ผีอำ คืออะไร ?

Advertisement ผีอำ คืออะไร ? Advertisement ใครเคยเกิดอาการ"ผีอำ" คงจะเกิดความสงสัย จนกระทั่งถึงเกิดอาการหวาดกลัวหวาดหวั่น ไม่มากก็น้อย เพราะเป็นอาการที่ค่อนข้างแปลก อธิบายได้ยาก วันนี้ Eduzones มีข้อมูลของอาการ "ผีอำ" มาฝากกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอาการที่ พยายามจะตื่นแต่ขยับร่างกายไม่ได้ หรือ นั่งคุยกันอยู่ดีๆไม่มีทีท่าว่าจะง่วง แต่กลับหลับไปเฉยๆอย่างกระทันหันและไม่ได้ตั้งใจ เมื่อเป็นแบบนี้ ก็จะเรียกว่าผีอำ แต่ในทางการแพทย์จะอยู่ในหมวดที่เรียกว่า “นาร์โคเลปซี”   โดยปรากฏการณ์ดังกล่าวสามารถอธิบายได้ว่าเป็นเพียงความผิดปกติของการนอนหลับอย่างหนึ่งเท่านั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.เมธี วงศ์ศิริสุวรรณ ศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมอง รพ.ราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข บอกว่า อาการผีอำในทางการแพทย์ และมุมมองวิทยาศาสตร์ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องไสยศาสตร์หรือผีแต่อย่างใด แต่เป็นโรคกลุ่มหนึ่งที่เป็นความผิดปกติ ที่เราจัดอยู่ในหมวดของความผิดปกติของการนอนหลับ ปกติคนอยากจะนอนแต่นอนไม่หลับ คือเป็นโรคนอนไม่หลับ แต่ผีอำเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามกัน คนไข้จะมีอาการหลายรูปแบบ โดย “ผีอำ” เป็นอาการกลุ่มหนึ่งในนาร์โคเลปซี คือ เป็นอัมพาตระหว่างหลับ ลักษณะคนไข้จะครึ่งหลับครึ่งตื่น รู้ตัวทุกอย่าง แต่ควบคุมร่างกาย แขนขา หรือแม้แต่พูดก็ยังไม่ได้ จึงเป็นที่มาของคำว่า […]

ปิดไฟดูทีวี-เล่นสมาร์ทโฟน เสี่ยงเกิดต้อหินอาจตาบอดได้

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคตา เตือนการปิดไฟดูทีวี หรือเล่นสมาร์ทโฟน ไอแพด ในความมืด ก่อให้เกิดโรคเทคโนโลยีซินโดรม ผู้ใช้ต้องเพ่งสายตาที่จอ ทำให้ความดันในลูกตาสูง เสี่ยงเกิดโรคต้อหินถึงขั้นตาบอดได้       นายแพทย์ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญโรคตาประจำโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่าการใช้เทคโนโลยีมากขึ้นทั้งคอมพิวเตอร์ มือถือ โทรทัศน์ เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคเทคโนโลยีซินโดรม ซึ่งเทคโนโลยีซินโดรมไม่ได้ทำให้เกิดจุดรับภาพจอตาเสื่อม หรือตาบอด แต่จะทำให้เกิดความล้าของสายตา ตาแห้ง เนื่องจากต้องใช้สายตาเพ่งที่ภาพหรือตัวอักษรที่มีขนาด เล็กและอยู่ในจอ การเพ่งจะทำให้ม่านตาขยายใหญ่ขึ้นกว่าปกติ โดยเฉพาะผู้ที่นิยมปิดไฟดูทีวี เล่นสมาร์ทโฟน ไอแพด มีแอพพลิเคชั่นมาก ๆ อาทิ เฟชบุ๊คหรือไลน์ การส่องไฟฉายอ่านหนังสือ จะมีความเสี่ยงเกิดเทคโนโลยีซินโดรมได้ง่ายเพราะต้องใช้สายตากำกับตลอดเวลา จะทำให้กล้ามเนื้อตาล้า ตาแห้ง เครียดตลอดเวลา ยิ่งรายละเอียดเยอะ ตายิ่งทำงานหนัก สร้างความเครียดผู้ใช้ เพราะต้องเพ่งสายตาที่จอ ทำให้ความดันในลูกตาสูง เสี่ยงเกิดโรคต้อหินถึงขั้นตาบอดได้     อาการเตือนของความเครียด คือ เริ่มรู้สึกแสบตา ตาแห้ง น้ำตาไหล กะพริบตาบ่อย ปวดเมื่อยล้าที่กระบอกตา สายตาพร่า […]

ปารีสสั่งปิดสะพานกุญแจแห่งรักเพราะราวพังรับน้ำหนักกุญแจไม่ไหวแล้ว!

ปารีสสั่งปิดสะพานกุญแจแห่งรักเพราะราวพังรับน้ำหนักกุญแจไม่ไหวแล้ว! ที่กรุงปารีสเมื่อ 8 มิ.ย. ”กุญแจแห่งรัก” หลายพันดอกหรือ ”ล็อกส์ ออฟ เลิฟ” ที่เกี่ยวยึดกับสะพานคนเดินเท้าข้ามแม่น้ำ ได้ทำให้ราวลูกกรงของสะพานส่วนหนึ่งล้มลงมา ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาเคลียร์พื้นที่ในภายหลัง         ในทุกๆปีจะมีคู่รักหลายพันคู่จากทั่วโลกแห่แหนกันมาที่สะพานปงเดซาร์แห่งนี้ เพื่อผนึกความรักของพวกเขาเอาไว้โดยการล็อกแม่กุญแจที่มีชื่อของพวกเขาเอาไว้กับราวสะพาน จากนั้นก็ขว้างกุญแจลงแม่น้ำแซน อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงก่อนเย็น 8 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับคำสั่งให้นำพานักท่องเที่ยวออกจากสะพานปงเดซาร์ที่อยู่กลางกรุงปารีสอย่างเร่งด่วนแล้ว หลังจากราวสะพานยาว 24 เมตรที่แบกรับน้ำหนักของ “ตัวแทนแห่งรัก”เหล่านี้ได้พังลงมา “ได้มีการเข้าเคลียร์พื้นที่ของสะพานโดยทันทีและได้ประกาศปิดการใช้งานแล้ว” ตำรวจท้องถิ่นบอกต่อเอเอฟพี         สถาปนิกและบรรดาเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้รุดมายังที่เกิดเหตุและตั้งแนวปิดกั้นเพื่อไม่ให้คนนอกเข้ามา เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าสะพานจะเปิดได้อีกครั้งในวันจันทร์(9มิ.ย.) สะพานปงเดซาร์ที่พาดข้ามผ่านแม่น้ำแซน แม่น้ำสายหลักของฝรั่งเศสอยู่ที่หน้าพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในชื่อ “ล็อกส์ ออฟ เลิฟ” ปรากฏการณ์นี้ได้กลายเป็นเรื่องน่าปวดหัวสำหรับเจ้าหน้าที่ในนครแห่งแสงไฟแห่งนี้ ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการใส่ใจกับปัญหาด้านความปลอดภัยและสุนทรียภาพเป็นอันดับต้นๆ วัยรุ่นชาวอเมริกัน 2 คนที่อาศัยอยู่ในปารีสได้รวบรวมกุญแจแห่งรักหลายพันอันในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้กิจกรรมนี้ถูกยกเลิกและเอากุญแจออกไปเสียให้หมด โดยพวกเขาให้เหตุผลว่ามันไม่ได้สวยงามเลยแถมยังทำให้สะพานเกิดความเสียหายอีก ในปี 2008 กิจกรรมแบบนี้เริ่มมีขึ้นแค่ที่สะพานปงเดซาร์เพียงที่เดียว ต่อจากนั้นก็กลายเป็นกระแสความนิยมในเยอรมัน รัสเซีย จีน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอิตาลี ในวันนี้(9มิ.ย.) ราวสะพานแห่งนี้ที่ยาวร่วม 150 […]

สันนิษฐานใหม่เกี่ยวกับทฤษฎีกำเนิดดวงจันทร์

สันนิษฐานใหม่เกี่ยวกับทฤษฎีกำเนิดดวงจันทร์ กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน เปิดเผยว่า ตัวอย่างของดวงจันทร์ที่เก็บรวบรวมไว้ระหว่างช่วงยุคทศวรรษที่ 1960 และ 1970 แสดงให้เห็นหลักฐานใหม่ว่า ดวงจันทร์ก่อตัวขึ้นมาหลังจากที่โลกซึ่งเพิ่งจะเกิดขึ้นได้ไม่นาน ชนเข้ากับวัตถุท้องฟ้าอย่างอื่น ซึ่งผลการค้นพบใหม่นี้ได้รับการนำเสนอในงานประชุมธรณีเคมีโกลด์ชมิดต์ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 11 มิถุนายน   การปะทะกัน ระหว่างโลกเมื่อครั้งที่ยังเกิดขึ้นใหม่กับดาวเคราะห์ชื่อธีอา เมื่อราว 4,500 ล้านปีก่อน ได้รับการขยายต่อมาเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า สมมติฐานการพุ่งชนโลกของอุกกาบาตขนาดใหญ่ที่ก่อให้เกิดดวงจันทร์ ซึ่งในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่สนับสนุนข้อสังเกตดังกล่าว แต่พวกเขาระบุว่าหนทางเดียวที่จะยืนยันทฤษฎีดังกล่าวได้คือ การศึกษาสัดส่วนระหว่างไอโซโทปของออกซิเจน ไทเทเนียม ซิลิคอน และอื่นๆ และจนถึงตอนนี้นักวิจัยที่ศึกษาตัวอย่างชิ้นส่วนของดวงจันทร์ที่ตกมายังโลก ผ่านทางสะเก็ดดาวตกพบว่า โลกและดวงจันทร์มีการก่อตัวขึ้นมาที่คล้ายคลึงกันมาก   ทว่าการใช้ ตัวอย่างขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (นาซา) ที่เก็บได้จากพื้นผิวดวงจันทร์ในภารกิจของยานอพอลโล 11, 12 และ 16 ร่วมกับเทคนิคทางวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้ามากขึ้นนั้น ทำให้นักวิทยาศาสตร์ค้นพบบางอย่างใหม่ โดยผลการศึกษาที่เผยแพร่ในวารสารไซน์ซระบุว่า "นักวิทยาศาสตร์ค้นพบส่วนประกอบไอโซโทปของออกซิเจนที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยทว่า เด่นชัด ในตัวอย่างชิ้นส่วนของดวงจันทร์เหล่านี้ ซึ่งความแตกต่างเล็กน้อยนี้สนับสนุนทฤษฎีการพุ่งชนโลกของอุกกาบาตขนาดใหญ่ ที่ก่อให้เกิดดวงจันทร์" อ้างอิงจากแบบจำลองทางทฤษฎีของการชนดวง จันทร์ก่อตัวขึ้นโดยมีองค์ประกอบส่วนใหญ่ระหว่าง 70-90 เปอร์เซ็นต์มาจากดาวธีอา ขณะที่ราว […]

ปลาไหลญี่ปุ่นขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์แล้ว !

ปลาไหลญี่ปุ่นขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์แล้ว ! สหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ ( ไอยูซีเอ็น ) ขึ้นทะเบียนปลาไหลญี่ปุ่นให้เป็นสิ่งมีชีวิตใกล้สูญพันธุ์   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ว่าสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (ไอยูซีเอ็น) ขึ้นทะเบียนปลาไหลญี่ปุ่นให้เป็นสิ่งมีชีวิตใกล้สูญพันธุ์ ตามคำร้องของกระทรวงเกษตรญี่ปุ่น  ซึ่งให้เหตุผลว่า เพื่อกระตุ้นความพยายามของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในการอนุรักษ์พันธุ์ปลาไหลญี่ปุ่น ตลอดจนปลาไหลสายพันธุ์อื่นด้วย ทั้งนี้ การที่ไอยูซีเอ็นขึ้นทะเบียนปลาไหลญี่ปุ่นเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อาจตามมา ด้วยการออกกฎหมายระหว่างประเทศ เกี่ยวกับการจำกัดการจำหน่ายปลาไหลญี่ปุ่น ไปจนถึงการลงนามในสนธิสัญญาทางการค้าและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลและรูปประกอบ จาก เดลินิวส์ออนไลน์ 13 มิถุนายน 2557 ค้นหา ความรู้ทั่วโลก เพิ่มเติม ที่ > EDUZONES KNOWLEDGE สาระน่ารู้ ความรู้รอบตัวทั่วโลก เรื่องก่อนหน้า : 4 วิธีติดตามข่าวสาร World Cup 2014 บน Google   เรื่องถัดไป : สหรัฐฯเปิดสงครามแฮ็กแข่งเจาะระบบไซเบอร์ 2 ปี

6 ของกินใกล้ตัว แก้หิว ลดพุง

“ปัจจัยที่ทำให้ผู้คนยุคนี้พุงปลิ้น ก็คือ กินแป้ง นอนดึก นั่งนาน” นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ บอกว่า พร้อมแนะนำของกินกรุบกริบที่กินแล้วไม่อ้วน แถมหาง่าย ใกล้ตัว และราคาก็ไม่แพงเลย เรียกว่า อยู่ท้อง ไร้พุง สบายกระเป๋า      1) เม็ดแมงลัก “อาหารลดพุงแสนคลาสสิก แต่ประโยชน์ล้น เพราะมีพระเอกสำคัญคือ วิตามินเอที่สูงปรี๊ดกับ เส้นใยละลายน้ำ (Soluble fiber) ที่ดูเป็นวุ้นใส เมื่อแช่น้ำนั่นละครับ ช่วยพองในท้องให้อิ่มแต่ไม่อ้วน” หมอต้นให้เทคนิคกินง่ายคือ แช่น้ำให้พองเต็มที่ก่อน อย่าใจร้อน แล้วค่อยปรุงรับประทาน  2) ถั่วลิสง ของกินช่วยลดหิวได้ ใช้แทนของว่างที่แสนอ้วนอย่างมันฝรั่งทอด “การรับประทานถั่วลิสงคั่วแบบไม่ปรุงรสจะให้ความรู้สึกอิ่มท้องจาก ใยอาหารถั่ว ที่มีอยู่อย่างอุดม แม้ถั่วจะมีพลังงานสูง แต่ด้วยใยอาหารของมันกับโปรตีนนี่เองครับที่ช่วยให้รู้สึกไม่หิวจนเกินไป”  3) แอปเปิ้ลเขียว เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วย เพคติน ช่วยให้อิ่ม หยิบทานง่าย และเก็บไว้ได้นาน “เก็บไว้ทานในตู้เย็นที่ออฟฟิศก็ได้ ใช้เป็นมาตรวัดความหิวแบบง่ายๆ คือ ถ้านึกหิวขึ้นมาให้ถามตัวเองว่าหิวขนาดกินแอปเปิ้ลได้สักลูกไหม […]

เพื่อนตัวป่วน 20 แบบในที่ทำงาน !

เพื่อนตัวป่วน 20 แบบในที่ทำงาน ! เมื่อ ชีวิตก้าวสู่โลกการทำงาน เสมือนหนึ่งเราก้าวสู่ละครโรงใหญ่ เพราะจะได้สัมผัสชีวิตเพื่อนร่วมงานที่หลากหลาย ทั้งชวนสุขและชวนป่วน Eduzones นำพฤติกรรม "ตัวป่วน" ในที่ทำงานที่ควรระมัดระวัง มาฝากกันค่ะ ทั้งระมัดระวังในการรับมือ และระมัดระวังที่จะไม่เป็นหนึ่งในนั้นซะเอง ! (ข้อมูลจาก jobsDB.com) (คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพใหญ่) 1. ไม่ปรับตัว ไม่เปิดรับ ไม่ยอมรับในสิ่งใหม่ๆ เมื่อบริษัทมีการปรับโครงสร้างใหม่ สิ่งแวดล้อมใหม่ จะเกิดอาการไม่พอใจ และแสดงออกทางพฤติกรรม สีหน้า และไม่ให้ความร่วมมือ 2. ศิลปินเดี่ยว ไม่สามารถทำงานเป็นทีมร่วมกับผู้อื่นได้ ไม่แชร์ความคิดเห็น ชอบทำงานคนเดียว โชว์ผลงานเดี่ยวตลอด 3. กฎมีไว้แหก ไม่ปฏิบัติตามกฎบริษัท เช่น แต่งกายไม่เหมาะสม ขาด ลา มาสายเกินกำหนด ตอกบัตรแทนกัน 4. ย่ำอยู่กับที่ ไม่พัฒนาตัวเอง ไม่ต่อยอดงาน ไม่สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ไม่อาสาทำงานยาก 5. เก็บตัว ไม่ปฏิสัมพันธ์กับแผนกอื่น ขาดมนุษยสัมพันธ์ที่ดี […]

10 เรื่องต้องห้ามของผู้ประสบความสำเร็จ

  1. พวกเขาไม่มัวเสียเวลาโทษตัวเอง คุณเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกได้ว่าจะมีและใช้ชีวิตอย่างไร แทนทีพวกเขาจะเสียเวลาให้กับการท้อแท้กับชะตาชีวิต จากสิ่งที่ได้ สิ่งที่มี และสิ่งที่เป็นของตัวเอง พวกเขายึดอกรับผิดชอบกับชีวิตและสิ่งที่เกิดขึ้นดับตัวเอง และมุ่งมั่นในการพัฒนาตัวเอง เพื่อทำสิ่งที่เขาต้องการให้สำเร็จผล 2. พวกเขาไม่เสียเวลากังวลกับความเห็นชอบของผู้อื่น พวกเขามีฝัน และเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน เขาพร้อมที่จะ ตอบว่า “ไม่” ให้กับเรื่องต่างๆ ที่ไม่เป็นไปตาม ฝัน หรือเป้าหมายของเขา และพร้อมที่จะจัดการกับความผิดหวังของผู้อื่น ที่เกิดจากการปฏิเสธได้ 3. พวกเขาไม่เสียเวลากับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ พวกเขาไม่เคยบ่นกับเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ เช่น รถติด หรือเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก พวกเขาโฟกัสในการพัฒนาความสามารถและศักยภาพของตัวเองอยู่เสมอ เพื่อทุ่มเทพลังที่มีให้กับเรื่องที่เขาควบคุมได้เท่านั้น 4. พวกเขาไม่ทิ้งพลังชีวิตไปโดยเปล่าประโยชน์ พวกเขาไม่ปล่อยให้คนอื่นมามีอำนาจเหนือชีวิต เขาไม่เคยบ่นว่า “เจ้านายทำให้ฉันรู้สึกแย่” เพราะเขาเข้าใจความจริงที่ว่า เขาไม่อาจควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่เขาควบคุมตัวเองได้ว่าจะรู้สึกและคิดอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นเสมอ 5. พวกเขาไม่กลัวความเปลี่ยนแปลง พวกเขาเข้าใจความจริงที่ว่า “โลกเปลี่ยนแปลงเสมอ” ทำให้เขาพัฒนาความสามารถที่จำเป็นอย่างต่อเนื่อง เพื่อพร้อมรับกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น 6.พวกเขาไม่กลัวความเสี่ยง พวกเขายินดีต้อนรับความเสี่ยงที่คุ้มค่า แวะพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นเสมอ 7.พวกเขาไม่กลัวความล้มเหลว พวกเขาไม่เคยเลิกความพยายามเนื่องจากความล้มเหลว แต่กลับใช้มันในการเรียนรู้ […]

1 702 703 704
error: