คดีพลิก! เปิดเอกสารชัด ผู้สมัคร ส.ส.กรอกประวัติเองว่าจบ ‘ป.6’ กกต.ไม่ได้พิมพ์ผิด!

Advertisement วันที่ 13 มี.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีการเปิดเผยข้อมูลผิดพลาดของผู้สมัครพรรคเสรีรวมไทย น.ส.วันทิพย์ หิรัญธนาอังกูร ซึ่งกำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโทอยู่ ไม่ได้จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตามเอกสารแนะนำตัวของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) Advertisement Advertisement ทั้งนี้จากการตรวจสอบเอกสารการยื่นสมัครที่ น.ส.วันทิพย์ ผู้สมัครเขต 3 จ.นครปฐม พรรคเสรีรวมไทย ยื่นต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตในวันที่ 4 ก.พ. พบว่า น.ส.วันทิพย์ ได้ระบุในช่อง (13) วุฒิการศึกษาสูงสุด ป.6 ซึ่งในเรื่องดังกล่าวเจ้าหน้าที่ที่จัดทำเอกสารแจ้งเจ้าบ้านก็ได้กรอกรายละเอียดโดยยึดตามเอกสารใบสมัครรับเลือกตั้งที่น.ส.วันทิพย์ ที่ได้กรอกเองด้วยลายมือ ซึ่งถือว่าเป็นการกรอกตามที่ผู้สมัครแจ้ง. ข่าวจาก : คมชัดลึกออนไลน์  

กกต.ย้ำรณรงค์โหวตโนถือมีความผิด ห้ามอดีตผู้สมัครเทคะแนนให้พรรคอื่น

ประธาน กกต.ชี้รณรงค์โหวตโนถือมีความผิด สั่งเลขา กกต.ตั้งกรรมการไต่สวนอดีตผู้สมัคร “ไทยรักษาชาติ” ประกาศเทคะแนนพรรคอื่น – พรรคที่ได้ประโยชน์เสี่ยงถูกยุบ โต้บินไปเมืองนอกยันทำงานไม่ได้ดูงาน เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2562 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการตรวจสอบการจัดโต๊ะจีนระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐ ว่า นายทะเบียนพรรคได้เสนอผลการพิจารณาคำร้องของสำนักงานเข้าสู่ที่ประชุม กกต.แล้ว โดยสำนักงานดำเนินการตรวจสอบเสร็จสิ้นเพียงกรณีเดียว คือ ที่ไม่มีชาวต่างชาติบริจาคเงิน ส่วนคำร้องของนายศรีสุวรรณ ในประเด็นที่ให้ตรวจสอบว่ามีหน่วยงานรัฐเข้าร่วมบริจาค ด้วยหรือไม่ รวมถึงประเด็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักงาน ยังไม่แล้วเสร็จ สำหรับประเด็นที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า บริษัทที่บริจาคโต๊ะจีนได้ เป็นคู่สัญญาของรัฐนั้น เป็นข้อเท็จจริงที่ กกต.ยังไม่ได้รับทราบ แต่เข้าใจว่าการตรวจสอบในกรณีต่างๆ นายทะเบียนพรรคการเมืองจะเป็นผู้พิจารณา ขณะที่คำร้องให้ตรวจสอบสถานะของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่นั้น เรื่องดังกล่าวจะเข้าสู่ที่ประชุมภายใน 1-2 วันนี้ ประธาน กกต.ยังไม่ขอให้ ความเห็นกรณีที่มีการคาดการณ์ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้จะทำให้ประชาชนไม่รับผลการเลือกตั้ง แต่จะขอทำงานอย่างเดียวให้ดีที่สุด พร้อมย้ำว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจะไม่เป็นประเด็นฟ้องร้องหลังการเลือกตั้ง เนื่องจากไม่มีปัญหาทางข้อกฎหมาย นายอิทธิพร กล่าวถึงกรณีที่แกนนำของพรรคไทยรักษาชาติ หลังจากถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคได้เดินสายเปิดเวทีต่อต้านเผด็จการนั้น ต้องพิจารณาดูข้อกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและตรวจสอบต่อไป ขณะที่การประกาศถ่ายโอนคะแนนของผู้สมัครพรรค […]

