สลดหนุ่มไอทีปลิดชีพ แม่ร่ำไห้เผย ลูกบ่นเครียดงาน แต่ลาออกไม่ได้

Advertisement เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 พ.ย.67 สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตรมควันอยู่ภายในรถเก๋งบริเวณลานจอดรถข้างยิมนีเซี่ยม6 ภายในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ใน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี Advertisement ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อมิซูบิชิมิราจ สีชาเย็น จอดอยู่ที่บริเวณลานจอดรถบริเวณที่นั่งคนขับพบผู้เสียชีวิตชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ นายธณัฐ อายุ 35 ปี และบริเวณที่วางเท้าเบาะหลังข้างซ้ายพบเตาแคมป์ปิ้งวางอยู่ในลักษณะจุดถ่านหุงต้มวางไว้ โดยแพทย์ระบุคาดว่า เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4 วัน     จากการสอบถามนายอมรินทร์ อายุ 49 ปี พ่อเลี้ยงผู้เสียชีวิต บอกว่า ตามหาผู้ตายตั้งแต่วันพุธตอนกลางคืน ซึ่งผู้ตายทำงานอยู่ห้องเซิร์ฟเวอร์ในสวทช. มาออกกำลังกาย เพราะเคยมาทุกอาทิตย์ จึงแจ้งความไว้ที่สภ.ธัญบุรีเมื่อวานนี้ Advertisement ส่วนนางดารณี อายุ 53 ปี แม่ผู้เสียชีวิต บอกว่า ลูกชายเครียดเรื่องงานที่ทำ เพราะได้รับมอบหมายงานเพิ่ม แต่ลูกชายทำไม่เป็นและไม่มีใครมาช่วยทำ ซึ่งแม่เคยบอกลูกชายไปแล้วถ้าทำไม่ได้ก็ให้ลาออกมา แต่ลูกก็บอกว่าจะทนถึงสิ้นปีนี้ […]

เร็วไปไหม? ถ้าอายุ24 ไม่มีเงินเก็บ ตัดสินใจทำเกษตรที่บ้าน

อาชีพเกษตรกรถือว่าเป็นอาชีพหนึ่งที่ใกล้บ้านที่สุด แต่ก็เหนื่อยที่สุด ยังไม่นับรวมว่าต้นทุนเดี๋ยวนี้ราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ปุ๋ย, ค่าน้ำ, ค่าไฟ, เมล็ดพันธุ์, วัสดุในการดูแลและเก็บเกี่ยวผลผลิต ทำให้กลายเป็นอาชีพที่หลายคนเลือกที่จะทำเป็นอาชีพเสริมเมื่ออาชีพหลักมีเงินมากพอแล้ว หรือไม่ก็เป็นงานไว้แก้เหงายามเกษียณ ปลูกกินแค่แปลงเล็ก ๆ ไม่ถึงกับต้องค้าขายมาก สมาชิกพันทิป สมาชิกหมายเลข 4031671 ก็เป็นคนหนึ่งที่มีความสนใจในอาชีพนี้ แต่ความกังวลของเธอก็คือ เธอเพิ่งจะเรียนจบ อายุ 24 ปี ไม่มีเงินเก็บ จะเป็นการเริ่มต้นที่เร็วไปหรือไม่ โดยอธิบายไว้ว่า เราอายุ24ค่ะ เรียนจบมาสักพัก อยู่ทั้งเชียงใหม่เเละกรุงเทพ ค่าครองชีพสูงค่ะสำหรับเงินเดือนเด็กจบใหม่ อยู่ได้แต่ ไม่มีเงินเก็บ เป็นลูกคนเดียวภาระครอบครัวที่บ้านก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรพ่อแม่เป็นข้าราชการเกษียณแล้ว  เเต่เราอยากกลับบ้านไปอยู่กับพ่อเเม่ค่ะ ท่านเเก่แล้ว อยากกลับไปใช้ชีวิตดูแลพ่อแม่ที่บ้าน ไม่มีความสุขกับชีวิตในเมืองเลย ไม่อินกับการเดินห้าง เดินตลาดเข้าร้าน รถติด เบื่อมากกับชีวิตในเมืองค่ะ ที่บ้านเกิดอยู่ จ.แม่ฮ่องสอน ค่อนข้างไกลจากตัวเมือง อากาศดี ธรรมชาติสมบูรณ์ ที่บ้านมีที่ดินหลายแปลง ว่างอยู่มีน้ำลำธารไว้ทำเกษตร มีญาติเข้าไปทำสวนนิดหน่อยไม่ให้รกร้าง เราเคยกลับไปใช้ชีวิต เรียนออนไลน์ ช่วงโควิด ทำสวนไปด้วย ปลูกผักกินขาย […]

ชอบเข้าออฟฟิศแบบไหนมากกว่ากัน? เข้าเต็มๆ5-6วันVSเข้า2-3วัน

เป็นประเด็นน่าสนใจ เมื่อสมาชิกเว็บพันทิปท่านหนึ่งตั้งกระทู้ถามว่า “ถาม คนที่ชอบเข้าออฟฟิศทุกวัน ทำไมถึงชอบคะ”     ซึ่งก็มีชาวออฟฟิศมาตอบที่หลากหลายกันไป บางคนก็ชอบที่ตัวเองต้องเข้าออฟฟิศ เพราะอยู่บ้านไม่ได้คุยกับใครเลย บรรยากาศการออกไปทำงาน มันทำให้เจอคนหลากหลาย สนุกสนาน       ขณะที่บางคนก็ชอบแบบ hybride หรือแบบที่ไม่ต้องเข้าทุกวัน เข้าแค่ 2-3 วันต่อสัปดาห์ เพราะที่บ้านไม่เอื้ออำนวยต่อการทำงานแบบ work from home เช่น สิ่งรบกวนจากครอบครัว, เน็ตที่ใช้ในการทำงานไม่แรงเท่าที่ออฟฟิศ ถ้าจะให้เข้าทุกวันก็เหนื่อยที่จะเดินทาง เหนื่อยที่จะต้องแต่งตัวมากเกินไป       บางคนก็ไม่ได้ชอบที่จะต้องเข้าทุกวันขนาดนั้น แต่ด้วยลักษณะงานไม่สามารถทำแบบ work from home ได้ ต้องไปเช็คของที่หน้างานอยู่ดี แล้วคุณล่ะชอบแบบไหน? ลิ้งค์ต้นทาง : https://pantip.com/topic/43009230

มนุษย์เงินเดือนผิดอะไร? เสียงสะท้อนถึง “ดิจิทัลวอลเล็ต”

5 ส.ค.67 สนามข่าวช่อง 7 สอบถามมนุษย์เงินเดือนถึงโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งบางคนก็คิดว่า ในเมื่อเป็นประชากรที่จ่ายภาษีให้ประเทศเหมือนกับคนอื่น ๆ เหตุใดถึงถูกจำกัดสิทธิด้วยการนับรายได้ต่อปีมาเป็นเกณฑ์ว่าใครมีสิทธิหรือไม่มีสิทธิ หากไม่มีสิทธิ บางคนก็ทวงสัญญาว่า เมื่อครั้งเลือกตั้งยังหาเสียงว่าทุกคนมีสิทธิได้รับทุกคน แต่เหตุใดตอนนี้กลับต้องมาแบ่งแยกสิทธิกัน เป็นเรื่องที่ไม่เสมอภาคเท่าเทียมกัน เพราะทุกคนไม่ว่ารวยหรือจนก็เสียภาษีกันหมด ทั้งนี้ คนไทย 70 ล้านคนนั้น แบ่งเป็นคนทำงาน 40 ล้านคน และอยู่ในระบบภาษี 10 ล้านคน ซึ่งในกลุ่มที่อยู่ในระบบภาษีนั้น ยังแบ่งเป็นผู้เสียภาษีและมีรายได้เกินเกณฑ์ 4 ล้านคน รายได้ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี 6 ล้านคน และหากแยกเป็นผู้มีเงินเดือน 70,000 บาท มีอยู่เพียง 1.3 ล้านคน หากตัดคนที่มีเงินในบัญชีเกิน 5 แสนไปอีก 3.5 ล้านคน สรุปแล้วการให้ผลประโยชน์แก่ผู้มีรายได้น้อยอาจเป็นผลที่ดี หากผู้ได้รับผลประโยชน์เหล่านี้มีส่วนรับผิดชอบภาษีอย่างเท่าเทียม หรือไม่เช่นนั้น รัฐบาลอาจดูแลคนทุกกลุ่ม ไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ    

คนมีรายได้น้อยทำไมต้องผ่อนรถกัน? หนุ่มธุรกิจรถมือสองตั้งกระทู้ถามสังคม เห็นแล้วสงสาร จะผ่อนไหวไหมเนี่ย?

  สมาชิกพันทิปล็อกอิน xst171 ตั้งกระทู้ ผมแปลกใจว่า ทำไมหลายๆคนถึงจึงกล้าผ่อนรถ ทั้งๆที่รายได้ไม่เยอะมาก โดยระบุว่า "พอดีขายรถมือสองอยู่ เห็นหลาย ๆ คนที่มาซื้อรายได้ไม่เยอะมาก กู้แบบต้องลุ้นว่าจะผ่านไหม เห็นแล้วบางทีก็สงสาร ว่าจะผ่อนไหวหรอเนี่ย สมัยตอนเราเงินเดือนเท่านั้น ไม่กล้าแม้แต่จะคิดที่จะซื้อรถ แปลกใจว่าทำไมหลาย ๆ คนถึงกล้าซื้อรถราคาสูงกว่าที่ควรจะผ่อน ถึงแม้จะเป็นมือสองก็ตาม" ทั้งนี้ มีสมาชิกพันทิปในพันทิปได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้เป็นจำนวนมาก เช่น  สมาชิกหมายเลข 1962906 : บางคนอาจจะมีความจำเป็นต้องใช้รถจริงๆ ก็ได้เลยต้องกัดฟันผ่อน เช่นบางครอบครัวที่บ้านอยู่ไกลและเข้าซอยลึก มีลูกเล็กๆ ต้องคอยรับส่ง มีคนป่วยที่บ้านต้องไปหาหมอบ่อยๆ อะไรแบบนี้ แต่บางคนก็ฟุ่มเฟือยเกินตัวจริงๆ โดยที่ไม่จำเป็นเหมือนกัน บางทีคนเราก็มีเหตุผลต่างกันนะครับ สมาชิกหมายเลข 2170419 : บางคนเตือนยังไงก็ไม่ฟังค่ะ ให้เค้าลองเอง เดี๋ยวก็รู้ สมาชิกล็อกอินเสียโสดผู้โหดร้าย : บางคนอาจจะจำเป็น กัดฟันได้อาจจะรอด ผมงงกะพวกถูกหวยแล้วดาวน์รถมากกว่า ถูก 4-5 หมื่นดาวน์รถ แล้วผ่อนไม่ไหวงี้ สมาชิกหมายเลข 1082362 : บางคนผ่อนจนแบบว่า เกิดมาไม่ได้ใช้ชีวิตไปหลายปีอะค่ะ มีรถ แต่ไม่มีเงินไปเที่ยว จะไปกินอะไรดีๆ เงินไม่พออีก มีรถแต่ไม่มีเงินเติมน้ำมัน บางคนซื้อมา […]

หนุ่มตั้งกระทู้ปรึกษา พนักงานลาออกไปแล้ว ไลน์มาถาม’ผมได้โบนัสไหม’ ชาวเน็ตชี้ เคยมีคดีตัวอย่างลูกจ้างฟ้องแล้วชนะ เรียกโบนัสได้ด้วย!!

  หนุ่มแปลกใจ แบบนี้ก็มีด้วยหรอ พนักงานที่เพิ่งลาออกไป ไลน์มาถาม "ผมได้โบนัสไหม" เลยตั้งกระทู้ถามชาวเน็ต เผื่อว่าจะได้ความรู้ใหม่ ๆ บ้างว่าทำได้จริงหรือไม่? เป็นเรื่องที่แปลกจริงหรือไม่?     ชาวพันทิปหลายคนต่างแสดงความคิดเห็นไปต่าง ๆ นานากัน บางคนก็ชี้ว่ามันเป็นสิทธิที่ลูกจ้างจะถามได้ เพราะเขาก็ไม่รู้ เนื่องจากแต่แรกอาจไม่ได้มีการบอกเงื่อนไขกันไว้     แต่ความคิดเห็นที่น่าสนใจก็คือ ความคิดเห็นที่ 4 ที่แปะคดีตัวอย่างให้อ่านว่า เคยมีการฟ้องร้องจนชนะคดีกันมาแล้ว   ทำเป็นเล่นไป กรณีเงินโบนัสหรือเงินรางวัลพิเศษนี้ หากนายจ้างไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายอย่างชัดเจน แม้ลูกจ้างลาออกไปแล้ว นายจ้างอาจต้องจ่ายเงินดังกล่าวให้แก่ลูกจ้าง กรณีเช่นนี้เคยมีลูกจ้างที่ลาออก ฟ้องเรียกเงินรางวัลพิเศษ ซึ่งจ่ายหลังจากที่ลูกจางลาออกไปแล้ว แถมฟ้องไปแล้ว ศาลฎีกาพิจารณาให้ลูกจ้างชนะเสียด้วย ด้วยเหตุที่ว่านายจ้างไม่มีหลักเกณฑ์การจ่ายที่ระบุว่า ลูกจ้างที่มีสิทธิได้รับเงินรางวัลนี้ต้องมีสถานะเป็นลูกจ้าง ณ วันที่จ่าย ดังนั้นกรณีเช่นนี้ นายจ้างเห็นว่าเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ตกมาตายมาแล้วก็มีนะครับ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ 1. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3473/2546 ตามหนังสือแจ้งเงินเดือนและเงินรางวัลพิเศษระบุว่า โจทก์มีสิทธิได้รับเงินรางวัลพิเศษโดยมิได้มีหลักเกณฑ์ว่าผู้มีสิทธิได้รับรางวัลพิเศษต้องมีสภาพเป็นพนักงานของจำเลยในวันที่จำเลยจ่ายเงินรางวัลพิเศษ ดังนั้น แม้โจทก์จะลาออกไปในภายหลัง โจทก์ก็ยังมีสิทธิได้รับเงินรางวัลดังกล่าว โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องเกี่ยวกับระยะเวลาการทำงานเพื่อคิดค่าชดเชยเพิ่มขึ้นนั้น มิใช่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนและมิใช่การแก้ไขข้อบกพร่องหรือข้อผิดพลาดเล็กน้อย […]

1 2
error: