อุบัติเหตุ

Advertisement วันที่ 2 พ.ย. 64 เวลา 20.00 น. ร.ต.อ สุมนัส นัดที รองสารวัตร สอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ รับแจ้งเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนคนเดินเท้าเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสาย นางรอง-บุรีรัมย์ บริเวณหน้าโรงเรียนกระสัง ฝั่งขาเข้าเมืองบุรีรัมย์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์ รพ.บุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ Advertisement ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย มีบาดแผลแตกที่ศีรษะ นอนหงายจมกองเลือดอยู่บนถนน ทราบชื่อต่อมาคือนายนาราช บวรรัมย์ อายุ 48 ปี ชาว ต.กระสัง อ.เมืองบุรีรัมย์ ห่างออกไปประมาณ 500 เมตร พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ Honda สีขาว ซึ่งเป็นรถที่เฉี่ยวชนผู้ตายจอดอยู่ สภาพด้านซ้ายของตัวรถมีร่องรอยของการชน และกระจกหน้ารถฝั่งซ้ายมีรอยแตกร้าว โดยมี นางสาวนิตยา หงส์ผาแก้ว อายุ 29 ปี เป็นคนขับ อยู่ในอาการช็อก ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงให้ไปนั่งพักดมแอมโมเนียบนรถ […]

ไฮโซหนุ่ม แจงทุกข้อสงสัยปม ลัมโบร์กินี ถูกกระบะชนท้ายพังเสียหาย ระบุ ตกลงกับประกันแล้วไม่ไปไล่เบี้ยกับคู่กรณีต่อแม้แต่บาทเดียว คิดว่าทุกฝ่ายน่าจะแฮปปี้ จากกรณีเกิดอุบัติเหตุ รถกระบะ ยี่ห้อนิสสัน เสียหลักชนท้ายรถหรู ลัมโบร์กินี ขณะขึ้นทางด่วนจนทำให้รถหรูพังเสียหายอย่างหนัก แต่หลังเกิดเหตุเจ้าของรถไม่ติดใจอะไรเป็นการส่วนตัว จนเป็นเรื่องที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดวันที่ 14 ต.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไฮโซหนุ่มซึ่งเป็นเจ้าของรถหรู ได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว hell_69_ ระบุว่า “ขออนุญาตชี้แจงคำถามที่ทุกท่านสงสัยนะครับ ไม่ว่าตามกฎหมายผลจะชี้ว่าใครถูกหรือผิด – ประกันภัยเป็นผู้ซ่อมรถให้ผม โดยผมเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเบื้องต้นเอง หรือเรียกว่าค่าเสียหายส่วนแรก เพียง 200,000 บาท, ส่วนที่เหลืออยู่ในการดูแลของบริษัทประกันภัยทั้งหมด – โดยมีการตกลงร่วมกันกับประกันภัยแล้วว่าจะไม่มีการไปไล่เบี้ยกับคู่กรณีต่อแม้แต่บาทเดียว รวมถึงการฟ้องร้องคู่กรณีในอนาคตด้วย – ทั้งนี้ตัวผมเองนั้น ก็ได้เสนอช่วยเหลือค่าซ่อมรถให้คู่กรณีทั้งหมด เนื่องจากคู่กรณีไม่มีประกันภัย คิดว่าทุกฝ่ายน่าจะแฮปปี้นะครับ การเรียกประกันภัยคือการผ่อนหนักเป็นเบา ให้มีผู้มารับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ให้ โดยการแจ้งอุบัติเหตุในขณะมีคู่กรณี คือการแสดงความบริสุทธิ์ใจให้กับบริษัทประกันภัยด้วยว่าเราไม่ได้ตั้งใจเอาทรัพย์นั้นไปก่อให้เกิดความเสียหาย เป็นเพราะ อุบัติเหตุจริงๆ ต้องขอขอบคุณผู้บริหารประกันภัยทุกท่านที่ทำให้เนื่องออกมาด้วยดีด้วยครับ ตัวผมเองต้องขออภัยที่ออกมาชี้แจงช้า เดิมทีมีความตั้งใจจะเล่าเรื่องราวทุกอย่างผ่านทางสื่อและรายการต่างที่ได้มีการนัดหมายไว้ในสัปดาห์หน้า แต่ในขณะนี้การชี้แจงข้อสงสัยของทุกท่านในตอนนี้เป็นเรื่องสำคัญกว่า  

หนุ่มซ้อมเซิร์ฟสเกตบนดาดฟ้าสูง 5 ชั้น พลาดร่วงตกตึกดับหน้าบ้าน คนในครอบครัวไม่รู้เรื่อง จนกระทั่งเพื่อนบ้านมาเห็นถึงรีบนำส่งโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ทัน วันที่ 23 มิถุนายน 2564 ข่าวช่องวัน รายงานว่า ที่โรงพยาบาลตรัง มีผู้เสียชีวิตจากการตกที่สูง ทราบชื่อคือ นายนฤชิต รุ่งเรืองศิริพันธุ์ วัย 40 ปี พักอยู่ที่ถนนวิเศษกุล ซอย 2 ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเช้ามืดวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมา เมื่อผู้ตายเล่นเซิร์ฟสเกตบนดาดฟ้าบ้านพัก ซึ่งเปิดเป็นร้านขายรถจักรยานยนต์ด้านล่าง มีความสูงจากพื้นปกติ 5 ชั้น ประมาณ 20-25 เมตร แต่กลับพลาดเกิดอุบัติเหตุร่วงหล่นลงมาที่พื้น ต่อมามีคุณยายที่ตื่นเช้า เอาขยะมาทิ้งหน้าบ้าน เห็นคนนอนบนถนนพอดี จึงรีบเรียกเจ้าของบ้านให้มาดู จากนั้น ภรรยา ลูก ของนายนฤชิตก็ออกมาจากบ้านมาดูจุดเกิดเหตุ ก่อนเรียกรถพยาบาลไปยังโรงพยาบาลตรัง กระทั่งเสียชีวิตภายหลัง ส่วนข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า ผู้ตายเป็นลูกชายเถ้าแก่ขายรถจักรยานยนต์ มีกิจกรรมชอบเล่นเซิร์ฟสเกตกับลูก […]

ถึงช็อก! หนุ่มขับรถมาดีๆ เจอยางมะตอยติดเต็มรถ แฉไร้ป้ายเตือน เจอชาวเน็ตซัดกลับล้อรถที่ได้แต่งและยื่นออกมา ถือว่าผิดกฎหมาย-ทำให้กระเด็นใส่รถ เป็นอีกเรื่องราวกำลังวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพรถยนต์กระบะและรถยนต์ของคนอื่นๆ เต็มไปด้วยยางมะตอย หลายคันพร้อมข้อความระบุว่า “การทำงานของคนไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม​ เส้นซับใหญ่-นายางกลัก​ ไม่มีป้ายบอกทาง​ไม่มีที่กั้น​ ไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ​ ทำงานชุ่ย ๆ แบบนี้สร้างแต่ความเดือดร้อนให้ประชาชน​ใครรับผิดชอบ” ขณะที่ชาวเน็ตได้ตั้งข้อสังเกตถึงล้อรถที่ได้แต่งและยื่นออกมา ซึ่งถือว่าผิดกฎหมายและหน้ายางที่กว้างกว่าปกติ จะดีดเอากรวดดินกระเด็นออกจากยางพุ่งใส่สีรถได้เช่นกัน ต่อมาผู้โพสต์ออกมาชี้แจงว่า “ทราบดีว่าล้อผมยื่นกว่าปกติและมันผิดกฎหมาย ตนเดินทางออกจากบ้านนามาตอนเวลา 22.00 น. เพื่อกลับโคราช ระหว่างทางก่อนถึงซับใหญ่ มีฝนตกระหว่างทาง ทำให้ถนนทั้งหมดเป็นสีดำมืด ถนนช่วงนั้นมีเกาะกั้นกลาง ช่วงที่ทำทางไม่ป้ายเตือนบอกข้างทางว่าเป็นเขตก่อสร้าง แต่อย่างใดครับ แค่อยากทราบว่าใครโดนเหมือนผมบ้างแค่นั้น” “ขอบคุณที่เข้ามานำเสนอขอน้อมรับ แต่ขอความกรุณาเมนต์อย่างสุภาพชน เพราะด่าว่าผมไร้การศึกษา หวังว่าคนที่เข้ามาเมนต์จะมีการศึกษาเช่นกัน ถ้าผมทราบว่าเขาทำทางผมไม่โง่ผ่านไปแน่นอน” จากนั้นผู้โพสต์ได้ลบภาพและข้อความทั้งหมดออกไป ข่าวจาก ข่าวสดออนไลน์

นักวิชาการ วิเคราะห์อุบัติเหตุ BMW Z4 พุ่งข้ามเล่นชนเก๋งสวิฟต์ เป็นปรากฏการณ์ไฮโดรเพลนนิ่ง เผยมีปัจจัยอะไรบ้างที่ต้องระวัง โดยเฉพาะในหน้าฝนทำให้ล้อเหินน้ำ เป็นอุบัติเหตุที่น่าสะเทือนใจอย่างมาก กรณี นายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง อายุ 50 ปี ขับรถหรู BMW Z4 ฝ่าฝนตก ก่อนจะพุ่งข้ามเลนไปชนรถเก๋งสวิฟต์ ในพื้นที่ ต.ห้วยโป่ง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ 3 ศพ ได้แก่ นายสุรภักดิ์ คนขับรถหรู และรถเก๋งสวิฟต์ 2 ศพ     วันที่ 15 มิถุนายน 2564 รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ สัมภาษณ์ ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักวิชาการชื่อดังที่คำนวณความเร็วคดี บอส อยู่วิทยา ได้วิเคราะห์สาเหตุอุบัติเหตุดังกล่าว เป็นปรากฏการณ์ ไฮโดรเพลนนิ่ง หรือการเหินน้ำ คือการที่ยางรถยนต์หมุนไปเหนือชั้นน้ำ ไม่เกาะถนน […]

แหลมไปไหน เกาะกลางถนน ใน จ.ชัยภูมิ สร้างล้ำกินเลนจราจร ชาวบ้านบอกเห็นแล้วขัดตา วอนเร่งแก้ไขก่อนเกิดเหตุสลด จากที่มีการก่อสร้างขยายเส้นทางและการสร้างเกาะกลางถนน บนถนนทางหลวงหมายเลข 201 สายชัยภูมิ–สีคิ้ว ช่วงระหว่างบ้านกุดละลม-ห้วยหลัว อ.เมืองชัยภูมิ ก่อนเข้าถึงตัวอำเภอเมืองจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งในโลกโซเชียลได้มีการถ่ายรูปและนำไปโพสต์วิพากษ์วิจารณ์ ตั้งคำถามถึงลักษณะการสร้างเกาะกลางจุดกลับรถที่มีแหลมล้ำออกมาจากเส้นเหลืองเกินไปหรือไม่ และความปลอดภัยจุดเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุกันอย่างหนัก ทั้งยังมีร่องรอยการเบียดขอบแหลมจุดดังกล่าวมาแล้วและอาจทำให้รถที่สัญจรผ่านไปมาหากขับมาแบบไม่ได้สังเกตอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ทุกเมื่อ ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปดูตรวจสอบข้อเท็จจริงในสถานที่จริงที่มีการสร้างดังกล่าวที่ทำมุมแหลมออกมาลักษณะทับเส้นเหลืองที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ก่อนถึงจุดยูเทิร์นโครงการการขยาย-สร้างเกาะกลางถนน บนถนนทางหลวงหมายเลข 201สายชัยภูมิ–สีคิ้วช่วงระหว่างบ้านกุดละลม-ห้วยหลัวอ.เมืองชัยภูมิ ซึ่งจากการลงพื้นที่ก็ถือว่าถนนเส้นดังกล่าวเป็นถนนหลักเข้าสู่ตัวเมืองจังหวัดชัยภูมิ เชื่อมต่อจังหวัดนครราชสีมามีรถสัญจรไปมาหนาแน่น โดยจากการสังเกตรถที่ขับขี่มาถึงจุดดังกล่าวในเลนขวาจะต้องเบี่ยงหลบจุดแหลมนี้เกือบทุกคันและจะต้องเบี่ยงมากินเลนด้านซ้ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งหากมีรถขับขี่มาคู่ขนานกับรถทางเลนซ้ายก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ง่าย ซึ่งบริเวณเกาะกลางแหลมกลางถนนดังกล่าว ยังพบร่องรอยล้อยางและรอยชนจนปูนแตกชำรุด ร่องรอยมีการเบียดหรือเสียดสีมาแล้วหลายครั้งก่อนหน้านี้อาจจะยังไม่ได้รับรายงานว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น แต่ก็สร้างความสงสัยและรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยกับผู้ที่ใช้รถใช้ถนนผ่านมาตรงจุดนี้ จึงได้มีประชาชนผู้ใช้เฟสบุ๊กหลายรายถ่ายภาพและนำไปโพสต์เปิดเป็นกระทู้น่าสงสัยในโลกโซเชียล ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงประเด็นนี้ได้ถูกเล็งไปที่ผู้ดูแลโครงการดังกล่าว ถูกสังคมโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะโครงการนี้มีเริ่มแรกก็มีกระแสต่อผู้คนไปในหลายประเด็นกับการสัญจรไปมาของประชาชน แต่ก็ต้องยอมรับว่าในการพัฒนาที่จะมีขึ้นถือว่าเป็นเรื่องดีของชาวชัยภูมิ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป ดูเหมือนว่าถนนในเส้นทางดังกล่าวจะถูกก่อสร้างจนแล้วเสร็จ ความคิดที่ตั้งใจไว้ว่าจะได้มีการพัฒนาถนนหนทางในจังหวัดชัยภูมิไปในทางที่ดีขึ้นกลับเจอสิ่งประหลาดที่สังคมโซเชียลต่างตั้งคำถามว่า เจ้าของโครงการหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ออกแบบถนนหรือเกาะกลางที่แหลมออกมาแบบนี้หรือไม่ เป็นการสร้างตามแบบที่ตั้งใจไว้หรือไม่ หรือมีการตรวจสอบก่อนส่งมอบงานหรือยังก่อนที่จะเปิดให้ประชาชนได้สัญจรผ่านไปมา จึงเป็นสิ่งที่หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องชี้แจงต่อสังคมโดยเร็วอีกด้วย ขณะที่ประชาชนผู้ขับขี่และใช้ถนนเส้นนี้เป็นประจำกล่าวว่า ตนเองก็งงและรู้สึกขัดกับสายตาเมื่อเห็นว่าจุดแหลมดังกล่าว ซึ่งหากมีอยู่ต่อไปอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นกับผู้ที่ขับขี่ที่ไม่ชินทางในช่วงเวลากลางคืน จึงขอวอนให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาแก้ไขและปรับปรุงอย่างเร่งด่วนก่อนที่จะเกิดเหตุร้ายขึ้นอีกต่อไปด้วย ข่าวจาก อมรินทร์ทีวี

เจ้าของกระเบื้องไดนาสตี้ ไม่เอาผิด กรณีรถบิ๊กไบค์ดูคาติชน Mclaren 720s แล้วชิ่งหนี ยันขอให้เรื่องนี้เป็นบทเรียน บอกจริง ๆ รถของผม 35 ล้าน ไม่ใช่ 26 ล้าน   ล่าสุด คุณมารุต ได้มาอัปเดตว่า ทางคนขับรถบิ๊กไบค์ ได้ประสานมาทางตำรวจเพื่อขอยอมรับผิดและชดใช้ค่าเสียหาย และทางผู้กำกับการ สน. สุทธิสาร ก็ได้ประสานมาทางตน และได้พูดจาไกล่เกลี่ยกัน ทางตัวคนขับบิ๊กไบค์เองอายุยังน้อย และอาจจะตกใจพอเกิดเรื่องขึ้น แต่สุดท้ายก็ได้แสดงสปิริตมาขอโทษและเจรจา ซึ่งตนก็ให้อภัย อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ให้ทางคนขับบิ๊กไบค์ชดใช้ใด ๆ แต่ตักเตือนน้องตามสมควร และหวังว่านี่จะเป็นบทเรียนในการใช้รถใช้ถนน คุณมารุตได้ทิ้งท้ายว่า สำหรับเรื่องรถนั้น ราคาค่าสีอย่างเดียวก็ 50,000 บาทแล้ว ส่วนตัวรถรุ่นนี้ราคา 35 ล้านบาท ไม่ใช่ 26 ล้านบาทอย่างที่ออกข่าวไปในตอนแรก พร้อมกับตบมุกทิ้งท้ายว่า “เดี๋ยวขยันขายกระเบื้องเอา” ข้อมูลจากเฟซบุ๊ก Maruth Bae Saengsastra