สส.ก้าวไกล เติมเงินเกม ROV กว่า 8 หมื่น เจ้าของหนังสือเนิร์ดคลั่ง

Advertisement 27 ต.ค. 2566 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สส. จำนวน 61 ราย เป็นกรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2566 จำนวน 59 ราย และกรณีพ้นจากตำแหน่ง จำนวน 2 ราย Advertisement ซึ่งมีบุคคลที่น่าสนใจ คือ นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง เขต 4 พรรคก้าวไกล โดยแจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 11,131,702.61 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 73,091.93 บาท เงินลงทุน 774.18 บาท ที่ดิน 8,771,604 บาท ยานพาหนะ 1,815,000 บาท และทรัพย์สินอื่นๆ 471,200.50 บาท ส่วนหนี้สิน 0 บาท Advertisement สำหรับทรัพย์สินอื่นๆ 471,200.50 […]

“วันชัย” จวก “ก้าวไกล” ทํานิติกรรมอำพราง ขับ “หมออ๋อง” พ้นพรรค

29 กันยายน ที่รัฐสภา นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) มีมติขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ออกจากพรรค เพื่อรักษาตำแหน่งรองประธานสภาเพราะเห็นว่าทำหน้าที่ได้ดี ว่า เรื่องการทำหน้าที่ได้ดี ก็เป็นอีกเรื่อง แต่มาตรฐานของพรรคการเมืองอย่างพรรคก้าวไกล ทั้งเคยไปตำหนิทั้งสังคมและพรรคการเมืองไว้ แต่เมื่อถึงเวลาอยากได้ตำแหน่ง อยากได้อำนาจ ก็ทำอะไรที่ไม่ต่างจากคนอื่น ซึ่งที่ผ่านมาเคยโจมตีคนอื่น แต่ตัวเองกลับทำในเรื่องที่เหมือนกล่าวหาคนอื่น พฤติกรรมที่ทำนี้ถือเป็นนิติกรรมอำพราง ซึ่งใครๆ ก็รู้อยู่ว่าเหมือนของหลอกๆ ไม่ใช่ของจริง เพราะความจริงแล้ว ในอดีตพรรคการเมืองของตนเอง ซึ่งเคยมี ส.ส.ไปทำกิจกรรมกับพรรคอื่น หรือไม่ได้อยู่กับพรรค ก็ไม่เห็นไล่ออก แต่พอมาคราวนี้ อยากได้ตำแหน่ง อยากได้อำนาจ ก็ทำทีเป็นไล่ออก ถ้าถามว่าสังคมรู้หรือไม่ ก็ต้องบอกว่าสังคมรู้และใครๆ ก็รู้ แบบนี้จึงเห็นว่ามาตรฐานของพรรคการเมืองแบบนี้ ไม่ควรทำอย่างนี้ “ในอดีตและพรรคอื่นทำ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กลับนิ่งเฉย แล้วปล่อยเลยเถิดมาก จนมีการทำเป็นแบบอย่างในสิ่งที่ไม่ถูกต้องและไม่ถูกตามที่กฎหมายกำหนด พฤติกรรมที่พรรคก้าวไกลทำถือว่าไม่ควรกระทำ” นายวันชัยกล่าว เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลยืนยันว่าทำตามกฎหมายเพราะรัฐธรรมนูญบังคับไว้ นายวันชัยกล่าวว่า แม้ว่าหลายเรื่องไม่ผิดกฎหมาย […]

ก้าวไกล ออกแถลงการณ์ให้ ‘หมออ๋อง’ พ้นสมาชิกพรรค เพื่อเดินหน้าผู้นำฝ่ายค้าน

แถลงการณ์ของพรรคก้าวไกล ที่ประชุมร่วมคณะกรรมการบริหารพรรคและสส.พรรคก้าวไกล เห็นตรงกันให้นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค รับตำแหน่ง ผู้นำฝ่ายค้าน ขณะที่ นายปดิพัทธ์ สันติสันติภาดา สส.พิษณุโลก ยืนยันจะทำงานในฐานะรองประธานสภาฯ ที่ประชุมร่วมฯ จึงมีมติให้นายปดิพัทธ์ ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ทั้งนี้ หลัง ‘ปดิพัทธ์’ ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ตามกฎหมาย ระบุว่า สส. จะต้องหาพรรคการเมืองใหม่ เข้าสังกัดภายใน 30 วัน ที่ผ่านมา พรรคการเมืองที่ออกตัว ยินดีต้อนรับมาตลอด คือ พรรคเป็นธรรม และล่าสุดวันนี้ น.ต.ศิธา ทิวารี สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย ก็ระบุว่า พรรคไทยสร้างไทยก็ยินดีต้อนรับเช่นกัน ปดิพัทธ์ สันติภาดา ชื่อเล่น อ๋อง เกิดวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2524 ปัจจุบันอายุ 41 ปี จบการศึกษามัธยมศึกษาจากโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม ปริญญาตรีจากคณสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และวิทยาลัยศาสนศาสตร์ทรีนิตี้ ประเทศสิงคโปร์ ก่อนเข้าสู่เส้นทางการเมือง […]

“ชัยธวัช” เปิดใจขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค เผยขอเป็นชั่วคราว รอ “พิธา” กลับเข้าสภา รับไม้ต่อผู้นำฝ่ายค้าน

23 กันยายน ที่อาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ ภายหลังจากมีการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคก้าวไกล นำโดย นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค, นายอภิชาติ ศิริสุนทร เลขาธิการพรรค, นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาพรรค และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรค ได้นำแถลงข่าว เปิดเผยถึงคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า การปรับทัพครั้งนี้เป็นเพียงการปรับทัพชั่วคราว เนื่องจากเหตุจำเป็นทางกฎหมายที่ทำให้พิธา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ ‘ผู้นำฝ่ายค้าน’ ในสภาผู้แทนราษฎรได้ และขยับ อภิชาติ ศิริสุนทร จากเดิมที่เป็นกรรมการบริหารสัดส่วนอื่น มาเป็นเลขาธิการพรรค ตนและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ยินดีที่จะลงจากตำแหน่งเมื่อพิธาสามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ในสภาได้อีกครั้ง จึงได้มีการปรับทัพชั่วคราว สลับบทบาทในคณะกรรมการบริหารเป็นหลัก เพิ่มแค่กรรมการบริหารสัดส่วนภาคเหนือ ที่มาแทน นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ที่ไปทำหน้าที่รองประธานสภา “การขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงนโยบายนอกสภา จะนำโดยพิธา ประธานที่ปรึกษา และที่ปรึกษาอีก 2 ท่าน การปรับทัพชั่วคราวครั้งนี้ ในสภา ผมจะรับภารกิจหลัก ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านไประยะเวลาหนึ่ง นอกสภา คุณพิธาจะทำงาน” นายชัยธวัชกล่าวต่อว่า สำหรับอนาคตของปดิพัทธ์ […]

โฆษก ทร.แจงยิบ เหตุยกเลิก TOR จ้างบริษัทกู้เรือสุโขทัย เพราะไม่มีรายใดมีเอกสารครบ

13 กันยายน พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ตามที่ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายการแถลงนโยบายของรัฐบาล ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเหล่าทัพ โดยช่วงหนึ่งของการอภิปราย กล่าวถึงการกู้เรือหลวงสุโขทัยว่า กองทัพเรือได้เปิดประมูลกู้เรือหลวงสุโขทัย ภายหลังได้รับการจัดสรรงบประมาณ จำนวน 200 ล้านบาท โดยมีผู้ยื่นซองประมูลจำนวน 16 ราย ซึ่งได้มีการนัดยื่นซองประกวดราคาเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2566 แต่ต่อมา ในวันที่ 8 กันยายน 2566 มีประกาศจากกองเรือยุทธการ ยกเลิกประมูล โดยไม่แจงเหตุผล ไม่ทำ TOR ไม่เปิดเชิญชวนใหม่ แต่ให้คนเคยยื่นซองยื่นไปใหม่ราคาเดิม ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่โปร่งใส พล.ร.อ.ปกครอง กล่าวว่า การกู้และลำเลียงเรือหลวงสุโขทัยนั้น กองทัพเรือ ได้อนุมัติหลักการและงบประมาณในการจ้างกู้และลำเลียงเรือหลวงสุโขทัย โดยให้กองเรือยุทธการ เป็นหน่วยถืองบประมาณ ในการนี้กองเรือยุทธการได้แต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดราคากลางคณะกรรมการกำหนดร่างขอบเขตของงานหรือ TOR และกำหนดคุณลักษณะรวมถึงรายละเอียดการจ้างกู้และลำเลียงเรือหลวงสุโขทัยเพื่อดำเนินการจัดทำราคากลางและ TOR งานจ้างกู้และลำเลียง ซึ่งคณะกรรมการจ้างโดยวิธีคัดเลือกได้มีหนังสือเชิญชวนเสนอราคาถึงผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่ทางราชการกำหนดจำนวน 14 ราย […]

ศาลรัฐธรรมนูญ ตีตกคำร้อง ยุบ “ก้าวไกล-ประชาชาติ-เป็นธรรม” ยันพิจารณาแล้ว ไม่พบพฤติการณ์ล้มล้าง

13 กันยายน ศาลรัฐธรรมนูญ ออกเอกสารข่าวเผยแพร่การประชุมกรณีที่ นายณฐพร โตประยูร (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การกระทำของพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 1) พรรคประชาชาติ (ผู้ถูกร้องที่ 2) และพรรคเป็นธรรม (ผู้ถูกร้องที่ 3) ที่มีความพยายามในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในหมวด 1 และหมวด 2 และมีส่วนร่วมในกิจกรรมของบุคคลและกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์หรือแนวคิดในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ โดยสนับสนุนให้ดินแดนอันเป็นเขตอธิปไตยของราชอาณาจักรมีสิทธิปกครองตัวเองหรือแยกตัวเป็นเอกราชในลักษณะของการแบ่งแยกดินแดน เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า การดำเนินการของผู้ถูกร้องทั้งสาม เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ตามที่ปรากฏในคำร้อง หากเป็นการกระทำโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพที่ไม่ต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 อีกทั้งข้อกล่าวอ้างเรื่องการแบ่งแยกดินแดน ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารคำร้องไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานอื่นใดที่แสดงให้เห็นได้ว่าผู้ถูกร้องทั้ง 3 มีพฤติการณ์หรือกระทำการเกี่ยวข้องเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญ จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย   ข่าวจาก : มติชน

“ก้าวไกล” วาง “30ขุนพล” อภิปรายเข้มวันแถลงนโยบาย รบ.จ่อปิดพรรคติวเข้ม3วัน

7 กันยานน ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงการแถลงนโยบายรัฐบาล ระหว่างวันที่ 11-12 กันยายนนี้ว่า พรรค ก.ก. จัดผู้อภิปรายไว้ 30 คน แต่น่าเสียดายที่อภิปรายแค่ 2 วัน หากเป็น 3 วัน จะชัดเจนลงลึกได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม พรรคจะพยายามพูดให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง โดยที่ไม่มีการพุ่งเป้าไปที่ด้านใดด้านหนึ่ง แต่จะตั้งข้อสังเกตว่านโยบายที่ออกมาสะท้อนเนื้อแท้รัฐบาลชุดนี้อย่างไร เท่าที่เห็นตัวร่างนโยบายของรัฐบาลมีลักษณะเป็นคำกว้างๆ หลายเรื่องคลุมเครือชวนสงสัย มีไม่กี่กรณีที่เป็นรูปธรรมชัดเจน การอภิปรายจึงต้องถามถึงรายละเอียดในมาตรการนั้นๆ เพราะหลายมาตรการไม่มีตัวชี้วัด และกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน ซึ่งพรรค ก.ก.จะทำการบ้านเต็มที่ในเวลาที่มีอยู่ เมื่อถามว่า นโยบายรัฐบาลจะเป็นความหวังให้ประชาชนได้หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า เบื้องต้นเท่าที่อ่านค่อนข้างผิดหวังในคำแถลงนโยบาย แต่คงต้องให้โอกาสรัฐบาลใหม่ได้ทำงานจริงก่อน เมื่อถามว่า จะนำร่างที่เคยศึกษากับ 8 พรรคร่วมมานำเสนอด้วยหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ส.ส.พรรค ก.ก. จะมีประเด็นที่คิดว่าไม่มีอยู่ในนโยบายก็จะนำส่วนนี้เสนอด้วย และนโยบายที่พรรคแกนนำอย่างพรรคเพื่อไทย (พท.) เคยพูดไว้ […]

“ปิยบุตร” โวย “ก้าวไกล” ไม่รอบคอบ เสียรู้ขั้วรัฐบาล เสียเก้าอี้ ปธ.กมธ.ไป1คณะ

30 สิงหาคม นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊ก “Piyabutr Saengkanokkul – ปิยบุตร แสงกนกกุล” ระบุว่า การลาออกของ ส.ส.ระยอง ทำให้พรรคก้าวไกลเสียสัดส่วนประธานกรรมาธิการ จาก 11 คณะ เหลือ 10 คณะ ตามธรรมเนียมของสภาผู้แทนราษฎรไทย การจัดสรรปันส่วนตำแหน่งในสภา จะใช้จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่แต่ละพรรคมีมาใช้ในการคำนวณ เมื่อวานนี้มีข่าวออกมาว่า ทางเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบได้คำนวณสัดส่วนประธานกรรมาธิการสามัญ 35 คณะ ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า แต่ละพรรคจะมี ส.ส.ของพรรคตนดำรงตำแหน่งประธานกรรมาธิการสามัญจำนวนเท่าไร โดยคำนวณตามสูตร (จำนวนคณะกรรมาธิการสามัญ x จำนวน ส.ส.ของพรรค) หารด้วย จำนวน ส.ส.ที่สภามีอยู่ ผลปรากฏว่า พรรคก้าวไกล มี ส.ส. 150 คน (นครชัย ขุนณรงค์ ลาออกจาก ส.ส.ระยอง เขต 3) คำนวณตามสูตร 35 x 150 […]

“ก้าวไกล-เพื่อไทย” แบ่งโควต้า ปธ.กมธ. “พรรคละ10คณะ” ด้านซีกรัฐบาลรุมเก้าอี้เกรดเอ

28 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ระหว่างที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อว่าที่รัฐมนตรี ส่งไปให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตรวจสอบคุณสมบัติ ก่อนที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ เป็นลำดับต่อไป ขณะเดียวกันมีความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่างๆ ที่น่าสนใจ คือ การแบ่งสัดส่วนประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญ 35 คณะ ในสภาผู้แทนราษฎร เพราะต้องทำงานคู่ขนานกันกับฝ่ายบริหาร โดยล่าสุด เบื้องต้นได้มีการจัดทำเอกสาร คำนวณอัตราส่วน ตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการที่แต่ละพรรคจะได้ โดยมีหลักเกณฑ์การคำนวณจากจำนวนคณะกรรมาธิการทั้งหมด 35 ตำแหน่ง คูณจำนวน ส.ส.แต่ละพรรคการเมือง จากนั้นหารด้วยจำนวน ส.ส.ทั้งหมด 499 คน ทั้งนี้ พรรคที่มี ส.ส.ถึงเกณฑ์ได้รับตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการ รวมทั้งสิ้น 8 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล 10 คณะ พรรคเพื่อไทย 10 คณะ พรรคภูมิใจไทย 5 คณะ พรรคพลังประชารัฐ 3 คณะ พรรครวมไทยสร้างชาติ […]

ชาวเชียงใหม่พ่นสีสเปรย์ใส่ป้ายริมถนน “ทำไมพิธาไม่ได้เป็นนายกฯ” สภ.แม่ปิงเข้าดำเนินการแล้ว

27 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ป้ายบอกทาง ริมถนนเจริญเมืองหน้าสถานีรถไฟเชียงใหม่ ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พบป้ายบอกสถานที่ ที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้าสถานีรถไฟเชียงใหม่ มีคนนำสีสเปรย์แบบกระป๋อง พื้นป้ายพ่นสีขาว ตัวหนังสือสีม่วง เขียนข้อความระบุว่า “ทำไมพิธาไม่ได้เป็นนายกฯ” ซึ่งหมายถึงนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล กรณีที่พรรคก้าวไกลได้เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลแล้วไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ เสียงโหวตในสภาผู้แทนราษฎรไม่ผ่าน เพราะเสียง สส. และ สว.ส่วนใหญ่ โหวตไม่เห็นชอบ และเกิดปัญหาทางการเมืองของนายพิธา อีกหลายๆ เรื่อง จนทำให้แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลได้แล้วนั้น ซึ่งทำให้ชาวเชียงใหม่ส่วนหนึ่งไม่พอใจ เพราะชาวเชียงใหม่ส่วนใหญ่เทใจให้พรรคก้าวไกล เลือกชนะถึง 7 เขตจาก 10 เขต จึงพ่นสีสเปรย์ถาม ดังกล่าว ซึ่งหากใครขับยานพาหนะไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ขับผ่านไปถนนหน้าสถานีรถไฟเชียงใหม่ ก็จะเห็นชัดเจน ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.แม่ปิง เจ้าของพื้นที่ได้มาจัดการกับป้ายที่เขียนข้อความ โดยเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ แล้วประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการแก้ไข ข้อความดังกล่าวต่อไปแล้ว   ข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์

1 2 3 7
error: