ก.แรงงาน ยืนยัน 1 ม.ค.2568 ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ทั่วประเทศ

Advertisement แหล่งข่าวจากกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงนโยบายการขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ หรือค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน ตามนโยบายรัฐบาล ว่า กระทรวงแรงงานพร้อมผลักดันการปรับขึ้น 400 บาทต่อวัน ทั่วประเทศ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เพื่อเป็นหนึ่งในของขวัญปีใหม่ให้กับผู้ใช้แรงงาน เนื่องจากขณะนี้ในขั้นตอนการดำเนินงานมีความชัดเจนแล้ว โดยเฉพาะการจัดตั้งคณะกรรมการค่าจ้าง หรือบอร์ดไตรภาคีชุดใหม่ Advertisement ทั้งนี้ในการจัดตั้งคณะกรรมการค่าจ้างชุดใหม่เพื่อทดแทนชุดเดิมนั้น กระทรวงแรงงงาน ได้ข้อสรุปว่า จะเสนอรายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการฝ่ายรัฐ 2 คนที่ว่างอยู่ให้กับที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 นี้ โดยในส่วนของกรรมการที่เป็นอดีตผู้บริหารของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นั้น กระทรวงแรงงานจะแก้ปัญหาด้วยการส่งกรรมการฝ่ายรัฐเป็นผู้แทนจากกระทรวงการคลังไปแทน ทั้งนี้หากที่ประชุมครม.เห็นชอบรายชื่อคณะกรรมการทั้ง 2 คนที่กระทรวงแรงงานเสนอแล้ว ในขั้นตอนต่อไป คณะกรรมการค่าจ้าง จะเริ่มต้นนัดประชุมกันนัดแรกอย่างเร็วที่สุดคือในเดือนธันวาคม 2567 นี้ และจะเร่งสรุปรายละเอียดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของคณะอนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดที่เสนอมา โดยตั้งเป้าหมายการปรับขึ้นอัตราค่าจ้าง หรือค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน ภายในวันขึ้นปีใหม่ 2568 เป็นต้นไป “ตอนนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน […]

ครม.ไฟเขียว 3 กฎหมายแรงงานใหม่ เพิ่มหลักประกันลูกจ้าง เริ่มบังคับใช้ปี 68

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างกฎหมาย 3 ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ มีเนื้อหาสำคัญ เป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นหลักประกันในการทำงานให้กับลูกจ้างกรณีต้องออกจากงานหรือเสียชีวิต จึงต้องมีการเก็บเงินสะสมและเงินสมทบเพื่อเป็นทุนสงเคราะห์ลูกจ้างต่อไป สำหรับร่างกฎหมายทั้ง 3 ฉบับที่กระทรวงแรงานเสนอครั้งนี้ ประกอบด้วย  ร่าง พ.ร.ฎ.กำหนดระยะเวลาเริ่มดำเนินการจัดเก็บเงินสะสมและเงินสมทบเพื่อเป็นทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง พ.ศ. …. ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราการจ่ายเงินสะสมและเงินสมทบที่จะต้องส่งให้แก่กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง พ.ศ. …. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสำหรับนายจ้างจัดให้มีการสงเคราะห์แก่ลูกจ้างในกรณีที่ลูกจ้างออกจากงานหรือตาย พ.ศ. …. 1.ร่าง พ.ร.ฎ.กำหนดระยะเวลาเริ่มดำเนินการจัดเก็บเงินสะสมและเงินสมทบเพื่อเป็นทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง พ.ศ. …. สาระสำคัญ : เป็นการกำหนดให้เริ่มดำเนินการจัดเก็บเงินสะสมและเงินสมทบเพื่อเป็นทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 เป็นต้นไป 2.ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราการจ่ายเงินสะสมและเงินสมทบที่จะต้องส่งให้แก่กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง พ.ศ. …. สาระสำคัญ : เป็นการกำหนดอัตราเงินสะสมจากลูกจ้างและเงินสมทบจากนายจ้างที่แต่ละฝ่ายจะต้องนำส่งเข้ากองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง แบ่งเป็น 2 ช่วง ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2568 – 31 มี.ค.2573 (ระยะเริ่มต้น 5 ปีแรก) ลูกจ้างและนายจ้าง […]

ขึ้นเงินเดือนลูกจ้างพิทักษ์ป่า เพิ่มสวัสดิการ มีผล ต.ค.นี้ ทั่วประเทศ

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รับความเห็นชอบจากกรมบัญชีกลางในการขอปรับขึ้นค่าตอบแทนหรือเงินเดือนของบุคคลภายนอกที่ปฏิบัติงานให้กับกรมอุทยานฯ ตำแหน่งพิทักษ์ป่า จำนวน 13,419 อัตรา จากอัตรา 9,000 บาท เป็น 11,000 บาทต่อเดือน ในช่วงปลายปี 2566 ในปี 2567 สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณค่าตอบแทนให้กับเจ้าหน้าที่แบบขั้นบันได และส่วนหนึ่งกรมอุทยานฯ ได้มีการปรับแผนงบประมาณเพื่อขึ้นค่าตอบแทนให้เจ้าหน้าที่แบบขั้นบันไดด้วย โดยเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอายุงานน้อยกว่า 5 ปี ได้รับค่าตอบแทนจำนวน 9,500 บาทต่อเดือน เจ้าหน้าที่ซึ่งมีอายุงาน 5-15 ปี ได้รับค่าตอบแทนจำนวน 10,000 บาทต่อเดือน และเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอายุงานมากกว่า 15 ปี ได้รับค่าตอบแทนจำนวน 11,000 บาทต่อเดือนไปพลางก่อน ล่าสุด สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณในการปรับขึ้นเงินเดือนของบุคคลภายนอกที่ปฏิบัติงานให้กับกรมอุทยานฯ ตำแหน่งพิทักษ์ป่า จาก 9,000 บาท เป็น 11,000 บาท ทุกอัตราพร้อมกันทั่วประเทศ […]

ผ่ากฎหมายโอที รปภ.ได้ 2 ส่วน วันหยุดได้ 2.5 เท่า วันธรรมดา 1.25 เท่า

นายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ผลักดันร่างแก้ไขกฎหมายเพื่อให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) หรือในภาษากฎหมายเรียกว่าลูกจ้างที่ทำงานเฝ้าดูแลสถานที่หรือทรัพย์สิน มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลาและค่าตอบแทนสำหรับการทำงานที่เกินกว่าวันละ 8 ชม. ในอัตราที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและสอดคล้องกับยุคปัจจุบัน โดยหากนายจ้างให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาหรือทำงานเกินกว่าวันละ 8 ชม.ในวันทำงานปกติ นายจ้างจะต้องจ่ายค่าล่วงเวลาสำหรับลูกจ้างรายเดือน หรือค่าตอบแทนสำหรับลูกจ้างที่ไม่ได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือนไม่น้อยกว่า 1.25 เท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ ส่วนในวันหยุดนายจ้างต้องจ่ายค่าล่วงเวลาหรือค่าตอบแทนไม่น้อยกว่า 2.5 เท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ สรุปก็คือลูกจ้าง รปภ. จะมีสิทธิได้รับเงิน 2 ส่วน ทั้งเงินเดือนหรือค่าจ้าง กับค่าโอทีหรือค่าตอบแทนจากการทำงานเกินเวลาปกติ เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ ทั้งนี้ ในประเทศไทยมีลูกจ้าง รปภ.ประมาณ 400,000 คน ซึ่งที่ผ่านมาลูกจ้างเหล่านี้ไม่มีสิทธิได้รับโอที ตามกฎกระทรวงกำหนดงานที่ลูกจ้างไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลาและค่าล่วงเวลาในวันหยุด พ.ศ.2552 ขณะที่ลูกจ้างบางส่วนได้เสนอให้ทบทวนกฎหมายเพราะบังคับใช้มากว่า 15 ปีแล้ว และงาน รปภ. เป็นงานที่ต้องใช้กำลังแรงกาย มีระยะเวลาการทำงานที่ยาวนานส่งผลต่อสุขภาพของลูกจ้าง เป็นงานที่ต้องใช้ทักษะและความรับผิดชอบมากขึ้น จึงได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเร่งผลักดันการแก้ไขกฎกระทรวงดังกล่าว และได้รับฟังความคิดเห็นของทั้งนายจ้าง ลูกจ้าง และประชาสังคมแล้ว เพื่อขยายความคุ้มครองให้ลูกจ้างได้รับค่าล่วงเวลาทั้งในวันทำงานปกติและวันหยุดอย่างเหมาะสม และยังเป็นการยกระดับทางอาชีพอีกด้วย นายจ้างจะต้องจ่ายค่าล่วงเวลาสำหรับลูกจ้างรายเดือน หรือค่าตอบแทนสำหรับลูกจ้างที่ไม่ได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือนไม่น้อยกว่า […]

ลาคลอด 98 วัน ราชกิจจาฯ ออกกฎกระทรวง ให้ลูกจ้างที่ทำงานบ้านมีสิทธิลาได้

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน ได้ออกกฎกระทรวง ฉบับที่ 15 (พ.ศ.2567) ตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ซึ่งขณะนี้ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 30 เมษายน 2567 เพิ่มการคุ้มครองให้กับลูกจ้างซึ่งทำงานบ้าน 11 เรื่อง ได้แก่ มีเวลาทำงานไม่เกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน  มีเวลาพักไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง  มีสิทธิลากิจธุระอันจำเป็น  ห้ามลูกจ้างหญิงมีครรภ์ทำงานเวลา 22.00 – 06.00 น. ทำล่วงเวลา หรือวันหยุด  ลูกจ้างหญิงลาคลอดได้ 98 วัน  ห้ามเลิกจ้างเพราะเหตุมีครรภ์  ให้นายจ้างแจ้งการใช้แรงงานเด็ก ลูกจ้างเด็กมีสิทธิฝึกอบรมโดยได้รับค่าจ้าง 30 วัน ลูกจ้างหญิงได้รับค่าจ้างลาคลอด 45 วัน  ห้ามนายจ้างหักค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุด ลูกจ้างได้รับค่าจ้างไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ “เรามุ่งผลักดันกฎหมายให้ออกมาตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาและคุ้มครองแรงงานนอกระบบให้ตรงจุดที่สุด เพื่อเป็นหลักประกันทางสังคมในการพัฒนาชีวิตคุณภาพแรงงานนอกระบบในมิติต่างๆ ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องแรงงานให้ดีขึ้นต่อไป” นายพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กระทรวงแรงงานได้ตระหนักถึงความสำคัญของแรงงานนอกระบบ […]

กระทรวงแรงงานจัดงบ 80 ล้าน ตั้งกองทุนปล่อยกู้ให้ผู้ใช้แรงงาน-ลูกจ้าง

นายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานจัดเตรียมงบประมาณกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน 80 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนให้ผู้ใช้แรงงานหรือลูกจ้างได้กู้ยืม มีรายได้หรือใช้ปลดเปลื้องหนี้สินจากการกู้ยืมเงินนอกระบบ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่สามารถหาหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์ทั่วไปได้ ภายใต้โครงการเงินกู้กองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน Micro Finance ลดหนี้ เติมทุน สร้างสุขแรงงาน เป็นไปตามนโยบายของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ต้องการดูแลผู้ใช้แรงงานและครอบครัวให้มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจและมีคุณภาพชีวิตที่ดี สำหรับผู้ใช้แรงงานหรือลูกจ้างที่ประสงค์จะขอกู้ให้ติดต่อที่สหกรณ์ออมทรัพย์หรือเครดิตยูเนี่ยนในสถานประกอบกิจการหรือรัฐวิสาหกิจที่ตนเป็นสมาชิก โดย เงินกู้ระยะสั้นกรณีปกติ อัตราดอกเบี้ย 2.75% ต่อปี กำหนดชำระคืนไม่เกิน 1 ปี เงินกู้ระยะยาวกรณีปกติ อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี กำหนดชำระคืน 1 – 5 ปี นอกจากนี้ยังมีเงินกู้เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติ อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี และเงินกู้สร้างสุข ปลดทุกข์หนี้นอกระบบ อัตราดอกเบี้ย 0.5 – 1.5% ต่อปี พิเศษดอกเบี้ย 0% ในช่วง 3 เดือนแรกสำหรับสหกรณ์ที่ไม่เคยใช้บริการมาก่อน […]

50ชีวิตถูกลอยแพ นายจ้างเบี้ยวค่าแรง แฉติดพนันออนไลน์ ล็อกบริษัทหนี พนง.

จากกรณีพนักงานจากบริษัทคอลเซ็นเตอร์แห่งหนึ่งกว่า 50 คน ถูกบริษัทลอยแพ ไม่จ่ายค่าแรงและค่าคอมมิชชั่นจนได้รับความเดือดร้อน ก่อนจะนำเรื่องมาร้องเรียนผ่านกลุ่มสายไหม ต้องรอด เพื่อขอความเป็นธรรม โดยระบุว่านายจ้างจ่ายเงินเดือนมาให้เพียง 10% เท่านั้น และนัดมาจ่ายที่เหลือในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2565 แต่เมื่อมาถึง ประตูบริษัทกลับปิดสนิท ทำให้พนักงานบางคนร้องไห้ ไม่รู้จักเอาเงินที่ไหนไปซื้อกับข้าวให้ลูก และจ่ายค่าเช่าบ้าน จนบ้านจะถูกยึดอยู่แล้ว ต่อมาข่าวช่องวัน รายงานว่า จากการลงพื้นที่ไปยังซอยรามอินทรา 39 แยก 13 พบอาคารสีขาว ซึ่งบริษัทที่มาเช่าทำเป็นสำนักงานคือบริษัทบีจีเอ็ม ไทยกรุ๊ป จำกัด ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท เป็นบริษัทที่เกี่ยวกับคอลเซ็นเตอร์ให้บริการในด้านอาหารเสริมยี่ห้อหนึ่ง มีพนักงานในบริษัทราว 50 คน หนึ่งในพนักงาน ที่ทำงานมา 7 เดือน เผยกับทีมข่าวว่า บริษัทแห่งนี้เปิดทำการมาไม่นาน มีหุ้นส่วนจำนวน 3 คน เริ่มจ่ายเงินเดือนไม่ครบตามกำหนดตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้เจ้าของบริษัทได้เอาสลิปการโอนเงินถอนเงิน ในการเล่นการพนันสล็อตออนไลน์มาให้ดู แต่พนักงานในบริษัทก็ไม่ได้คิดอะไร จนพักหลังมีการพูดถึงว่าเอาเงินเดือนของพนักงานในบริษัทไปเล่นการพนัน ถึงจะได้เงินมาจ่าย จนล่าสุดในเดือนตุลาคม พนักงานร่วม […]

รมว.แรงงานสั่ง กสร.ดูแลสิทธิลูกจ้าง”ช้อปปี้” หลังถูกปลด หวั่นโดนลอยแพ

27 กันยายน 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีสื่อออนไลน์เสนอข่าวว่า Shopee กำลังปรับโครงสร้างใหญ่ทั่วภูมิภาค โดยประเทศไทยจะปรับลดลูกจ้าง ไม่ถึง 10% ทันทีที่ได้รับทราบข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้แสดงความห่วงใยกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้สั่งให้กระทรวงแรงงานดำเนินการช่วยเหลือลูกจ้างกลุ่มนี้ให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย ผมจึงได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ส่งพนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงทันที นายสุชาติ ระบุว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่า บริษัทในเครือช้อปปี้ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร มีลูกจ้างทั้งหมด 3,300 คน จะเลิกจ้างลูกจ้างประมาณร้อยละ 10 สาเหตุการเลิกจ้างครั้งนี้ เนื่องจากเป็นนโยบายของบริษัทแม่ที่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ มีการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อรองรับภาวะการผันผวนของเศรษฐกิจโลก ซึ่งหากมีการเลิกจ้างลูกจ้างกลุ่มดังกล่าว บริษัทจะจ่ายสิทธิประโยชน์ที่ลูกจ้างพึงได้รับตามกฎหมายอย่างครบถ้วน อาทิ ค่าชดเชย ค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าจ้างวันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วนในปีที่เลิกจ้าง และเงินพิเศษเพิ่มตามอายุงาน ทั้งนี้ ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงเตรียมจัดหางานรองรับกรณีลูกจ้างมีความประสงค์จะหางานใหม่ หรือหากลูกจ้างต้องการเปลี่ยนสายงานหรือเพิ่มทักษะด้านอาชีพก็สามารถเข้ารับการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานได้ ด้านนายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวต่อว่า […]

พนักงาน JSL รวมตัวร้อง “ทนายเดชา” ถูกเลิกจ้างฟ้าผ่า บริษัทไม่เคยเห็นใจ

จากกรณี บริษัท เจเอสแอล โกลบอล มีเดีย จำกัด ออกประกาศเรื่อง ‘ยุติการทำงานบางส่วน’ จึงเป็นเหตุพนักงานบริษัทที่ถูกยุติบทบาทได้รับเงินเยียวยาไม่ครบ และยังไม่ได้รับค่าเสียหาย จากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 ก.ค.2565 ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ บริเวณ รัชดา 36 โดยทางด้านผู้เสียหาย บริษัทดังกล่าว เดินทางเข้าร้องทุกข์ กับ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เพื่อร้องขอความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากทนายเดชาเพื่อเรียกร้องให้ได้รับสิทธิในเรื่องเงินชดเชยที่ได้รับตามกฎหมายอย่างถูกต้อง เนื่องจากบริษัทได้ประกาศปิดตัวไปเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่ายมา เพื่อมาขอว่าพวกเราจะรับมือยังไงต่อไป ทั้งนี้ พวกเราทุกคนเดือนร้อนกันมาก เนื่องจากทางบริษัทมีเงินชดเชยให้แค่ 16% เท่านั้น ซึ่งตอนที่ได้รับรู้เรื่องนี้ ช็อกมาก ๆ และก็เสียใจที่บริษัทต้องปิดตัวลง ตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวต่อว่า แต่มันเกิดคำถามในใจพวกเรามากมายว่า พวกเราจะไปยังไงกันต่อ เนื่องจากพวกเราทำงานกันมานาน และเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง พนักงานส่วนใหญ่อายุงานค่อนข้างเยอะ เยอะสุดในบรรดาพวกเราอยู่ที่ 35 ปี […]

นายกฯ ยันแรงงาน-ลูกจ้าง ถูกเลิกจ้างเพราะติดโควิด มีสิทธิได้รับค่าชดเชย

นายกฯ ย้ำดูแลสิทธิประโยชน์ผู้ป่วยโควิด-19 ยันแรงงาน-ลูกจ้าง ถูกเลิกจ้างเพราะติดโควิด มีสิทธิได้รับค่าชดเชย สิทธิประโยชน์ ต้องได้รับความเป็นธรรม เมื่อวันที่ 18 พ.ค.65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ย้ำทุกภาคส่วนดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทุกกลุ่ม รวมทั้งสิทธิประโยชน์ ต้องได้รับความเป็นธรรม โดยเฉพาะแรงงาน ลูกจ้าง ในสถานประกอบการ เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถร่วมกับขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ โดยกระทรวงแรงงาน ยืนยันว่ากรณีหากนายจ้างสงสัยว่า ลูกจ้างเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 และสั่งให้ลูกจ้างกักตัว ในที่พักอาศัยเพื่อเฝ้าดูอาการ นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้าง เพราะถือว่าการปฏิบัติตามคำสั่งของนายจ้าง ไม่ใช่การขาดงานหรือละทิ้งหน้าที่ โดยนายจ้างสามารถตกลงกับลูกจ้างให้ใช้สิทธิการลาป่วย หรือหยุดพักผ่อนประจำปีได้ รวมไปถึงสามารถสั่งให้ลูกจ้างเข้ารับการตรวจจากแพทย์ ด้วยเหตุที่ลูกจ้างเสี่ยงเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 หากไม่ดำเนินการอาจเป็นอันตรายและกระทบต่อสุขภาพอนามัยของลูกจ้างคนอื่น หรือกระทบต่อกิจการของนายจ้างได้ ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด หรือโทรสายด่วน 1506 กด 3 หรือ 1546 หรือหากสงสัยเกี่ยวกับแนวปฏิบัติการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค โทร […]

1 2
error: