ค่าไฟขึ้นแน่ 4.72 บาทต่อยูนิต มีผลแล้ว ไม่มีการทบทวน

Advertisement เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) งวดเดือนกันยายน-ธันวาคม ตามมติคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) อีก 68.66 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐาน ส่งผลให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟในงวดดังกล่าว รวม 4.72 บาทต่อหน่วย ว่าเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นห่วง สั่งให้กระทรวงพลังงานเร่งหามาตรการรองรับเพื่อช่วยเหลือ ดังนั้น กระทรวงจะเร่งหารือกับ กกพ.ว่าจะยังคงยืนยันตามมติเดิมหรือไม่ แล้วจะมีมาตรการช่วยเหลือประชาชนเป็นอย่างไร เพราะ กกพ.เป็นหน่วยงานกำกับและดูเรื่องนี้โดยเฉพาะ ส่วนการจะทบทวนหรือปรับเปลี่ยนมติบอร์ด กกพ.ที่ออกไปแล้วหรือไม่นั้น กระทรวงพลังงานจะไม่ก้าวล่วง Advertisement Advertisement แหล่งข่าวจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า มติของ กกพ.เรื่องการปรับค่าเอฟทีดังกล่าวถือว่ามีผลทางกฎหมายไปแล้ว ไม่สามารถทบทวนเปลี่ยนได้ หากรัฐบาลต้องการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถออกเป็นมาตรการเยียวยาประชาชนเฉพาะกลุ่มแยกส่วนออกมาเหมือนทุกครั้ง ไม่จำเป็นต้องกลับมติการปรับขึ้นค่าไฟครั้งนี้ รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลระบุว่า ที่ผ่านมามีมาตรการช่วยเหลือประชาชนบรรเทาค่าเอฟทีในงวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม สำหรับผู้ใช้ไฟที่ไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ประเภทบ้านอยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็กได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้าจากการลดค่าเอฟทีที่ 0.2338 บาทต่อหน่วย ใช้งบกลางดูแลประมาณ 2,000 […]

กกพ.ยืนยัน ขึ้นค่าไฟ 4.72 บาท เผยรัฐบาลสั่งทบทวน แต่ไร้เงินอุดหนุน

3 สิงหาคม รายงานข่าวแจ้งว่า วันที่ 5 สิงหาคมนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) นัดชี้แจงตอบข้อซักถามค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) รอบเดือนกันยายน-ธันวาคม 2565 หลังจากเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่ (กันยายน-ธันวาคม 2565) เป็น 93.43 สตางค์ต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้น 68.66 สตางค์ต่อหน่วย จากปัจจุบัน (พฤษภาคม-สิงหาคม 2565) อยู่ที่ 24.77 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐาน 3.79 บาทต่อหน่วย จะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าโดยรวมที่ประชาชนต้องจ่ายอยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย ตามต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงและผลจากเงินบาทอ่อนค่า โดยแนวทางนี้ถือเป็นอัตราต่ำสุดเพราะยังไม่มีการคืนหนี้ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่แบกรับต้นทุนเชื้อเพลิงมาตั้งแต่ปี 2564 และการรับภาระงวดใหม่นี้จะทำให้ กฟผ.แบกรับภาระประมาณถึง 1.7 แสนล้านบาท รายงานข่าวแจ้งว่า หลังมีมติดังกล่าว สำนักงาน กกพ.นัดแถลงข่าวเมื่อวันที่ 1 […]

error: