร้อมยอมรับความจริงที่ว่าพวกเขาก็ไม่ได้รู้ดีไปหมดทุกอย่าง พวกเขาพยายามถ่อมตน เพราะว่าความสำเร็จในชีวิตระยะยาวของพวกเขาขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงนั่นเอง 5. ไม่ยึดติดกับสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ คนที่ประสบความสำเร็จไม่กังวลเกี่ยวกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากแผนการที่วางไว้ Advertisement 6. ไม่เก็บคำวิจารณ์หรือคำดูถูกมาคิดให้หนักสมอง คนที่ประสบความสำเร็จไม่ใส่ใจเลยว่าคนอื่นจะมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเขา พวกเขามุ่งหน้าทำสิ่งต่างๆให้ดีขึ้นก็เท่านั้นเอง 7. รู้ว่าความสำเร็จไม่มีคำว่า “รวดเร็ว” และ “’ง่ายดาย” คนที่ประสบความสำเร็จจะรู้สึกเห็นใจกับคนที่ตกหลุมพรางไปกับคำว่า “รวยเร็ว” หรือ “ลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว” พวกเขาทราบดีว่าคนทุกคนต่างก็พัฒนาไปในแบบเฉพาะของตนเอง ดังนั้นแล้วไม่มีใครรู้หรอกว่าต้องใช้เวลานานเท่าไรถึงจะประสบความสำเร็จ 8. ไม่นั่งรอ […]

ฝึกดูหนังยังไง ? ให้เก่งภาษาอังกฤษ

ฝึกดูหนังยังไง ? ให้เก่งภาษาอังกฤษ    หลายคนคงเคยได้ยินมาว่า การดูหนังฝรั่งช่วยพัฒนาภาษาอังกฤษได้ แต่พอเอาเข้าจริงๆ เอ๊ะ! ทำไมดูไม่รู้เรื่อง แถมดูจนจบยังไม่ได้อะไรเลย เนื้อเรื่องบางทีก็ยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำ เพราะมัวแต่พะวงกับ ซับไตเติล แล้วต้องดูหนังยังไงให้เก่งอังกฤษกันละทีนี้.. ขั้นแรก ปรับ mindset – อย่ากลัวว่าจะดูไม่รู้เรื่อง – อย่าอายที่จะทำตาม หัดตาม พูดตาม – อย่าคิดว่ามันยากเกินไป เราคงทำไม่ได้หรอก จงคิดว่าเราทำได้ แล้วเราก็จะทำได้ จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว เคยได้ยินป่าว?   ขั้นตอนที่สอง เลือกหนัง – การเลือกหนังอย่างแรกควรจะดูเลือกดูเพื่อฝึกเฉพาะไปเลยว่าจะดูหนัง American หรือหนัง British ถึงจะเป็นภาษาอังกฤษเหมือนกัน แต่สำเนียงค่อนข้างต่างกัน ในการเลือกฝึกควรเลือกเพียงอย่างเดียว เพื่อไม่ให้สับสนในการออกเสียง (แนะนำ American เพราะหนังจะมีเยอะกว่า และภาษาค่อนข้างจะแพร่หลายกว่า) – ประเภทของหนังที่เลือก ประเภทหนังที่เลือกก็มีส่วนในการช่วยฝึกเช่นกัน ควรจะเป็นหนังดราม่า หรือ โรแมนติกจะดีที่สุด เพราะมีบทพูดค่อนข้างเยอะ หนังแอนนิเมชัน […]

อาหารกินแก้หิวในช่วงควบคุมน้ำหนัก

อาหารกินแก้หิวในช่วงควบคุมน้ำหนัก   สำหรับเพื่อนๆที่กำลังอยู่ในช่วงควบคุมอาหาร อาจจะประสบกับปัญหาหิวเวลาบ่าย หรือเวลากลางคืนได้ บทความนี้ผมจึงมี อาหารกินแก้หิวช่วงคุมน้ำหนัก มาฝากเพื่อนๆกันครับ นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ แนะนำอาหารที่ทานแล้วไม่อ้วน หาทานง่าย ราคาประหยัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ดังนี้ครับ 1. เม็ดแมงลัก มีวิตามินเอสูง มีเส้นใยละลายน้ำ เมื่อแช่น้ำ เม็ดแมงลักจะพองตัวช่วยให้อิ่มแต่ไม่อ้วน 2. ถั่วลิสง ควรทานถั่วลิสงคั่วแบบไม่ปรุงรสจะได้ใยอาหารจากถั่ว แม้ถั่วจะมีพลังงานสูง แต่ด้วยใยอาหารของถั่วกับโปรตีน จะช่วยให้รู้สึกไม่หิวจนเกินไป 3. แอปเปิ้ลเขียว อุดมไปด้วย เพคติน ช่วยให้อิ่มท้อง 4. มะนาว น้ำมะนาวที่ขมนิดๆ จะช่วยให้รู้สึกหายหิวได้นานนับ ชั่วโมงหลังจากกิน เพราะสารพิเศษจากเปลือกมะนาว 5. ทูน่า ช่วยให้อิ่มจากโปรตีนของปลา และมีคุณค่าจากไขมันต้านชรา อาทิ โอเมก้า 3 6. ไข่ต้ม มีส่วนช่วยลดไขมันได้ ส่วนไข่ขาวก็เป็นโปรตีนล้วน ที่ช่วยให้ไม่โทรมเวลาลดน้ำหนัก เพราะจะไปสร้างกล้ามเนื้อที่เผาผลาญไขมันโดยธรรมชาติ” ข้อมูลจาก: VoiceTV [ads=center]

เหตุใด นักบิน-แอร์” จึงเสี่ยง 2 เท่า ต่อการเป็น”มะเร็งผิวหนัง”

ผลการวิจัยตีพิมพ์ลงในวารสารสมาคมแพทย์โรคผิวหนังอเมริกัน เผยแพร่เมื่อเร็วๆ นี้ ระบุว่าผู้ที่ทำงานเป็นนักบิน และพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคผิวหนังมากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า  งานวิจัยดังกล่าวเป็นการวิเคราะห์รวบรวมงานศึกษาวิจัยจำนวน 19 ชิ้น ที่มีกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 266,000 คน พบว่าอัตราการเป็นโรคมะเร็งผิวหนังของนักบินมีสูงกว่าบุคคลที่ใช้ชีวิตธรรมดาทั่วไปราว 2.21 ถึง 2.22 เท่าตัว ขณะที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะสูงกว่าคนทั่วไปอยู่ราว 2.09 หรือคิดเป็นอัตราเฉลี่ยราว 2 เท่าของคนทั่วๆ ไป โดยรายงานระบุว่าอัตราการเกิดโรคดังกล่าวเกี่ยวข้องกับรังสีอัลตราไวโอเลตที่เล็ดลอดผ่านหน้าต่างห้องนักบิน และหน้าต่างตัวเครื่องเข้ามาภายใน ขณะที่เครื่องบินบินอยู่ในระดับสูง นักวิจัยระบุว่า ระดับความเข้มข้นของรังสีอัลตราไวโอเลตในระดับความสูง 30,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งเป็นระดับความสูงที่เครื่องบินโดยสารส่วนใหญ่ใช้บินนั้นจะมีอันตรายกว่าบนพื้นผิวโลกถึง 2 เท่า และระดับความเข้มข้นนั้นจะยิ่งสูงขึ้นไปอีกในกรณีที่เครื่องบินบินผ่านกลุ่มเมฆหนาซึ่งส่งผลให้แสงแดดสะท้อนเข้ามาในตัวเครื่องบินเพิ่มมากขึ้นถึง 85 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ จากผลการวิจัยดังกล่าวนักวิจัยระบุว่า แม้ว่ากลุ่มอาชีพนักบินและพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะทราบดีถึงความเสี่ยงในการทำงานเกี่ยวกับรังสีไอออนไนซ์ แต่อันตรายซึ่งเกิดจากรังสีอัลตราไวโอเลตนั้นยังไม่ได้รับการยอมรับกันว่าเป็นความเสี่ยงของงานอาชีพที่ต้องทำงานบนเครื่องบิน อนึ่งในปีนี้ ในสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเป็นมะเร็งผิวหนัง หรือเมลาโนมา มากถึง 76,000 ราย โดยมีผู้ที่อาการหนักจนคาดว่าจะเสียชีวิตเพราะโรคนี้มากถึง 9,710 ราย [ads=center] ที่มา มติชน

คลายสงสัย เรื่อง เอา Power Bank ขึ้นเครื่องบินได้ไหม??

ตอบกันแบบเคลียร์ๆ หากจะเอาแบตเตอรี่สำรอง หรือ Power Bank ขึ้นเครื่องบินไปด้วย ควรโหลดลงใต้เครื่อง หรือ ถือขึ้นเครื่องดี? แล้วแบตเตอรี่ก้อนใหญ่ หรือ เล็กขนาดไหนที่เขาอนุญาตให้เอาขึ้นเครื่องได้? แล้วเอาไปได้กี่ก้อน?                  ในยุคที่ทุกคนต่างก็ใช้สมาร์ทโฟน หนึ่งในปัญหาที่ทุกคนต่างประสบก็คือ “แบตเตอรี่หมดเร็ว!” นี่เองก็เป็นที่มาของหนทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหา นั่นคือการประดิษฐ์คิดค้น แบตเตอรี่สำรอง หรือที่เรียกกันติดปากว่า พาวเวอร์แบงก์ (Power Bank) เมื่อเดินตามท้องตลาดจะเห็นได้ว่านับวันพาวเวอร์แบงก์จะมีขนาดใหญ่ขึ้นๆ ตั้งแต่ไม่กี่พันมิลลิแอมป์ (mAh) ไปจนถึงหลักหลายหมื่นมิลลิแอมป์ ซึ่งนี่เองเป็นที่มาของการออก กฏมาตรฐานความปลอดภัยของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ ไออาตา (IATA) เกี่ยวกับการนำแบตเตอรี่ขึ้นไปบนเครื่องบิน                คืนวานนี้ (12 ก.ย.) แฟนเพจการบินไทย ได้โพสต์อินโฟกราฟิกเพื่อไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการนำแบตเตอรี่สำรอง หรือ Power […]

ขนลุก!! 6 ภาพปริศนาที่ถูกซ่อนไว้ใต้งานศิลปะชื่อก้องโลก

ขนลุก!! 6 ภาพปริศนาที่ถูกซ่อนไว้ใต้งานศิลปะชื่อก้องโลก   หากใครกำลังคิดว่านี่คือเรื่องราวศิลปะที่น่าเบื่อ หมีขาวขอบอกเลยว่าคุณคิดผิดเข้าแล้ว เพราะสิ่งที่จะนำมาเล่าต่อไปนี้คือปริศนาอันลึกลับที่ใครได้รู้แล้วอาจขนลุกซู่…และหลายคนก็อาจจะตะลึงแน่เมื่อได้เห็นว่าภาพศิลปะชื่อก้องโลกทั้ง 6 ชิ้น แท้จริงมีภาพวาดปริศนาซ้อนทับอยู่เบื้องหลังของพวกมัน!!! ซึ่งภาพที่ซุกซ่อนเหล่านี้บางชิ้นต้องใช้กระบวนการเอ็กซเรย์ดูจึงจะเห็น ตลอดจนการใช้ความรู้ของนักประวัติศาสตร์ศิลปะเพื่อค้นหาความลับที่ซ่อนอยู่เหล่านี้ ส่วนจะน่าทึ่งแค่ไหน ตามมาชมกันเลยจ้ะ… 1.THE KING OF ROME  ผู้วาด : JEAN-AUGUSTE-DOMINIQUE INGRES นี่คือภาพวาดรูปนโปเลียนในช่วงปี 1811-1812 ซึ่งหากใครมองผ่านๆก็คงคิดแค่ว่ามันสวยดี แต่แล้วจู่ๆก็มีคนตาดีจ้องไปพบความผิดปกติบนผ้าม่านฝั่งซ้าย ที่เหมือนจะมีใบหน้าคนลอยนูนขึ้นมา ซึ่งนักประวัติศาสตร์ศิลปะเผยว่าภาพปริศนาดังกล่าวดูคล้ายกับศรีษะของเด็ก และอาจเป็นไปได้ว่าเขาคือหนึ่งในลูกชายของนโปเลียน แต่การที่ภาพของเขาถูกลบเลือนหายไป ก็อาจเกิดขึ้นในช่วงที่นโปเลียนสูญเสียอำนาจในปี 1814 ซึ่งเหตุการณ์นั้นทำให้พ่อลูกคู่นี้ตัดสัมพันธ์ขาดจากกัน ดังนั้นจึงอาจเป็นไปได้ว่า จิตรกรผู้วาดจึงไม่คิดจะสานต่อวาดรูปบุตรคนนี้ให้สมบูรณ์ เพราะกลัวว่าจะขัดใจนโปเลียนนั่นเอง 2.ผู้หญิงเบื้องหลังภาพ THE OLD GUITARIST  ผู้วาด : ปาโบล ปิกัสโซ่ ในช่วงปี 1901-1904 ปาโบล ปิกัสโซ่ประสบกับภาวะที่ไส้แห้งสุดชีวิต และ THE OLD GUITARIST คือภาพที่เขาวาดขึ้นในช่วงนั้น แต่หลังจากเวลาผ่านไป ก็ได้มีคนทำการเอ็กซเรย์ภาพดังกล่าว ก่อนจะพบว่าแท้จริงแล้วเบื้องหลังภาพนี้มีหญิงสาวที่กำลังเลี้ยงลูกซ่อนอยู่!!!! […]

ตากผ้าหน้าฝน มีโอกาสเป็นเชื้อราในร่มผ้าได้ง่าย !

ตากผ้าหน้าฝน มีโอกาสเป็นเชื้อราในร่มผ้าได้ง่าย !   ช่วงนี้ฝนตกหนักเกือบทุกวัน ทำให้เกิดอากาศชื้น คงจะทำให้เสื้อผ้าของเพื่อนๆ ที่ตากไว้แห้งยาก แถมยังเกิดการอับชื้นและส่งกลิ่นเหม็นอีกต่างหาก แต่สิ่งที่ควรระมัดระวังมากที่สุด คือ “ปัญหาเชื้อราในผ้า” ที่แฝงมากับอากาศ และอาจจะทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้ค่ะ สาเหตุ : ความชื้นในอากาศที่เป็นด่างจะทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ดี ซึ่งเชื้อราที่พบมากที่สุด คือ “เชื้อรา แคนดิดา อัลบิแคนส์” (มีรูปร่างเป็นเซลล์กลมๆ จะมีอยู่ในคนอยู่แล้ว ถ้าร่างกายมีภูมิต้านทานลดลงหรือมีการเปลี่ยนจากสภาพความเป็นกรดด่าง จะทำให้เชื้อราชนิดนี้เจริญแพร่พันธุ์จนเกิดเป็นโรคได้) นอกจากนี้ยังมีเชื้อราสายพันธุ์อื่นที่พบ เช่น แคนดิดา สปีชี่ส์ และโทรูลอบซิส ซึ่งสามารถล่องลอยอยู่ในอากาศที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ถ้าสปอร์ของเชื้อราไปตกลงบนกางเกงชั้นในที่อับชื้น และไม่มีแสงแดด จะทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น และอาจจะทำให้เกิด “โรคเชื้อราในช่องคลอด” ได้ โดยผ้าที่พบว่ามีเชื้อรามากที่สุด คือ กางเกงชั้นใน  คำแนะนำ : ควรตากผ้าไว้ในที่โล่ง แสงแดดส่องถึง และหากมีอาการผิดปกติก็ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ กำจัดเชื้อราบนผ้า วิธีที่ 1 : นำผ้าที่ขึ้นราแช่น้ำสักครู่ จากนั้นก็บีบน้ำมะนาวสดๆ ลงไปตรงที่มีเชื้อราอยู่ แล้วซักอีกครั้งตามปกติขยี้ตรงที่ขึ้นราเล็กน้อย กำจัดเชื้อราบนผ้า วิธีที่ […]

ทำไม เรียก สถานีขนส่งอีสาน-เหนือ ว่า.. “หมอชิต”

ทำไม เรียก สถานีขนส่งอีสาน-เหนือ ว่า.. "หมอชิต"       หากจะเดินทางไปภาคเหนือ ภาคอีสาน ต้องขึ้นรถโดยสารที่ "สถานีขนส่งหมอชิต" ซึ่งย้ายมาจากสถานีขนส่งหมอชิตเดิม ที่บริเวณสวนจตุจักร หรือ ได้ยินใคร ๆ เรียกสถานีโทรทัศน์ช่อง7 ว่า วิกหมอชิต   หมอชิต หรือ นายชิต นามสกุล นภาศัพท์ เป็นคนบางพระ จังหวัดชลบุรี นอกจากจะเป็นเจ้าของพื้นที่ ซึ่งเป็นสถานีขนส่งหมอชิต (คือตั้งชื่อตามเจ้าของเดิม) ที่เดิมเคยเป็นตลาดนัดที่ชาวสวนเอาผลไม้ต่างๆ มาขาย จนเรียกกันว่า "ตลาดนัดหมอชิต"   ประวัติหมอชิตคร่าวๆ    หมอชิตโด่งดังเป็นที่รู้จักทั่วไป (ต้องคนรุ่น ๕๐ ขึ้นไป) ในฐานะเป็นผู้ผลิตยานัตถุ์หมอชิต อันทำให้ได้นามนำหน้าว่า หมอ แต่นั้นมา ก่อนที่จะผลิตยานัตถุ์ได้เคยทำงานเป็นเสมียนที่ห้างเต็กเฮงหยู ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่ห้างเพ็ญภาค เมื่อแต่งงานมีบุตรธิดาแล้วก็คิดขยับขยายหาความก้าวหน้ามาเปิดร้านขายยาของตัวเอง โดยเริ่มที่หน้าวัดมหรรณพาราม ใช้เครื่องหมายการค้าตรามังกร ต่อมาย้ายไปอยู่ที่เสาชิงช้า ก่อนจะมาเปิดร้านที่ปากคลองตลาด เป็นที่รู้จักของชาวบ้านในนาม ร้านขายยาตรามังกร […]

8 อาหารเช้า สลัดความง่วง

เช้าๆ ตื่นมาเหมือนยังไม่ตื่นดี ทั้งงัวเงียและหงุดหงิดง่ายเหมือนนอนได้ไม่เต็มอิ่ม คิดอะไรไม่ค่อยออกหรืออาจจะอึนกันไปตลอดวัน … เป็นแบบนี้ไม่ดีแน่  "ไทยรัฐออนไลน์" ขอเพิ่มความกระชุ่มกระชวย ปลุกความสดชื่นให้คุณในตอนเช้า เติมความปลอดโปร่งให้สมองวิ่งแล่น และเพิ่มพลังงานด้วยอาหารเช้า 8 อย่าง ทั้งอาหารทานเล่นและผลไม้ที่คุณอาจไม่คิดว่ามันช่วยได้จริง แถมที่สำคัญยังทำให้คุณอารมณ์ดีและรู้สึกกระปรี้กระเปร่าตลอดวัน       1. อัลมอนด์     อาหารทานเล่นที่เป็นแหล่งรวมสารอาหารชั้นยอด อย่างโปรตีนและไขมันต่ำ (ที่ไม่ทำให้อ้วน) นอกจากอัลมอนด์จะช่วยให้พลังงานแก่ร่างกายและช่วยให้สมองไบรท์มากขึ้นแล้ว อัลมอนด์ยังช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดของคุณให้คงที่ด้วย จึงเหมาะที่จะทานในตอนเช้าเป็นอย่างยิ่ง คุณอาจจะทานเล่นๆ หรือนำไปมิกซ์ผสมกับอย่างอื่นก็ได้   2. ไข่ไก่     เหตุผลที่เรา (ต้อง) กินไข่ไก่ทุกเช้าให้เป็นนิสัย เพราะในไข่ไก่อุดมไปด้วยโปรตีน ซึ่งมีส่วนช่วยในการทำงานของสมอง ให้สมองรู้สึกปลอดโปร่ง คิดและตัดสินใจสิ่งต่างๆ ได้เร็วและง่ายขึ้น รวมทั้งไข่ไก่หนึ่งใบยังให้พลังงานมากถึง 3 เท่า ! คุณสามารถทำอะไรหลายสิ่งอย่างได้ตลอดวัน โดยที่คุณไม่รู้สึกเสียพลังงานเลยแม้แต่น้อย   3. โยเกิร์ต    เลือกทานโยเกิร์ตแบบธรรมดาๆ ในตอนเช้าแทนน้ำผลไม้หวานๆ […]

งานวิจัยชี้นีแอนเดอร์ธัลอยู่ร่วมกับโฮโมซาเปียนหลายพันปี

งานวิจัยชี้นีแอนเดอร์ธัลอยู่ร่วมกับโฮโมซาเปียนหลายพันปี   ทราบหรือไม่คะว่า มนุษย์ ถือกำเนิดและวิวัฒนาการขึ้นมาหลายสปีชีส์ ก่อนที่จะหลงเหลือเพียง "โฮโม ซาเปียน" คือสายพันธุ์ที่วิวัฒนาการมาเป็นมนุษย์เราในปัจจุบัน ซึ่งก่อนหน้านั้นโลกของเรามี มนุษย์"นีแอนเดอร์ธัล" (โฮโม นีแอนเดอธาเลนซิส) มาก่อน ภาพเปรียบเทียบความเหมือนและแตกต่างระหว่างกะโหลกนีแอนเดอร์ธัลกับโฮโม ซาเปียน นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า จุดเริ่มต้นของนีแอนเดอร์ธัล อยู่ในทวีปแอฟริกาในปัจจุบัน จากนั้นถึงได้อพยพโยกย้ายถิ่นฐานจากแอฟริกามาใช้ชีวิตอยู่ในยุโรป เมื่ออย่างน้อย 200,000 ปีก่อน หรืออาจเนิ่นนานก่อนนั้นอีกหลายหมื่นปีอันเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่มนุษย์ โฮโม ซาเปียน เริ่มต้นวิวัฒนาการ และเนื่องจาก โฮโม ซาเปียน ไม่ได้โยกย้ายถิ่นฐานขึ้นเหนือมาเหมือนกับ นีแอนเดอร์ธัล ดังนั้น มนุษย์ทั้งสองสปีชีส์จึงต่างคนต่างวิวัฒนาการภายใต้สภาวะแวดล้อมที่แตกต่างกันออกไป การค้นคว้าวิจัยก่อนหน้านี้ ชี้ให้เห็นว่า มนุษย์ โฮโม ซาเปียน หรือมนุษย์เราในทุกวันนี้เดินทางขึ้นเหนือมาถึงภาคพื้นยุโรปที่มนุษย์นีแอนเดอร์ธัลใช้ชีวิตอยู่เมื่อราว 40,000 ปีก่อน อันเป็นช่วงเวลาที่มนุษย์นีแอนเดอร์ธัล สูญพันธุ์ไปจากโลก อย่างไรก็ตาม วิลเลียม เดวีส์ ศาสตราจารย์ด้านโบราณคดี ประจำภาควิชาโบราณคดีของมหาวิทยาลัยเซาแธมป์ตัน ในอังกฤษ ระบุว่า เทคนิคในการกำหนดอายุที่ทันสมัยขึ้น ทำให้ช่วงเวลาดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไป คือย้อนหลังขึ้นไปอีกเป็นประมาณ 45,000 […]

1 661 662 663 702
error: