“ศรีวราห์” นั่งหัวโต๊ะ คุมบิ๊กตร. รับมืองานวิ่งไล่ลุง สั่งดำเนินคดีเด็ดขาดใครทำผิด
Advertisement Advertisement
Advertisement Advertisement
24 ม.ค. 62 นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ ได้โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก “ทนายคลายทุกข์” ระบุว่า “วันนี้พนักงานอัยการคดีอาญาธนบุรีเป็นโจทก์ยื่นฟ้องจั๊กกะบุ๋ม ตลกชื่อดังกรณีวิพากษ์วิจารณ์พลตำรวจเอกศรีวราห์กรณีหมูป่า 13 คนติดถ้ำหลวง เกี่ยวกับเรื่องใบอนุญาตโดรนและใบอนุญาตเจาะถ้ำ “ใครที่ชอบวิพากษ์วิจารณ์นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนนี้ก็ต้องระมัดระวังตัว เพราะว่าท่านเอาจริงมีการดำเนินคดีหมิ่นประมาทกับผู้พวกที่ด่าทาง FACEBOOK จำนวนหลายคดี ผมเองรับหน้าที่เป็นทนายความให้กับจำเลยเพื่อต่อสู้กับท่านศรีวรา มีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบ #ทนายคลายทุกข์” ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ศาลอาญาธนบุรี จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม ดาราตลก เดินออกจากห้องพิจารณาคดี โดยให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่า ตนเองโดนฟ้องคดีความหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากการไลฟ์เฟซบุ๊กส่วนตัว ในตอนที่ทีมหมูป่า อะคาเดมี ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ซึ่งขณะนั้นมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมายถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ตนยอมรับว่าตัวเองคล้อยตามในกระแส จึงได้วิพากษ์วิจารณ์เพราะพิจารณาแล้วว่าเหตุการณ์ไม่น่าจะเป็นแบบนั้น เพราะในขณะที่คนไทยกับเป็นห่วงทีมหมูป่า ทำไมถึงต้องมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น มันเกิดคำถามขึ้นในใจ ตนไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดเรื่องราวบานปลาย แค่ไลฟ์ระบายสิ่งที่อัดอั้นอยู่ข้างใน จั๊กกะบุ๋ม บอกด้วยว่า ตนไม่ได้เจาะจง และไม่ได้พาดพิงถึงใคร […]
จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม ถูก พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ยื่นฟ้องกรณีวิจารณ์ปมใบอนุญาตโดรน-ใบอนุญาตเจาะถ้ำ ข่าว 13 หมูป่า วันที่ 24 มกราคม 2562 ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊กทนายคลายทุกข์ ระบุว่า รับหน้าที่เป็นทนายความให้กับ นายสมชาติ ทรงกลด หรือ จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม ตลกชื่อดัง เนื่องจากพนักงานอัยการคดีอาญาธนบุรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง จั๊กกะบุ๋ม กรณีวิพากษ์วิจารณ์ พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กรณีทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย 13 คน ติดถ้ำหลวง เกี่ยวกับเรื่องใบอนุญาตโดรนและใบอนุญาตเจาะถ้ำ ทั้งนี้ทนายเดชา ระบุอีกว่า สำหรับใครที่ชอบวิพากษ์วิจารณ์นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนนี้ต้องระมัดระวังตัว เพราะว่าท่านเอาจริง มีการดำเนินคดีหมิ่นประมาทกับพวกที่ด่าทางเฟซบุ๊กจำนวนหลายคดี ซึ่งหากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบ ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก ทนายคลายทุกข์
พล.ต.อ.ศรีวราห์ ตำรวจ 2 แสนนาย เตรียมพร้อมดูแลและอำนวยจราจรช่วงเทศกาลปีใหม่ คงมาตรการยึดรถเมาแล้วขับ ตามคำสั่ง คสช. เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและอุบัติเหตุทางท้องถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2562 โดยเฉพาะช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม – 2 มกราคม 2562 พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า ในส่วนของมาตรการดูแลอำนวยความสะดวกด้านการจราจรกับประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาล ปีใหม่ 2562 ยังคงใช้มาตรการเดิมในการดูแลความเรียบร้อยเหมือนเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา อาทิ การห้ามนั่งท้ายรถกระบะ ที่เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ และยังถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ฯ ห้ามรถบรรทุกวิ่งในช่วง 7 วันอันตราย ยกเว้นเป็นกรณีจำเป็นต้องขออนุญาต เช่นเดียวกับมาตรการยึดรถเมาแล้วขับตามคำสั่ง คสช.ยังคงนำมาใช้เช่นเดิม เนื่องจากช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาค่อยข้างได้ผล พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวต่อว่า อีกทั้งยังมีการตั้งด่านตรวจเข้มในถนนสายหลัก สายรอง โดยตำรวจเริ่มกวดขันการจราจรตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมจนถึง 26 ธันวาคม จากนั้นจะเพิ่มความเข้มอีกในช่วงวันที่ […]
"ศรีวราห์" มั่นใจหลักฐานชัดเจน "เปรมชัย"ร่วมล่าเสือดำ ลั่นการล่าไม่จำเป็นต้องลงมือยิงเอง ชี้ทนายสู้คดีเป็นสิทธิ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณี ทนายความของ นายเปรมชัย กรรณสูต จำเลยคดีร่วมกันกับพวกล่าเสือดำ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อต้นเดือน ก.พ. พยายามต่อสู้คดีในชั้นศาลด้วยการพยายามนำสืบว่าขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม นายเปรมชัย ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ว่า คดีนี้มีการสอบสวนชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องการแบ่งหน้าที่กันทำว่าใครรับผิดชอบอะไรบ้าง แม้แต่ซากเสือดำ ซึ่งมีการแยกชิ้นส่วนหัว กระโหลก เนื้อ หนัง จากกัน ตำรวจก็พิสูจน์ทราบจนมีการรวมเป็นตัวเสือ จนเป็นหลักฐานมัดว่าเป็นการล่า "การล่า ไม่จำเป็นต้องลงมือยิงเอง แต่มีการแบ่งหน้าที่กันทำ เช่น แค่เป็นคนดูต้นทางก็ถือว่ามีความผิดแล้ว ส่วนจำเลยจะเบิกความอย่างไรนั้นก็เป็นสิทธิอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล"พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าว รองผบ.ตร.กล่าวว่า ในส่วนของสำนวนคดคีทำอย่างชัดเจนว่า แบ่งหน้าที่กันทำ จนอัยการพิจารณามีความเห็นสั่งฟ้อง และตนก็เชื่อในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งขณะนี้หน้าที่ของตำรวจเหลือเพียงตามพยานทั้ง 32ปากไปขึ้นเบิกความต่อศาล โดยพยานทั้งหมดขณะนี้ยังอยู่ครบถ้วน พร้อมขึ้นเบิกความชัดเจน ส่วนคดีจะมีข้อสรุปเมื่อใด ยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากไม่อาจก้าวล่วงอำนาจศาลได้ […]