ขวางรถกู้ชีพ

Advertisement จากกรณี รถเก๋งขับไม่ยอมหลบรถกู้ชีพเทศบาลนครสมุทรปราการ แถมเบรกใส่ ในขณะที่รถกู้ชีพต้องรีบไปรับผู้ป่วยหมดสติ เจ้าหน้าที่ใช้ทั้งเสียง ทั้งไฟ แถมประกาศออกไมค์ และยังบีบแตร์ ก็ยังไม่หลบขับแบบสบายใจ จนรถกู้ชีพต้องเบี่ยงซ้ายหลบไปเอง บริเวณปากซอยพุฒสี (ปากซอย 7 แพรกษา) จนนำมาซึ่งความสูญเสีย เมื่อช่วงหัวค่ำ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 Advertisement 4 พ.ย.67 เมื่อช่วงบ่าย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้ทราบตัวผู้ครอบครองรถคันดังกล่าวแล้ว โดยเจ้าของได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้วเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่าน หลังจากสอบปากคำเสร็จเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ได้นำตัวหญิงคนดังกล่าวไปเอารถที่ขับขี่เมื่อคืนที่บ้านพักในย่านคลองขุด พร้อมกล่าวขอโทษกับทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลนครสมุทรปราการ โดยนางเอ(นามสมมุติ) อายุ 50 ปี ผู้ขับขี่เก๋งคันดังกล่าวได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนขับรถกลับจากงานศพและกำลังจะขับกลับบ้าน พอถึงบริเวณดังกล่าวตนได้ยินเสียงสัญญาณของรถพยาบาลแต่คิดว่าเป็นเสียงที่อยู่อีกฝั่ง และพอทราบว่ารถฉุกเฉินอยู่ด้านหลัง ก็คิดว่าทำไมถึงไม่เบี่ยงซ้ายไป ตนจึงไม่ได้หลบ ตนอาจจะคิดน้อยไปหน่อย ตนไม่ได้มีเจตนาที่จะขับขวางเลย ตนก็อยากขอโทษกับสังคม ที่เราอาจจะทำให้ไปขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ ทำให้การล่าช้า อยากให้ทุกคนเคร่งครัด อย่าคิดน้อยเหมือนตน Advertisement นายครินทร์ รัตนประภาสชลา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพของเทศบาลนครสมุทรปราการได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่าได้รับแจ้งจากศูนย์สั่งการ ว่ามีผู้ป่วยท้องเสีย ตนได้โทรหาคนไข้ญาติคนไข้ […]

  เพิ่งจะมีเหตุการณ์เป็นอุทาหรณ์ไม่นานมานี้สำหรับกรณีรถสวิฟต์สีแดงขวางรถกู้ชีพจนทำให้ผู้ป่วยที่อยู่ในรถเสียชีวิตในเวลาต่อมา ล่าสุด (18 เม.ย.61) เฟซบุ๊ก Itthikorn Butsara เจ้าหน้าที่ในรถพยาบาลก็โพสต์ภาพและคลิปที่เป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง โดยระบุข้อความว่า.. คนไข้ใส่ท่อช่วยหายใจและเสี่ยงต่อหัวใจหยุดเต้น พี่ให้ทางรถพยาบาลได้แต่ไม่ยอมหลบ !!!!!! เห็นแต่ในข่าว วันนี้เจอกับตัวเองเลย     โดยรถเก๋งสีขาวที่ขวางหน้ารถพยาบาลอยู่นั้น มีจุดน่าสังเกตคือ ไม่พยายามเบี่ยงหลบ หรือตีไฟเลี้ยวเพื่อแสดงเจตนาเปิดทางให้แต่น้อย จึงเป็นไปได้สูงที่ตั้งใจจะขวาง มากกว่าการแก้ตัวไม่รู้ว่าจะหลบอย่างไร       และถึงแม้จะมีคนเห็นแย้งว่าเจ้าหน้าที่ในรถอาจจะเป็นรถที่ผิดกฎหมายเหมือนกรณีข่าวดังเมื่อหลายวันก่อน อีกทั้งถ่ายคลิปในขณะขับรถ แต่เพจ drama-addict ซึ่งเป็นเพจที่คลุกคลีในวงการแพทย์โดยตรงเพจหนึ่ง ก็ช่วยออกมาชี้แจงว่า งานนี้รถที่ขวางผิดเต็มๆ เพราะรถพยาบาลคันนี้ถูกกฎหมาย อีกทั้งคนถ่ายคลิป คือคนที่นั่งข้างๆ ไม่ใช่คนขับ         และในเวลาต่อมา ทางเพจ drama-addict ก็แจ้งข่าวว่า ผู้ป่วยในรถคันดังกล่าวเสียชีวิตแล้ว       ซึ่งชาวเน็ตต่างก็พากันแชร์ออกไป โดยหวังว่าจะตามรถคันดังกล่าวมารับโทษให้ได้ อีกทั้งยังเป็นการเตือนให้ตระหนักถึงน้ำใจบนท้องถนนที่อาจส่งผลต่อชีวิตใครสักคนได้ ขอบคุณข้อมูลจาก : Itthikorn Butsara, drama-addict

  จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Kenzaa Standby ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์รถฉุกเฉินคันหนึ่งเปิดไซเรนขอทางขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่เนื่องจากมีผู้ป่วยต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล แต่ระหว่างทางในช่องเลนขวานั้นได้มีรถเก๋ง ซูซูกิ สวิฟต์ สีแดง ไม่ยอมหลบขับแช่อยู่เลนขวา เมื่อรถฉุกเฉินขับตามได้สักระยะจึงต้องแซงซ้ายโดยขณะที่กำลังแซงนั้นพบว่ารถเก๋งซูซูกิคันดังกล่าวได้เปิดกระจกพร้อมกับคนนั่งข้างคนขับหันมามอง จึงทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ต่อมาพบว่าเจ้าของรถคันดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ฉุกเฉิน โดยเมื่อวันที่ 9 เม.ย.61 ทั้งสองฝ่ายได้ชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นผ่านอมรินทร์ทีวี และวันที่ 10 เม.ย.61 เฟซบุ๊กเพจ Street Hero Project ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน (สพฉ.) ได้โพสต์คลิปที่นายภานุวัฒน์ ศรีเจริญ เจ้าหน้าที่ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ขอใช้พื้นที่เพจในการขอโทษทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยได้แสดงความเสียใจถึงผู้ป่วยที่เสียชีวิตในรถคันดังกล่าว     ขณะที่ บริษัท สแตนบาย แอมบูแลนซ์ เซอร์วิส จำกัด ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า ผู้บังคับบัญชาของพนักงานขับรถพยาบาล ได้สอบสวนและหาข้อเท็จจริงแล้ว พบว่าปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดจากความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างพนักงานขับรถ ไม่ใช่ความบกพร่องของ สพฉ. แต่อย่างใด ทั้งนี้ บริษัทรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ต่อการกระทำของพนักงาน ที่นำความเดือดร้อนมาสู่สังคมโดยภาพรวม ทางบริษัทไม่มีเจตนาที่จะทำให้รู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง จึงได้กราบขออภัยต่อ สพฉ. และขอยอมรับผิดในส่วนของพนักงานทุกประการ     ด้าน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า จากคลิปพบพฤติกรรมผู้ขับขี่รถเก๋งคันสีแดง […]

  จากกรณีมีการเผยแพร่คลิปวีดีโอ รถยนต์ซูซูกิ สวิฟ สีแดง กีดขวางรถพยาบาล ขณะนำผู้ป่วยขั้นวิกฤตไปส่งที่รพ. ใน จ.นครราชสีมา ซึ่งมีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็น และวิจารณ์เหตุการดังกล่าวเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งทางศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน ออกมาระบุว่า ได้ว่ากล่าวตักเตือนเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวแล้ว     10 เม.ย.61 ทีมข่าวอมรินทร์ ได้เดินทางมาพบ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 กองกำกับการสันติบาล และคณะทำงานแก้ไขปัญหาการจราจรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำหรับกรณีดังกล่าวจะต้องดูว่า รถพยาบาลได้รับการอนุญาตถูกต้องหรือไม่ ส่วนรถที่อยู่ด้านหน้าที่ขวางทางนั้น มีความผิดหรือไม่ ทำไมไม่ยอมเบี่ยงซ้าย เพื่อหลีกทางให้รถพยาบาล แต่ถ้าหากอ้างว่าในช่วงเวลาดังกล่าวมีรถอยู่ช่องทางซ้าย จึงไม่สามารถหลบได้ ก็ถือว่าเป็นกรณียกเว้นได้เช่นกัน แต่ในกรณีนี้จะเห็นได้จากในคลิปวิดีโอที่ช่องทางซ้ายว่าง แต่รถไม่ยอมหลบทางให้ จึงถือว่ามีความผิดตามมาตรา 35 ว่าด้วยรถช้าวิ่งไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย นอกจากนี้ รถฉุกเฉินที่ได้รับอนุญาตแล้ว สามารถเปิดไฟไซเรน และเสียงเตือนได้ตลอดจนเสร็จสิ้นภารกิจ ดังนั้นผู้ที่ใช้ถนน ต้องยอมรับว่าถนนทุกสายไม่ใช่ของส่วนบุคคล แต่เป็นถนนสาธารณะ เพราะฉะนั้นผู้ขับขี่ต้องสละสิทธิ์ เพื่อให้สาธารณะมาก่อน ทั้งนี้ พล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าวต่อว่า รถพยาบาลเป็นส่วนหนึ่งของรถฉุกเฉินตามกฎหมายการจราจร ซึ่งเป็นรถที่ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องอยู่ในเกณฑ์มาตราของกฎหมายจราจร หรือสามารถกระทำผิดกฎหมายได้ […]

  จากเหตุการณ์ที่รถเก๋งสีแดงขวางรถกู้ชีพจนเป็นเหตุลุกลามบานปลายในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ล่าสุด (10 เม.ย.61) นายภานุวัฒน์ ศรีเจริญ เจ้าหน้าที่ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ขอใช้พื้นที่เพจ Street Hero Project ในการขอโทษทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยนอกจากจะยอมรับผิดทุกกรณีที่ตนเองประพฤติไม่เหมาะสม ตนเองยังขอโทษแทนภรรยาที่เป็นคนขับรถคันดังกล่าวด้วย และยังทิ้งท้ายด้วยการรณรงค์ให้คนไทยช่วยกันหลีกทางให้รถกู้ชีพทุกกรณี เพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างเร็วที่สุด   ขอบคุณคลิปจาก : Street Hero Project ​

  จากกรณีคลิปที่เผยแพร่บนโลกโซเชียล ที่มีรถพยาบาลขับรถตามหลังรถยนต์ ซูซูกิ สวิฟต์ สีแดง โดยในรถมีผู้ป่วยที่อยู่ในขั้นวิกฤติ แต่ทางรถยนต์ไม่หลบทางให้ ซึ่งผู้ป่วยในรถพยาบาลคันดังกล่าวได้เสียชีวิตในช่วงค่ำของวันเดียวกัน 9 เม.ย. 61  “รายการต่างคนต่างคิด” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวี ช่อง 34 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.50 น. ได้เชิญ นายสมบูรณ์ เกิดทรัพย์ คนขับรถพยาบาล, นายจิรากร แซ่ตั้ง เจ้าหน้าที่ประจำรถพยาบาล, นางสายใจ แรมครบุรี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต และ นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ ร่วมพูดคุยในประเด็นดังกล่าว     โดย นายสมบูรณ์ เกิดทรัพย์ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ ตนเป็นผู้ขับรถพยาบาล เพื่อเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจาก รพ.ลาดกระบัง กรุงเทพฯ ไปยัง รพ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งเบื้องต้น ทางแพทย์จากรพ.ลาดกระบัง ได้แจ้งว่าอาการผู้ป่วยค่อนข้างหนัก ซึ่งทางญาติก็ระบุว่า ได้ทำใจไว้ล่วงหน้าแล้วว่าผู้ป่วยอาจจะเสียชีวิตได้ โดยในขณะนั้น มีภรรยาของผู้ป่วยนั่งอยู่ในรถด้านหน้ากับตน และลูกชายนั่งอยู่ด้านหลังกับผู้ป่วย เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ การจราจรขณะนั้นค่อนข้างหนาแน่น ได้เปิดสัญญาณเสียงและไฟเพื่อขอทาง ซึ่งก่อนหน้านี้ รถทุกคันก็หลบทางให้ทั้งหมด ยกเว้นรถยนต์คันสีแดงในคลิป ทั้งที่ตนเองสังเกตว่ามีจังหวะสามารถหลบทางให้ได้ จากนั้นตนตัดสินใจถ่ายคลิปวิดีโอไว้     […]

  ครอบครัวลุงในรถพยาบาลที่เสียชีวิตขออโหสิกรรมให้เก๋งแดงขับรถขวาง ถามหากเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นกับพ่อแม่ของตัวเองบ้างจะรู้สึกเช่นไร จากกรณีที่มีผู้เผยแพร่คลิปเหตุการณ์รถฉุกเฉินคันหนึ่งเปิดไซเรนขอทางขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่เนื่องจากมีผู้ป่วยต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล แต่ระหว่างทางในช่องเลนขวานั้นได้มีรถเก๋งสีแดง ไม่ยอมหลบขับแช่อยู่เลนขวา เมื่อรถฉุกเฉินขับตามได้สักระยะจึงต้องแซงซ้าย ซึ่งจากการตรวจสอบล่าสุดพบว่าผู้ป่วยที่อยู่ในรถคันเกิดเหตุ ชื่อนายประสิทธิ์ แรมครบุรี อายุ 61 ปี ชาวบ้านสระผักโพด ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ที่ต้องใช้รถฉุกเฉินคันดังกล่าว เดินทางจากโรงพยาบาลลาดกระบัง เพื่อกลับโรงพยาบาลครบุรี อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลใกล้กับภูมิลำเนาบ้านเกิด ซึ่งต่อมาได้เสียชีวิตลงนั้น เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดสระผักโพด ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ของนายประสิทธิ์ โดยครอบครัวและญาติของนายประสิทธิ์ต่างระบุว่า การสูญเสียในครั้งนี้เป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น และคนขับรถเก๋งสีแดงควรจะมีน้ำใจมากกว่านี้ น.ส.สายใจ แรมครบุรี บุตรสาวคนโตของผู้ตาย กล่าวว่า นายประสิทธิ์ ผู้เป็นบิดา ทำหน้าที่เป็น พนักงานรักษาความปลอดภัย ซึ่งบิดาเป็นคนขยันขันแข็ง แข็งแรงดี แต่มีโรคหืดหอบซึ่งเป็นโรคประจำตัว แต่ก็ดูแลตัวเองได้ดีมาตลอด กระทั่งเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา บิดามีอาการปวดศีรษะ จึงได้ไปหาซื้อยาที่ร้านขายยาใกล้บ้านมารับประทาน และเมื่อวันที่ 5 เม.ย.เกิดอาการทรุดลงอย่างกะทันหันจนไม่รู้สึกตัว ครอบครัวจึงนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลลาดกระบัง […]

  จากกรณีที่รถเก๋งสีแดงคันหนึ่งไม่หลบให้รถกู้ชีพ โดยอ้างว่าตนเองก็ทำงานกู้ชีพ อีกทั้งรถกู้ชีพที่ตามหลังมาก็เป็นรถเถื่อน จนเป็นเหตุให้ผู้ป่วยในรถเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ่านข่าวย้อนหลัง : ผมไม่หลบ ผมก็ทำกู้ชีพ ผมรู้ดี!! หนุ่มแว่นคลิปเก๋งแช่ขวา-ขวางรถกู้ชีพแจงปมไม่หลบรถกู้ชีพ แฟนเป็นคนขับ-หลบไปก็ติดคันหน้าอยู่ดี ยังไงรถกู้ชีพก็ผิด!! ลุงในรถกู้ชีพที่หนุ่มแว่นรถแดงไม่ให้แซงเสียชีวิตแล้ว ญาติแจงในขณะเกิดเหตุ รถพยายามแซงแล้ว แต่ลำบาก ลุงแทบตกเตียง ล่าสุด (8 เม.ย.61 เวลา 15.16 น.) เพจ Red Skull Uprising ซึ่งเป็นเพจที่ติดตามกรณีนี้มาตั้งแต่ต้น ก็ได้อัพเดทความคืบหน้าว่า  ทีมข่าวได้สอบถาม ร้อยเอก นายแพทย์ อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ สพฉ. ทราบว่า ขณะนี้ได้ว่ากล่าวตักเตือนเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ยอมรับและขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตนเองจึงได้มอบเป็นนโยบายให้กับเจ้าหน้าที่ สพฉ.ทุกคน ต้องปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรม หากพบรถฉุกเฉินที่มีไฟสัญญาณ ไม่ว่ารถดังกล่าวจะถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ก็ต้องหลบให้ก่อน ส่วนที่ว่ารถถูกกฎหมายหรือไม่นั้นสามารถจะมาดำเนินการได้ภายหลัง // ทั้งนี้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวชี้แจงด้วยว่าวันเกิดเหตุตนเองไม่ได้ขับรถ แต่เป็นภรรยาขับ ซึ่งขับยังไม่เก่งมากนักจึงอาจทำให้ไม่กล้าหลบรถฉุกเฉิน นอกจากนี้ ทีมข่าวสอบถามไปยังเจ้าของรถฉุกเฉิน ซึ่งขับตามรถเก๋งคันดังกล่าว ได้ยอมรับว่า รถของตนเองเป็นรถเอกชน ยังได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย […]

  จากกรณีที่มีการเสนอข่าวว่า มีรถเก๋งแดงคันหนึ่งขวางรถกู้ชีพ โดยอ้างว่าตนเองทำถูกแล้ว เพราะตนเองก็ทำงานกู้ชีพเช่นกัน อ่านข่าวย้อนหลัง : ผมไม่หลบ ผมก็ทำกู้ชีพ ผมรู้ดี!! หนุ่มแว่นคลิปเก๋งแช่ขวา-ขวางรถกู้ชีพแจงปมไม่หลบรถกู้ชีพ แฟนเป็นคนขับ-หลบไปก็ติดคันหน้าอยู่ดี ยังไงรถกู้ชีพก็ผิด!! ล่าสุด เพจ Red Skull Uprising ซึ่งเป็นเพจหนึ่งที่ตามข่าวดังกล่าวมาตลอด ก็ได้แจ้งข่าวเมื่อวันที่ 8 ม.ค.61 เวลา 10.56 น. ว่าคุณลุงเสียชีวิตแล้ว            โดยในขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อกลับมาจากทางผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด ขอบคุณข้อมูลจาก : Red Skull Uprising  

  จากกรณีที่มีการเปิดเผยคลิปรถเก๋งสวิฟท์สีแดงคันหนึ่งกำลังขวางทางรถกู้ภัยนั้น       ล่าสุด (7 เม.ย.61) เฟซบุ๊ก ภาณุวัฒน์ ศรีเจริญ ซึ่งเป็นชายในคลิปดังกล่าว ก็ได้ออกมาชี้แจงว่า อย่างไรตนเองก็ไม่ผิด รถกู้ชีพต่างหากที่ผิด โดยมีเพื่อนๆ ในเฟซบุ๊กต่างสนับสนุนความคิดเขา และพากันแฉว่ารถกู้ชีพคันนั้นเห็นแก่เงิน และเชียร์ให้พ้อง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์             ในขณะที่เพจ God Of War:Ascension ก็เห็นต่างว่า รถคันอื่นๆ ต่างพากันหลบด้วยปกติวิสัยที่ได้ยินสัญญาณไซเรน แต่เหตุใดมีแต่รถสวิฟต์คันดังกล่าวที่ไม่หลบ พร้อมกันนี้ยังมีการตั้งข้อสงสัยไปยังหน่วยงานต้นสังกัดของหนุ่มคนดังกล่าวว่าอบรมพนักงานมาอย่างไร แทนที่จะเข้าใจการทำงานในสายวิชาชีพด้วยกันดี เห็นแก่ชีวิตของผู้ป่วยหนักในรถ กลับเห็นแต่การเอาชนะกันของคนสายงานกู้ชีพด้วยกัน     ในขณะที่เพจ Red Skull Uprising ก็มีการขุดข้อมูลเพิ่มเติมว่า ทางภรรยาของหนุ่มคนดังกล่าวก็เชียร์ให้ฟ้อง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์สำหรับคนที่เห็นต่างในกรณีนี้         ในขณะที่โพสต์รีวิว ห้องวิทยุนเรนทร สพฉ. ซึ่งเป็นโพสต์เดียวที่เฟซบุ๊ก ภาณุวัฒน์ ศรีเจริญ หนุ่มรถสวิฟต์เปิดคอมเม้นท์ ก็มีหลายคนเข้ามาตำหนิเป็นอย่างมาก     งานนี้ก็ต้องติดตามว่า ทาง ห้องวิทยุนเรนทร สพฉ. ซึ่งเป็นต้นสังกัดของหนุ่มคนดังกล่าวจะออกมาแถลงอย่างไรบ้างในกรณีนี้ […]