“บิ๊กตู่” เผยคุย “ทรัมป์” ต่อรองซื้ออาวุธจำเป็น เพื่อไม่ให้อายชาติอื่นที่ยังใช้ของเก่า
Advertisement Advertisement
Advertisement Advertisement
วันที่ 10 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่และหน่วยซีล นำเด็กๆ และโค้ช ทีมหมูป่าอะคาเดมี ทั้ง 13 ชีวิต ออกจากถ้ำหลวง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้สำเร็จแล้วในวันนี้ โดยทั้ง 13 คน มีอาการปลอดภัย ท่ามกลางความโล่งใจของคนไทยทั้งประเทศ และผู้ติดตามข่าวทั่วโลก นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ทวีตข้อความแสดงความยินดีหลังภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตสำเร็จลุล่วง ระบุว่า “ยินดีที่ภารกิจการช่วยเหลือผู้ติดอยู่ในถ้ำในประเทศไทยสำเร็จลุล่วง โลกได้ติดตามและจะยกย่องความกล้าหาญของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน” เวลาต่อมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ยังได้ทวีตข้อความว่า “ในนามของสหรัฐอเมริกา ขอแสดงความยินดีกับหน่วยซีลของประเทศไทย และแสดงความยินดีที่ภารกิจช่วยเหลือเด็กๆ 12 ชีวอต และโค้ช จากถ้ำในประเทศไทย เป็นช่วงเวลาที่สวยงาม ทั้งหมดออกมาแล้ว เยี่ยมมาก!” ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์
เมื่อวันที่ 19 เม.ย. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวถึงการหารือกับนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ที่คาดว่าจะมีขึ้นในเดือนพ.ค.นี้ พร้อมกันนี้ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังโพสต์ทวิตว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังทำงานเพื่อกรองผลลัพธ์ที่ได้จากการพบกันระหว่างนายพอมเพโอกับนายคิม หนึ่งในนั้นคือ สถานที่ซึ่งจะใช้จัดประชุมระหว่างผู้นำทั้งสองชาติ ในเบื้องต้นพิจารณาอยู่ 5 แห่งด้วยกัน แต่อย่างไรก็ตามอาจจะมีมากกว่า 5 แห่งที่ทั้งสองอาจจะมานั่งพูดคุยครั้งประวัติศาสตร์ครั้งนี้ นอกจาก 5 แห่งที่ผู้นำสหรัฐได้เปรยไปก่อนหน้านี้ แต่มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีอีก 4 แห่งเพิ่มเติมที่เหมาะกับการพูดคุยกับทั้งสอง ซึ่ง 9 แห่งนี้ประกอบไปด้วย กรุงเทพฯ พร้อมกับเหตุผลว่าหนึ่งในสถานทูตที่มีขนาดใหญ่ของสหรัฐ ตั้งอยู่ที่กรุงเทพ และไทยเป็นเพียงไม่กี่ประเทศที่มีสถานทูตเกาหลีเหนือ นครเจนีวา ของสวิสเซอร์แลนด์ ที่มีสถานะเป็นกลางในระดับนานาชาติ และยังเป็นสถานที่จัดการประชุมทางการทูตระดับสูงมาโดยตลอด นอกจากนี้ผู้นำเกาหลีเหนือยังเคยศึกษาที่ประเทศแห่งนี้ อีกทั้งยังมี กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยให้เหตุผลว่าเจ้าหน้าที่จากกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือเคยพบปะกับเจ้าหน้าที่ของสหรัฐ เมื่อมี.ค.ที่ผ่านมาหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ตอบรับว่าจะพบกับนายคิม จองอึน ประเทศสิงคโปร์ เคยเป็นสถานที่พบปะระหว่างนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และนายหม่า อิงเจียว ประธานาธิบดีไต้หวัน ซึ่งเป้นไปได้ว่าทั้งคู่อาจจะพบกันในประเทศนี้ […]
เมื่อวันที่ 14 เม.ย. บีบีซีรายงานว่า กองทัพสหรัฐอเมริกา และชาติพันธมิตร ได้แก่ อังกฤษ และฝรั่งเศส เปิดปฏิบัติการทางทหารโจมตีเป้าหมายที่คาดว่าเป็นคลังเก็บอาวุธเคมีของกองทัพซีเรีย ในประเทศซีเรียแล้ว แม้ที่ผ่านมา ทางการรัสเซีย ซึ่งเป็นพันธมิตรของซีเรียขู่ว่าอาจก่อให้เกิดสงครามครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐกับรัสเซียก็ตาม ขณะที่นายอันโตนิโอ กูร์เตเรส เลขาธิการสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุว่า สงครามเย็นกลับมาแล้วด้วยความคลั่งแค้น และกลไกของยูเอ็นที่มีเพื่อใช้ป้องกันสงครามซึ่งเคยมีอยู่ในอดีต ไม่มีอยู่อีกต่อไป ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ นางเธเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และประธานาธิบดีเอมมานูแอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส เห็นพ้องต่อภารกิจตอบโต้การใช้อาวุธเคมีโจมตีต่อพลเรือนในเมืองดูมา แคว้นกูตาตะวันออก มีผู้เสียชีวิตกว่า 70 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก ในจำนวนนี้ มีผู้มีอาการว่าโดนแก๊สคลอรีนกว่า 500 คน ซึ่งยืนยันแล้วจากคณะผู้เชี่ยวชาญหน่วยงานกลางที่เพิ่งลงพื้นที่ แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นฝีมือของฝ่ายใด แต่ทางการสหรัฐและชาติพันธมิตร ระบุว่า ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย อยู่เบื้องหลังการโจมตี ก่อให้เกิดการถกเถียงและโทษกันไปมาอย่างดุเดือด นายกูร์เตเรส กล่าวว่า […]