นายกฯ เอาจริงปราบยาเสพติด เปิด 10 จังหวัดนำร่องสีขาว

Advertisement น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางถึงท่าอากาศยานร้อยเอ็ด มี สส.ร้อยเอ็ด สส.กาฬสินธุ์ และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้การต้อนรับ ก่อนนายกฯ ออกเดินทางต่อด้วยรถยนต์เลกซัส สีเงิน Sonic Titanium ทะเบียน 5 ขส 45 กรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด จากนั้นเวลา 11.30 น. น.ส.แพทองธาร และคณะเดินทางถึงวัดบ้านเขวาทุ่ง ต.เขวาทุ่ง อ.ธวัชบุรี เพื่อเป็นประธานการประชุมสั่งการโมเดลการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด และกำหนดเป็นพื้นที่นำร่องทั่วประเทศ มี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจ และหน่วยงานในพื้นที่ ทั้งทหาร ตำรวจ ข้าราชการ เข้าร่วม ทันทีที่มาถึงชาวบ้านได้ผูกผ้าขิดพื้นบ้านที่เอวนายกฯ และมีการฟ้อนรำชวนอ้ายเที่ยวเมืองร้อยเอ็ดต้อนรับ นอกจากนี้ชาวบ้านยังสวมกอด ขอถ่ายรูปเซลฟี่ และชมนายกฯ […]

โปรดเกล้าฯ ‘แพทองธาร’ นายกฯคนที่31 ประสานพลัง พาประเทศฝ่าทุกอุปสรรค

กำหนดการการรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็น นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ที่โถงอาคาร Voice Space ตามฤกษ์ในเวลา 09.29 น. โดยครอบครัวของน.ส.แพทองธาร ทั้ง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร นายพานทองแท้ ชินวัตร น.ส.พิณทองทา คุณากรวงศ์ และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมพิธีครั้งนี้ ด้วย ทั้งนี้ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้อัญเชิญพระบรมราชโองการฯ เมื่อเดินทางมาถึง ได้อ่านพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อเสร็จสิ้นน.ส.แพทองธาร กล่าวหลังรับสนองพระบรมราชโองการฯ ว่า เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้ดิฉัน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับเป็นเกียรติยศและเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดแก่ชีวิต ดิฉัน ครอบครัว และ พรรคเพื่อไทย สํานึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นล้นพ้น ทั้งจะมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังด้วยความจงรักภักดี ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต […]

นายกฯ สั่งใช้ พ.ร.บ.ควบคุม กัญชา แทนกลับสู่ยาเสพติด

ประเด็น กัญชา ที่มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและคัดค้านในการดึงกลับมาเป็นยาเสพติดประเภท 5 ล่าสุดมีรายงานว่า วันนี้ (23 กรกฎาคม 2567) ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เชิญนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมหารือพูดคุยเพื่อยุติประเด็นความขัดแย้งเรื่องที่กระทรวงสาธารณสุขจะนำกัญชากลับเป็นยาเสพติด หลังจากก่อนหน้านี้พรรคภูมิใจไทยออกมาแสดงความไม่สบายใจถึงประเด็นดังกล่าว โดยในวงหารือ นายเศรษฐา นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งว่า อยากให้ประเด็นดังกล่าวดำเนินการโดยการออกเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เพื่อควบคุมการบังคับใช้กัญชาให้ใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ วิจัยและเศรษฐกิจเท่านั้น ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่า การเรียกหารือด่วนในครั้งนี้เพื่อเป็นการยุติและลดความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาล ขณะที่ความเคลื่อนไหวล่าสุด เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาล 3 ประการสำคัญหลังจากที่ นายเศรษฐา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้มีการใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมกัญชา ดังนี้ 1.เมื่อสถานะกัญชาถูกกำหนดว่า ให้ควบคุมโดยกฎหมายเฉพาะในระดับพระราชบัญญัติโดยไม่กลับไปเป็นยาเสพติดอีก หัวใจสำคัญนับจากนี้ คือ การสร้างกฎหมายแม่บทการควบคุมกัญชาเชิงระบบในประเทศไทย จึงขอให้ชาวกัญชาและประชาชนโปรดติดตามกระบวนการเดินหน้าจัดทำ พ.ร.บ.กัญชานับตั้งแต่นี้เพราะกฎหมายฉบับนี้จะมีความสำคัญในการกำหนดโครงสร้างเชิงระบบเกี่ยวกับการควบคุมกัญชาในประเทศไทย […]

นายกฯ เศรษฐา สั่งด่วน งบปี 68 ลดบรรจุข้าราชการใหม่ ลดงบพีอาร์-ดูงานตปท.

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ขณะนี้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ทำหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 6 มีนาคม 2567 ถึงรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และทุกหน่วยงานราชการ โดยระบุถึงข้อสั่งการของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แจ้งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา ขอให้ทุกส่วนราชการลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น และซับซ้อนในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 สำหรับรายละเอียดสำคัญของข้อสั่งการ ระบุว่า ในคราวประชุมครม. เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2567 นายกรัฐมนตรี เสนอว่าได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และคณะอนุกรรมาธิการด้านต่าง ๆ ว่า ยังมีการตั้งงบประมาณซ้ำซ้อนกันในหลายหน่วยงาน เนื่องจากขาดการบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งงบประมาณรายจ่ายประจำยังคงมีสัดส่วนค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับงบประมาณรายจ่ายลงทุน ดังนั้น ในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ในส่วนของงบประมาณรายจ่ายบูรณาการขอให้รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลแผนงานบูรณาการต่าง ให้ความสำคัญกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายให้มีประสิทธิภาพ เกิดความคุ้มค่า ไม่ซ้ำช้อน และมีการบูรณาการกันอย่างจริงจัง สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำ […]

“นายกฯ” น้อมรับมติกนง. ไม่ลดดอกเบี้ย แต่ไม่เห็นด้วย

7 กุมภาพันธ์ 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการระดับระดับชาติเพื่อเตรียมการจัดประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศปี 2569 ถึงกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% ต่อปีว่า ก็ต้องน้อมรับเมื่อผลโหวตออกมาแบบนั้นรัฐบาลไปก้าวก่ายไม่ได้ “ถ้าถามว่าเห็นด้วยไหม ก็ต้องบอกว่า ไม่เห็นด้วยแต่ไม่มีสิทธิไปก้าวก่ายอยู่แล้ว ทาง กนง. มีความเป็นอิสระในการดำเนินนโยบายทางการเงิน อย่างที่ผมได้เรียนไปเมื่อวานนี้ว่า เราอยากเห็นนโยบายการเงินการคลังไปด้วยกันและตอนนี้ก็เงินเฟ้อติดลบ 4 เดือนแล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว อย่างไรก็ตาม ไม่มีธงว่าในการประชุม กนง.ครั้งหน้าจะต้องลดดอกเบี้ย แม้มติครั้งนี้ กนง. ยังไม่ลด โดยระบุว่าต้องดูตัวเลขไปเรื่อย ๆ ตัวเลขก็ทยอยออกมาตลอดเวลา ถ้าตัวเลขบ่งชี้ว่าไม่ต้องลดก็จะออกมาบอกว่าเห็นต่าง หรือเห็นด้วย หรือเห็นสมควร หรือว่าต้องมีการโน้มน้าว หรือต้องมีการพูดคุย ก็ต้องทำต่อไป สำหรับความเห็นต่างระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายปฏิบัติจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานร่วมกันหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความเห็นต่างเป็นเรื่องที่สังคมต้องยอมรับได้ ต้องบริหารจัดการกันไปภายใต้กรอบที่ไม่ก้าวร้าวซึ่งกันและกัน มีอุปสรรคก็ต้องแก้ไขกันไป ไม่ว่าจะเป็นปัญหายาเสพติด ปัญหาความปลอดภัยทางสังคม หรือปัญหาฝุ่นละออง […]

ครม. เห็นชอบหลักการ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการบรรจุใหม่ 1.8 หมื่นบาท

28 พ.ย. นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เป็นประธาน เห็นชอบหลักการให้มีการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ตามข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการพลเรือน (ก.พ.) โดยปรับขึ้นในส่วนของข้าราชการบรรจุใหม่ปีละ 10% ใน 2 ปีงบประมาณ ได้แก่ ปีงบประมาณ 2567 และปีงบประมาณ 2568 ซึ่งจะทำให้เงินเดือนของข้าราชการบรรจุใหม่อยู่ที่ 18,000 บาทต่อเดือน ในปีงบประมาณ 2568 จากปัจจุบันอยู่ที่ 15,000 บาทต่อเดือน โดยการเริ่มปรับฐานเงินเดือนข้าราชการจบใหม่ 10% จะเริ่มต้นในเดือน พ.ค. หน้า หลังจากที่ พ.ร.บ.งบประมาณ ประกาศใช้แล้ว สำหรับข้าราชการชั้นผู้น้อยอื่นๆ ที่เข้ามารับราชการก่อน และยังไม่ถึงระดับชำนาญการ (C8) และยังมีเงินเดือนไม่ถึง 18,000 บาทต่อเดือน จะมีการปรับฐานเงินเดือนขึ้นไปให้อยู่ในที่สูงกว่าข้าราชการบรรจุใหม่ โดยในช่วงเวลาที่ยังไม่ได้ปรับฐานเงินเดือนให้กับข้าราชการที่เข้ามารับราชการก่อนและเงินเดือนยังไม่ถึง 18,000 บาท […]

โฆษก รบ.แจง บิลค่าไฟเดือน ก.ย. ฉบับที่ออกก่อนมติครม. ใครไม่ได้ส่วนลด จะคืนให้บิลหน้า

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่ ครม. มีมติลดค่าไฟฟ้า เนื่องจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีการพิมพ์และส่งใบแจ้งหนี้ค่าไฟของรอบเดือนกันยายน 2566 ออกไปบางส่วนแล้วประมาณ 8 ล้านฉบับ หรือประมาน 30% ก่อนที่จะมีมติครม.ลดค่าไฟฟ้าออกมา ดังนั้น ถ้ามติออกมาก่อน ทำใบแจ้งหนี้ที่ยังไม่ได้ออกให้ผู้ใช้ไฟฟ้าจะเป็นบิลตามมติ แต่ถ้าวางใบแจ้งไปแล้วแต่ผู้ใช้ไฟฟ้ายังไม่ได้ชำระเงิน จะปรับปรุงบิล เวลาผู้ใช้ไฟฟ้าชำระเงินจะเป็นยอดใหม่ที่ลดแล้ว ส่วนกรณีสุดท้าย ถ้าผู้ใช้ไฟฟ้าจ่ายเงินไปแล้ว ตามใบแจ้งหนี้ที่ยังไม่ได้ลดราคา ขอให้ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ต้องกังวล จะไปคืนให้โดยนำไปลดกับใบแจ้งหนี้ค่าไฟเดือนถัดไป   ข่าวจาก : thebangkokinsight

นายกฯ เศรษฐาลงพื้นที่อีสาน ชื่นชมทหารมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ แก้น้ำท่วม บรรเทาภัยแล้ง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ทวิตเตอร์ส่วนตัว ระบุว่า ความสำคัญของกองทัพที่นอกเหนือจากในยามศึก เป็นรั้วของชาติ ปกป้องพี่น้องประชาชน แต่ในยามสงบ กำลังพลพร้อมทั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ครบครัน ก็สามารถนำมาพัฒนาประเทศได้ในทันที จากการลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น และอุดรธานี ได้พบกับแม่ทัพภาคที่สอง ได้มีการพูดคุยถึงปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งที่เกิดขึ้น ซึ่งแผนระยะสั้นและเร่งด่วน คือการให้ทหารพัฒนา ออกช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้โดยเบื้องต้นทันที ซึ่งถือว่าได้ช่วยบำบัดทุกข์บำรุงสุข และช่วยเหลือประชาชนในยามประสบภัย   ข่าวจาก : posttoday

“เศรษฐา”ประกาศชัดเจน ไม่จำเป็นต้องมีครม.เศรษฐกิจ มั่นใจทุกเรื่องจะเดินหน้าได้เร็วกว่าที่เคยทำอยู่

(7กันยายน) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวที่พรรคเพื่อไทยว่า มีคำถามที่ค้างไว้ในวันถวายสัตย์ฯ ว่าจะมีครม.เศรษฐกิจหรือเปล่า หรือจะมีครม.นอกสถานที่หรือเปล่า ก็ได้หารือกันแล้ว ครม.นอกสถานที่มีแน่นอน แต่เป็นเมื่อไหร่จะขอแจ้งอีกครั้งหนึ่ง ส่วนครม.เศรษฐกิจนั้น การทำงานสมัยนี้ไม่จำเป็นจะต้องมานั่งล้อมวงกัน เสียเวลาเตรียมเอกสารค่อนข้างเยอะ เราใช้วิธีทำงานสปีดทูมาร์เก็ต(ทำด้วยความเร็ว ปรับตัวเร็วทันต่อสถานการณ์)ดีกว่า จับกลุ่มแล้วพูดคุยกันดีกว่า แยกตัวทำงานกันดีกว่า จะได้ไม่ต้องเตรียมเอกสารเยอะแยะไปหมด ปัจจุบันนี้ก็มีวิธีการสื่อสารกันหลายวิธี คิดว่าการมีครม.เศรษฐกิจไม่มีความจำเป็น แต่มั่นใจว่า เรื่องทุกเรื่องจะเดินหน้าได้เร็วกว่าที่ทำอยู่ทุกวันนี้ เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลจับตาเรื่องเอกสารคำแถลงนโยบายที่หลายเรื่องที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้ไม่อยู่ในคำแถลง นายเศรษฐากล่าวว่า เดี๋ยวดูในคำแถลงแล้วกัน ก็เข้าใจว่าหน้าที่ฝ่ายค้านก็มีหน้าที่ตรวจสอบกันไป ฝ่ายบริหารก็มีหน้าที่ตอบกันไปเท่าที่ทำได้ เมื่อถามว่าไม่กังวลใช่ไหมเรื่องแถลงนโยบาย นายเศรษฐากล่าวว่า เมื่ออาสามาทำงานก็เป็นเรื่องที่ต้องพร้อมถูกตรวจสอบเป็นธรรมดา ก็ดีครับทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น นายเศรษฐากล่าวว่า วันนี้(7ก.ย.) จะหารือกับเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เพื่อดูว่าการลงทุนจากต่างประเทศมีปัญหาอะไรติดขัดหรือไม่ เพราะการลงทุนจากต่างประเทศก็เป็นเรื่องสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีพบทูตสหรัฐฯด้วย ตารางงานแน่น ทำงานไม่ได้หยุด   ข่าวจาก : Thejournalistclub

“นายกฯเศรษฐา” เผย ต้นปีหน้าปรับขึ้นค่าแรง ให้ “ธรรมนัส” เป็นหัวหน้าคณะดูแลประมงทั้งหมด

1 กันยายน 2566 นายเศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาการประมงผิดกฎหมาย โดยตั้งศูนย์ One Stop Service ในลงพื้นที่ลงพื้นที่ท่าเทียบเรือสิริไพโรจน์​ ต.แหลมใหญ่​ อ.เมือง​ จ.สมุทรสงคราม พบผู้ประกอบการประมงในพื้นที่​ เพื่อพูดคุยประเด็นผลกระทบจากประกาศการทำประมงผิดกฎหมาย​ หรือ​ IUU และแนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนชาวประมงสมุทรสงครามว่า​ จะให้ทีมงานดูเพิ่มเติมและหลังจากที่รัฐบาลได้เห็นปัญหาว่า แรงงานที่จะมาทำงานต้องใช้เอกสาร หลายกรม​ หลายกระทรวง หากเอกสารไม่ครบ ก็ไม่สามารถที่จะปฏิบัติงานได้ ซึ่ง​ตนเห็นใจชาวประมง ที่ต้องสูญเสียรายได้จากการจับปลามูลค่าหลักแสนหลักล้าน โดยมีแนวคิดว่า จะให้เอกสารใช้ระบบออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจสอบ เมื่อถามว่า จะให้ ร.อ.ธรรมนัส​ พรหมเผ่า ว่าที่รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นหัวหน้าคณะดูแลเรื่องการประมง รวมถึงการเกษตรทั้งหมดหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นว่าที่ฯ​ ก็ต้องดูทั้งหมด เรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องแก้ไขคือปัญหาด้านการท่องเที่ยว รวมถึงการพักหนี้สิน และเรื่องที่ตนจะรับผิดชอบดูแลเองคือ เรื่องการประมง และเชื่อว่า ร.อ.ธรรมนัส​ พร้อมที่จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ บูรณาการงานร่วมกับคณะทำงานของพรรคเพื่อไทย โดยมี “นายปลอดประสพ สุรัสวดี” และจะมีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมกับผู้ประกอบการ เพื่อแก้ไขปัญหาโดยเร็ว […]

1 2 5
error: