วลาดิมีร์ ปูติน

Advertisement ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ลงนามในพระราชกฤษฎีกาที่จะเปิดทางให้พลเมืองยูเครนทั้งหมดสามารถแปลงสัญชาติเป็นชาวรัสเซียและถือหนังสือเดินทางได้ง่ายดายขึ้น โดยเอกสารดังกล่าวถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์ของรัฐบาลรัสเซีย Advertisement สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานว่า แต่เดิมขั้นตอนการขอสัญชาติรัสเซียจะเปิดให้เพียงแต่ผู้ที่อาศัยอยู่ในดินแดนที่ถูกระบุว่าเป็นดินแดนที่แยกตัวออกจากสาธารณรัฐโดเนตสค์ และสาธารณรัฐประชาชนลูฮานสค์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของยูเครนเท่านั้น ดินแดนทั้งสองเป็นเป้าหมายที่รัสเซียพยายามจะปลดปล่อยจากการตกอยู่ภายใต้การปกครองของยูเครน เช่นเดียวกับภูมิภาคเคอร์ซอนซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองซาปอริซเซีย ที่ขณะนี้รัสเซียได้ยึดครองไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วเท่านั้นที่ประชาชนในพื้นที่สามารถยื่นขอหนังสือเดินทางรัสเซียได้ นายดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน กล่าวว่า การลงนามในพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวของปูติน ซึ่งครอบคลุมบุคคลไร้สัญชาติในยูเครนด้วย เป็นตัวอย่างของความต้องการที่จะกลืนกินสัตว์อื่นเป็นอาหารของรัสเซีย Advertisement “รัสเซียใช้ขั้นตอนที่ง่ายขึ้นในการออกหนังสือเดินทางเพื่อบีบคอผู้ที่อาศัยในดินแดนของยูเครนที่ตกอยู่ภายใต้การยึดครองชั่วคราวโดยรัสเซีย ด้วยการบังคับให้พวกเขาเข้าร่วมในการกระทำที่ถือเป็นการก่ออาชญากรรมของฝ่ายบริหารที่เข้ายึดครอง และการรุกรานของกองทัพรัสเซีย” แถลงการณ์ของคูเลบาระบุ รัสเซียได้นำพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมาใช้กับประชาชนที่อยู่ในโดเนตสค์และลูฮานสค์ในปี 2562 โดยในปี 2565 มีผู้คนมากกว่า 7.2 แสนคน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การปกครองของกลุ่มกบฏที่ฝักใฝ่รัสเซียในทั้ง 2 ภูมิภาคดังกล่าว หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 18% ของประชากร ที่ได้รับหนังสือเดินทางรัสเซียแล้ว ขณะที่ในปลายเดือนพฤษภาคม กระบวนการเร่งด่วนดังกล่าวก็ถูกนำเสนอให้กับผู้ที่อาศัยอยู่ในเคอร์ซอนและซาปอริซเซียด้วย การดำเนินการดังกล่าวถูกมองว่าเป็นหนึ่งในความพยายามที่จะสร้างอิทธิพลทางการเมืองของปูตินในดินแดนที่ถูกยึดครอง ซึ่งอาจส่งผลให้มีการผนวกดินแดนยูเครนเหล่านี้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย เช่นเดียวกับที่รัสเซียได้ผนวกคาบสมุทรไครเมียไปแล้วในปี 2557   ข่าวจาก : มติชน