Advertisement การที่บอกว่า Social ของตัวเอง เป็นพื้นที่ส่วนตัว ก็เหมือนกับเดินแก้ผ้าในตลาดแล้วด่าคนที่มอง Advertisement Advertisement พี่โย่ง Armchair กล่าวไว้ใน Twitter ว่า "การที่บอกว่า Social ของตัวเอง เป็นพื้นที่ส่วนตัว ก็เหมือนกับเดินแก้ผ้าในตลาดแล้วด่าคนที่มอง" ที่มา : Twitter @YongArmchair และรูปจากเพจ โย่ง อาร์มแชร์
บริษัทที่ปรึกษาเคปเจมินีและรอยัลแบงก์ของแคนาดา เผยรายงานจากการสำรวจประชาชนกว่า 4,500 คนใน 23 ประเทศเมื่อปีที่แล้ว พบว่าทั่วโลกมีเศรษฐีใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 แบบปีต่อปี ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาหุ้นและตลาดท้องถิ่นที่ทำให้ความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ขณะนี้จำนวนเศรษฐีเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ถึง 13.7 ล้านคน รายงานประเมินว่า ทรัพย์สินของเศรษฐีเหล่านี้มีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้น 53 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2556 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ และนับเป็นการเพิ่มขึ้นที่มีจำนวนมากเป็นอันดับ 2 ตั้งแต่บริษัท 2 แห่งเริ่มออกรายงานเกี่ยวกับเศรษฐีเมื่อปี 2543 ทั้งนี้ประเทศญี่ปุ่นมีเศรษฐี 425,000 คนเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 ถือเป็นตัวเลขสูงสุดแบบปีต่อปีนับตั้งแต่ปี 2543 ทำให้ญี่ปุ่นมีสัดส่วนของเศรษฐีมากที่สุดในจำนวน 25 ประเทศ ซึ่งเหตุผลหลักที่ทำให้เศรษฐีในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็นเพราะหุ้นขยายตัวขึ้น ดัชนีนิคเคอิ 225 ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 57 เมื่อปีที่แล้ว ตรงข้ามกับสแตนดาร์ท แอนด์พัวร์ 500 ดัชนีสำคัญของกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐ ปรับตัวสูงขึ้นเกือบร้อยละ 30 แต่ปัจจุบันญี่ปุ่นมีเศรษฐีทั้งสิ้น 2.3 […]
TripAdvisor เว็บไซต์ด้านการท่องเที่ยวชื่อดัง ได้จัดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์กของโลก 10 อันดับ โดยการจัดอันดับดังกล่าว เกิดขึ้นจากการรวบรวมความเห็นและรีวิวจากผู้เข้าชมเว็บไซต์ TripAdvisor นับล้านรีวิว ซึ่งล้วนแล้วแต่ยกให้ มาชู ปิกชู ซากอารยธรรมโบราณของชาวอินคา ในประเทศเปรู เป็นแลนด์มาร์กอันดับ 1 ของโลก สำหรับสถานที่ที่จะเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญติดอันดับโลกได้นั้น ต้องผ่านคุณสมบัติที่ TripAdvisor ระบุเอาไว้ นั่นก็คือ ต้องเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว ที่มีคุณค่าทั้งทางสถาปัตยกรรม และวัฒนธรรม นอกจากนี้ สถานที่เหล่านั้น ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาล หรือองค์กรที่ไม่หวังผลกำไร และยังหมายรวมถึงสถานที่ที่เป็นมรดกโลกด้วย โดยมาชู ปิกชู มีคุณสมบัติข้างต้นครบถ้วนทุกประการ และยังคงความยิ่งใหญ่ รอให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปสัมผัส ซึ่งเมื่อ 7 ปีก่อน มาชู ปิกชูได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ จากการโหวตของคนทั่วโลกอีกด้วย ส่วนอันดับที่ 2 เป็นของมัสยิดเชค ซาเยด ในอาบู ดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มัสยิดแห่งนี้ […]
สุนัขแสนรู้ญี่ปุ่นฮีโร่ช่วยเด็กรอดกรงเล็บหมีป่า สุนัขแสนรู้สายพันธุ์ของญี่ปุ่น ชิบะ อินุ สร้างวีรกรรม ช่วยเหลือเด็กชายวัย 5 ขวบให้รอดพ้นจากหมีป่าดุร้ายตัวหนึ่งในภาคเหนือของญี่ปุ่น และมันสามารถไล่หมีตัวใหญ่สูง 3 ฟุตไปได้ จนได้รับเสียงชื่นชม ยกเป็นเป็นฮีโร่ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่24 มิ.ย.ว่า “เมโกะ” สุนัขสายพันธุ์ชิบะอินุ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ญี่ปุ่น วัย 6 ปี ซึ่งเป็นชื่อที่สื่อท้องถิ่นตั้งให้หมายถึงน่ารักเฉลียวฉลาด ได้รับเสียงชื่นชมยกย่องว่าเป็นฮีโร่หลังจากสร้างวีรกรรมสุดยอดช่วยชีวิตเด็กชายวัย 5ขวบให้รอดพ้นจากกรงเล็บของหมีป่าดุร้ายตัวหนึ่งในภาคเหนือของญี่ปุ่น โดยขณะเด็กชายเดินเล่นอยู่ริมฝั่งแม่น้ำสายหนึ่ง หมีได้โจมตีพวกเขา ขณะที่ปู่ทวดวัย 80 ปีของเด็กชายซึ่งอยู่ใกล้เหตุการณ์ก็ได้ร้องเตือนขึ้นเช่นกัน โดยเจ้าเมโกะ ได้เข้าขัดขวางหมีป่าตัวใหญ่สูง 3 ฟุต มันเห่าเสียงดัง และขับไล่หมีให้หนีเข้าป่าไปในช่วงเย็นวันเสาร์ในเมืองโอดาเตะ ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางเหนือประมาณ 550กิโลเมตร โฆษกตำรวจท้องถิ่นกล่าวว่าเด็กชายคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บมีรอยถลอกเล็กน้อยและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่แพทย์ดูอาการแล้วก็ให้ออกจากโรงพยาบาลในวันเดียวกัน ข้อมูลและภาพ : เดลินิวส์ออนไลน์ 24 มิถุนายน 2557 ค้นหา ความรู้ทั่วโลก เพิ่มเติม ที่ > EDUZONES KNOWLEDGE สาระน่ารู้ ความรู้รอบตัวทั่วโลก เรื่องก่อนหน้า […]
ไดโนเสาร์ เลือดเย็น หรือไม่? นอกจากคำถามเรื่องไก่ กับไข่ อะไรเกิดก่อนกันแล้ว ยังมีคำถามเกี่ยวกับลักษณะสำคัญของ "ไดโนเสาร์" ที่นักบรรพชีวินวิทยาที่ศึกษาเรื่องไดโนเสาร์ ถกเถียงกันมาอย่างยาวนานว่า ไดโนเสาร์หน้าตาประหลาดๆ นั้น เป็นสัตว์เลือดอุ่น หรือสัตว์เลือดเย็น เรื่องนี้ยากต่อการพิสูจน์ทราบเนื่องจากปัจจุบันไดโนเสาร์นั้น สูญหายไปจากโลกนี้แทบทั้งหมดแล้ว จะเหลืออยู่ก็เพียง ปลาซีลาแคนท์ (Coelacanth) ที่มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ในยุคครีเตเชียส (144-65 ล้านปีก่อน) และยังหลงเหลืออยู่ในน่านน้ำทวีปแอฟริกาตอนใต้ในปัจจุบัน นอกจากนั้นยังมีไดโนเสาร์ที่ยังคงมีชีวิตอีกสายพันธุ์หนึ่งคือ จระเข้ ที่บรรพบุรุษของสัตว์ชนิดนี้เคยอาศัยอยู่ในโลกตั้งแต่ยุคครีเตเชียสเช่นกัน แต่จระเข้ยุคปัจจุบันนั้นเป็นสัตว์เลือดเย็น ออกลูกเป็นไข่ ซึ่งอาจจะเหมือนหรือแตกต่างจากไดโนเสาร์ที่เป็นบรรพบุรุษของมันก็ได้ ซึ่งจากการศึกษาของนายไบรอัน เอินควิสท์ นักวิจัยวิวัฒนาการบรรพชีวินวิทยา แห่งมหาวิทยาลัยอริโวนา สหรัฐอเมริกา ที่ได้รับการเผยแพร่ในวารสารวิทยาศาสตร์ "เนเชอร์" ระบุว่า ไดโนเสาร์ เป็นสัตว์ที่ไม่ใช่ทั้งสัตว์เลือดอุ่น และสัตว์เลือดเย็น เขาอธิบายในบทความในวารสารเนเชอร์ว่า ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าระบบการเผาผลาญอาหาร (เมตาบอลิสึม) ของไดโนเสาร์โบราณและอัตราการเติบโตของร่างกาย ไม่เข้าพวกกับสัตว์เลือดเย็นและเลือดอุ่นแต่อย่างใด ไม่เหมือนกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาน หรือกระทั่งปลา ที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าไดโนเสาร์เป็นสัตว์เลือดเย็น เนื่องจากมีผลงานการวิจัยในศตวรรษที่ 19 […]
มหัศจรรย์วิศวกรรรม-ถนนกาห์ปัคนานขึ้นทะเบียนมรดกโลกแห่งใหม่(ชมภาพ) คณะกรรมการมรดกโลกขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) มีมติขึ้นทะเบียน ถนนกาห์ปัคนาน เป็นมรดกโลกแห่งใหม่ ในปี 2557 หลังจากต้องทึ่งกับการก่อสร้างถนนสายนี้ ตั้งแต่สมัยอาณาจักรโบราณ อินคาเมื่อหลายร้อยปีก่อน โดยเชื่อมต่อระหว่างกรุงคุสโก เมืองหลวงของอาณาจักรอินคา กับ 6 ประเทศในอเมริกาใต้ปัจจุบัน ไล่ตั้งแต่โคลอมเบียทางตอนเหนือ ลงมาถึงอาร์เจนตินา ผ่านเอกวาดอร์ เปรู และโบลิเวีย สู่ชิลีทางตอนใต้ รวมระยะทางถึง 30,000 กม. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โครงข่ายถนนของอาณาจักรโบราณอินคา ได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลก โดยการคัดเลือกขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโกในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ธานี แห่งการ์ตา กล่าวต่อที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ครั้งที่ 38 ที่กรุงโดฮา ในฐานะรัฐบาลการ์ตาเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม เริ่มขึ้นตั้งแต่ 15 มิ.ย. ถนนดังกล่าวคือถนนกาห์ปัคนาน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ประเทศต่างๆ ในทวีปอเมริกาใต้ ถึง 6 ประเทศ ได้แก่โคลัมเบีย, อาร์เจนตินา, ชิลี, เปรู, […]
ผลวิจัยชี้ติดอุปกรณ์ไฮเทคฉุดผลการเรียน ! ข่าวนี้อาจทำให้นักเรียนนักศึกษาที่ติดอุปกรณ์ไฮเทคอย่างสมาร์ทโฟน หรือแทปเล็ตเกิดความกังวลไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะผู้ที่ติดแบบงอมแงม ถึงขั้นไม่ยอมให้ห่างตัวเลย แม้กระทั่งแอบเล่นในห้องเรียน เพราะจากการศึกษาของมหาวิทยาลัยมิชิแกน โดยการสนับสนุนจากมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ พบว่า การใช้อุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ เพื่อท่องอินเตอร์เน็ตในห้องเรียนระหว่างที่เรียนหนังสือ โดยมีวัตถุประสงค์การใช้ในรูปแบบอื่นๆ นอกจากการค้นหาความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการใช้เฟซบุ๊ก ตอบอีเมลส่วนตัว เล่นไลน์ หรือเล่นเกมก็ตาม จะทำให้เกิดความฟุ้งซ่านระหว่างการท่องไปในโลกไซเบอร์ดังกล่าว จนกระทบกับการเรียนในที่สุด โดยไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กเรียนที่ฉลาดที่สุดในโรงเรียนก็ตาม นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังทำการทดลองกับนักศึกษาในชั้นเรียนวิชาจิตวิทยาในมหาวิทยาลัยมิชิแกน 500 คน ในประเด็นดังกล่าว ผลการทดลองแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า นักเรียนทั้งชั้น ไม่ว่าจะเก่งหรืออ่อนด้อยในการเรียนต่างก็ได้คะแนนสอบลดลง หลังจากใช้อินเทอร์เน็ตในห้องเรียนไปกับเรื่องไม่เกี่ยวข้องกับการศึกษา อย่างไรก็ดี แม้จะมีผลการศึกษาออกมาว่า การท่องอินเทอร์เน็ตระหว่างเรียนจะส่งผลด้านลบต่อการศึกษา ทว่า คงจะเป็นไปได้ยากที่จะสั่งระงับการใช้อุปกรณ์สื่อสาร ในห้องเรียนหรือระหว่างการเรียนหนังสือ เรื่องแบบนี้คงขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของนักเรียนนักศึกษาแต่ละคนแล้วว่า เวลาใดควรจะตั้งใจเรียนและเวลาใดควรท่องอินเทอร์เน็ตเพื่อความบันเทิง รู้อย่างนี้แล้ว ใครที่คิดว่าติดสมาร์ทโฟน แทปเล็ตมากๆ ก็ลองหันมาจัดเวลากันซักหน่อย เพราะจริงๆการใช้อุปกรณ์ไฮเทคต่างๆให้เป็นเครื่องมือได้อย่างคุ้มค่านั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าให้ถึงกับตลอดเวลา เพราะอะไรมากไปก็ไม่ดีทั้งนั้น และกันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ เรียบเรียงโดย EDUZONES KNOWLEDGE ข้อมูล โพสต์ทูเดย์ 23 มิถุนายน 2557 photo […]
การศึกษาที่แตกต่าง!!!