เลขาฯ กกต.เผย ผลสอบโต๊ะจีนพลังประชารัฐยุติแล้ว ‘ไม่เข้าข่ายยุบพรรค’ เพราะไม่พบการบริจาคจากต่างชาติ

  เมื่อวันที่ 12 มี.ค. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงปัญหาเรื่องความผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสารแจ้งเจ้าบ้านว่า เกิดจากมีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก ประกอบกับมีการเพิกถอนสิทธิการรับสมัครเลือกตั้งจึงทำให้เอกสารแจ้งเจ้าบ้านมีความบกพร่อง ซึ่งกกต.ได้แจ้งให้ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตชี้แจง และ กกต.จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ เมื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 17 มี.ค. หรือการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 24 มี.ค. ขอให้ดูข้อมูลล่าสุดที่หน้าหน่วยเลือกตั้ง ที่จะมีบัญชีรายชื่อผู้สมัคร รวมทั้งแจ้งว่าผู้สมัครคนใดถูกเพิกถอนสิทธิ แระกอบกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถตรวจสอบรายละเอียดของผู้สมัคร และบัญชีลำดับการใช้สิทธิของผู้มีสิทธิได้ ด้วยการโหลดแอพพลิเคชั่นสมาร์ทโหวต ที่มีการปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยทั้งผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อ และระบบเขต ซึ่งการศึกษาผ่านสมาร์ทโหวตดังกล่าวจะทำให้ทราบลำดับการใช้สิทธิซึ่งจะทำให้การใช้สิทธิไม่ล่าช้า แต่ถ้าไม่อัพเดตก็สามารถดูข้อมูลที่หน้าหน่วยเลือกตั้งได้อีกครั้งหนึ่ง เมื่อถามว่าความผิดพลาดดังกล่าวจะทำให้ถูกร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ เลขาธิการกกต. กล่าวว่า ความผิดพลาดเรื่องเอกสารและการถอนสิทธิผู้สมัคร แต่เชื่อว่าผู้มีสิทธิคงมีคนและพรรคอยู่ในใจ เพียงแต่ขอให้ดูว่าผู้สมัครที่จะเลือกถูกถอนสิทธิในการรับสมัครหรือไม่ ประกอบกับในปัจจุบันทางสื่อโทรทัศน์ก็มีการจัดดีเบตและแถลงนโยบายของพรรคต่างๆค่อนข้างมาก จึงน่าจะเป็นทางเลือกให้ผู้มีสิทธิ ส่วนจะมีการฟ้องร้องภายหลังการเลือกตั้งหรือไม่ คงเป็นสิทธิที่สามารถฟ้องได้ แต่กกต.ก็ได้ออกเอกสารใบแก้ไปแล้ว คงไม่ทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ซึ่งที่ผ่านมาการที่ศาลจะสั่งให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ มีเพียงการเลือกตั้งที่ไม่เป็นไปโดยตรงและลับ และการไม่จัดเลือกตั้งในวันเดียวกันเท่านั้น พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการจัดเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 17 มี.ค.นี้ว่า มีการลงทะเบียนขอใช้สิทธิกันจำนวนมาก ได้จัดเตรียมหีบบัตร คูหาไว้เพียงพอ รวมทั้งแต่งตั้งกรรมการประจำหน่วยสำรองไว้ด้วย เบื้องต้น กกต.ได้ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)  ในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้มีสิทธิ โดยเฉพาะด้านการจราจร […]

กกต.ยอมรับ แก้เอกสารแนะนำตัวผู้สมัครไม่ได้แล้ว ชี้คลาดเคลื่อนในขั้นตอนการพิมพ์ ไม่ส่งผลกระทบต่อคะแนนเสียง

นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีปัญหาเอกสารการแนะนำตัวผู้สมัคร ที่ส่งให้กับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ซึ่งมีความคลาดเคลื่อนในการตีพิมพ์ข้อมูลของผู้สมัครเลือกตั้ง ว่า ขณะนี้ไม่สามารถแก้ไขเอกสารได้แล้ว แต่ยืนยันว่าไม่ได้เป็นปัญหาที่จะส่งผลต่อการลงคะแนนหรือจะกระทบกับคะแนนของผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เพราะช่องทางในการรับรู้ข้อมูลของผู้สมัครไม่ได้มีช่องทางเดียวแต่ยังมีแอพพลิเคชั่นสมาร์ทโหวต ที่สามารถตรวจสอบได้ทั้งข้อมูลของผู้สมัครและข้อมูลของผู้ใช้สิทธิ์  ซึ่งกกต. ได้เร่งประชาสัมพันธ์และได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ของ กกต. ที่ดูแลการเลือกตั้ง Download Application นี้ เพื่อที่จะให้ข้อมูลกับประชาชนในวันเลือกตั้งล่วงหน้าด้วย ส่วนการนำส่งบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรนั้น จะมาถึงประเทศไทยประมาณวันที่ 17 มีนาคม และจะนำมารวมกับการเลือกตั้งนอกเขตในไทย และคัดบัตรแยกบัตรเพื่อนำส่งบัตรออกไปยังเขตนั้นๆ นายณัฏฐ์ ยังกล่าวถึงกรณีปัญหาการจัดการเลือกตั้งที่ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีผู้มีสิทธิเดินทางมาใช้สิทธิจำนวนมาก ทำให้ต้องมีการเพิ่มคูหาลงคะแนน โดยใช้ลังกระดาษมาทำเป็นคูหาแทน จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม  ว่า การจัดคูหาเลือกตั้งให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่กัวลาลัมเปอร์ประเทศมาเลเซียมีเพียงพอแต่เนื่องจากในวันนั้นมีผู้มาใช้สิทธิ์จำนวนมากและมีการจัดคูหาเลือกตั้งเคลื่อนที่จึงต้องมีการเสริมคูหาโดยนำลังกระดาษมาทำเป็นคูหาชั่วคราวแต่การเลือกตั้งยังคงเป็นการจัดการเลือกตั้งโดยตรงและลับจึงไม่ถือว่าผิดกฎหมายเลือกตั้งซึ่งต้องขอชื่นชมคนไทยที่ออกมาใช้สิทธิ์การเป็นจำนวนมากด้วย พร้อมกันนี้ นายณัฐ กล่าวถึงปัญหาการส่งบัตรเลือกตั้งให้กับผู้มีสิทธิ์ในประเทศจีนที่มีการออกมาระบุว่าไม่ได้รับบัตรเลือกตั้งและมีบัตรเลือกตั้งสูญหายนั้น ว่า เป็นปัญหาจากการกรอกข้อมูลของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่กรอกรายละเอียด ไม่ครบถ้วนและไม่ชัดเจนจึงทำให้เกิดปัญหาในการจัดส่ง และมีการตีกลับมาที่สถานกงสุล ซึ่งได้มีการแก้ปัญหาในเรื่องนี้ไปเรียบร้อยแล้ว และคนไทยที่มีสิทธิ์เลือกตั้งก็ได้ลงคะแนนเรียบร้อยแล้ว ข่าวจาก : innnews  

‘เลขาฯกกต.’ แจง กระดาษลังทำคูหาเลือกตั้งที่มาเลย์ไม่ผิด ตรงตามข้อกำหนดกฎหมาย

“เลขาฯกกต.” เผย ใช้กระดาษลังทำคูหาเลือกตั้งนอกราชฯ”มาเลย์” ไม่ผิด ระบุ ยังเป็นการใช้สิทธิทางตรงและลับตามกฏหมาย เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)​ กล่าวถึงกรณีปัญหาการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีผู้มีสิทธิเดินทางมาใช้สิทธิจำนวนมากจนต้องมีการเพิ่มคูหาลงคะแนนโดยใช้ลังกระดาษมาทำเป็นคูหาแทนจนเกิดการวิจารณ์เรื่องความไม่เหมาะสมนั้นว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นถือว่าสามารถทำได้ไม่มีปัญหาเพราะการลงคะแนนยังเป็นไปโดยตรงและลับตามที่กฏหมายกำหนด เพียงแต่อาจดูไม่สวยงาม ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นทางสถานเอกอัคราชทูตอาจมีคูหาไม่เพียงพอ จึงต้องแก้ปัญหาลักษณะดังกล่าว ซึ่งก็ไม่ถือว่าผิดกฏหมายเลือกตั้งแต่อย่างใด ส่วนกรณีการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ที่มีการแชร์ภาพเอกสารให้ข้อมูลผู้สมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่ กทม.เขต 13 ซึ่งมีความคลุมเครือเรื่องชื่อพรรคนั้น กำลังให้มีการตรวจสอบเอกสารดังกล่าว แต่ผู้มีสิทธิยังสามารถตรวจสอบข้อมูลผู้สมัครได้จากช่องทางอื่น อาทิ แอพพลิเคชั่นสมาร์ทโหวต เป็นต้น ข่าวจาก : มติชนออนไลน์

กกต.คาดโต๊ะจีน ‘พลังประชารัฐ’ ถูกเสนอพิจารณาสัปดาห์หน้า

เลขาฯ กกต.เผยอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน คดีการระดมทุนโต๊ะจีนของพรรคพลังประชารัฐ ชี้มูลเหตุที่จะทำให้ยุบพรรคได้คือกรณีการรับเงินจากบริษัทต่างชาติเท่านั้น คาดเสนอที่ประชุมพิจารณาสัปดาห์หน้า (8 มี.ค.62) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการของ กกต.หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งในช่วงนี้เป็นช่วงของการใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักรระหว่างวันที่ 4 – 10 มี.ค.62 ซึ่งบัตรได้มีการจัดพิมพ์ไปแล้ว ล่าสุด ได้มีการแจ้งไปยังสถานกงสุลในต่างประเทศ 97 ประเทศ ประชาสัมพันธ์เรื่องของการกาบัตรเลือกตั้งกรณีผู้สมัครที่ถูกถอนสิทธิ์เลือกตั้งจะกลายเป็นบัตรเสียซึ่งไม่เพียงแค่พรรคไทยรักษาชาติเท่านั้น ยังมีผู้สมัครรายอื่นที่ศาลฎีกามีคำสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งด้วย พร้อมกันนี้ระบุว่า กรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ จำนวน 13 คน เป็นผู้ที่ถูกศาลเพิกถอนสิทธิ สมัครรับเลือกตั้ง เป็นเวลา 10 ปี ส่วนอีก 1 คน ได้ลาออกไปก่อนหน้าวันที่ 8 ก.พ.โดยคณะกรรมการบริหารที่ถูกเพิกถอนสิทธิจะไม่สามารถไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคใดได้ ส่วนสมาชิกคนอื่นของพรรคสามารถย้ายสังกัดและขึ้นรูปในป้ายหาเสียงได้ รวมถึงไปเป็นผู้ช่วยหาเสียงได้ตามกฎหมาย พร้อมกันนี้ย้ำว่าพรรคไทยรักษาชาติจะต้องยุติการดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับการเมืองรวมถึง ป้ายข้อความการหาเสียงในช่องทางต่างๆ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ระบุด้วยว่า กรณีผู้สมัครที่ถูกถอนชื่อออกจากการเลือกตั้งในครั้งนี้ จะมีการติดป้ายประชาสัมพันธ์ให้รับทราบที่บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้ง ทั้งนี้ การดำเนินคดีพรรคไทยรักษาชาติ ที่รวดเร็วเนื่องจากมีกหลักฐานครบถ้วนซึ่งเป็นหลักฐานเอกสารของพรรคไทยรักษาชาติในวันที่ยื่นรายชื่อผู้เสนอเป็นนายกรัฐมนตรี ปรากฏเป็นพยานหลักฐาน […]

กกต.ไฟเขียว ‘บิ๊กตู่’ ขึ้นเวทีปราศรัย-เดินหาเสียงได้ ขณะที่ปมโต๊ะจีน พปชร.อยู่ระหว่างสอบ(มีคลิป)

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า กกต.ได้พิจารณาหนังสือ ของนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐที่สอบถาม กกต.ในประเด็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค สามารถขึ้นเวทีปราศรัยและช่วยเสียงผู้สมัครของพรรคหาเสียงได้หรือไม่ ทาง กกต.ได้พิจารณาข้อกฎหมายแล้วมีมติว่า สามารถทำได้โดยเป็นไปตามระเบียบ ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียง แต่ขอให้พึงระมัดระวัง ในเรื่องของการใช้ตำแหน่งหน้าที่เป็นคุณเป็นโทษกับผู้สมัครและพรรคการเมือง ส่วนกรณีที่มีการร้องว่านายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขาดคุณสมบัติการเป็นกรรมการบริหารพรรคเนื่องจากเป็นหัวหน้าพรรค ก่อนการสมัครเป็นสมาชิกพรรค ขัดต่อข้อบังคับพรรคและกฎหมายพรรคการเมือง กกต.ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และกฎหมายแล้ว มีมติว่านายอุตตม มีคุณสมบัติครบถ้วน และได้แจ้งให้ผู้ร้องทราบแล้ว ขณะที่ความคืบหน้าการพิจารณาคำร้องการยุบพรรคพลังประชารัฐ จากกรณีเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.เป็นแคนดิเดตนายกฯ และการจัดโต๊ะจีนระดมทุน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ตอบว่า อยู่ระหว่างการดำเนินการใกล้ที่จะให้นายทะเบียนพรรคการเมืองเสนอต่อ กกต.พิจารณา แต่กรณีของการระดมทุนไม่ใช่การตรวจสอบเพื่อนำไปสู่การยุบพรรคเป็นการตรวจสอบว่าเงินที่ได้รับจากการระดมทุนนั้นมีเอกสารครบถ้วนถูกต้อง และรับมาจากผู้บริจาคที่สามารถบริจาคได้ตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ เราจะดูเอกสารหลักฐานตามนี้ แต่จะไม่ไปตรวจสอบว่าผู้ที่แจ้งความประสงค์จะสนับสนุนแล้วไม่สนับสนุนเป็นเพราะเหตุใด จะตรวจสอบเฉพาะได้เงินสนับสนุนมาเท่าไหร่มีเอกสารยืนยันถูกต้องหรือไม่เท่านั้น พร้อมกันนี้ยังเผยว่า ในขณะนี้ได้มีผู้ร้องเรียนเรื่องการเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งต้องมีการสอบปากคำในเรื่องที่ร้อง โดยจะดูว่ามีมูลมากพอที่จะตรวจสอบต่อไปได้หรือไม่  ซึ่งอยากจะเตือนผู้ที่ร้องว่าถ้าร้องในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง ก็เข้าข่ายหมิ่นประมาทด้วยความเท็จ ซึ่งจะมีโทษจำคุก  และถ้าเรื่องที่มาร้องต่อ กกต.ไม่เป็นความจริง  ก็จะเข้าข่ายร้องเท็จอีก  ซึ่งมีลักษณะนี้ทุกครั้งในการเลือกตั้ง กกต.จะต้องดำเนินคดีเป็นจำนวนมาก  ดังนั้นก่อนที่จะมาร้อง ก็ต้องพิจารณาให้ดี ข่าวจาก : […]

ผบ.ทบ.ยัน ‘รัฐประหาร’ แค่ข่าวลือ ยืนยัน จุดยืนกองทัพคือเป็นกลาง(มีคลิป)

  ผู้บัญชาการทหารบก ยืนยันกระแสข่าวรัฐประหารไม่เป็นความจริง ย้ำจุดยืนกองทัพเป็นกลางและอยู่ข้างประชาชน ไม่ขอแสดงความเห็นกรณี กกต.ยื่นยุบพรรคไทยรักษาชาติ 13 ก.พ.2562 พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวภายหลังเป็นประธานแถลงข่าวรายการชกมวย ถึงกระแสข่าวลือการรัฐประหาร ว่า ไม่เป็นความจริง โดยข่าวลือดังกล่าวเป็นความพยายามสร้างสถานการณ์ นำประเด็นต่าง ๆ มาเชื่อมโยงกัน ส่วนการเคลื่อนย้ายรถถัง หรือยานพาหนะ เพื่อใช้ในการฝึกหน่วยทหาร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก อย่าตกเป็นเหยื่อสื่อสังคมออนไลน์ที่พยายามบิดเบือน พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวย้ำว่าจุดยืนของกองทัพยังคงเหมือนเดิม คือ วางตัวเป็นกลางและจะยืนอยู่ข้างประชาชน พร้อมกำชับกำลังพลระมัดระวังตัวและอย่าตกเป็นเหยื่อทางการเมือง โดยยึดถือชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการทหารบก ปฏิเสธให้ความเห็นกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ โดยขอให้เป็นเรื่องทางการเมือง และน้อมนำพระราชโองการไปปฏิบัติ "ข่าวลือก็คือข่าวลือ คนทำเป็นคนเดิม ๆ เมื่อมีพระราชโองการออกมาแล้ว ผมไม่อยากจะพูดอะไร ขอให้น้อมนำไปปฏิบัติ กองทัพวางตัวเป็นกลาง อยู่ในกรอบของกฎหมาย อย่าล้ำเส้นซึ่งกันและกัน"   ข่าวจาก : http://news.thaipbs.or.th/content/277703, โต๊ะข่าวการเมือง ไทยพีบีเอส 

องค์กรชาวพุทธร้อง กกต.ตรวจสอบ ‘ไพบูลย์’ นำพุทธศาสนามาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง

  เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเอกภพ เหล่าลาภะ เลขาธิการศูนย์ประสานงานองค์กรชาวพุทธแห่งชาติ เข้ายื่นหนังสือถึงเลขาธิการ กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบการกระทำความผิดและตัดสิทธิเลือกตั้งนายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป กรณีใช้คำว่า “น้อมนำคำสอนพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหาทุกข์ร้อนให้กับประชาชน คือ งานของพรรคประชาชนปฏิรูป” ซึ่งการระบุคำว่าพระพุทธเจ้าสื่อความหมายได้ว่า เป็นการนำเอาพระพุทธศาสนามาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งอาจขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 ที่กำหนดป้องกันไม่ให้มีการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 14 เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ดังนั้นเพื่อระงับยับยั้งป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อพระพุทธศาสนาและพระสงฆ์ ตนและเครือข่ายขอให้ กกต.ตรวจสอบพรรคประชาชนปฏิรูปว่ากระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ หากพบว่ามีความผิดจริงขอให้ตัดสิทธิทางการเมือง และส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค ข่าวจาก : มติชนออนไลน์

ประกาศ กกต. ไม่มีพระนาม ‘ทูลกระหม่อม’ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

  วันที่ 11 ก.พ. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยผลการประชุมเพื่อพิจารณาในประเด็นการแจ้งรายชื่อบุคคลเพื่อเสนอชื่อให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี และได้มีการประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง แจ้งรายชื่อบุคคลที่ผ่านการพิจารณาแล้ว โดยไม่รวมถึงพระนามของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ที่เสนอชื่อโดยพรรคไทยรักษาชาติ กกต.ให้เหตุผลว่า พระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ทรงอยู่ในหลักการเกี่ยวกับการดำรงอยู่เหนือการเมือง และความเป็นกลางทางการเมืองของพระมหากษัตริย์ด้วยและไม่สามารถดำรงตำแหน่งใดๆ ทางการเมืองได้ เพราะจะเป็นการขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งนี้เป็นไปตามพระราชโองการ ประกาศสถาบันพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งประกาศ ณ วันที่ 8 ก.พ. 2562 ประกอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 สำหรับรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ตามประกาศ กกต. มี 69 คน จาก 45 พรรค ข่าวจาก : workpointnews

1 14 15 16
error: