ถนนใน กทม. ขับไม่เกิน 60 กม./ชม. ยกเว้น 13 สาย

Advertisement ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ข้อบังคับหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร ว่าด้วยการจํากัดความเร็วและห้ามใช้เสียงในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2567 ระบุว่า ด้วยกองบัญชาการตํารวจนครบาล ได้ดําเนินการรณรงค์และกวดขันวินัยจราจร เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนบริเวณพื้นที่แหล่งชุมชน และสถานที่ราชการสําคัญปัจจุบัน จึงจําเป็นต้องออกข้อบังคับหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกของการจราจร Advertisement ฉะนั้น อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 (38) และ 139 (6) (20) แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 อันเป็นพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 26 ประกอบกับมาตรา 38 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 บัญญัติให้กระทําได้ โดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ตราขึ้นเพื่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยของประชาชน และคําสั่งสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ที่ 22/2566 ลงวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2566 แต่งตั้งผู้บัญชาการตํารวจนครบาล หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติราชการแทน เป็นหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร จึงได้ออกข้อบังคับไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร ว่าด้วยการจํากัดความเร็วและห้ามใช้เสียงในเขตกรุงเทพมหานคร […]

สุดเจ๋ง! ไอร์แลนด์เล็งเพิ่มโทษเมาเเล้วขับ ยึดใบขับขี่ บังคับเป่าก่อนสตาร์ท!!

เป็นที่น่านับถืออย่างยิ่ง สําหรับการเอาจริงเอาจังของรัฐมนตรีคมนาคมประเทศไอร์แลนด์ "เชน โรส” ซึ่งกําลังเตรียมการยกเครื่องระบบการปรับแต้มและปรับเงินผู้ขับรถที่ถูกตรวจพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายในปริมาณต่ำ ซึ่งตามระเบียบที่ใช้มาตั้งแต่ปี ค.ศ.2012 คือจะต้องโดนโทษเพียงตัดแต้ม 3 แต้ม และให้จ่ายค่าปรับ 200 ปอนด์ หากพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ 50 มิลลิกรัม ต่อเลือด 100 มิลลิลิตร ทว่าไม่เกิน 80 มก. ซึ่งเป็นการลงโทษสําหรับการกระทําผิดครั้งแรกเท่านั้น ส่วนเหตุที่ รมว.คมนาคมไอร์แลนด์ เห็นว่าโทษเหล่านี้ไม่น่าจะเพียงพออีกต่อไปนั้น เพราะได้รับทราบข้อมูลว่า ปีๆ หนึ่งจะมีผู้เสียชีวิตในอุบัติเหตุบนท้องถนนที่ผู้ขับมีปริมาณแอลกอฮอล์ในปริมาณต่ำที่ว่านี้ ฉะนั้น รมว.คมนาคม เห็นว่าจําเป็นต้องเพิ่มโทษผู้ถูกจับได้ว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดในระดับต่ำด้วย จากการปรับและตัดแต้มเป็นการยกเลิกใบขับขี่เป็นการชั่วคราว 3 เดือนแทน อีกทั้งจากสถิติที่เก็บรวบรวมโดยหน่วยงานด้านความปลอดภัยทางถนนของประเทศ พบว่าระหว่างปี ค.ศ.2008 และ ค.ศ.2012 มีผู้เสียชีวิต 35 คน ในเหตุการรถยนต์หรือจักรยานต์ชนกัน โดยพบว่าคนขับที่ก่อเหตุมีแอลกอฮอล์ในเลือดระหว่าง 21 มก.-80 มก. ต่อเลือด 100 มล. นอกจากนี้ ยังมีแผนเตรียมแก้กฎหมายเพื่อเพิ่มการลงโทษผู้ถูกศาลตัดสินลงโทษในคดีเมาแล้วขับ โดยหนึ่งในมาตราการใหม่ที่จะเสนอให้บังคับใช้ คือการบังคับให้ติดเครื่องเป่าแอลกอฮอล์กับรถยนต์ […]

error: