ไฟไหม้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่สุดในโลกที่ยูเครน หลังถูกรัสเซียระดมยิง

Advertisement สุดสะพรึง! ไฟไหม้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่สุดในโลกที่ยูเครน จากการโจมตีของรัสเซีย สถานการณ์สู้รบในยูเครนได้บานปลายออกไปอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีรายงานว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียในยูเครน ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ถูกไฟไหม้จากการโจมตีของรัสเซีย Advertisement นายดมิโทร ออลอฟ นายกเทศมนตรีเมืองเอเนอร์โกดาร์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกันได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “ภัยคุกคามต่อความมั่นคงของโลก!!! เป็นผลจากการยิงอย่างไม่หยุดยั้งโดยศัตรู อาคารและพื้นที่ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปถูกไฟไหม้” นายออลอฟระบุในวิดีโอที่โพสต์ เรียกร้องให้มีการยุติการยิงใส่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียทันที ทั้งนี้มีรายงานว่ากองทัพรัสเซียได้ระดมยิงเข้าใส่โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป กระทั่งเกิดเหตุไฟไหม้ตามมาในที่สุด ก่อนหน้านี้โฆษกของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียได้โพสต์วิดีโอในเทเลแกรม เรียกร้องให้มีการยุติการใช้อาวุธหนักยิงถล่มโรงไฟฟ้าแห่งนี้ เพราะถือเป็นภัยคุกคามอย่างแท้จริงที่อาจเกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป Advertisement พร้อมกันนี้ยังได้มีการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ยูเครนว่าการยิงของรัสเซียพุ่งเป้าตรงมาที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย และเป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้ขึ้นในเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 1 ใน 6 ตัวของโรงงาน อย่างไรก็ดีเตาปฏิกรณ์ดังกล่าวอยู่ระหว่างการซ่อมบำรุงและไม่ได้มีการปฏิบัติงานในขณะนี้ แต่ยังคงมีเชื้อเพลิงนิวเคลียร์อยู่ภายใน ขณะที่พนักงานดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้เพราะถูกยิง ทั้งนี้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย เป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในประเทศยูเครนมากถึง 25% ล่าสุด ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ IAEA ได้เร่งติดต่อ พูดคุยกับ หน่วยงานกำกับดูแลด้านนิวเคลียร์ของยูเครน และผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับสถานการณ์ร้ายแรงที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Zaporizhzhia เรียกร้องให้ยุติการใช้กำลังและเตือนถึงอันตรายร้ายแรงหากเครื่องปฏิกรณ์ถูกกระทบ ❗️❗️Judging by the video from the scene, an administrative […]

เปิดถ้อยแถลง-เหตุผล ไทยหนุนมติยูเอ็นจีเอ ประณามรัสเซีย

เปิดถ้อยแถลง-เหตุผล ไทยหนุนมติยูเอ็นจีเอ ประณามรัสเซีย นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า นายสุริยา จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติได้กล่าวต่อที่ประชุมยูเอ็นใน 2 วาระคือในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 76 ณ นครนิวยอร์คสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ และในการประชุมสหประชาชาติสมัยพิเศษ (UNGA Emergency Special Session) ครั้งที่ 11 เมื่อวันที่ 1 มีนาคม โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้ ไทยมีความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ในยูเครนและผลกระทบด้านมนุษยธรรม รวมทั้งเรียกร้องให้มีการแก้ไขสถานการณ์อย่างสันติวิธี ไทยสนับสนุนความพยายามในการหาทางยุติสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสันติผ่านการเจรจาที่เป็นไปตามกฎบัตรขององค์การสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ โดยธำรงไว้ซึ่งหลักการว่าด้วยอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน และสนับสนุนการเรียกร้องของเลขาธิการองค์การสหประชาชาติในการหาทางยุติเรื่องนี้อย่างสันติวิธี รวมถึงความพยายามของสหประชาชาติและกลไกในระดับภูมิภาค ไทยชื่นชมเพื่อนบ้านของยูเครนและชาติอื่นๆ สำหรับการระดมความช่วยเหลือไปสู่ผู้ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ไทยจะทำอย่างสุดความสามารถในการที่จะช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของพลเรือนที่ได้รับผลกระทบโดยจะส่งความช่วยเหลือโดยตรงและผ่านความร่วมมือกับชาติต่างๆ ที่เห็นตรงกัน ไทยสนับสนุนการหยุดยั้งการใช้กำลัง หรือการข่มขู่ว่าจะใช้กำลังต่อรัฐอื่น ดังนั้น เราเรียกร้องขอให้ยุติความรุนแรงและการใช้อาวุธทันที ยิ่งสถานการณ์รุนแรงมากขึ้นจะยิ่งส่งผลกระทบต่อโลกในวงกว้าง ซ้ำเติมสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมและผลกระทบต่อความเป็นอยู่และเศรษฐกิจของคนทั่วโลก ซ้ำเติมการฟื้นตัวจากโควิด-19 ที่ยิ่งเปราะบางอยู่แล้ว ไทยเรียกร้องให้มีการเจรจาพูดคุยเพื่อหาข้อยุติที่ยั่งยืนผ่านองค์การสหประชาชาติ กลไกภูมิภาค หรือกลไกอื่นๆ ที่เป็นที่ยอมรับ นายธานีกล่าวว่า […]

ชาติแรกอาเซียน! “สิงคโปร์” ประกาศคว่ำบาตร “รัสเซีย”

ชาติแรกอาเซียน! สิงคโปร์ประกาศคว่ำบาตร ‘รัสเซีย’ สิงคโปร์กลายเป็นชาติแรกในอาเซียนที่ประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย ในกรณีนำกำลังทหารบุกประเทศยูเครน เมื่อล่าสุดรัฐบาลสิงคโปร์ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า สิงคโปร์จะระงับการทำธุรกรรมทางการเงินของรัสเซีย และห้ามการส่งออกสินค้าใดๆ ก็ตามที่อาจนำไปใช้เป็นอาวุธกับยูเครนได้ การประกาศคว่ำบาตรรัสเซียดังกล่าวส่งผลให้สิงคโปร์กลายเป็นชาติแรกในอาเซียนที่ประกาศคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย หลังจากสหรัฐ สหภาพยุโรป อังกฤษ แคนาดา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และไต้หวัน ประกาศคว่ำบาตรไปก่อนหน้านี้เพื่อกดดันรัฐบาลรัสเซีย วิเวียน บาลาคริชนัน รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ เปิดเผยว่า โดยปกติแล้วสิงคโปร์จะไม่คว่ำบาตรประเทศอื่นๆ โดยไม่มีมติจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) แต่จากสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจากการโจมตีของรัสเซีย สิงคโปร์เห็นพ้องกับประเทศอื่นๆ ที่มีความคิดเห็นตรงกันในการที่จะออกมาตรการคว่ำบาตรและสร้างข้อจำกัดกับรัสเซีย รายงานระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรของสิงคโปร์ รวมไปถึงการจำกัดการส่งออกสินค้าไปยังรัสเซียที่อาจนำไปใช้เป็นอาวุธกับยูเครนได้ และจะมีการห้ามธนาคารรัสเซียหลายแห่งทำธุรกรรม และห้ามการทำธุรกรรมใดๆ ที่เชื่อมโยงกับประเทศรัสเซีย ขณะที่มาตรการเฉพาะเจาะจงอื่นๆ จะมีการหารือเพื่อนำมาประกาศคว่ำบาตรต่อไป ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน สิงคโปร์แอร์ไลน์ สายการบินแห่งชาติประกาศยกเลิกเที่ยวบินระหว่างสิงคโปร์ไปยังกรุงมอสโก ประเทศรัสเซียแล้ว โดยอ้างเหตุผลในเชิงปฏิบัติการ ขณะที่สายการบินในยุโรปส่วนใหญ่ ประกาศยกเลิกเที่ยวบินไปยังรัสเซีย รวมถึงเปลี่ยนเส้นทางบินหลีกเลี่ยงน่านฟ้ารัสเซียแล้ว ขณะที่อียูประกาศห้ามเครื่องบินรัสเซียบินผ่านน่านฟ้าแล้วเช่นกัน   ข่าวจาก : มติชน

ภาพดาวเทียมเผยขบวนรถทัพรัสเซียมุ่งหน้าเข้าเคียฟ ห่างแค่ 27 กม.

ห่างแค่ 27 กม.! ภาพดาวเทียมเผยขบวนรถทัพรัสเซียมุ่งหน้าเข้าเคียฟ ภาพถ่ายดาวเทียมชุดใหม่ที่เผยแพร่โดยบริษัท Maxar Technologies ซึ่งทำงานให้กับทางการสหรัฐที่ถูกเผยแพร่ล่าสุด แสดงให้เห็นว่ามีขบวนของกองทัพรัสเซียขนาดใหญ่ที่กำลังมุ่งหน้าเข้าไปยังกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ทั้งนี้ ภาพถ่ายดังกล่าวถูกบันทึกขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาในสหรัฐ หรือก่อนเที่ยงวันตามเวลาในยูเครน แสดงให้เห็นว่ามีหน่วยรบของกองทัพรัสเซียอยู่ใกล้กับสนามบินอันโตนอฟ ซึ่งห่างจากศูนย์กลางของกรุงเคียฟออกไปเพียงราว 27 กิโลเมตร บริษัท Maxar Technologies ระบุว่า จากภาพถ่ายดาวเทียมที่ปรากฏขบวนรถของกองทัพรัสเซียยาวถึงเกือบ 27 กิโลเมตร โดยในขบวนรถดังกล่าวมีทั้งรถหุ้มเกราะ รถถัง และยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งทหารจำนวนหลายร้อยคัน ทั้งยังมีปืนใหญ่แบบลากจูงอยู่ด้วย ล่าสุด มีการแก้ไขข้อมูลว่า ภาพถ่ายดาวเทียมของบริษัท Maxar Technologies แสดงให้เห็นว่า ขบวนรถของกองทัพรัสเซียที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงเคียฟไม่ได้ยาวแค่ 27 กิโลเมตร แต่ยาวกว่า 64 กิโลเมตร ภาพถ่ายดาวเทียมของบริษัท Maxar Technologies ยังแสดงให้เห็นถึงซากรถหุ้มเกราะที่ถูกทำลายอยู่ในพื้นที่ทางตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ ซึ่งรวมถึงสะพานที่ได้รับความเสียหายใกล้กลับอิรปินและสโตยานกาอีกด้วย   ข่าวจาก : มติชน

สื่อนอกเผย อดีตมิสแกรนด์ยูเครน ร่วมทัพรบต้านรัสเซีย

สื่อนอกเผย อดีตมิสแกรนด์ยูเครน ร่วมทัพรบต้านรัสเซีย นิวยอร์กโพสต์รายงานเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ระบุว่าอนาสตาเซีย เลนนา ตัวแทนประเทศยูเครน ประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนลประจำปี 2015 ได้เปลี่ยนบทบาทจากการเป็นนางงาม เข้าร่วมกับกองทัพยูเครนในการต่อต้านการรุกรานของรัสเซียแล้ว รายงานระบุว่ายูเครน เป็นประเทสที่มีทหารหญิงมากที่สุดในโลกที่ 36,000 นาย อย่างไรก็ตามยังไม่ชัดเจนว่าอนาสตาเซีย เป็นหนึ่งในทหารหญิงของกองทัพยูเครนแล้วหรือไม่ ขณะที่อดีตมิสแกรนด์ยูเครน โพสต์ภาพการฝึกซ้อมยิงปืนผ่านอิสตาแกรมส่วนตัวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่ล่าสุดอนาสตาเซีย โพสต์ข้อความระบุผ่านอินสตาแกรมสตอรีว่า “ใครก็ตามที่ข้ามชายแดนยูเครนโดยมีจุดประสงค์เพื่อรุกรานจะต้องถูกสังหาร!” ขณะที่อีกโพสต์หนึ่ง อนาสตาเซีย โพสต์ข้อความติดตลก โดยระบุว่า “กองทัพของเรารบในแบบที่นาโตควรที่จะต้องยื่นขออนุญาตเพื่อเข้าสู่ประเทศยูเครน” นอกจากนี้ อดีตมิสแกรนด์ยูเครน ยังโพสต์ภาพนายทหารเดินเคียงข้างนายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน พร้อมกับข้อความระบุว่าเซเลนสกีเป็นผู้นำที่แท้จริงและแข็งแกร่ง รายงานระบุว่านับตั้งแต่รัสเซีย นำกำลังทหารรุกรานประเทศยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อนาสตาเซีย โพสต์ภาพและข้อความผ่านอินสตาแกรม สตอรี่ เรียกร้องให้สนับสนุน และบริจาคเงินช่วยเหลือกองทัพยูเครน จำนวนมาก ทั้งนี้อนาสตาเซีย เรียนจบด้านการตลาดและการจัดการ จากมหาวิทยาลัยสลาวิสติค ในกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน มีประวัติทำงานเป็นนางแบบและผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ในประเทศตุรกี นอกจากนี้ยังสามารถพูดได้ถึง 5 ภาษาและเคยทำงานเป็นล่ามด้วย   ข่าวจาก […]

1มี.ค.นำคนไทยเกือบร้อยคนกลับบ้าน หนีสงครามยูเครน

จากกรณีรัสเซียส่งกองทัพและอาวุธยุทโธปกรณ์ถล่มยูเครน อาจส่งผลต่อความปลอดภัยของคนไทยในประเทศยูเครนซึ่งเป็นพื้นที่สู้รบ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ได้เผยแพร่แผนการช่วยเหลือคนไทยในยูเครนว่า ขณะนี้มีคนไทยเดินทางมาเข้าพักที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยในยูเครน ที่เมืองลวิฟ ประเทศโปเแลนด์ รวม 47 คน และมีคนไทยอีก 43 คนที่อยู่ระหว่างการเดินทางจากเมืองต่างๆ มายังเมืองลวิฟเพิ่มเติม สถานเอกอัครราชทูตได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่กับกลุ่มคนไทยในเมืองต่างๆ ในยูเครน ทราบว่าทั้งหมดยังปลอดภัย โดยยังมีคนไทยอีกประมาณร้อยกว่าคนยังต้องอยู่ในเมืองที่พำนัก ไม่สามารถเดินทางออกมาได้ เนื่องจากมีการประกาศปิดเมือง หรือสถานการณ์ยังไม่ปลอดภัย อาทิ เมืองมิกโคลาอีฟ มีคนไทย 7 คน เมืองคาร์คีฟซึ่งอยู่ติดชายแดนรัสเซีย มีคนไทย 12 คน อย่างไรก็ดี คนไทยที่อาศัยอยู่ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนจาก 148 คน สามารถเดินทางออกมาได้แล้ว 102 คน และเข้าพักที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือแล้ว 43 คน โดยมีคนไทยที่สมรสกับชาวยูเครนและบุตร ประมาณ 40 คน ที่แสดงความประสงค์จะพำนักกับครอบครัวต่อไป สำหรับแผนการนำคนไทยออกจากยูเครนขณะนี้ ได้แก่ วันที่ […]

รัสเซีย จำกัดการเข้าถึงเฟซบุ๊ก เหตุเซ็นเซอร์สื่อรัสเซีย

รัสเซีย จำกัดการเข้าถึงเฟซบุ๊ก เหตุเซ็นเซอร์สื่อรัสเซีย รัสเซีย ประกาศเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ จำกัดการเข้าถึง เฟซบุ๊ก บางส่วน โดยกล่าวหาว่า เฟซบุ๊ก เซ็นเซอร์สื่อรัสเซีย นอกจากนี้ยังเพิ่มแรงกดดันไปยังสื่อท้องถิ่นของรัสเซีย ด้วยการขู่ว่าจะลบรายงานข่าวที่บิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารในประเทศยูเครน ซึ่งมีรายงานว่ามีการยิงขีปนาวุธโจมตีในกรุงเคียฟ หลายจุด ขณะที่ประชาชนต้องหาที่หลบภัยเพื่อเอาชีวิตรอด สำนักข่าวอาร์ไอเอ สื่อท้องถิ่นของรัสเซีย, สถานีโทรทัศน์กระทรวงกลาโหมรัสเซีย รายงานอ้างหน่วยงานกำกับดูแลด้านการสื่อสารของรัสเซีย ระบุว่าเฟซบุ๊กเมินเฉยต่อคำเรียกร้องให้ยกเลิกการจำกัดการเข้าถึงสื่อรัสเซีย 4 แห่ง ขณะที่ผู้อำนวยการกิจการต่างประเทศบริษัทเมต้า บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า วานนี้ รัฐบาลรัสเซียสั่งให้เราหยุดการตรวจสอบข้อมูลจากองค์กรอิสระ และการติดป้ายเตือนเนื้อหาที่โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กโดยสื่อกระบอกเสียงของรัฐบาลรัสเซีย 4 แห่ง ซึ่ง เมต้า ได้ปฏิเสธ และรัสเซีย ประกาศว่าจะจำกัดการเข้าถึงบริการของเฟซบุ๊ก ทั้งนี้เฟซบุ๊ก ถูกกดดันโดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกามาโดยตลอดให้จัดการกับข่าวปลอมและข้อมูลบิดเบือนในสื่อสัมคมออนไลน์ ขณะที่รัสเซียเองก็พยายามควบคุมการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตและสื่อสังคมมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของโลกมาโดยตลอด ซึ่งก็ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการละเมิดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของการปิดปากศัตรูทางการเมือง   ข่าวจาก : มติชน

รัฐบาลทหารเมียนมา ชี้ รัสเซีย บุก ยูเครน ชอบธรรมแล้ว

รัฐบาลทหารเมียนมา ชี้ รัสเซีย บุก ยูเครน ชอบธรรมแล้ว หลังรัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนแบบเต็มกำลังในทุกทิศทาง และมีการยิงขีปนาวุธโจมตียูเครนในหลายเมือง ส่งผลให้นานาชาติออกมาประณามการกระทำของรัสเซียกันถ้วนหน้า โดยหลายชาติออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ซอว์ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา ระบุเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ว่า กองทัพรัสเซียดำเนินการในสิ่งที่ชอบธรรมแล้วเพื่อคงไว้ซึ่งอำนาจอธิปไตยที่ยั่งยืนของประเทศ “รัสเซียแสดงให้โลกเห็นถึงจุดยืนของตนเองในฐานะมหาอำนาจของโลก” แถลงการณ์ซึ่งมีการเผยแพร่เป็นภาษารัสเซียด้วย ระบุ ทั้งนี้ รัฐบาลทหารเมียนมา นำโดยพลเอกอาวุโส มิน อ่อง ลาย มีรัสเซียเป็นพันธมิตรสำคัญซึ่งขายอาวุธให้กับรัฐบาลเมียนมา โดยเมื่อปีก่อน ผู้นำเมียนมาได้พบกับรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย พร้อมกับขอบคุณรัสเซียที่ทำให้กองทัพเมียนมา กลายเป็นหนึ่งในกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาค ขณะที่กองทัพเมียนมา เพิ่งยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนนำโดยนางออง ซาน ซูจี เมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดการชุมนุมต่อต้านทั่วประเทศขณะที่กองทัพเข้าสลายการชุมนุมอย่างรุนแรงจนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 1,500 ราย   ข่าวจาก : มติชน

รัสเซียไขข้อสงสัย! มาครงต้องนั่งไกลปูติน เพราะไม่ยอมตรวจหาโควิด

รัสเซียไขข้อสงสัย! มาครงต้องนั่งไกลปูติน เพราะไม่ยอมตรวจหาโควิด สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ทางการรัสเซียเปิดเผยเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ว่า สาเหตุที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ต้องนั่งห่างกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ในการประชุมหารือเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ เพราะนายมาครงไม่ยอมตรวจหาเชื้อโควิด-19 กับรัสเซียก่อนเข้าพบกับนายปูติน ภาพผู้นำสองชาตินั่งที่ปลายโต๊ะขนาดใหญ่แต่ละด้านเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในการหารือเพื่อคลายความตึงเครียดบริเวณยูเครน ทำให้ผู้คนบนอินเตอร์เน็ตรู้สึกขบขัน และทำให้คนเหล่านั้นงุนงงเข้าไปอีกเมื่อเห็นภาพปูตินพบกับผู้นำคาซัคสถานและนั่งห่างกันเพียงโต๊ะเล็กๆ กั้นตามปกติใน 3 วันต่อมา ดิมิทรี เพกซอฟ โฆษกของประธานาธิบดีปูติน ระบุว่า “การหารือดังกล่าวถูกจัดขึ้นโดยใช้โต๊ะยาว โดยระยะห่างระหว่างสองฝั่งอยู่ที่ 6 เมตร เรื่องนี้เชื่อมโยงกับการที่บางคนทำตามใจตัวเอง ไม่ยอมปฏิบัติตามกฎของเจ้าบ้าน ส่งผลให้รัสเซียต้องใช้มาตรการด้านสุขอนามัยเพื่อปกป้องสุขภาพของประธานาธิบดีและผู้มาเยือนของเรา และสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการเมืองแต่อย่างใด”   ข่าวจาก : มติชน

สถาบันปรัชญารัสเซีย จัดสรรทุน 3 แสนบาท วิจัย “นรก” และ “ความชั่วร้าย”

สถาบันปรัชญารัสเซีย – วันที่ 30 ธ.ค. เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ เอร์เบเค รายงานว่า สถาบันปรัชญา สำนักวิทยาศาสตร์แห่งรัสเซีย (Russian Academy of Sciences) จัดสรรเงิน 742,000 รูเบิล (ราว 333,000 บาท) เป็นทุนดำเนินการวิจัยว่า “การมีอยู่ของนรกเป็นความชั่วร้ายหรือไม่” ข้อมูลดังกล่าวปรากฏเป็น หลักฐาน ในเว็บไซต์การจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาลรัสเซีย โดยสถาบันปรัชญา สำนักวิทยาศาสตร์แห่งรัสเซีย วางสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างเมื่อวันที่ 29 มี.ค. และสัญญาจัดซื้อจัดจ้างในการวิจัยดังกล่าวดำเนินการเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ส่วนผู้สัญญาการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาลมีเพียงคนเดียว คือ อีกอร์ กัสปารอฟ ซึ่งเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตสาขาวิชาปรัชญา ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์แห่งรัฐโวโรเนจ เอ็น.เอ็น. บูร์เดนโค และมหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์ นอกจากนี้ ตามข้อมูลเว็บไซต์การจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาล สถาบันปรัชญา สำนักวิทยาศาสตร์รัสเซีย จัดสรรทุนดำเนินการวิจัยดังนี้ – 667,000 รูเบิล (เกือบ 300,000 บาท) งานวิชาการ […]

1 2 3
error: