ความรัก

Advertisement 12 ส.ค.67 ผู้ใช้ TikTok @basnobu23 ซึ่งเป็นไรเดอร์ เล่าเรื่องที่ตนเองได้รับออเดอร์ไปส่งอาหารให้กับลูกค้า พอโทรไปเช็คพิกัดและช่องทางการจ่ายเงิน กลับถูกอีกฝ่ายพูดด้วยท่าทีไม่พอใจ แล้วพบว่าปลายสายเป็นเสียงของผู้หญิงพูดกลับมาว่า “โทร. มาทำไม มีอะไร กูบอกแล้วว่ามึงไม่ต้องโทร. มาอีก ไหนมึงบอกว่าอยากอยู่คนเดียวมากไม่ใช่เหรอ” Advertisement   พอไรเดอร์กำลังจะพูดอธิบาย ก็โดนตัดพ้อกลับมาชุดใหญ่ว่า ก่อนจะมีจังหวะได้พูดกลับไปว่า “มาส่งข้าว” พอเช็คเบอร์อีกครั้งด้วยความเอะใจ คุ้น ๆ ถึงอ๋อว่า นี่คือเบอร์และบ้านแฟนเก่านี่เอง Advertisement คลิปนี้กลายเป็นไวรัลมียอดเข้าชมกว่า 2.2 ล้านครั้ง บางคนก็มาคอมเม้นท์ถึงความโลกกลม บางคนเข้าใจว่าคงเลิกกันไม่ดี ฝ่ายหญิงถึงไม่อยากจะยุ่งด้วย บางคนก็อยากให้แยกแยะกัน เปิดใจฟังกันก่อน   @basnobu23 ไรเดอร์มีเป็นร้อยทำไมต้องสั่งติดผมด้วย😒 #บาสโนบุ #ติดตาม ♬ เสียงต้นฉบับ – “บาสโนบุ”  

27 ก.พ. 66 สมาชิกหมายเลข 7438773 ได้ตั้งกระทู้ปรึกษาปัญหาความรัก โดยเล่าว่า เธอกับแฟนได้ดูฤกษ์แต่งงานเรียบร้อยแล้ว แต่อยู่ ๆ แฟนดันบอกว่า “หมดใจ ไม่รักเธอเหมือนเดิมแล้ว” เธอควรทำอย่างไรดี เพราะไม่อยากเลิกกับเขาจริง ๆ เธอได้ขอเวลาเขา 1 เดือนแล้วค่อยคุยเรื่องนี้ อยากให้เวลาเขาได้คิดทบทวน และเวลาให้เธอได้ปรับตัว เผื่อเขาจะกลับมารักเธอเหมือนเดิม ตอนนี้เธอยังคงไปบ้านเขาตามปกติ เพียงแต่เขาไม่ค่อยสนใจเธอเหมือนเดิม และอีกหนึ่งเหตุผลคือ พวกเธอประกาศเรื่องงานแต่งไปแล้ว คนรับรู้ พิธีกรก็ติดต่อไว้แล้ว ซึ่งเขาบอกกับเธอว่า เขาเครียดมาก ไม่รู้จะเลือกทางไหน หากให้เธอยอมรับและหาแฟนใหม่ เธออายุจะ 30 แล้ว ก็หวั่นว่าจะหายาก จึงมาตั้งกระทู้ขอคำปรึกษาว่าพอมีวิธีแนะนำไหม ด้านความคิดเห็นชาวเน็ตส่วนใหญ่แนะนำว่า ให้ถอยออกมาด้วยกันทั้งคู่ อย่าดึงดันแต่งงาน อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน คนหมดใจก็คือหมดใจ ยังดีที่ฝ่ายชายรู้ตัวก่อน ทั้งนี้หากต้องการยื้อจริง ๆ ให้ลองเปิดใจคุยกันอีกครั้ง แต่ถ้าสุดท้ายผลออกมาเหมือนเดิมก็ไม่ควรฝืนใจกันต่อไป และไม่ต้องไปสนใจคำพูดของคนอื่น ให้ยึดตัวเราเป็นหลัก   ข่าวจาก : ข่าวสด

  เป็นอีกหนึ่งกระทู้ที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง และอาจจะโดนใจหลายๆ คนที่มีประสบการณ์การถูกคนรักบอกเลิก แต่จะมีกี่คนที่เจอแบบนี้ โดยสมาชิกหมายเลข 4517134 ในพันทิป ได้ตั้งกระทู้ “เมื่อแฟนเก่าส่งข้อความผ่านเฟซมา ไม่รู้จะตลกหรือเศร้าดี” โดยเจ้าของกระทู้ระบุว่า เมื่อ 6 ปีก่อน แฟนเก่าของตนมาบอกว่าขอห่างกันสักพัก ตนถามว่านานแค่ไหน แฟนบอกว่าพร้อมเมื่อไหร่จะบอกเอง ตนก็ทำใจว่ามันคือคำบอกเลิก แล้วเพื่อนของตนยังเจอแฟนเก่าเดินจับมือกับผู้ชายอื่นอีก ตนก็ไม่ได้ว่าอะไรถือว่าจบกันแล้ว เจ้าของกระทู้เล่าต่อว่า จนล่าสุดเมื่อวานเลย เฟซกลับมาว่า  เขา :พร้อมแล้วนะ รอนานไหม ผม : (งงไปพักนึงเลยว่า 6 ปีนะเห้ย คิดว่ากูจะรอหรอ) ผมเลยบอกว่า ห่างไปนานขนาดนี้ยังจะทักมาอีกหรอ เธอ : ทำไมอ่ะ ก็ไม่ได้บอกเลิกนิ แค่บอกว่าห่างกันสักพัก พร้อมจะบอก ก็พร้อมแล้วนี่ไง ผม : แล้วเธอไปไหนมาล่ะ 6 ปีเนี่ย เธอ : ก็ลองไปคบคนอื่นดูบ้างว่าไปรอดเปล่า อยากลองเปลี่ยนบ้าง จะได้รู้ว่าผู้ชายแต่ละคนเป็นยังไง ผม : (ผมคิดในใจว่า ไปแล้วก็ไปให้ลับสิวะ […]

  6 ม.ค.61 สมาชิกหมายเลข 2767981 ตั้งกระทู้ปรึกษาชาวพันทิปถึงความรักและอนาคต "เราเหนื่อย กลุ้มใจแฟนไม่ยอมทำงานหาเงินด้วยเหตุผลที่มากมาย" โดยเธอระบุเรื่องราวว่า… ก่อนอื่นจขกท.ต้องบอกเลยว่านี้เป็นกระทู้แรกที่ตั้งขึ้นมาตอนนี้แฟนอายุ23จะ24แล้ว เราอายุเท่าๆกัน เขาเรียนไม่จบจากมอรัฐบาลแห่งหนึ่งตอนเราคบกันเขาใกล้รีไทร์แล้ว คบกันมาได้จะ2ปีแล้วค่ะตอนนั้นเราจะจบป.ตรีแล้ว เรามีโอกาสได้เรียนต่อป.โทและได้ทุนในประเทศไทยซึ่งเขาก็เรียนต่อหลังจากถูกรีไทร์ที่มหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่งด้วยคณะเดิมซึ่งเราก็ลงเรียนเป็นเพื่อเขาด้วยโดยใช้วุฒิป.ตรีสมัคร ซึ่งการเรียนมหาลัยแห่งนี้สามารถทำงานไปด้วยได้นะคะ เวลาผ่านมาเรื่อยๆเราเริ่มรู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน สมาธิสั้น และไม่สามารถอ่านหนังสือนานๆได้เลยค่ะ ทำให้วิชาที่ลงไม่ผ่านเลย เรากลุ้มใจมากในขณะที่เรากำลังจะจบป.โทเขายังไม่มีอะไรคืบหน้าเลยงานก็ไม่ทำ เราบอกให้เขาไปสมัครเลยรอบแล้วเขาก็ตอบตกลงแต่ไม่เคยทำเลย ตอนแรกเข้าใจว่าเขาคงยังไม่เจอสายงานที่เขาชอบมั่งแต่ยิ่งนานวันคำถามนี้มันก็เริ่มเลือนลางไปด้วย บางคนอาจสงสัยว่าเขาอยู่ได้ไงพ่อแม่ไม่ว่าหรอ? คือที่บ้านเขาซื้อรถให้1คันเป็นรถมือสองตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยแล้วและเขาชอบทางด้านยานยนต์มาก อยู่ได้เป็นวันๆกับรถซ่อมนู้นนี้นั่น อาศัยการเรียนพักลักจำไปแต่เขาไม่ได้ศึกษามาสายนี้นะคะ พ่อแม่เขานิสัยดีมากคุยกับลูกมีเหตุมีผลตลอด เวลาพ่อแม่พูดเรื่องอนาคต การเรียน การทำงานเขาจะฟังแบบมึนๆอึนๆเข้าหูซ้ายทะลุหูขวานะคะ ส่วนตัวเราคิดว่าเขามีนิสัยแบบเด็กนะคะ ไม่ยอมโต เราสงสารพ่อแม่แฟนมากมีลูก2คนเป็นผช.แต่ไม่ได้เรื่องเลยสักคน(อีกคนก็เรียนไม่จบค่ะอยู่บ้านเฉยๆตอนนี้) เราคิดหนักมากเพราะเราจริงจังและอยากใช้อนาคตร่วมกับเขาแต่เขาเหมือนเด็กพอเราคุยเรื่องนี้ทีไรเขาจะพูดว่าโอเคๆเดี๋ยวทำๆ ได้ๆเดี๋ยวจัดการแต่ไม่เคยเห็นเลยสักที ทุกวันนี้พ่อแม่ไม่ให้เงินเขาใช้แล้วแต่มีบ้างที่ขอพ่อกับแม่เป็นครั้งคราว ตอนนี้เขามาอยู่ที่บ้านเราที่มีแม่และน้องอยู่ในบ้านแม่เราไม่ว่าอะไรค่ะ แต่ถามเรื่องการเรียนของเขาบ่อยมากในช่วงแรกจนตอนนี้เลิกถามแล้วค่ะ สถานะตอนนี้เราได้เงินเดือนจากทุนเราต้องให้เขาไว้กินใช้บ้าง ซ่อมรถบ้างอะไรที่เราช่วยได้เราก็ช่วย เราพยายามผลักดันเขาให้เต็มที่ในด้านการศึกษา การทำงาน แม้กระทั่งภาษาอังกฤษเรายังสอนเขาเลย 2ปีที่เราคบกันเราไม่เคยได้ของขวัญจากเขาเลย เราแค่หวังว่าปีนี้เขาจะกลับตัวตั้งใจเรียน หางานทำ เก็บเงินเมื่อเราเรียนจบทำงานเราจะได้สร้างบ้านอยู่ด้วยกัน แค่นี้เอง… เพิ่มเติมนะคะ -ทำไมถึงไปรับคนแบบนี้มาเป็นแฟน เขาเป็นเพื่อนเรามาตั้งแต่สมัยมัธยมเป็นเพื่อนกันมา10กว่าปี ตอนนั้นเราไม่เปิดใจให้กับคนนี้เลยพอเราเลิกกับแฟนเขาเป็นคนที่ทำให้ชีวิตเราน่าอยู่ขึ้นเขานิสัยดีนะคะถือว่าน่ารักเลยไม่กินเหล้า แต่สูบบุหรี่ ไม่เจ้าชู้ ไม่ยึดติดวัตถุเช่นมือถือเขาใช้ของเก่าจากพ่อเขาจอแตกมากแล้วยังคงใช้อยู่ ไม่สมัครเน็ตใช้เน็ตตามไวไฟบ้านและสถานที่ต่างๆ เวลาเรามีธุระเขาจะเป็นโชเฟอร์พาเราไปไหนมาไหน(ที่บ้านไม่มีรถ) […]

เป็นศาสตร์ที่มีมาแต่โบราณกาล ว่าด้วยการทำนายทายทักดวงชะตาล่วงหน้าก็เป็นเรื่องที่หลายคนอยากรู้ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยใด เพื่อที่จะมีความหวังและเตรียมพร้อมที่จะเผชิญสิ่งที่เข้ามาในชีวิต ซึ่งทีมข่าวบันเทิงวันนี้ก็ได้นำคำทำนายทายทักของหมอดูชื่อดัง “หมอช้าง ทศพร“ ที่ทำนายดวง 3 ราศี ระวังเรื่องความรัก ถูกหักหลัง แถมศัตรูรอบตัว ซึ่งจะมีราศีใดบ้าง เราไปชมกันเลยจ้าราศีมังกร ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 15 มกราคม-12 กุมภาพันธ์ ช่วงนี้ชีวิตของชาวราศีนี้จะวุ่นวายเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงานวุ่นวายไปหมด แต่ช่วงนี้จะมีเงินเข้าเยอะเป็นพิเศษ รวมถึงชีวิตคู่ก็จะมีคนเข้ามาในชีวิตมากมายทั้งคุณและคนรัก ดังนั้นชาวราศีนี้ควรระวังรักพัง เพราะมือที่ 3 นั่นเอง ราศีกรกฏ ผู้ที่เกิดระหว่าง 18 กรกฎาคม-16 สิงหาคม ชาวราศีนี้ช่วงต้นปี-กลางปี อาจเจอศึกหนัก ราหูเข้าหาทำให้มีศัตรูรอบตัว ซึ่งก่อให้เกิดคดีความตามมา สุขภาพร่างกายย่ำแย่ มิหน่ำซ้ำความรักยังแย่ นิดหน่อยก็ตีกันทะเลาะกัน ทางที่ดีควรเข้าวัดหมั่นทำบุญด้วยสิ่งของด้วยจำนวนคู่ เพราะอาจจะทำให้เรื่องต่างทุเลาลงได้นั้นเอง ราศีมิถุน ผู้ที่เกิดระหว่าง15 มิถุนายน-16 กรกฎาคม บอกได้คำเดียวว่าคุณควรหมั่นทำบุญให้มาก เพราะราหูกำลังจะออก แต่การเคลื่อนที่ของราหูนั้น ช่วงนี้จะทำให้การงานของคุณตึงเครียด ทำงานไม่ได้งาน ก่อให้เกิดภาระเยอะ จนลามไปถึงเรื่องความรัก สถานการณ์ตึงเครียด ทำให้รักวุ่นวายตามไปอีก ขอบคุณข้อมูลจาก : หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา

โลกโซเชียลก็เปรียบเสมือนโลกอีกใบที่ทำให้คุณกับคนรักใกล้ชิดกัน แต่ขณะเดียวกันมันก็อาจเป็นดาบสองคมที่ทำให้ชีวิตคู่ของคุณล้มเหลวได้ และนี่ก็คือ 4 เหตุผล..ทำไมชีวิตคู่ของคุณต้องจบลงเพราะโลกโซเชียล อ่านเเล้วก็นำไปปรับใช้กับชีวิตรักของคุณกันนะคะ  มองแต่หน้าจอ  พูดคุยกันผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ แสดงความรู้สึกกันผ่านทางสติกเกอร์ ปรึกษาเรื่องสําคัญผ่านตัวอักษร แทนที่จะใช้เวลาร่วมกันจริงๆ ได้มองหน้า ได้สัมผัสน้ำเสียง สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่เป็นการเพิ่มเติมความผูกพัน ถึงแม้ว่าพวกคุณจะอยู่ด้วยกัน แต่ความห่างเหินย่อมเกิดขึ้นได้ มีความลับในโซเชียล  อาจเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณคิดว่าไม่น่าเป็นปัญหาอะไร เพราะบริสุทธิ์ใจต่อการกระทําของตนเอง หากแต่อีกฝ่ายไม่เข้าใจเช่นนั้น จะเกิดปัญหาได้จากความระแวงคลางแคลงใจ ยิ่งคุณไม่บอกยิ่งดูเหมือนเป็นความลับ ถึงแม้คุณจะคิดว่าบางอย่างมันเป็นเรื่องส่วนตัว คนเราก็ต้องมีพื้นที่ส่วนตัวบ้าง แต่ควรแยกให้ออกระหว่างความเป็นส่วนตัวกับไม่มีความลับ ติดต่อพูดคุยกับคนรักเก่า  แค่หัวข้อก็ดูเหมือนจะไม่ถูกต้องซะแล้ว แต่หลายๆ คนเมื่อเลิกลากับคนรักไปแล้ว ก็ยังสามารถเป็นพื่อนที่ดีต่อกันได้ ยิ่งห่างหายกันไปนานและได้กลับมาเจอกัน ย่อมมีการถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเป็นธรรมดา แต่เรื่องแบบนี้ควรระวัง เพราะอีกฝ่ายย่อมเกิดความหวาดระแวง และอาจนําไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งได้ นําเรื่องในโซเชียลมาเปรียบเทียบคู่ของตนเอง  คงคล้ายๆ กับพ่อแม่ที่เปรียบเทียบลูกตนเองกับลูกคนอื่น คนทุกคนมีเอกลักษณ์ของตนเอง มีนิสัยใจคอ มีความชอบไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน หากคุณชอบใครบางคนในโซเชียลที่เจอ และบอกตัวเองว่านี่แหละคนที่ใฝ่ฝัน คุณก็ควรจะตามหาคนแบบนั้นตั้งแต่แรก อย่ามาบอกให้คู่ของตนเองปรับเปลี่ยน หรือพูดเปรียบเทียบแบบย้ำคิดย้ำทํา นอกจากนี้ การพูดคุยกันผ่านโซเชียลที่มีแต่ตัวอักษรสื่อความหมาย คุณไม่สามารถรู้ได้ว่า ณ ขณะนั้นอีกฝ่ายกําลังรู้สึกอย่างไรแน่ อาจทําให้การแปลความหมายผิดจากวัตถุประสงค์ของผู้พูดคาดเคลื่อนเป็นอย่างอื่นได้ค่ะ ทางที่ดีคุณควรหันหน้าเข้ามาพูดคุยกันเมื่อยามทะเลาะจะดีกว่านะคะ ^^

ถ้าพรุ่งนี้จะออกเดทกับสาวสักคนหนึ่ง แต่ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ลองมาอ่านเคล็ดลับดีๆ จากเรากันดูไหมคะ ?   ชวนไปไหนมาไหน ผู้ชายสมัยนี้ไม่ค่อยกล้าชวนผู้หญิงก่อน ขอย้ำว่าชวนเถอะ จะชวนไปดูหนัง กินข้าว หรือออกกําลังกายก็ได้ทั้งนั้น อย่ามัวแต่หันหน้าเข้าหาจอคอมพ์หรือจ้องจอมือถือไม่เงยหน้า คือถ้าเราไม่สนใจ เราก็แค่ปฏิเสธไม่มีอะไรเสียหาย ชมได้แต่อย่ามาก แค่ชมว่าชุดสวย หรือวันนี้ดูดีจังก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องถึงขั้นมองทะลวงลึกถึงข้างใน หรือส่งแววตาหื่นๆ มาให้ตั้งเเต่เดทแรก ถามมาเถอะอยากตอบ นี่คือสิ่งที่ผู้ชายส่วนใหญ่มองข้าม ฝ่ายหญิงมักอยากรู้อยากเห็น อยากให้เขารู้จักตัวเรา และเราก็อยากรู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไรด้วย อยากรู้ว่าเขาชอบอะไร ทํางานอะไร มีงานอดิเรกไหม ชอบดูหนังหรืออ่านหนังสือ เรื่องเหล่านี้ทําให้เขาน่าสนใจขึ้นเยอะ พวกเราใช้เวลาเตรียมตัวตั้ง 3 ชั่วโมง จําไว้ว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนสามารถไปเดทด้วยหน้าสดและอดใจไม่เปลี่ยนชุดแล้วชุดเล่าได้ พวกเราเตรียมการอย่างดี ทั้งส่วนที่มองเห็นจากภายนอกและซ่อนเร้นอยู่ด้านใน (แค่แว็กซ์ขนเป็นก็เจ็บจะแย่! เพราะฉะนั้นถ้าหนุ่มๆ มองเห็นถึงความตั้งใจตรงนี้เเล้วกล่าวชมอย่างน่ารักๆ ว่า "แต่งตัวดูน่ารัก เข้ากับเธอดีนะ" ก็จะได้ใจสาวๆ ไปเต็มๆ เลยค่ะ ทฤษฎี 3 วันนั้นบ้าบอมากๆ ถ้ารู้สึกดีอยากคุยกับผู้หญิงเราต่อช่วยบอกให้รู้ด้วย ไม่ใช่ขอเบอร์ไปแล้วรอ 3 วัน ถึงจะส่งข้อความมา อย่าแปลกใจถ้าเราจะเป็นฝ่ายไลน์ไปหาก่อน […]

มันเหนื่อยนะกับการทํางานหนักหนาสาหัสมาทั้งวัน กลับถึงบ้านยังต้องเจอคําพูดแดกดันในเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก เช่นเรื่องไร้สาระอย่างใครจะเป็นคนล้างจาน เอาขยะไปทิ้งหรือแม้แต่เดินไปหยิบรีโมตทีวี ถึงใครจะบอกว่าทุกคู่ที่ใช้ชีวิตใต้ชายคาเดียวกันมักมีปัญหาทํานองนี้ทั้งนั้นแหละ แต่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดีเสมอไป    หากทะเลาะกันเรื่องเงิน คู่ไหนทะเลาะกันเรื่องเงินๆ ทองๆ คุณคงต้องฉุกคิดแล้วว่าภาพในอนาคตจะเป็นอย่งไร ไปในแนวเดียวกันไหม จากประสบการณ์ คนชอบคิดว่าการถกเถียงกันเรื่องเงินเป็นเพราะเงินฝึดมือ เกี่ยวโยงกับการที่คู่รักให้คุณค่าและความสําคัญต่อสิ่งต่างๆ ในชีวิตไม่เหมือนกัน คุณต้องร่างลําดับสิ่งสําคัญในชีวิตและจับเข่าคุยกับฝ่ายชายว่า เป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวของคุณเป็นอย่างไร คุณจะได้รู้ว่าสิงไหนกันแน่ที่ตัวเองต้องการในอนาคต จากนั้นก็ถึงเวลาหารือกับแฟน ว่าจะจูงมือกันมุ่งไปหาเป้าหมายได้สําเร็จไหม หากเป้าของหนุ่มข้างกายคือทริปท่องยุโรป ในขณะที่คุณต้องการบ้านหลังใหม่ ถ้าทั้งสองคนไม่สามารถหาจุดตรงกลางได้ เห็นที่ต้องพึ่งพานักบําบัดชีวิตคู่ให้เเล้วล่ะ หากทะเลาะกันเรื่องงานบ้าน หนึ่งในปัญหาที่คนสมัยนี้ทะเลาะกันบ้านแตกคือ ทั้งฝ่ายหญิงและชายไม่มีใครอยากทํางานบ้าน หมดยุคแล้วที่ผู้หญิงต้องรับภาระนี้เพียงลําพัง โดยฝ่ายชายไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น เรื่องยิบย่อยเหล่านี้บานปลายเป็นปัญหาใหญ่ที่เป็นบ่อนทําลายความสัมพันธ์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เป็นสัญญาณเตือนว่าคุณกับเขาต้องหาวิธีสื่อสารให้ดีกว่านี้ โดยเฉพาะทักษะการฟัง คู่รักที่ไปกันรอดควรรับฟังและตอบสนองต่อคําร้องขอของแต่ละฝ่าย ไม่ว่าจะเรื่องเล็กน้อยหรือไร้สาระขนาดไหน หากเขาแคร์คุณมากพอ เขาจะยอมดัดนิสัยตนเอง  หากทะเลาะกันเรื่องพ่อแม่ญาติพี่น้อง ถ้าคุณสองคนโต้เถียงกันเรื่องญาติโยมตลอด ปัญหาหลักเกิดจากคนใดคนหนึ่งไม่เห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ เช่น ถ้าเขารู้สึกว่าคุณขลุกอยู่แต่กับพ่อแม่พี่น้อง ในขณะที่เขาเจอพ่อแม่แค่ปีละ 1-2 ครั้ง หรือเปรยว่าแม่คุณแวะมาบ้านเราบ่อยเกินไปแล้ว เป็นไปได้ว่าคุณเองหรือตัวเขาไม่ให้ความสําคัญกับคนรักเป็นอันดับหนึ่ง ดีที่สุดเท่าที่ทําได้คือการยอมรับเงื่อนไขในเชิงอย่าตัดสินใจทําอะไรโดยไม่ปรึกษาคู่ของตัว โดยเฉพาะเรื่องครอบครัว เพราะนอกจากจะเกิดข้อขัดแย้งในอนาคตแล้ว ยังสร้างปมปัญหาให้ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ คุณอาจบอกว่า “ฉันชื่นชมที่คุณทุ่มเทเวลาให้กับครอบครัว เป็นอันดับแรกนะ เอ่อ…ไม่อยากให้คุณเลิกทําหรอกนะ […]

ผู้ชายอย่างเราๆ เวลาจะเดินเข้าจีบสาวๆ สักคนนี่ก็อยากให้เค้ามองว่าเราเป็นผู้ชายที่ดีใช่ไหมคะ แต่ไม่เสมอไปหรอกค่ะ! เพราะการเป็นผู้ชายดีๆ ก็อาจจะทำให้คุณ "แห้ว" ได้เหมือนกัน เพราะมีผู้หญิงบางคนเค้าไม่ได้อะไรกับลุคที่ "ดูเป็นคนดี" มากนักหรอกนะ เอาล่ะ เราลองมาดูกันซิว่า ทำไมนิสัยดีเกินไปจะจีบผู้หญิงไม่ค่อยติด ! บางครั้ง…บุคลิกของคนดีก็ไม่ใช่ของแท้ พวกหนุ่มๆ ที่ดูเป็นคนดีเกินไป ไม่มีใครสามารถการันตีว่าหนุ่มๆ เหล่านั้นจะเป็น "คนดี" จริงๆ เว้นแต่พวกเขาจะเป็นนักบุญ หนุ่มๆ หลายคนโฟกัสไปที่เรื่องของการที่จะทำอย่างไรถึงจะดูเป็นคนดีในสายตาผู้หญิง แต่ไม่ได้โฟกัสที่การเป็นผู้ชายจริงๆ ผู้ชายบางคนชอบแสร้งทำเป็นสุภาพบุรุษทั้งที่ชีวิตจริงก็ไม่ได้ทำตามนั้นสักเท่าไหร่ ขอบอกว่าสาวๆ เค้าดูออกนะคะว่าแบบไหนเรียล แบบไหนเฟค "keep it real" เข้าไว้ค่ะ การเป็นคนดีๆ มันก็ดี แต่ต้องดีมาจากตัวตนของคุณนะถึงจะดีกว่า บางครั้ง…ผู้ชายดีๆ ก็ไม่ค่อยเคารพตัวเอง ไม่มีใครเคารพพรมเช็ดเท้าหรอกนะ คนดีบางคนก็ไม่ได้ตั้งขอบเขตหรือทำให้ความต้องการที่แท้จริงนั้นเป็นไปตามที่ตัวเองคิดแต่อย่างใด ผู้ชายเจ๋งๆ ในสายตาผู้หญิงน่ะจะต้องรู้ตักมีความคิดเป็นของตัวเองบ้าง ไม่ใช่ว่าอะไรก็โอนอ่อนผ่อนเปรอตามไปซะหมด แบบนั้นมันดูไม่เป็นผู้นำเอาซะเลย และสาวๆ เค้าก็คงไม่อยากได้ผู้ชายแบบนี้มาเป็นคนรักหรอกนะ บางครั้ง…ผู้ชายดีๆ ก็เดาง๊ายง่าย..น่าเบื่อ ! เคยลองสังเกตุไหมคะว่าทำไมผู้ชายที่ดูเป็นลุคแบดบอยถึงสามารถมัดใจสาวๆ ได้ (ลุคที่ดูแบดนะ ไม่ใช่นิสัยแบดๆ) นั่นเป็นเพราะว่าผู้ชายที่ดูมีเล่ห์เหลี่ยมแพราวพราวอยู่มากมายมันน่าสนุกและน่าตื่นเต้นกว่าผู้ชายดีๆ ที่ชีวิตดูน่าเบื่อตลอดเวลาเลยยังไงล่ะ […]